ตำนานราศีกุมภ์ (Aquarius)

ตำนานราศีกุมภ์ (Aquarius)

เริ่มโดย etatae333, 08 กุมภาพันธ์ 2013, 12:17:49

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

ตำนานราศีกุมภ์ (Aquarius)



ในสมัยอียิปโบราณ เห็นดวงอาทิตย์ปรากฏอยู่ในกลุ่มดาวนี้ ทางทิศตะวันออกซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่หน้าฝน เห็นกลุ่มดาวนี้
เป็นรูปเทพเจ้า Hapi ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งแม่น้ำไนล์ ซึ่งเป็นผู้ให้น้ำ นำฝนมาให้แก่พวกเขาในการอุปโภคบริโภค
และใช้ในฤดูแห่งการเพาะปลูก เพื่อการดำรงชีวิตของมนุษบ์โลก เสมือนหนึ่งว่ามีคนแบกหม้อน้ำมาเทจึงให้ชื่อกลุ่มดาวนี้ว่า
คนแบกหม้อน้ำ และได้กล่าวไว้ว่า อควาเรียสเป็นผู้ที่ทำการรินน้ำลงมาในแม่น้ำไนล์ ในฤดูกาลเพาะปลูก
ซึ่งจะทำให้น้ำในแม่น้ำไนล์ล้นตลิ่งและท่วมออกมายังพื้นที่ที่ต้องการน้ำต่างๆ




เมื่อครั้งที่สมัยเมืองทรอยยังคงอยู่ มีเจ้าชายนามว่ากานีเมเด (Ganymede) กานีเมเดเป็นเด็กหนุ่มรูปงามเสียจนว่า
แม้แต่สาวงามก็ยังเทียบได้ยาก ซีอุสซึ่งแต่เดิมจะเป็นหญิงหรือชายก็ไม่เกี่ยงอยู่แล้วนั้น เมื่อได้เห็นก็เกิดถูกใจ
ในความงามของกานีเมเดเข้า จึงแปลงกลายเป็นนกอินทรี (บ้างก็ว่าส่งอินทรีมา) มาลักพาตัวกานีเมเดที่กำลังต้อนฝูงแกะ
อยู่นั้นเองไปที่โอลิมปัส และให้ทำหน้าที่เป็นผู้รินเหล้าแก่เหล่าเทพ

(ประมาณว่าโดนจับให้มาเป็นเด็กเชียร์เบียร์ แต่ว่ากันว่าไม่ใช่แค่รินเหล้า แต่ให้เป็นเด็กรับใช้ส่วนตัวของซีอุสด้วยซ้ำ)

ซึ่งแต่เดิมเป็นหน้าที่ของเฮเบ (Hebe) เทพีแห่งความเยาว์วัยซึ่งเป็นธิดาของเทพีเฮร่าและซีอุส แต่ได้เกษียณตัวเอง
ไปแต่งงานกับเฮอร์คิวลิสที่ถูกยกให้เป็นเทพบนสวรรค์ (ถือว่าเป็นการสงบศึกกันระหว่างเฮร่าและเฮอร์คิวลิส)


แต่เมื่อเฮร่าเห็นซีอุสให้ความรักแก่กานีเมเดก็เกิดความหึงหวง ฝ่ายซีอุสก็กลัวเมียเป็นทุนเดิม จึงให้กานีเมเดไปเป็น
กลุ่มดาวราศีกุมภ์เพื่อจะได้ไม่ต้องโดนเฮร่ารังควาน และใกล้ ๆ กันจะมีกลุ่มดาวอินทรีซึ่งก็คือร่างของซีอุสที่กลายร่าง
เป็นอินทรีมาลักตัวกานีเมเดไปนั่นเอง

แต่บางเรื่องเล่าก็ว่าเมื่อกานีเมเดถูกลักพาตัวไปแล้ว ฝ่ายบิดาและมารดาซึ่งเป็นเจ้าเมืองทรอยในตอนนั้นก็เศร้าเสียใจมาก
ซีอุสจึงให้ผู้รับใช้นำของขวัญมาปลอบใจซึ่งได้แก่ม้าวิเศษที่วิ่งบนน้ำได้ (บ้างก็ว่าเป็นเถาองุ่นทองคำ) และเล่าว่ากานีเมเด
ได้รับพรให้ไม่แก่ไม่ตายและยังได้รับเกียรติให้เป็นผู้รินเหล้าแก่เหล่าเทพอีกด้วย และซีอุสก็ได้ทำให้กานีเมเดกลายเป็น
กลุ่มดาวราศีกุมภ์ เพื่อให้พ่อแม่ของเขาสามารถมองเห็นเขาอยู่บนท้องฟ้าได้ (คืน ๆ ให้พ่อแม่เขาไปซะก็สิ้นเรื่อง)




อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เทพเจ้าซีอุส (จูปีเตอร์)แห่งโอลิมเปีย ได้มอบหมายให้แกนีมีด (Ganemede) ผู้ถือแก้วน้ำ
ของเหล่าเทพเจ้าเป็นผู้ทำหน้าที่ส่งน้ำลงมายังโลก โดยเอียงแก้วให้น้ำไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายกลายเป็น
แม่น้ำบนโลกมนุษย์ ซึ่งแกนีมีดก็คือ กลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำนี่เอง ........ ฉะนั้นกลุ่มดาวกลุ่มนี้จึงเป็นเครื่องหมาย
แห่งฤดูฝน





สำหรับชาวกรีกโบราณนั้น อควาเรียส คือคู่สามีภรรยา ที่ชื่อว่า ดิวคาเลียน ( Deucalion ) และ เพียร่า ( Pyrrha )
โดยเรื่องนี้ได้ปรากฎในเทพนิยายกรีก ตั้งแต่เมื่อ 1500 ปีก่อนคริสตกาลโดยกล่าวไว้ว่า.....อควาเรียสได้ทำให้เกิด
น้ำท่วมครั้งใหญ่เพื่อทำการชำระล้างล้างโลกมนุษย์ ซึ่งพ่อของดิวคาเรียนก็ได้บอกกับบุตรชาย และลูกสะใภ้
ให้สร้างเรือที่แข็งแรงขึ้นมา และทำการตุนเสบียงอาหารเอาไว้ ดังนั้นเมื่อถึงเวลาน้ำท่วมโลกก็ปรากฎว่าทั้งสองนั้น
ลอยอยู่ในเรือเป็นเวลาถึง 9 วัน 9 คืน จนกระทั่งมาเกยตี้นที่ภูเขาพาร์นาสซัส (Parnassus)




ในที่สุด ทั้งสองปลอดภัยดีแต่ว่าก็เป็นเพียงแค่ 2 คนที่รอดชีวิตอยู่เท่านั้น พวกเขาเดินไปเรื่อยๆ ในขณะที่น้ำ
ค่อยๆลดลงและเผยให้เห็นถึงภูมิประเทศต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไม่รู้จะทำยังไงดี พวกเขาก็ได้วิงวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งก็มีเสียงตอบออกมาว่า

"...จงขว้างกระดูกของแม่ข้ามหัวไหล่ของเจ้าไป..."

ดิวคาเรียนทายว่ากระดูกของแม่ หรือ โลก ก็คือก้อนหิน ดังนั้นเขาทั้งสองจึงเดินหาและเก็บก้อนหินมาแล้วก็
ขว้างข้ามหัวไหล่ของตนไปทางด้านหลัง ซึ่งเมื่อทั้งสองหันหลังไปก็พบมนุษย์อยู่ โดยก้อนหินที่ขว้างโดย
ดิวคาเลียนนั้นกลายเป็นมนุษย์ผู้ชาย และก้อนหินที่ขว้างโดยเพียร่านั้นก็กลายเป็นมนุษย์ผู้หญิง




ดังนั้น อควาเรียส จึงรู้จักกันในนามของ ผู้นำมาซึ่งชีวิตและผู้ให้ชีวิต ซึ่งเทพนิยายเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับ
น้ำท่วมโลกและกำเนิดสิ่งมีชีวิต ซึ่งมีอยู่ในเรื่องเล่าของหลายๆชาติด้วยกัน ........


บางนิทานดาว ชาวบาบิโลเนียนโบราณ ประมาณ 2000 ปีก่อนคริสตศักราช มองเห็นเป็นรูปหม้อน้ำ ที่มีน้ำล้นออกมา
และแทนด้วยสัญลักษณ์ ของคนแบกหม้อน้ำ (Aquarius) ซึ่งในเดือนที่ 11 ของชาวบาบิโลเนียน
(หรือระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์) จะเป็นช่วงที่ฝนตกหนักในรอบปี  สำหรับชาวอาหรับ ซึ่งต้องใช้ชีวิต
โดยขึ้นกับฝนที่จะตกมาในฤดูฝนนั้น มองกลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำว่าเป็น "ถังน้ำ" ทั้งนี้เนื่องจากข้อห้ามทางศาสนา
อันห้ามนับถือรูปเคารพใดๆนั่นเอง ..........




credit :: physicsworld / ginolife / tumnandd.com
เรียบเรียง by cmxseed.com
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

thaitays

ขอบคุณครับ ได้ความรู้มาก จะติดตามต่อไป pongz
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

pass2553

นึกถึง คามิว อาจารย์เฮียวกะอ่า
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions