ตำนานผีญี่ปุ่น Part11

ตำนานผีญี่ปุ่น Part11

เริ่มโดย etatae333, 04 กรกฎาคม 2014, 12:35:28

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

1. โทะโดะเมะกิ หรือ ยักษ์ร้อยตา「とどめき」 (Todomeki)



โทะโดะเมกิ สมัยที่ยังเป็นมนุษย์นั้น เป็นสตรีที่รูปร่างหน้าตางดงาม แต่จิตใจต่ำช้า เป็นคนที่ชอบลักเล็กขโมยน้อย
ไม่เคยเปลี่ยนนิสัย ไม่เคยรู้สำนึก จึงถูกสวรรค์ลงโทษ ให้ตาปรากฏขึ้นที่แขน ทุกครั้งที่ทำผิด จนมีดวงตาเป็นร้อย ๆ ดวง
เต็มแขนไปหมด เพราะเธอไม่ยอมเปลี่ยนนิสัยนั่นเอง จึงต้องทนทุกข์เวทนาอย่างแสนสาหัส

ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่า ตาของโทะโดะเมกิ จะมองเห็นทะลุปรุโปร่งไปหมด ดังนั้น หากใครโชคร้าย ถูกมันไล่ตาม
ก็จะถูกหาพบทุกครั้ง ไม่ว่าจะหนีไปซ่อนในที่มิดชิดแค่ใดก็ตาม แต่ไม่เคยมีปรากฏว่ายักษ์ตนนี้ทำร้ายใคร
มีเรื่องเล่า (อาจจะเป็นเพียงคำขู่สอนเด็ก) ว่าถ้าใครทำผิดและแอบซ่อนความผิดนั้นไว้ จะมีตาขึ้นบนร่างกายทีละตา
และจะมีมาเรื่อยๆถ้าคนคนนั้นยังไม่ยอมหยุดทำและสารภาพออกมา



2. โชเคระ หรือ ปีศาจตุ๊กแก しょけら」(Shokera)



ปรากฏอยู่ในสมุดรวมภาพปิศาจของโทริยามะเซกิเอ็น เชื่อว่าเป็น "เทพวิบัติ" ชนิดหนึ่ง มีรูปร่างคล้ายตุ๊กแก
มีหนังเป็นเกล็ดหนา กรงเล็บและฟัน แหลมคม ตัวใหญ่เท่าคนออกหากินในวันที่มีงานบูชาเทพเจ้าโคชิน 
มันจะคอยมองลอดเข้าไปในหน้าต่างบ้าน  คนที่นอนเร็วในคืนนั้นและเล่นงานเมื่อมีโอกาสมันจะใช้เล็บ
ขูดผิวหนังของคน คนนั้นออกมากิน  ถ้าเห็นให้พูดว่า

"รู้นะว่าแอบมองอยู่"
แล้วมันก็จะหนีไป


3. ยามิโกะซัง 「やみこ さん」 (Yamikosan)



คนไทยจะไม่คุ้นชื่อนี้ แต่ถ้าบอกว่า มือขาวๆซีดๆ โผล่มาจากคอห่าน ก็คงจะพอนึกกันออกใช่มั้ย
ยามิโกะซัง เป็นรอยคราบคล้ายใบหน้าคนติดอยู่ที่โถส้วมในห้องน้ำห้องที่2 แม่ใครจะพยายามขัดคราบนี้
ออกไม่นานรอยคราบนี้ก็จะปรากฏขึ้นมาอีก ถ้าใครไปเข้าห้องน้ำตามลำพังตอนเย็นๆหรือกลางดึก
ในโรงเรียนแล้วพูดว่า

"ยามิโกะซังตื่นเถอะ...ยามิโกะซังตื่นเถอะ..."

ทันใดนั้นจะมีเสียงเคาะประตูห้องน้ำดังขึ้นทุกบานพร้อมกัน "ปังๆๆๆๆๆๆ!!!"
แล้วมือขาวซีดของ "ยามิโกะซัง" จะจับขาคุณ และลากคุณหายไป...



4. วิญญาณชู้รัก



ชายผู้หนึ่งชื่อว่า อิกะโนะ คาเนะมิตสุ 「いがの かねみっつ」ได้ลอบรักกับภรรยาม่ายของพี่ชายของเขาที่เสียชีวิตไป 
แต่รักครั้งนี้ผิดศีลธรรมประเพณีเพราะหญิงม่ายได้บวชเป็นชีไปแล้ว เมื่อ คิคุโนะ 「きくの」 ซึ่งเป็นเมียน้อยของพี่ชาย
กับ มะตะฮะชิ 「またはし」 ผู้รับใช้ของเธอ  ได้ล่วงรู้ถึงความลับนี้คาเนะมิตสุก็ได้สังหารคนทั้งสองเสีย

แต่แล้ววิญญาณของทั้งคู่ก็ได้กลับมาแก้แค้น โดยมุ่งหมายที่จะยุติทั้งความสัมพันธุ์และชีวิตของคาเนะมิตสุกับชู้รัก
ในเรื่องเช่นนี้ละครคาบุกิของญี่ปุ่นมักแสดงออกถึงความรู้สึกผิดชอบในใจของผู้กระทำผิดเอง 

แม้ว่าในพล็อตเรื่อง ชู้รักทั้งสองได้ถูกปีศาจคิคุโนะกับมะตะฮะชิ หลอกหลอน จนกระทั่งเสียสติและฆ่าตัวตาย
แต่แท้จริงแล้ว...ปีศาจคือความกลัวต่อบาปนั่นเองเมื่อหาทางสงบสติใจและอารมณ์ไม่ได้ ทางออกก็คือ

"การฆ่าตัวตาย"


5 โคมไฟนำทาง



เรื่อนี้เป็นหนึ่งในเจ็ดเรื่องพิลึกของ เอโดะฮนโจ 「えど ほんじょ」 ในกรุงโตเกียว โดยเรื่องมีอยู่ว่า...
ในคืนหนึ่งที่เงียบสงบของฤดูใบไม้ผลิ  ซามุไรคนหนึ่งเพิ่งกลับมาจากการสังสรรค์ที่ โยชิวะระหรือ อะกะกุสะ
โดยมากับผู้ติดตามคนหนึ่ง ขณะที่เดินทางตุปัดตุเป๋ด้วยอาการเมาหัวราน้ำไปบนถนน ผ่านหน้าประตูวัดโฮองจิ 「ほおんじ」

ผู้ติดตามของซามุไรที่เป็นคนขี้ขลาดก็นึกถึงแต่เรื่องที่เคยได้ยินมาบริเวณนี้และเกิดอาการสั่งเทาด้วยความกลัว
รั้งไม่ให้ผ่านทางนี้ แต่ด้วยความ "เมา" และเป็น "ซามุไร"ทำให้เขาไม่กลัวอะไร จึงเดินต่อไป และพบแสงไฟข้างหน้า 
เมื่อมองเห็นแสงไฟทำให้ใจของผู้ติดตามชื้นขึ้นมาบ้าง แสงไฟนั้นอยู่ในโคมไฟที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีลักษณะ
คล้ายคนรับใช้ถือไว้ในมือเธอเดินอยู่คนเดียวในทางที่เปลี่ยว ซามุไรจึงถามเธอว่า "จะไปที่ไหน"
เธอชี้ไปทางหนึ่งแล้วตอบว่า"ทางโน้นค่ะ...ท่านไม่มีโคมไฟหรือคะ? ดิฉันจะนำทางให้"
แล้วทั้งสามก็เดินไปคุยกันไปกระทั่งสิ้นสุดทางซามุไรก็ขอตัว เธอก็ของตัวเช่นกันแล้วแยกย้ายกันไป
ซามุไรคิดว่า 'น่าจะมองส่งเสียหน่อย' จึงหยุดและหันหลังเพื่อมองส่งเธอจนลับสายตาไป

ทว่า...ผู้หญิงคนนั้นได้หายไปแล้วเหลือไว้เพียงแต่ความมืด ผู้ติดตามจึงโพล่งขึ้นว่า "นั่นคือ 'ไฟนำทาง' "
กล่าวกันว่า มันคือไฟพิศวงที่มักปรากฏเฉพาะต่อหน้าคนที่ไม่มีโคมไฟ จะเห็นเป็นดวงไฟติดๆ ดับๆ
ส่องสว่างอยู่เรื่อยๆลอยเรี่ยอยู่ด้านหน้า แม้จะเดินตามเท่าไหร่ก็จับไม่ได้

นับว่าเป็นปีศาจ ที่ใจดีและไม่น่ากลัวเลย


6. มิคะริบาบะ หรือยายแก่มิคะริ 「みかりばば」 (Mikaribaba)



ว่ากันว่า ยายแก่มิคะรินั้นชอบไปเยี่ยมตามบ้านต่างๆ ในแถบตะวันออก พร้อมกับผีเด็กชายตาเดียว
ทางภาคเหนือของเขตคะวะซะกิ เชื่อกันว่ายายมีคะริ มักจะมาเยี่ยมในช่วงวันที่ 8 ของเดือนกุมภา
และธันวาชาวบ้านมักจะนำเอาตะกร้ามาวางไว้ที่หน้าบ้าน แล้วก็จะอยู่แต่ในบ้านทั้งวัน ไม่ยอมออกไปไหน

คนที่อาศัยอยู่ทางใต้ของจังหวัดซึบะ เชื่อว่ายายมิคะริ จะมาเยือนในช่วงสิบวันคือตั้งแต่วันที่ 26 ของเดือนพฤศจิกา
ชาวบ้านจึงถือกันว่า ในช่วงนั้นไม่ควรทำงานใดๆแม้แต่งานในภูเขาหรือการทอผ้า ควรจะอยู่แต่ในบ้านทั้งวัน

แต่ที่เขตซึรุจิ ของจังหวัดโยะโคะฮะมะยายมิคะริจะชอบปรากฏตัวในช่วงวันที่ 25 ของเดือนพฤศจิกาถึงวันที่ 5 ของเดือนธันวา
คำว่า "มิ" ของ "มิคะริ" นั้นมาจากคำว่า "มิโนะ"ซึ่งแปลว่า "เสื้อกันฝนที่ทำจากฟาง" เพราะยายมิคะริจะชอบ
เคาะประตูบ้านแล้วพูดว่า "ขอยืมมิโนะหน่อย"

ว่ากันว่าใครที่อยากไล่ยายมิคะริไปก็เอาขนมดังโงะมาเสียบไว้ที่หน้าบ้าน เมื่อยายมิคะริเห็นขนมดังโงะแล้วก็
จะบ่นพึมพำอยู่คนเดียวแล้วก็จากไปคาดว่าเป็นเพราะขนมดังโงะมักจะนำไปใช้กับพิธีที่เกี่ยวข้องทางศาสนา
ในสมัยอดีตจึงทำให้ยายมิคะริเกรงกลัวก็อาจจะเป็นไปได้ นอกจากนี้ ถ้านำตะกร้าหรือกระชอนไปแขวนไว้
ที่หน้าบ้านยายมิคะริก็จะหนีหายไปทันทีทั้งนี้เพราะว่ายายมิคะรินั้นมีดวงตาเพียงดวงเดียวเมื่อมองเห็นตะกร้า
หรือกระชอนที่มีตาหรือรูเยอะๆก็จะเกิดอาการกลัวขึ้นมาก็อาจจะเป็นไปได้


7. โฮยะอุคะมุอิ หรือโฮยะอุคะมุย หรือ เทพเจ้างู 「ホヤウカムイ」 (Hoyaukamui)



ตามตำนานของชาวไอมุ จะเรียก "เทพเจ้างู" ว่า "โฮยะอุคะมุย"ซึ่งว่ากันว่าเป็นผู้ปกครองทะเลสาบ โดยเทพองค์นี้
จะมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "สิ่งที่ไม่ควรเอ่ยถึงในฤดูร้อน"ลักษณะลำตัวจะใหญ่เหมือนกระสอบทรายมีปีกงอกออกมาที่หลัง
ตัวกับหางเรียวเล็กตัวดำเมี่ยมทั้งตัว ขอบตากับปากมีสีแดง และมีจมูกแหลมเรียว

ว่ากันว่ามันจะส่งกลิ่นเหม็นออกตามร่างกายทำให้รู้ได้ทันทีว่าทะเลสาบนั้นมีมันอยู่คนที่ผ่านไปผ่านมายังทะเลสาบ
ที่มันอยู่นั้นมีชื่อว่า 「かむいと」คะมุยโตะ (หนองน้ำปีศาจ) ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไปใกล้

ในตำนานอีกเรื่องหนึ่งกล่าวไว้ว่าเทพเจ้าของทะเลสาบโทยะโกะ ก็เป็น "โฮยะอุคะมุย" เหมือนกันแต่รูปร่าง
เป็นเต่ามีปีกมากกว่า  ว่ากันว่าโฮยะอุคะมุยในทะเลสาบโทยะโกะนี้เป็นปีศาจที่ชั่วร้าย ชอบสร้างความเดือดร้อน
ให้กับมนุษย์ แต่ว่าบางครั้งก็ทำหน้าที่ปกป้องมนุษย์โดยการเข้าสิงหญิงร่างทรงแล้วบอกถึงสาเหตุโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
ของมนุษย์ว่ากันว่ามันเคยไล่ปีศาจไข้ทรพิษด้วยกลิ่นของตัวเองมาแล้ว


8. โอะกะมุโมะโนะ หรือ ผู้เข้าทรง 「おかむもの」 (Okamumono)



มีเกาะมิยะเกะ ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดของหมู่เกาะอิซึเรียกร่างทรงเจ้าว่า "โอะกะมุโมะโนะ" กล่าวกันว่า
โอะกะมุโมะโนะนั้นทั้งดูดวงและรักษาโรคด้วยเขาไม่ได้เป็นร่างทรงตั้งแต่กำเนิด แต่เป็นหลังจากที่ถูกยักษ์เท็นกุ
ตัวใหญ่เข้าสิงเขาแล้ว

ในสมัยโชวะ ช่วงศตวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2478 – 2487) โอะกะมุโมะโนะอายุประมาณ 50ปีอยู่ที่หมู่บ้านคะมิซึกิ
อยู่ในเกาะนั้น หญิงร่างทรงคนนี้ถูกยักษ์เท็นกุตัวใหญ่ของภูเขาฮากุโระ(สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดยะมะงะตะ)
เข้าสิงแล้วกลายเป็น "โอะกะมุโมะโนะ"วันหนึ่ง ขณะทีชาวบ้านหลายคนกำลังตัดต้นสนต้นใหญ่ที่อยู่ริมถนน
โอะกะมุโมะโนะคนนี้ก็ผ่านมาพอดีเตือนชาวบ้านว่า

"นี่คือต้นไม้ของยักษ์เท็นกุ ห้ามตัดเด็ดขาด!!!

แต่ชาวบ้านไม่สนใจ ยังคงตัดต้นสนนั้นต่อไป แต่ทำยังไง...ต้นไม้ก็ตั้งตรงไม่ยอมล้มซะทีพอชาวบ้านมารวมตัวกัน...
ต้นไม้กลับล้มลงกะทันหันด้วยเสียงน่ากลัวทำให้ชาวบ้านบาดเจ็บหลายคน

โดยทั่วไปคนถูกวิญญาณเข้าสิงจะมีจิตใจที่อ่อนแอ ขี้โรค แต่โอะกะมุโมะโนะส่วนใหญ่เมื่อถูกเข้าสิงแล้วจะมีจิตใจ
ที่เข้มแข็งกลายเป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือมนุษย์ เช่น สามารถมองทะมุปรุโปร่งได้และสามารถรักษาโรคได้
ถือว่า "ยักษ์เท็นกุ"เป็นวิญญาณที่คล้ายเทพเจ้ามากกว่าปีศาจเสียอีก
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

piryat

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions