10 หนังไซไฟชั้นเยี่ยมของโลก Sci Fi

10 หนังไซไฟชั้นเยี่ยมของโลก Sci Fi

เริ่มโดย etatae333, 29 พฤษภาคม 2015, 11:51:06

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

10 หนังไซไฟชั้นเยี่ยมของโลก Sci Fi



ในทุก ๆ ปีจะมีภาพยนตร์ออกฉายไม่ต่ำกว่าหลายพันเรื่อง ทุกแนวทุกสไตล์ล้วนทยอยกันมาถ่ายทอดเล่าเรื่องราวใหม่ ๆ
ให้กับผู้ชมทั่วโลก ช่วยขจัดความน่าเบื่อหน่าย เหงากาย ไม่สบายจิต หนังทำให้เรา ๆ ท่าน ๆ นั้นไม่เหงาจนเกินไปนัก ขณะเดียวกันก็เปิดกว้าง
จินตนาการของเราให้ขยายไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพลิดเพลินไปกับเรื่องราวใหม่ ๆ ที่เรายังไม่เคยรู้ หลายเรื่องมันสร้างความประทับใจจนทำให้
หลายคนต้องย้อนไปดูจนนับครั้งไม่ได้ อาจจะพอกล่าวได้ว่า "หนังเป็นทั้งเพื่อนและครู" เพราะมันทำหน้าที่เป็นเพื่อนเราในช่วงเวลาที่ไม่มีใคร
เข้าถึงตัวเราได้ ขณะเดียวกัน หลายครั้งหนังก็ทำหน้าที่สอนเราให้คิดทำในเรื่องที่ยิ่งใหญ่และมีประโยชน์ได้ เป็นแรงบันดาลใจพิเศษที่ไม่อาจ
พบได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป




หนึ่งในหลาย ๆ แนวของหนังที่มีในท้องตลาดนั้น มีอยู่แนวหนึ่งที่ไม่เคยห่างหายไปจากวงการจอเงินเลย นั่นคือแนวภาพยนตร์ไซไฟ (Science Fiction)
ตลอดทุกปีจะมีหนังแนวนี้ออกมาให้เราได้ชมกันอยู่เนื่อง ๆ ไม่เคยห่างหาย ไม่ว่ากระแสหนังของปีนั้น ๆ จะมีฮีโร่เกิดใหม่กี่คน หนังผีจะอาละวาดและเฮี้ยน
ไปทั่วโรงภาพยนตร์แค่ไหน หนังตลกจะเกลื่อนตลาดด้วยมุขที่ลอก ๆ กันมาอย่างไรก็ตาม  หนังไซไฟยังคงติดตลาดและได้รับการสนใจจากผู้ชมอยู่เสมอ
ขณะเดียวกันก็ถูกนำไปผสมผสานเข้ากับบทภาพยนตร์แนวอื่น ๆ ทำให้กระแสของหนังไซไฟนั้น ตายยาก และผมเชื่อว่ามันจะอยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน
เลยทีเดียว

หากจะถามกันจริง ๆ ว่าหนังไซไฟคืออะไร คำถามง่าย ๆ แต่คำตอบนั้นกว้างและลึกซึ้งมาก นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์หลายท่านก็ให้ความหมายที่แตกต่างกันไป
แต่โดยสังเขปแล้ว หนังไซไฟ(สำหรับผม)คือ หนังที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์และสังคม ผ่านระบบของเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ ซึ่งโดยมากแล้วจะมีการคาดเดา
อนาคตเอาไว้ในหนังด้วย แม้ว่าความเป็นจริงเทคโนโลยีของเราอาจจะไปยังไม่ถึง แต่ต้องเป็นการคาดคะเนอย่างมีเหตุมีผล และควรจะเป็นจิตนาการที่อยู่ในระบบ
ของกฏทางวิทยาศาสตร์ (การสังเกต การตั้งสมมติฐาน การทดสอบสมมติฐาน และการสรุปผล) นั่นจึงจะเป็นการทำงานเชิงศิลปะที่สอดคล้องกับหลักการ
วิทยาศาสตร์อย่างน่าชื่นชม



เท่ากับว่าหนังแนวไซไฟเป็นเรื่องเพ้อฝันที่มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ และวิทยาการด้านเทคโนโลยีรองรับ! ที่สำคัญหลายเรื่องมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นจริง!
แนวคิดเพ้อฝันของนักเขียนนิยายวิทยสาสตร์หลายเรื่องก็เกิดขึ้นจริงไปแล้ว! เช่น


แต่ก่อนเราไม่เคยคิดว่าจะมียานพาหนะที่พามนุษย์ออกไปนอกโลกได้ แล้วยังไม่ตายด้วย
ปัจจุบันเรามียานอวกาศที่ทยอยบินออกสู่ชั้นบรรยากาศโลกกันมากมาย

แต่ก่อนเราไม่เคยคิดว่าจะมีหุ่นยนต์ที่คอยรับใช้มนุษย์ หรือจักรกลที่คิดได้ดีและฉลาดกว่ามนุษย์ ปัจจุบันเรามีหุ่นยนต์
มากมายที่พัฒนากันจนอีกไม่นานจะเป็นเหมือนในหนังแล้ว มันสามารถถามตอบทักทายคำนวณตอบโต้กับเราได้


สิ่งดี ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะมนุษย์ไม่เคยหยุดที่จะใช้จินตนาการ เราไม่เพียงแต่แค่นอนดูดวงดาวไปแบบคืนต่อคืน แต่เราคิดที่จะออกไปตามหามัน!

และนี่คือ 10 หนังไซไฟที่มีการโยนหินถามทาง หาความหมายจากการตีความของผู้รับชมอย่างน่าสนใจ หลายเรื่องทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ หลายเรื่อง
ถูกยกให้เป็นหนังชั้นครู หลายเรื่องเข้าไปอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คนและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคน ๆ นั้นอย่างไม่รู้จบ



ขอแจ้งก่อนว่าหนังไซไฟนั้นในโลกนี้แบ่งเป็น 3 ระดับ
1.ฮาร์ดไซไฟ (Hard Sci - Fi) เป็นหนังที่นำเสนอเกี่ยวกับกฏและทฤษฏีที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์แบบแท้จริง ใช้แนวคิดที่ได้รับการยอมรับในยุคนั้น ๆ
แบบเต็มรูปแบบ ความสนุกในการดำเนินเรื่องแนวนี้จะมาจากเหตุการณ์ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นจริงเท่านั้น

12.ซอลฟ์ไซไฟ (Soft Sci - Fi) เป็นประเภทที่เปิดกว้างทางจินตนาการมากกว่า ฮาร์ดไซไฟ ทฤษฏีต่าง ๆ อาจจะลดทอนลงในโหมดนี้ รูปแบบการดำเนินเรื่อง
และเนื้อหาจะมีความแฟนตาซีผสมอยู่

13.ไซไฟแฟนตาซี (Sci - Fi Fantasy) โหมดนี้จะมีการดำเนินเรื่องที่สนุกสนานย่อยง่ายกว่าทั้งสองโหมดแรก เพราะมีส่วนผสมของแฟนตาซีสูงกว่า
ทั้งสองโหมด เรื่องทฤษฏีอาจไม่จำเป็นสำหรับหนังแนวนี้มากนัก แต่โดยรวมแล้วก็เกี่ยวกับเทคโนโลยีและอวกาศ



มาเริ่มกันที่

1. 2001 A Space Odyssey (1968)



Director: Stanley Kubrick
Writers: Stanley Kubrick (screenplay), Arthur C. Clarke(screenplay),
Stars: Keir Dullea, Gary Lockwood, William Sylvester



สำหรับเรื่องนี้ที่ผมยกมาให้เป็นเรื่องเปิดนั้น เพราะว่าเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังไซไฟที่เป็นระดับชั้นครู จากงานเขียนของ อาเธอร์ ซี.คลาร์ก บิดาแห่งนิยาย
วิทยาศาสตร์ของโลก ร่วมกับงานกำกับของสแตนลีย์ คูบริกเจ้าพ่อแห่งวงการภาพยนตร์ โดยเฉพาะแนวสัญลักษณ์ ซิมโบลิคในเรื่องนี้นั้นซ่อนอยู่ในเรื่อง
ตลอดแทบทุกนาทีที่ดำเนินไป นับเป็นภาพยนตร์แนวฮาร์ด ไซไฟ ที่มีคุณค่าสูงมาก เรื่องนี้ผลิตขึ้นมาปี 1968 แต่ผมเชื่อว่าคอหนังไซไฟในยุคปัจจุบัน
อย่างแน่นอน เพราะตัวหนังยังล้ำและดูไม่เชยเลยแม้แต่น้อย

https://www.youtube.com/v/Z2UWOeBcsJI




2.I Robot (2004)



Director: Alex Proyas
Writers: Jeff Vintar (screenplay), Akiva Goldsman(screenplay),
Stars: Will Smith, Bridget Moynahan, Bruce Greenwood



โลกที่มีหุ่นยนต์เคียงคู่ใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ แต่ทั้งสองจะร่วมทางกันได้นานเท่าไหร่... หนังเรื่องนี้ตีแผ่ความเป็นมนุษย์ผ่านสองตัวละครหลัก ๆ
ฝ่ายหนึ่งเป็นมนุษย์ อีกฝ่ายเป็นหุ่นยนต์ คำถามคือ ใครมีความเป็นมนุษย์มากกว่ากัน สิทธิของมนุษย์กับหุ่นยนต์สมองกลควรจะเท่ากันหรือไม่
ถ้าใช่ หรือไม่ ใช้อะไรวัด?

https://www.youtube.com/v/rL6RRIOZyCM



3.Prometheus (2012)



Director: Ridley Scott
Writers: Jon Spaihts, Damon Lindelof.
Stars: Noomi Rapace, Logan Marshall-Green, Michael Fassbender



สุดยอดหนังไซไฟในดวงใจผมอีกเรื่องหนึ่ง เล่าเรื่องถึงการเดินทางในอวกาศเหมือนเราไปตลาดกันแล้ว มุมมองและปรัชญาของเรื่องนี้นับเป็นสิ่งที่ลึกล้ำ
แต่ก็อยู่ในรากฐานของความมีเหตุมีผล สุดท้ายอยู่ที่คุณจะเชื่อหรือไม่

https://www.youtube.com/v/0Wuy61nd_kQ



4. Oblivion (2013)



Director: Joseph Kosinski
Writers: Karl Gajdusek (screenplay), Michael Arndt(screenplay),
Stars: Tom Cruise, Morgan Freeman, Andrea Riseborough


เมื่อโลกถึงวันที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นสิ่งที่มาหลังจากพ่ายแพ้สงครามต่างดาว มนุษย์จะดำรงอยู่ภายใต้ภาวะนี้ได้หรือไม่
สงครามสงบแล้วจริง ๆ หรือ? หนังเรื่องนี้เล่าถึงความดำรงอยู่ของมนุษย์ได้อย่างสวยงามลึกซึ้งมาก เป็นอีกเรื่องที่แนะนำเลยครับ

https://www.youtube.com/v/IBVkUb_TWp8



5.Gravity (2013)



Director: Alfonso Cuarón
Writers: Alfonso Cuarón, Jonás Cuarón,
Stars: Sandra Bullock, George Clooney, Ed Harris


ฮาร์ดไซไฟอีกเรื่องที่จะพาคุณออกไปท่องอวกาศได้สมจริงมาก ๆ หลักฟิสิกส์ของเรื่องนี้แม่นยำชนิดที่ทำให้คุณลอยขึ้นแบบไร้แรงโน้มถ่วงได้เลยทีเดียว
เทคนิคการถ่ายทำที่ล้ำสมัยควบคู่กับทฤษฏีด้านอวกาศแบบเป๊ะ ๆ คือไม้ตายของเรื่องนี้ โดยรวมแล้วผมถือว่าย่อยง่ายอยู่นะครับ แม้ว่าคุณจะไม่เคยต้อง
ศึกษาเรื่องของอวกาศมาก่อนเลยก็ได้

https://www.youtube.com/v/OiTiKOy59o4



6.Dark City (1998)



Director: Alex Proyas
Writers: Alex Proyas (story), Alex Proyas (screenplay),
Stars: Rufus Sewell, Kiefer Sutherland, Jennifer Connelly


ดาร์ก ซิตี้นั้น จัดว่าเป็นหนังไซไฟในยุคคลาสสิค มีสไตล์ที่จัดจ้านเป็นของตนเอง โทนเรื่องนั้นเป็นแนวดาร์ก ๆ สมชื่อ แต่ก็แฝงไว้ซึ่งทฤษฏีทางวิทยาศาสตร์
มากมาย มีกลิ่นอายความเป็นแฟนตาซีค่อนข้างมาก นับเป็น 1 ใน 10 เรื่องที่แปลกนอกเหนือจากเรื่องอื่นที่ผมยกมาครับ

https://www.youtube.com/v/gt9HkO-cGGo



7.AI (2001)



Director: Steven Spielberg
Writers: Brian Aldiss (short story "Supertoys Last All Summer Long"), Ian Watson (screen story),
Stars: Haley Joel Osment, Jude Law, Frances O'Connor



หนังดราม่าไซไฟอันโด่งดังอีกเรื่อง ผลงานสุดล้ำลึกด้านภาพยนตร์อีกชิ้นหนึ่ง ว่าโดยหุ่นยนต์ที่มีความคิดและตรรกะขั้นสูงเสมือนมนุษย์ ผ่านหุ่น A.I โมเดล
เด็กผู้ชายคนหนึ่ง รับรองว่าท่านจะไม่ผิดหวังแน่นอนหากได้รับเรื่องนี้

https://www.youtube.com/v/kYr8RwDGfe8



8. Source code (2011)



Director: Duncan Jones
Writer: Ben Ripley
Stars: Jake Gyllenhaal, Michelle Monaghan, Vera Farmiga


แม้เรื่องนี้จะไม่มีดาบเซเบอร์ ไม่มีอวกาศ แต่ผมก็นับเป็นหนังไซไฟแฟนตาซีเรื่องหนึ่ง แต่กฎของเงื่อนไขเวลา และทฤษฏีที่ใช้ในเรื่องนี้นั้นหนักแน่นน่าคิด
จังหวะการดำเนินเรื่องและบทต้องบอกว่าชั้นเลิศ! ตัวหนังนั้นละมุนมากจนผมต้องดูซ้ำอยู่หลายรอบเพิ่มพูนความละเมียดให้ตนเอง

https://www.youtube.com/v/WatVodRARsU



9. Edge of Tomorrow (2014)




Director: Doug Liman
Writers: Christopher McQuarrie (screenplay), Jez Butterworth (screenplay),
Stars: Tom Cruise, Emily Blunt, Bill Paxton



หนังไซไฟแฟนตาซีตัวจริงอีกเรื่องที่แสดงโดยทอม ครูส ผมสังเกตหลายครั้งแล้วว่าเมื่อไหร่ที่แกเล่นเรื่องไหนที่เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว มักจะทำได้ดี อิอิ
สงสัยว่าจะลึกซึ้งในลัทธิที่ตนเองเป็นสาวกอยู่ อย่างไรก็ดี หนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เล่นกับเงื่อนไขของเวลา และมีการลำดับเรื่องให้เข้าใจง่าย สนุก
และอิ่มเอมในพลังของหนังเมื่อดูจบ อ่อ....เรื่องนี้สร้างมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นนะครับ ในชื่อ All You Need is Kill

https://www.youtube.com/v/2efTHT9Cax8



10.Interstellar (2014)




Director: Christopher Nolan
Writers: Jonathan Nolan, Christopher Nolan
Stars: Matthew McConaughey, Anne Hathaway, Jessica Chastain



สำหรับเรื่องนี้นั้นผมต้องรอจนได้ดูก่อนจึงจะเขียนบทความนี้ได้ เพราะนับเป็นหนังฮาร์ดไซไฟอีกเรื่องที่คนทั่วโลกรอคอย เนื้อเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางท่อง
ไปในอวกาศ เป้าหมายอยู่ที่หลุมดำ! แค่นี้ก็น่าสนใจมากแล้ว ระหว่างดูผมเสียน้ำตาไปกับการดำเนินเรื่อง ผมฟินตรงที่โนแลนทำให้เรื่องยาก ๆ เข้าใจได้
ง่ายขึ้น (หากคุณเคยศึกษาเรื่องฟิสิกส์ ควอนตัม อวกาศและบริบทของอวกาศ รูหนอน หลุมดำ มิติของเวลา จะยิ่งทำให้ดูสนุกและเห็นภาพมากขึ้น)
ผมรู้สึกเหมือนได้เดินทางไปที่นั่นจริง ๆ นับว่าโนแลนประสบความสำเร็จอีกครั้งจากการทำเรื่องนี้

https://www.youtube.com/v/Lm8p5rlrSkY




บทส่งท้าย

ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าหนังแนวไซไฟนั้นเสริมสร้างจินตนาการ และการบริหารความคิดอย่างมีเหตุมีผล หากขาดซึ่งสองสิ่งนี้คงเป็นเรื่องยากที่โลกจะพัฒนา
หรือกลับไปสู่ความเจริญได้ในวันที่เราล้มเหลว การเรียนการสอนในบ้านเราจึงสมควรอย่างยิ่งที่จะนำชุดความคิดชนิดนี้ไปสอดแทรกให้เด็กฝึกที่จะคิด
อย่างมีระบบ และนำไปสู่การเข้าใจธรรมชาติอย่างชาญฉลาด เพื่อที่ลูกหลานเราจะอยู่ร่วมกันอย่างผาสุข


ที่มา: http://www.benmanhirefashion.com/blog/read/10-Sci-Fi-Movies
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่