เกมคอมพิวเตอร์คือธุรกิจหรือ?

เกมคอมพิวเตอร์คือธุรกิจหรือ?

เริ่มโดย don, 01 พฤศจิกายน 2008, 17:26:40

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

don

เกมคอมพิวเตอร์คือธุรกิจหรือ?

เกมคอมพิวเตอร์คือธุรกิจหรือ?       
เขียนโดย พ่อบ้าน หัวหมอ      
พุธ, 03 กันยายน 2008
อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ มีเด็กฆาตกรรมคนขับรถแทกซี่ โดยเลียนแบบพฤติกรรมจากเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมและคุณเคยได้ยินมา และทุกครั้งที่สื่อลงตีพิมพ์ฺ หรือถูกเอาไปเล่าข่าวผ่านทางวิทยุโทรทัศน์ เกมคอมพิวเตอร์ก็จะกลายเป็ฺนจำเลยทางสังคมทันที ถามว่าเรื่องนี้ใครเป็นคนผิด คนสร้างเกม สื่อมวลชน เ้จ้าของร้านเกม คนขายเกม ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต พ่อแม่ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ หรือตัวของเด็กๆ ใครคือเหยื่อ ใครคือผู้ร้าย ผมจะเล่าให้ัฟัง
เกมคือธุรกิจ

ผมให้คำจำกัดความว่าเกมคือ ?ธุรกิจ? ได้อย่างไม่ลังเล เพราะการลงทุนในเกมคอมพิวเตอร์นั้น ไม่ใช่มูลค่าน้อย เทียบเท่ากับการสร้างภาพยนต์ฮอลลีวู้ด โดยเฉพาะเกมดังๆ ที่ได้รับความนิยม ถูกสร้างขึ้นเพื่อขายทั่วโลก เกมหนึ่งเกมอาจจะสามารถทำรายได้มากว่าภาพยนต์หนึ่งเรื่อง หลายเกมดังๆที่มีรายได้หลายร้อยล้าน ยกตัวอย่างค่ายเกม Electronics Art ที่ใหญ่ที่สุด สามารถทำรายได้จากเกม แค่ไตรมาสแรกของปี 2008 บริษัทก็ทำรายได้ไปแล้ว 395 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (หรือ 13,035 ล้านบาท) และในปัจจุบันเกมเหล่านี้มีการเล่น 4 แบบ ได้แก่ เกมตู้ เกมกล่อง เกมพีซี และเกมออนไลน์ แต่เกมที่มีสัดส่วนผู้เล่นสูงสุดคือ เกมกล่อง ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ XBOX, Wii, Play Station เป็นต้น ผมบอกได้เลยครับว่าเด็กในเมืองแทบทุกคนชอบเกมคอมพิวเตอร์ทั้งสี่ประเภท ดังนั้นตลาดใหญ่ก็คงอยู่ที่เกม เกมมีหลายแบบให้เลือกเล่น แต่ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ เกมจำลองสถานการณ์ (Simmulation) เกมกีฬา (Sport Game) เกมจำลองบทบาท (RPG-Roll Playing Game) ส่วนเกมอื่นๆนั้นแทบจะไม่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ธุรกิจเกมในประเทศไทยแม้ว่าจะไม่หวือหวา แถมยังมีข่าวในด้านลบอยู่เป็นระยะๆ ยอดการจำหน่ายก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง (ยังไม่ได้นับรวมแผ่นผีซีดีเถื่อนอีกมาก) ผมเคยสอบถามคนรู้จักที่ทำร้านเกม ชั่วโมงละ 10 บาท พบว่าร้านสามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 2-3 เดือน ถ้าตั้งอยู่ในทำเลที่นักเรียนไปมาสะดวก เช่น ใกล้โรงเรียน ชุมทางรถประจำทาง หมู่บ้าน ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น เมื่อมีเกม มีผู้ขายเครื่องเล่น มีผู้ให้บริการเช่าเครื่องเล่น ผู้เล่นก็สามารถเลือกได้ตามกำลังเงินของตัวเองได้โดยสะดวก ดังนั้นสรุปไ้ด้ว่าเกมคือธุรกิจ

เกมคือปัญญา

ในอีกด้้านหนึ่งของเกมก็คือ ?ปัญญา? เกมดีๆถูกสร้างสรรด้วยทีมงานนับร้อยชีวิต ตั้งแต่การสร้างเรื่องราว การสร้างภาพสวยงาม การเขียนโปรแกรม ตลอดจนการนำเสนอผ่านเครื่องเล่นที่ถูกสร้างขึ้นจากการค้นคว้าวิจัยชั้นเลิศ ผมชอบเล่นเกมหลากหลาย แต่เกมที่ชอบที่สุดก็คือเกมจำลองสถานการณ์ (Simmulation) Sim City เป็นเกมที่จำลองการสร้างเมือง ผมเป็นเสมือนกับผู้ว่าฯ ทำการสร้างเมืองตามที่วางแผนไว้ ซึ่งเกมก็จะมีสถานการณ์ต่างๆ ที่จำลองมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เช่น ปัญหาต่างๆจากชุมชน ปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาสิ่งแวดล้อมภ้ยธรรมชาติ และอื่นๆอีกมาก (ไม่รู้ว่าผู้ว่าฯ ของเราเล่นเกมนี้บ้างหรือเปล่า) เกมนี้หาซื้อได้ทั่วไปครับ ราคาสองร้อยกว่าบาท นอกจากนี้ในเกมต่างๆที่เด็กๆ เล่นกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเกมที่มีความรุนแรง เกมกีฬา ก็แฝงแง่คิดเอาไว้มากมาย เพียงแต่ผู้เล่นจะสามารถรับรู้ถึงสิ่งดีๆที่แฝงอยู่ในเกมนั้นหรือไม่ หรือจะเรียกว่า ?ภูมิคุ้มกันทางความคิด? ก็ได้ครับ พ่อแม่ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ สื่อมวลชน กระทรวงไอซีที กระทรวงวัฒนธรรมฯ และองค์กรเอกชนต่างๆที่เกี่ยวข้อง คือกลไกสำคัญที่จะสร้าภูมิคุ้มกันทางความคิด ให้กับลูกหลานของเรา และถ้าเอาคนไม่เล่นเกมมาเป็นคนคิด การแก้ปัญหาก็คงหลงทางตั้งแต่แรก ผมขอยืนยันว่าเกมคือปัญญา ที่ผู้ใหญ่้ต้องใช้ให้เป็น ตามให้ทัน และสอนให้ถูก จึงจะเกิดปัญญาอย่างที่บอกละครับ

เด็กคือเหยื่อ

ยืนยันได้อีกเช่นกันว่าเด็กคือเหยื่อ แล้วใครคือตัวการใหญ่ ที่ทำให้เด็กต้องตกเป็นเหยื่อ และใครคือผู้สมรู้ร่วมคิด และใครคือผู้เห็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยคิดจะช่วยเหลือ ผมยากจะให้ท่านผู้อ่านหาภาพยนต์อเมริกันเรื่อง 8mm. ภาคแรก ที่แสดงโดย นิโคลัส เคจ สะท้อนให้เห็นแนวทางปัญหาเดียวกัน ผมคงไม่เล่ารายละเอียด แต่ประเด็นที่สำคัญซึ่งผมได้จากภาพยนต์เรื่องนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ยังใช้ได้กับประเทศไทยในปัจจุบัน คือการปล่อยปะละเลยของคนในสังคม ที่ปล่อยให้คนธรรมดามีจิตคิดทำผิด เพราะมีสื่อช่วยขยายผลการรับรู้ในสังคม มีคนสังคมที่ไม่กล้าลุกขึ้นมาแก้ไข มีผู้ปกครองที่อ่อนแอไม่กล้าทำความเข้าใจแก่นแท้ของปัญหาและหาทางแก้ไข มีเหยื่อของปัญหาสังคมเพราะอ่อนด้อยทางความคิด และมีผู้เคราะห์ร้ายซึ่งอาจจะเป็นใครก็ได้ในสังคม หลายครั้งที่เด็กต้องคำสั่งจากผู้ปกครองให้เลิกเรียนในสาขาไอที เพียงเพราะกลัวว่าลูกจะเสียคนจากการเล่นเกม นั่นคือความไม่เข้าใจของพ่อแม่ที่รักลูกซึ่งไม่ใ่ช่ความผิด แต่ผู้รู้ในหน่วยงานรัฐและสถาบันการศึกษากลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่เคยให้ความรู้กับสังคม หรือก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน?

ไม่รู้ ไม่กล้า ไม่คิด ไม่รับผิดชอบ

เหตุแห่งความล้มเหลวในการแก้ปัญหาอาชญากรรมที่เกิดจากเกมและอินเทอร์เน็ต มาจาก ความไม่รู้ ไม่กล้า และไม่คิด ของผู้ใหญ่ทั้งที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง และโดยอ้อม ทำให้ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นยังคงมีอยู่เรื่อยๆ ความอบอุ่นในครอบครัวไม่ได้มาจากความเงียบที่ดูเหมือนจะไม่ขัดแย้ง แต่อาจจะมีปมขัดแย้งที่ฝังอยู่ในใจเด็กๆรอวันระเปิดออกมา เมื่อเจอตัวเร่งปฏิกริยาที่เหมาะสม เกมคือเพื่อนใกล้ตัวสำหรับเด็กบางคน ที่ทำให้เขาีมีความสุขซึ่งหาไม่ได้จากพ่อแม่หรือคนรอบข้าง เพียงแต่ไม่บอกไม่พูด อัตราย! ถ้าพ่อแม่ไม่สังเกตุโดยปราศจากอัคติ มันคือระเบิดเวลาที่รอการจุดชนวน ซึ่งคุณอาจจะเป็นคนจุดมันโดยไม่รู้ตัว สื่อมวลชนคือตัวการที่ขยายผลการรับรู้สู่สังคม และตอกย้ำความผิดที่เกิดขึ้น ทำให้สังคมเกิดความตื่นตระหนก ซ้ำร้ายยังไม่มีผู้รู้คนไหนหรือหน่วยงานไหนออกมาให้ความรู้ที่ถูกต้องอย่าง เป็นสากลและเหมาะสมกับลักษณะวัฒนธรรมไทย ปัญหาการเลียนแบบพฤติกรรมตัวละครในเกม ก็ไม่แตกต่างจากการเลียนแบบตัวละคอนน้ำเน่าทางโทรทัศน์ เช่นพฤติกรรมการชื่นชมดาราสาวที่แต่งตัวโชว์ของสงวนชนิดที่แทบจะหลุดออกมา กลับได้รับความชื่นชมในสังคม หรือบางคนก็หลุดออกมาให้เห็นกันโจ๋งครึ่ม แต่ก็ยังเชิดหน้าได้อย่างไม่อายฟ้าดิน พฤติกรรมเลียนแบบเหล่านี้อาจจะไม่นำไปสู่การเป็นอาชญากร ทำร้ายผู้อื่น แต่กลับกลายเป็นเหยื่อโดยเจตนาให้กับคนโรคจิืดที่มีปะปนอยู่ในสังคมทั่วไป แล้วแบบนี้เราจะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อย่างไร ผู้ใหญ่ไร้ภูมิปัญญา เด็กก็ไร้ภูมิคุ้มกัน สังคมก็วุ่นวาย สังคมไทยชอบหาคนผิด แต่ไม่ชอบรับผิด เรื่องนี้คนไทยส่วนใหญ่ก็จับจ้องมองหาคนผิด และสนุกกับการวิพากย์วิจารณ์เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายและผู้กระทำผิดด้วยสีหน้า ห่วงใยสังคมอย่างเวทนา แต่ไร้ซึ่งหนทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรม โศกอนาถกรรมในสังคมยุคไฮเทค ไม่รู้ว่าจะจบสิ้นเมื่อไหร่ ตราบใดที่ผู้ใหญ่ในสังคมไทยยัง ไม่รู้ ไม่กล้า ไม่คิด ไม่รับผิดชอบ ต่อสังคมซึ่งด้อยภูมิคุ้มกันต่อความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิตอล

สำนึกบนคราบน้ำตา

หลายหนที่ผมได้ฟังคำให้การณ์ของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ถึงสิ่งลูกได้กระทำลงไป รู้สึกถึงความรักที่พ่อแม่มีต่อลูกอย่างซาบซึ้ง ลูกเป็นเด็กเรียบร้อย เชื่อฟังทุกอย่าง มีจิตใจดี เรียนหนังสือเก่ง เป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว แต่ไหนเลยถึงกับมาลงเอยด้วยการก่อเหตุสะเทือนขวัญ ชนิดที่เรียกว่าจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เราเคยคิดหาคำตอบหรือไม่ ว่าเด็กดีๆ กลับกลายเป็นผู้ลงมือกระทำผิดได้อย่างไร อีกทั้งยังยอมรับสารภาพแทบทุกราย บอกตามตรงว่าผมกล้ว สักวันหนึ่ลูกชายผมจะเติบโตขึ้นในสังคมที่ไม่มีภูมิคุ้มกันทางความคิด ผมจึงต้องลงมือสร้างภูมิคุ้มกันใหักับลูกและครอบครัวของผม โดยไม่รอให้ใครหรือหน่วยงานใดออกมารับผิดชอบหรือหามาตรการป้องกันอย่างเป็น รูปธรรม เพราะถึงวันนั้นอาจจะสายเกินกว่าที่ลูกชายคนเล็กของผมจะรอได้ ผมหลั่งน้ำตาอยู่ภายในใจถึงเรื่องนี้ เพราะถ้าคนส่วนใหญ่ในสังคมไม่ออกมาช่วยกันคิดหาทางแก้ไข ผมและลูกชายก็ไม่ต่างกับทราบเม็ดเล็กๆในทะเล ที่ถูกคลื่นซัดสาดและจมหายไป ความร่วมมือร่วมใจของผู้ใหญ่ที่้มีปัญญา่ทั้งหลาย จะช่วยให้ปัญหาเด็กติดเกมและพฤติกรรมเลียนแบบ ได้รับการคลี่คลายไ้ด้อย่างแน่นอน ผมเป็นผู้หนึ่งที่ส่งเสริมให้คนในสังคมเรียนรู้ที่จะใช้คอมพิวเตอร์และอิน เทอร์เน็ต ต้องการแนวร่วมที่จะช่วยกันคิดแก้ไข เพื่ออนาคตของลูกหลานเราจะได้อยู่ในสังคมยุคดิจิตอลอย่างปกติสุข

แสงสว่างแห่งปัญญา

เราทุกคนต้องการแสงสว่าง เพื่อหลุดพ้นเงามืดของสังคมยุดดิจิตอล การสร้างองค์ความรู้ให้กับประชาชนในสังคม จึงเป็นหนทางเดียวที่จะสร้างภูมิคุ้มกัน โดยทุกภาคส่วนจะต้องกำหนดบทบาทของตนเองในเรื่องการปัองกันปัญหาจากเกม คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต หน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานจะต้องจับเอาการแก้ปัญหาในเรื่องภัยที่เกิดจาก เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาเป็นวาระแห่งชาติ ในขอบเขตที่หน่วยงานนั้นๆรับผิดชอบ โดยมีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นหน่วยงานหลัก ในการประสานงานและให้ข้อมูลทางเทคนิคแก่หน่วยงานอื่นๆ และบูรณาการแนวทางการแก้ไขปัญหาออกมาเป็นกฏหมาย หรือระเบียบต่างๆ เพื่อมีผลบังคับใช้ต่อไปในสังคม ความสงบสุขจึงบังเกิด ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในชั่วชีวิตของผม จะได้เห็นความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เพราะไม่อยากเสียใจกับเด็กที่ตกเป็นเหยื่อและผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งวันหนึ่งอาจจะเป็นลูกหลานของเราและคนในครอบครัว
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

อาตี๋

ดูยังไงก็เป็นธุรกิจอยู่แล้วละครับ แต่ผมว่าทุกธุรกิจมีทั้งด้านดีและไม่ดีเหมือนกันหมดนะครับ รู้จักแยกแยะ จัดสรรแบ่งเวลาให้ดี
น่าจะเกิดปัญหาน้อยที่สุดนะครับ (ไอ้ที่ว่าจะไม่เกิดปัญหาเลยคงเป็นไปได้ยากครับ)
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions