ถิ่นกำเนิดกวาวเครือแดงและสรรพคุณประโยชน์มากมายที่น่ารู้ของกวาวเครือแดง

ถิ่นกำเนิดกวาวเครือแดงและสรรพคุณประโยชน์มากมายที่น่ารู้ของกวาวเครือแดง

เริ่มโดย watamon, 15 พฤษภาคม 2017, 14:54:14

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

watamon


กวาวเครือแดง[/url]
ชื่อสมุนไพร  กวาวเครือแดง
ชื่อประจำถิ่น  กวาวเครือ (เหนือ)    จานเครือ  (อีสาน)   ตานจอมทอง  (ชุมพร)  โพตะกุ , โพมือ  (กะเหรี่ยง)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Butea  superba  Roxb
ชื่อวงศ์  Leguminosae   วงค์ย่อย   Papilonaceae
ถิ่นกำเนิดกวาวเครือแดง
พบเจออยู่มากในบริเวณที่ราบเชิงเขา และ เชิงเขาป่าเต็งรัง  ภูเขาหินปูน  ในเขตที่มีต้นไม้ใหญ่ไม่หนาแน่นนัก  มักพบเจออยู่เป็นกลุ่มๆ ภายในป่า  อาจเกิดจากสาเหตุ  คือ  ติดฝักได้น้อย  ฝักมีขนาดใหญ่ ทำให้แพร่กระจายตำแหน่งเดิมได้ยาก  ต้นกวาวเครือแดง ที่สร้างพุ่มเอง จะมีรูปร่างเตี้ย  ส่วนต้นที่เกี่ยวพันกับต้นไม้ใหญ่จะแตกกิ่งไปถึงยอดไม้
ลักษณะทั่วไปของกวาวเครือแดง
กวาวเครือแดงอยู่ในจำพวกไม้เลื้อย เป็นเถาวัลย์ เนื้อแข็ง มักชอบพาดขึ้นกับต้นไม้ใหญ่

  • ใบ      ใบใหญ่คล้ายใบต้นทองกวาว  แต่ใบใหญ่กว่า
  • ดอก ดอกใหญ่คล้ายดอกแคแสด  แต่เป็นพวงระย้าเหมือนดอกทองกวาว
  • หัว มีหลายขนาดลักษณะรูปร่างทรงกระบอก เมื่อสะกิดที่เปลือก จะมียางสีแดง คล้ายเลือดไหล

    ออกมา

  • ราก มีรากแขนงขนาดใหญ่  แยกจากเหง้าเลื้อยไปรอบๆ หลายเมตร

    การขยายพันธุ์กวาวเครือแดง
    ทำได้ 3 วิธีดังนี้

  • การนำไปปลูกเมล็ด โดยการนำไปปลูกเมล็ดในกระบะขี้เถ้าแกลบประมาณ 45 วัน นำต้นกล้าที่ได้ ปลูกลงถุงเพาะชำโดยใช้ดิน 2 ส่วน ขี้เถ้าแกลบ 1 ส่วน เปลือกมะพร้าว 1 ส่วน ค่า pH ประมาณ 5 เมื่อต้นกล้าเจริญเติบโตได้ 60 วัน จึงนำลงแปลงเพาะปลูกกลางแจ้ง  โดยทำด้วยไม้ไผ่  หรือนำไปปลูกร่วมกับไม้ยืนต้นในกระบวนการเกษตร เช่น ไผ่  สัก  ปอสา  หรือไม้ผลอื่นๆ  พื้นที่เพาะปลูกควรอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล  300-900 เมตร
  • การปักชำ นำเถาที่มีข้อมาปักชำในกระบะ หรือถุงที่บรรจุขี้เถ้าแกลบ  เมื่อเถาแตกรากและยอดแข็งแรงดีแล้ว จึงนำลงแปลงปลูกต่อไป
  • การแบ่งหัวต่อต้น หัวของกวาวเครือ ไม่มีตาที่จะแตกเป็นต้นใหม่  จำเป็นต้องใช้ส่วนของลำต้นมาต่อเชื่อตามวิธีการขยายพันธุ์แบบต่อราก  เลี้ยงกิ่ง (nursed root grafting)  สามารถนำหัวกวาวเครือขนาดเล็ก อายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป  และต้นหรือเถาที่เคยทิ้งไปหลังการเก็บเกี่ยวมาขยายพันธุ์ได้ หลังการต่อต้นประมาณ 45-60 วัน ก็สามารถนำลงปลูกได้ และมีข้อดีคือสามารถต่อต้นกับหัวข้ามสายพันธุ์ได้

    องค์ประกอบทางเคมี
                ส่วนหัวประกอบด้วยสารไฟโตแอนโดรเจน และไอโซฟลาโวลิกแนน 2 ชนิด ได้แก่ Mebicarpin (carpin 3-hydroxy-9methoxypterocarpan); สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ ได้แก่ butenin; formononetin (7-hydroxy_-methoxy-isoflavone); (7,4_-dimethoxyisoflayone); 5,4_-dihydroxy-7-methoxy-isoflavone, 7-hydroxy-6,4_-dimethoxyisoflavone
    แอนโทไซยานินมีค่าการดูดกลืนแสงในช่วงคลื่น  510-540 นาโนเมตร  สารละลายแอนโทไซยานินมีการเปลี่ยนแปลงสีตามค่าความเป็นด่าง (pH) ต่ำจะมีสีแดง pH ปานกลางจะมีสีน้ำเงินม่วงและเมื่อ pH สูงจะมีสีเหลืองซีด
    สรรพคุณกวาวเครือแดง 

  • หัว รสเย็นเบื่อเมา  รักษาเนื้อหนังให้เต่งตึง  รักษาสุขภาพ  เพิ่มจำนวนอสุจิ เป็นยาอายุวัฒนะ

    แก้ปวดเมื่อยตามตัว

  • ราก แก้ลมอัมพาต  บำรุงโลหิต  ผสมกับรากสมุนไพรอื่นอีก 8 ชนิดเรียกว่า  พิกัดนวโลหะ  แก้โรคลมที่เป็นพิษ  แก้ริดสีดวง  ทำลายพยาธิ  ดับพิษ  ถอนพิษไข้  สมานลำไส้



    Tags : กวาวเครือแดง,รากกวาวเครือแดง
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

watamon

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions