สิ่งดีๆที่มีประโยชน์ต่าร่างกายของ"สรรพคุณเก๋ากี้"

สิ่งดีๆที่มีประโยชน์ต่าร่างกายของ"สรรพคุณเก๋ากี้"

เริ่มโดย teareborn, 01 มิถุนายน 2017, 14:14:22

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

teareborn


ถิ่นกำเนิดเก๋ากี้ 
เก๋ากี้ที่มานำสกัดเป็นตัวยานั้นมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 2000 ปีแล้ว เนื่องจากเป็นยาที่มีสรรพคุณนานัปการ ภาษิตจีนบทหนึ่งกล่าวถึงเก๋ากี้ไว้ว่า "เก๋ากี้โลกอยู่ที่เมืองจีน  เก๋ากี้จีนต้องที่หนิงเซี่ย" เเละอธิบายความให้เข้าใจง่ายๆ ว่าเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยเป็นแหล่งกำเนิดและแหล่งผลิตเก๋ากี้ที่สำคัญของจีนและของโลก          เเล้วโดยเฉพาะตำบลจงหนิงที่เมื่อถึงฤดูเก็บเม็ดเก๋ากี้แล้ว จะเห็นสวนเก๋ากี้ที่เต็มไปด้วยต้นเก๋ากี้สูงท่วมหัวเรียงรายเป็นทิวแถว ขนาดของเก๋ากี้ที่จงหนิงใหญ่และมีความสดมาก
            ในปี ค.ศ.1995 ทางรัฐบาลประกาศให้ตำบลจงหนิงเป็น "บ้านเกิดเก๋ากี้จีน" ดังนั้นเก๋ากี้ที่ผลิตจากพื้นที่แถบนี้ล้วนเป็นเก๋ากี้ที่ได้รับการการันตีเรื่องคุณภาพ ในบริเวณอื่นๆ ของประเทศก็มีการ เพาะปลูกเช่นกันอย่างมณฑลเหอเป่ย์ มณฑลซานตง มณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อเจียง ฯลฯ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้พุ่ม สูง 1-2 ม. มีหนามคมตามง่ามใบ

  • ใบ ดี่ยว เรียงสลับ ออกเดี่ยวๆ หรือเป็นกระจุก กระจุกละ 3 ใบ ถ้าออกเป็นกระจุกใบกลางใหญ่กว่า 2 ใบข้างซึ่งมีขนาดไล่เลี่ยกัน ใบรูปรี รูปช้อน รูปไข่ หรือรูปคล้ายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดมุมมน กว้าง 3-2 ซม. ยาว 0.8-6 เซนติเมตร ปลายมนหรือแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ เส้นแขนงใบข้างละ 2-4 เส้น ก้านใบสั้นและแผ่ออกเล็กน้อย
  • ดอก เดี่ยว จะออกตามง่ามใบ ก้านดอกยาว 5-1.8 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงโคนติดกันเป็นรูประฆัง ยาว 2-8 มิลลิเมตรปลายแยกเป็น 5 กลีบ รูปไข่ ปลายแหลม ขนาดไม่เท่ากัน กลีบดอกสีเหลือง โคนติดกันเป็นหลอด ยาว 1-1.5เซนติเมตร ปลายหลอดแยกเป็น 5 กลีบ สีม่วง รูปไข่กลับหรือค่อนข้างกลม ยาวประมาณ 8 มม. เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดอยู่ที่ครึ่งบนของหลอดกลีบดอก ส่วนล่างของก้านชูอับเรณูมีขนยาวอ่อนนุ่ม ก้านเกสรเพศเมียยาว 1-1.2 เซนติเมตร รังไข่รูปไข่
  • ผล สุกสีแดงสดเนื้อนุ่ม รูปรีแกมรูปไข่ กว้าง 5-8 มม. ยาว 1-2 เซนติเมตร สุกสีแดง
  • เมล็ด เล็ก มีปริมาณมาก สีขาว รูปไต เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 มม.

    การขยายพันธุ์ของเก๋ากี้
    โดยในปัจจุบันมีสายพันธุ์ต่างๆ มากถึง 41 สายพันธุ์ สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะปลูกเมล็ด แล้วนำต้นอ่อนไป เพาะในแปลงได้ โดยอกาสติดเป็นต้นมีโอกาสสูงเพราะเก๋ากี้ อาจอยู่ได้ในสภาพอากาศที่เลวร้ายได้
    องค์ประกอบทางเคมีของเก๋ากี้
    โกจิเบอร์รี่เป็นพืชที่มีใยอาหารสูงถึงร้อยละ 20 ประกอบด้วยกรดอะมิโนหลายชนิด มีแร่ธาตุต่างๆ เช่น สังกะสี เหล็ก ทองแดง แคลเซียม ฟอสฟอรัส ซิลีเนียม เป็นต้น นอกจากนี้โกจิเบอร์รี่ยังมีสารสำคัญจำพวกซีแซนทีน (zeaxanthin) และลูทีน (lutein) สูงมากกว่าผักและผลไม้ทั่วไป เเละร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสร้างสารทั้งสองนี้ได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร
    จากการวิจัยและวิจัยของ Dr. Earl Mindell พบว่าผลเก๋ากี้ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีค่า ORAC (ประสิทธิภาพในการกำจัดอนุมูลอิสระ) ในคุณภาพมากถึง 25,300 (ในขณะที่ลูกพรุนซึ่งมีค่า ORAC เป็นลำดับที่ 2 มีค่า ORAC เพียง 5,700 เท่านั้น)
    *ค่า ORAC คือ Oxygen Radical Absorbance Capacity (แสดงความสามารถในการเป็นแอนตี้ออกซิแดนท์) ที่ 3.5 ออนซ์
    เก๋ากี้ มีเบต้าแคโรทีนสูง มีวิตามินอีมาก  ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีกรดกำมะถัน เอมีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามินบี 2
    ตัวอย่างสารสำคัญที่พบในลูกเก๋ากี้แห้งน้ำหนัก 100 กรัม

  • แคลเซียม 112มิลลิกรัมหรือ 8-10% ของคุณภาพที่ควรได้รับต่อวัน (DRI)
  • โปตัสเซียม  1,132มิลลิกรัมหรือ 24% DRI
  • เหล็ก  9 กรัม  หรือ 100% DRI
  • สังกะสี  2 มก.  หรือ 18% DRI
  • เซเรเนียม  50 ไมโครกรัม  หรือ 91% DRI
  • ไรโบฟลาวิน(วิตามินบี2)  1.3 มก.  หรือ 100% DRI
  • วิตามินซี  มีจำนวนที่แตกต่างกันตามแหล่งที่มาของเก๋ากี้  ตั้งแต่ 29 มก. จนถึง 148 มก  หรือ 32% DRI ถึง 148% DRI

    นอกจากนี้ยังพบพฤกษาเคมีที่มิได้มีการแนะนำปริมาณที่ควรกิน DRI อีกจำนวนมาก  เช่น

  • เบต้าแคโรทีน  7 มก.
  • ซีแซนทีน Zeaxanthin  พบในปริมาณที่ต่างกันตามแหล่งที่มา  ตั้งแต่ 2.4 มก ไปจนถึง 82.4 มก  ซึ่งเป็นจำนวน 77% ของแคโรทีนอยด์ที่พบในลูกเก๋ากี้
  • Polysaccharides  เป็นส่วนประกอบสำคัญของลูกเก๋ากี้  พบในปริมาณที่มากถึง 31% of pulp weight

    โครงสร้าง : สารซีแซนทิน  ลูทีน
    สรรพคุณ

  • บำรุงร่างกาย ทำให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานสัมพันธ์กันได้ดี แก้อาการอ่อนเพลีย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยให้หัวใจแข็งแรง ช่วยสร้างเม็ดเลือดที่แข็งแรงเพิ่มขึ้น ช่วยระบบเจริญพันธุ์ เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ป้องกันอาการคลื่นไส้ของหญิงมีครรภ์ ลดอาการอักเสบของโรคไขข้ออักเสบ เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ และกระดูก ช่วยให้เหงือกแข็งแรง ปรับปรุงระบบการย่อย ลดความเครียด อาการปวดศีรษะ แก้อาการวิงเวียนศีรษะ ช่วยในการนอนหลับ ช่วยในเรื่องความจำ ทำให้รู้สึกสดชื่น ลดอาการนอนไม่หลับ ปรับปรุงคุณภาพของการนอน ช่วยให้การออกกำลังกายได้นานขึ้น ช่วยขจัดความเมื่อยล้าและความเฉื่อยชา บำรุงตับ และไต
  • บำรุงสายตา จากงานค้นหาพบว่าเก๋ากี้ มีสารจำพวกซีแซนทีน(zeaxanthin) และลูทีน(lutein) สูงมากซึ่งสารสำคัญดังกล่าวเป็นสารจำพวกแคโรทีนอยด์(carotenoid) ที่ช่วยป้องกันและปรับสภาพแสง กรองแสงสีน้ำเงินที่เข้าสู่ตาที่มีอันตรายต่อตา ป้องกันการเสื่อมของเลนส์ตา และจอภาพเรตินา จากการทำลายของอนุมูลอิสระได้ ช่วยรักษาโรคตาบอดกลางคืน ช่วยบำรุงสายตาทำให้การมองเห็นเป็นปกติ นอกจากนี้ ผลเก๋ากี้ ที่มีเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งเบต้าแคโรทีนเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ซึ่งพร้อมที่จะเปลี่ยนไปเป็นวิตามินเอได้ทุกเมื่อที่ร่างกายต้องการ หนึ่งในคุณสมบัติที่ดีของวิตามินเอ คือมีประโยชน์ในการบำรุงสายตา และแก้โรคตามัวตอนกลางคืน(Night Blindness) หากร่างกายขาดวิตามินเอจะทำให้มองเห็นได้ยากในเวลากลางคืนหรือในที่แสงสว่างน้อย เยื่อบุตาแห้ง กระจกตาเป็นแผล ในกรณีที่ร่างกายขาดวิตามินเออย่างรุนแรงอาจทำให้ตาบอดได้
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ในผลเก๋ากี้มีสารโพลิแซ็กคาไรด์(Polysaccharides) ที่ช่วยกระตุ้นให้เซลเม็ดเลือดขาว (T & B lymphocyte) ปรับปรุงเซลล์เม็ดเลือดขาวให้ทำงานได้ดีขึ้น สร้างความแข็งแรงของเม็ดเลือด ป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้ เก๋ากี้มีสารพวกฟลาโวนอยด์(flavonoids) ที่ช่วยป้องกันเม็ดเลือดแดงไม่ให้อนุมูลอิสระมาทำลาย และช่วยกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือดได้
  • ต้านอนุมูลอิสระ เก๋ากี้อุดมด้วยวิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินซี และสารฟลาวานอยด์ในปริมาณที่สูง ซึ่งสารอาหารเหล่านี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ช่วยดูแลเรื่องผิวพรรณ ชะลอความชรา
  • ต้านเซลล์มะเร็ง เก๋ากี้สามารถหยุดการเติบโตของเซลล์มะเร็ง ลดความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็ง สารต้านอนุมูลอิสระในผลเก๋ากี้ ช่วยทำลายป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง ทั้งยังพบว่าเบต้าแคโรทีนอาจช่วยกระตุ้นเซลล์ภูมิต้านทานในร่างกายให้ทำงานต้านสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น ซึ่งให้ผลดีกับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง มีผลการค้นหาที่ได้รับการบันทึกลงในวารสารจีนเกี่ยวกับเนื้องอกว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็ง มีการตอบสนองในการรักษาโรคมะเร็งดีขึ้นเมื่อมีการนำผลเก๋ากี้มาเป็นส่วนหนึ่งในการรักษา และยังช่วยอาการข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีคีโมและฉายรังสีด้วย
  • ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ต้านเบาหวาน ช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต ยับยั้งการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด ช่วยให้หัวใจแข็งแรง เนื่องจากในเก๋ากี้มีสารพวกไซเพอโรน(cyperone) ซึ่งมีผลดีต่อหัวใจและความดันเลือด นอกจากไซเพอโรนยังมีสารแอนโทโซยานินส์(anthocyanins) ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง มีเบต้า-ซิโตสเตอรอล(beta-sitosterol) ซึ่งรักษาช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอลดี(HDL) จากการวิจัยทางคลินิกพบว่า สามารถลดการเกิดอนุมูลอิสระของไขมันได้ 20% นอกจากนี้ยังมีสารฟลาโวนอยด์ (flavonoids) ที่ช่วยทำให้หลอดเลือดขยายตัว ช่วยยับยั้งปฏิกิริยาการเกิดคอเลสเตอรอลไม่ดี(LDL) และไตรกลีเซอไรด์ที่สาเหตุของโรคหัวใจเนื่องจากเส้นเลือดตีบ
  • ส่งเสริมการทำงานของตับ พบว่าสารสำคัญซีรีโบรไซด์(cerebroside) ในเก๋ากี้ช่วยส่งเสริมการทำงานของตับให้เป็นปกติ
  • เสริมความจำและคลายเครียด บีเทนในเก๋ากี้ ช่วยให้เกิดการสร้างสารโคลีน (choline) ซึ่งเป็นสารประกอบที่ช่วยเสริมความจำให้ดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายปรับตัวเพื่อควบคุมความกังวลและความเครียดให้ลดลงอยู่ในสภาวะปกติ ด้วยเหตุนี้เก๋ากี้จึงมีชื่อเรียกอย่างว่า แฮปปี้เบอร์รี่ (happy berry) ทำให้มีอารมณ์ที่สดชื่นแจ่มใส
  • ช่วยระบบเจริญพันธุ์ ช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโตสเตอโรน (Testosterone) ในเลือด

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

teareborn

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions