ชี้ปีนี้ตลาดอสังหาฯเติบโต5-6%

[etatae333]

ชี้ปีนี้ตลาดอสังหาฯเติบโต5-6%

นายวิศรุต ปัญญาภิญโญผล ผู้อำนวยการอาวุโส สายสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (บมจ.)
เปิดเผยกับว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น โดยศูนย์วิจัยเกียรตินาคิน ประเมินตลาด
อสังหาริมทรัพย์จะเติบโตได้ 5-6% มาจากผู้ซื้อรายย่อยเริ่มมีความเชื่อมั่นกลับมาตัดสินใจซื้ออีกครั้ง

อย่างไรก็ดี อัตราการเติบโตจะอยู่ในกลุ่มกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ขณะที่สัญญาณตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่
ต่างจังหวัดชะลอตัวมาสักพัก เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้มีการขยายการลงทุนก่อสร้างโครงการจำนวนมาก
ทั้งในส่วนของแนวราบและคอนโดมิเนียม ทำให้เกิดภาวะสต๊อกล้นตลาดเป็นผลให้ตลาดต่างจังหวัดชะลอตัว
แต่คาดว่าตลาดต่างจังหวัดจะสามารถฟื้นได้เป็นแบบ V-Shape ภายในสิ้นปีนี้ โดยปีนี้ธนาคารตั้งเป้าปล่อย
สินเชื่อโครงการ 2 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปีก่อนอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานในระยะถัดไปตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องตาม
ภาวะเศรษฐกิจทั้งอุปสงค์และอุปทานหลังจากที่ถูกเลื่อนมาจากช่วงก่อนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของสถาบันการเงินที่
คาดว่าความต้องการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนประเด็นความเสี่ยงที่ต้องจับตามองนั้น ปัจจุบันธปท. มีการ
ติดตามการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายใต้สถานการณ์ที่
ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ เพราะดอกเบี้ยที่ต่ำอาจกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ แต่ขณะนี้
ยังไม่พบสัญญาณดังกล่าว จึงเป็นแค่การติดตามดูต่อเนื่อง

ทั้งนี้ รายงานของธปท.เกี่ยวกับภาพรวมด้านสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ไตรมาส 2 ที่ผ่านมาเทียบกับระยะเดียวกันของปี
ก่อนโดยระบุว่า ไตรมาส 2 ปี 2557 สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ขยายตัว 12.5% ซึ่งเป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน
โดยยังเห็นการทยอยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจากที่มีการจองซื้อไปในช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะประเภทอาคารชุด
ทั้งนี้สินเชื่อที่ยังขยายตัวอยู่สะท้อนว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจแม้กระทบรายได้ครัวเรือนและทำให้สถาบันการเงิน
มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นกระทบความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่แท้จริงมากนัก
สอดคล้องกับยอดจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ของอาคารชุดในช่วงไตรมาส 1-2 ปี 2557 อยู่ที่ประมาณ
1.6 หมื่น-1.7 หมื่นยูนิต ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัย
ของผู้กู้ยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากสัดส่วนราคาที่อยู่อาศัยต่อรายได้ทั้งปี (คำนวณจากข้อมูลสินเชื่อเพื่อ
ที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์) อยู่ที่ 3.4 เท่า ยังใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีซึ่งอยู่ที่ 3.3 เท่า

ทั้งนี้สำหรับภาพรวมตลาดอสัง หาริมทรัพย์ในไตรมาส 2 ปี 2557 เริ่มปรับดีขึ้นจากไตรมาสแรกทั้งด้านอุปสงค์และ
อุปทาน หลังจากที่ช่วงปลายไตรมาสนี้มีความชัดเจนทางการเมือง และความเชื่อมั่นภาคเอกชนเริ่มปรับดีขึ้น โดยการเปิด
ขายโครงการใหม่ขยายตัวเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน สอดคล้องกับอัตราการจองซื้อที่อยู่อาศัยที่อยู่ที่ 28% ในเดือนมิถุนายน
2557 ปรับเพิ่มจาก 18% ในเดือนธันวาคม 2556 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความต้องการที่สะสมมาจากช่วงก่อนหน้า (Pent-up
demand) โดยเฉพาะอาคารชุดที่ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อเพื่อรอดูสถานการณ์การเมือง และเศรษฐกิจในช่วงก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้ประกอบการพบว่า การซื้อเพื่อลงทุนและเก็งกำไร รวมถึงสัดส่วนการยกเลิกใบจองหรือทิ้ง
เงินดาวน์ ทรงตัวจากไตรมาสก่อน

รายงานข่าวจาก ธปท. ระบุอีกว่า ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างจังหวัดชะลอตัวทั้งแนวราบ และอาคารชุดตั้งแต่
ช่วงปลายปีที่ผ่านมา หลังจากที่ 2-3 ปีก่อนมีความคึกคักมากจากการที่ผู้ประกอบการจากส่วนกลางไปลงทุนพัฒ นา
โครงการตามจังหวัดหัวเมืองสำคัญ โดยปัจจุบันพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างชะลอตัว และการเปิดขายโครงการใหม่มีน้อย เพื่อ
รอให้อุปสงค์ค่อยๆ ดูดซับอุปทานที่ยังเหลือขายอยู่ในตลาด