วิธีการกำจัดไรฝุ่น ป้องกันโรคภูมิแพ้ได้ง่ายดาย ด้วยตัวคุณเอง เพื่อคนที่คุณรัก!!

[mrtidy55]

ตัวการของการเกิด โรคภูมิแพ้ เชื่อว่ามีปัจจัยมาจาก พันธุกรรมและสภาพแวดล้อม โดยทั่วไปถ้าพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งเป็นโรคภูมิแพ้ลูกจะมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ประมาณ 25 %
แต่ถ้าทั้งพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้ลูกที่เกิดมามีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้สูงถึง 66 % โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้จะมีอัตราการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์สูงที่สุด
ส่วนตัวการ ที่ทําให้เกิดอาการแพ้เรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ ซึ่งผลการสํารวจในไทยพบว่า เหตุที่ทําให้เกิดสารก่อภูมิแพ้ติดอันดับหนึ่งคือ ไรฝุ่น รองลงมาคือภูมิแพ้จากแมลงสาบ ขนสัตว์ รวมไปถึงละอองเกสร และดอกหญ้า หลักฐานทางการแพทย์บ่งชี้ว่า สารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่น ซึ่งก็คือมูลไรและโปรตีนจากตัวไรฝุ่น จัดเป็นสาเหตุสำคัญในการก่อโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจที่พบมากที่สุดในเมืองไทย 
ไรฝุ่น เป็นสัตว์ขาข้อตระกูลเดียวกับหิด แมงมุม แต่ตัวเล็กกว่ามาก มีขนาดเล็กประมาณ 0.1-0.3 มิลลิเมตร มีสีขาวคล้ายฝุ่น เดินเร็ว อยู่ปะปนในฝุ่นบ้าน จึงทำให้มองเห็นด้วยตาเปล่าได้ยาก ต้องใช้กล้องขยายส่องดู
ไรฝุ่นชนิดที่พบบ่อยและก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้มี 2 ชนิดคือ ไรฝุ่นชนิด Dermatophagoides pteronyssinus (DP) และ Dermatophagoides farinae (DF) 
ตัวไรฝุ่นชอบเส้นใยและชอบอยู่ในที่มืด อับชื้น เพราะฉะนี้ ที่นอน หมอน ผ้าห่ม พรม จึงเป็นที่ที่ไรฝุ่นชอบอยู่อาศัย ห้องนอนจึงเป็นที่ที่พบตัวไรฝุ่นมากที่สุดในบ้าน ไรฝุ่นเติบโตได้ด้วยการกินขี้ไคลและรังแคของมนุช




จากการสำรวจพบว่า อาจพบตัวไรฝุ่นในที่นอนตั้งแต่แสนตัวถึงนับล้านตัว สำหรับผู้ที่แพ้ไรฝุ่น เมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่นมักจะทำให้เกิดอาการคัน คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม คันตา แสบตา เคืองตา น้ำตาไหล คันคอ ไอ
หรือหอบหืดในเวลากลางคืนหรือช่วงตื่นนอน เพื่อ กำจัดตัวไรฝุ่นต้นเหตุของโรคภูมิแพ้ เราต้องช่วยกันลดจำนวนฝุ่นในบ้านลง โดยจัดห้องนอนให้โล่งพร้อมกับเปิดให้อากาศถ่ายเท
เพื่อลดความชื้นที่เป็นเหตุสำคัญในการเติบโตของไรฝุ่น มีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นที่สุด ไม่ใช้พรมปูพื้นห้อง หรือวัสดุที่ทำจากผ้าหรือขนเป็นส่วนประกอบของในบ้าน เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถเป็นที่เก็บกักฝุ่นได้
นำเครื่องนอนทุกชนิดออกผึ่งแดดจัดๆ เพราะแสงแดดจะทำให้ไข่ไรฝุ่นฝ่อ และลดจำนวนไรฝุ่นที่จะฟักออกมาใหม่ได้ รวมไปถึงยังทำให้ความชื้นในที่นอนลดลงด้วย
นอกจากนี้ควรคลุมที่นอนและหมอนด้วยผ้าพลาสติกหรือผ้ากันไรฝุ่น ซักทำความสะอาดเครื่องนอนทุกชนิดด้วยน้ำร้อนอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง และทำความสะอาดบ้านด้วยเครื่องดูดฝุ่น หรือผ้าชุบน้ำหมาดๆ เป็นประจำ รวมถึงล้างแผ่นกรองฝุ่นแอร์ และสุดท้ายอย่าลืมใช้ผ้าปิดปากจมูกทุกครั้งที่ทำความสะอาดด้วย หรืออีกวิธีคือ การใช้เครื่องที่สำหรับกำจัดไรฝุ่นโดยเฉพาะ
ในตลาดที่นิยมใช้กันและราคาไม่แพง คือเครื่องกำจัดไรฝุ่น  MARTEX นวัตกรรมจากเยอรมัน โดยกรองผ่านระบบน้ำ Water Filtration System ใช้ กำจัดไรฝุ่น ตามที่นอน ใช้ระบบน้ำเป็นตัวกรองไรฝุ่น
เครื่องกำจัดไรฝุ่น MARTEX  ใช้งานง่าย ใช้เวลาเพียง 15-20 นาทีต่อฟูกที่นอน 1 หลัง จะทำการดูดไรฝุ่น เพื่อเอาตัวไรฝุ่นและซากไรฝุ่นและเศษขี้ไคลผิวหนังเราออกมาจากที่นอน ได้อย่างสะดวกมาก
ด้วยระบบกำจัดแบบกวาดเบ็ดเสร็จ จนเศษซากต่างๆของไรฝุ่น ขี้ไคล ตัวไรฝุ่น ถูกกำจัดไปอยู่ในถังเก็บที่ออกแบบมาอย่างดี เครื่องกำจัดไรฝุ่น MARTEX ใช้ระบบตีสั่นสะเทือนที่นอน และดูดกลับไปเก็บในถังเก็บน้ำ
เพื่อป้องกันการกระจายออกไปในอากาศได้ 100% เครื่องกำจัดไรฝุ่น MARTEX จะมีหัวดูดเตียงที่เป็นระบบหมุนกระแทกตีเตียงที่มีความหนาได้อย่างดียิ่ง เพื่อให้เศษซากไรฝุ่น มูลไรฝุ่น ตัวไรฝุ่น
และเศษผิวหนังเราที่หลุดลอกตกอยู่ที่อยู่บนผิวเตียงหลุดออกแล้วเข้ามาที่ตัวเครื่องโดยใช้น้ำเป็นตัวจับเศษเหล่านั้นไว้ไม่ให้ฟุ้งกระจายออกมาจากตัวถังน้ำเก็บและปล่อยอากาศผ่านระบบตัวกรอง HEPA ออกมา
จึงมั่นใจได้ถึงอากาศที่สะอาด สตาร์ทเครื่องโดยระบบ Automatic การทำงานของตัวเครื่องง่าย ไม่ยากซับซ้อน วัสดุตัวเครื่อง คุณภาพดี มีความแข็งแรงคงทน ปลอดภัยต่อการใช้งาน ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องเปลี่ยน
เพราะ ไม่มีถุงฝุ่น และ ถุงกระดาษ สตาร์ทเครื่องโดยระบบ Automatic  เครื่องกำจัดไรฝุ่น MARTEX เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ทำลายธรรมชาติ ส่วนการใช้สารเคมีนั้นวิธีนี้ไม่ค่อยเหมาะนัก
เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและมีอันตรายจากพิษตกค้างได้ ที่สำคัญ การป้องกันกำจัดไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ในบ้านควรทำควบคู่กับการรักษาโรค ถ้ายังมีอาการโรคภูมิแพ้อยู่ แพทย์อาจให้ยาเพื่อบรรเทาอาการ
หรือฉีดวัคซีนภูมิแพ้ไรฝุ่น ซึ่งจะใช้ในรายที่การรักษาด้วยยาไม่ได้ผลดี และยังมีอาการกำเริบอยู่ โดยฉีดสารสกัดจากสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่นเข้าใต้ผิวหนังในปริมาณน้อยๆ เป็นระยะๆ เพื่อกระตุ้นเร้าให้ผู้ป่วยคุ้นต่อสารก่อภูมิแพ้นั้น
ซึ่งจะสามารถลดอาการแพ้ได้ แม้ว่าโรคภูมิแพ้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เราสามารถควบคุมไม่ให้เกิดอาการและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up

[mrtidy55]

up