กรุงเทพเสียแชมป์ ชม.ยืดอกไม่หวั่น

[etatae333]

กรุงเทพเสียแชมป์ ชม.ยืดอกไม่หวั่น

กรุงเทพฯ เสียแชมป์ เมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเอเชีย ปี 2557 ซึ่งนิตยสารทราเวล แอนด์ เลเชอร์ เผยว่าจากผลสำรวจ
กรุงเทพฯ ร่วงมาอยู่อันดับที่ 3 โดยมีเกียวโต ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แทนในขณะที่เชียงใหม่ยังมั่นใจศักยภาพ
ปีนี้โกยเงินเฉียด 6 พันล้านบาท

นิตยสารทราเวล แอนด์ เลเชอร์ (Travel & Leisure) ซึ่งเป็นนิตยสารด้านการท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
ในสหรัฐอเมริกา มีสาขาอยู่ทุกภูมิภาค เช่น สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน เอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฯลฯ
ได้จัดอันดับเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเอเชีย โดยทำแบบสอบถาม ให้ผู้อ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งทำเป็นประจำทุกปี
เพื่อจัดอันดับคะแนน แบ่งรางวัลเป็นประเภทต่างๆ ได้แก่ เมืองที่ดีที่สุด หมู่เกาะที่ดีที่สุด สายการบินนานาชาติที่ดีที่สุด
โรงแรมที่ดีที่สุด เป็นต้น

โดยในปี 2557 พบว่า "กรุงเทพฯ" ซึ่งเคยเป็นอันดับ1 ในเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเอเชีย ในปี 2556
มาในปี 2557 ผลสำรวจพบว่า ถูกลดระดับมาอยู่อันดับ 3 โดยมี เกียวโต เมืองเก่าของญี่ปุ่นขึ้นเป็นอันดับ 1 แทน
และยังถูกเมืองท่องเที่ยวของประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเสียมเรียบ (ซึ่งเป็นที่ตั้งนครวัด นครธม) จากปีก่อนอยู่ในอันดับ4
ปีนี้แซงหน้าขึ้นเป็นอันดับ2 ได้คะแนน 89.82 ขณะที่กรุงเทพฯได้คะแนนเพียง 88.32 ส่วนอันดับ 4 เป็นโตเกียว
เมืองหลวงของญี่ปุ่น ปรับขึ้นมาจากอันดับ 6 ในปีที่แล้ว และอันดับ 5 ยังคงคงที่เหมือนปีที่แล้ว คือฮ่องกง
ซึ่งกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของจีน

สำหรับการจัดอันดับของนิตยสารทราเวล แอนด์ เลเชอร์ ใช้ช่องทางอินเตอร์เน็ต สำรวจผ่านเว็บไซต์ โดยผู้ที่โหวตให้
คะแนนเมืองน่าท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก ใช้เกณฑ์ในการพิจารณา 6 ประการคือ
1.สถานที่ท่องเที่ยว ทัศนียภาพ ความสวยงาม และความร่มรื่น
2.ศิลปวัฒนธรรมและประเพณี
3.อาหารการกิน
4.แหล่งจับจ่ายใช้สอย
5.ความเป็นมิตรของผู้คน
6.ความคุ้มค่าของเงิน หรือความพึงพอใจที่ได้รับจากการจับจ่ายนักท่องเที่ยว

สำหรับกรุงเทพฯ นั้นเคยได้รับการจัดอันดับให้เป็น "เมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเอเชีย" ต่อเนื่องมาแล้วหลายปีด้วยกัน
คือ ตั้งแต่ปี 2548-2551 และปี 2553-2556 แต่ว่าในปี 2557 นี้ กรุงเทพฯ กลับต้องเสียความเป็นแชมป์ไป

ในส่วนของจ.เชียงใหม่นั้น นายพรชัย จิตรนวเสถียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์
การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ว่า ปีนี้น่าจะเฉียด 60,000 ล้านบาทจาก ปี 2556 ที่ประมาณ 50,000 ล้านบาท
แม้สะดุดอยู่ช่วงหนึ่งตอนประกาศเคอร์ฟิว และหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ตั้งเป้าประมาณ 80,000 ล้านบาท

ด้านแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ และจะกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวขึ้นอย่างต่อเนื่องแบ่งเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรกจะเป็นเรื่องของการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างภูมิภาค ทั้งภาคกลาง ภาคให้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก
เพื่อที่จะเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวมาลงที่เชียงใหม่ไปภาคกลาง กรุงเทพฯก็มาเชียงใหม่
ภาคใต้มาภูเก็ตก็มาเชียงใหม่ เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อและโอนถ่ายนักท่องเที่ยวระหว่างกัน ส่วนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
จะทำการตลาดในประเทศกลุ่มอาเซียน เริ่มที่ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมศกนี้