กุลพันธ์วิลล์ผุดโครงการสารภีและป่าแดด รองรับตลาดอสังหาบูม!

[etatae333]

กุลพันธ์วิลล์ผุดโครงการสารภีและป่าแดด รองรับตลาดอสังหาบูม!

กลุ่มบริษัทกุลพันธ์วิลล์ ประกาศจะเน้นสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยโครงการบ้านคุณภาพ ที่อยู่คู่กับคนเชียงใหม่
มานานถึง 25 ปี  เผยเตรียมเปิด 2 โครงการใหม่ที่สารภีและป่าแดด เพื่อรองรับความต้องการของคนอยากมีบ้าน  ไม่หวั่น
นักลงทุนต่างถิ่นเป็นคู่แข่งแจงฐานลูกค้าแน่นพอ ด้านโอเวอร์ซัพพลายเหตุผู้ประกอบการแห่ลงทุนเชียงใหม่ ยืนยัน
ไม่มีผลใน 2-3 ปีนี้แน่นอน    

นายสมภาคย์ ตระการกุลพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทกุลพันธ์วิลล์ เปิดเผยถึง 25 ปีของโครงการบ้านจัดสรรกุลพันธ์วิลล์ว่า
ด้วยการวางแผนในการเลือกกลุ่มลูกค้าและความมั่นใจที่จะ แก้ปัญหาเกี่ยวกับบ้านได้ทุกปัญหาจึงทำให้กุลพันธ์วิลล์ได้รับความรัก
และความเชื่อมั่นจากลูกค้ามาโดยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา

"ผมโชคดีที่วางคอนเซ็ปมา เราต้องการหาลูกค้าที่รักเราจริงๆ ตั้งแต่ต้นเราจึงใช้คำว่ากุลพันธ์มาตลอด 17 โครงการ ก็มั่นใจว่าทุกปัญหา
เกี่ยวกับบ้านลูกค้าเราแก้ได้ เราเลยกล้าที่ใช้คำว่ากุลพันธ์วิว ผลลัพธ์ที่ออกมาคือความเชื่อมั่นของลูกค้าตั้งแต่โครงการ 1 จนถึงปัจจุบันรักเรา
และอยู่กับเรามาตลอด มีการแนะนำคนอื่นมาซื้อที่เรา เพราะฉะนั้นคือสิ่งทีได้ตอบแทนมาจนถึงวันนี้"

สำหรับโครงการบ้านจัดสรรกุลพันธ์วิลล์มีทั้งหมด 17 โครงการแยกออกเป็นที่เชียงใหม่ 15 โครงการ เชียงราย 1 โครงการ และกรุงเทพฯ 1 โครงการ
ทั้งนี้โครงการสร้างใหม่ 2 โครงการ ได่แก่ โครงการ 16 ที่สารภี และโครงการ 17 ที่ป่าแดด โดยโครงการ 16 เปิดใช้บริการในต้นเดือนธันวาคม
ขณะที่โครงการ 17 ได้เปิดให้จองอย่างเป็นทางการไปเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในราคาเริ่มต้นที่ 19 ล้านบาท

นายสมภาคย์ กล่าวว่า หลักการทำงานของโครงการฯ คือ การเติบโตอย่างช้าๆ แต่มั่นคง เพราะจากประสบการณ์ช่วงวิกฤติในปี 2540
ที่ผ่านมาทำให้ทราบว่าการเติบโตเร็วเกินไปนั้นเกิดปัญหาอย่างไรและโครงการที่ทำอยู่ปัจจุบันจะต้องมียอดซื้อเกิน  80 เปอร์เซ็นต์
ถึงจะเริ่มเปิดโครงการใหม่ ขณะที่มูลค่าการขายแต่ละโครงการที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่พึงพอใจและจะเข้าเป้าเร็วกว่าที่ตั้งไว้

"โครงการของคนอื่นเราไม่รู้ว่าจริงๆว่าหลักคิดของเขาคือยังไง เพระบางโครงการก็เปิดทีหนึ่งเป็นสิบโครงการทั้งใหญ่บ้างเล็กบ้างแต่ของเราค่อยๆ
เดินอย่างมั่นคง เพราะเราผ่านช่วงวิกฤตปี 40 มาแล้ว ซึ่งเรารู้ว่าการโตเร็วเกินไปมันมีปัญหายังไง เราจะไปอย่างไม่รีบร้อนแต่มั่นคงอย่างน้อยสุด
โครงการที่เราทำอยู่ที่จบไปแล้วจะต้องมากกว่า 80% เราถึงจะยอมเปิดโครงการใหม่ๆ  ซึ่งเป็นหลักการหนึ่งของการทำงานที่ทำให้เรามีความเชื่อมั่น
ในตนเองมากขึ้น"

นายสมภาคย์ ยังกล่าวต่อว่า สำหรับการเข้ามาลุงทุนของกลุ่มทุนต่างถิ่นที่มีมากขึ้นเนื่องจากจะมีการเปิดการค้าเสรีอาเซียนนั้น ไม่ได้สร้างความกังวลใจ
แต่อย่างใดเนื่องจากว่าตนก็มีฐานลูกค้าที่แน่นอยู่แล้ว ซึ่งการหาลูกค้ารายใหม่จะจะเน้นการบอกต่อจากลูกค้ากลุ่มเดิม  และในส่วนของอุปทานล้นตลาด
หรือโอเวอร์ซัพพลายนั้นตนมองว่าในช่วง 2-3 ปีนี้ยังคงไม่เกิดผลอย่างใด แต่ถ้าในอนาคตหากยังมีอัตราเติบโตเช่นนี้อยู่ก็อาจเกิดปัญหาโอเวอร์ซัพพลายขึ้นได้