ข้อแนะนำที่ควรทราบก่อนจะใช้มะรุมรักษาโรค

ข้อแนะนำที่ควรทราบก่อนจะใช้มะรุมรักษาโรค

เริ่มโดย kdidd, 04 กรกฎาคม 2017, 12:40:02

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

kdidd


ข้อแนะนำที่ควรทราบก่อนจะใช้มะรุมรักษาโรค
            จากบทความแรกมาจนถึงบทความนี้ในเรื่องราวที่เกี่ยวกับ "มะรุม" สมุนไพรมหัศจรรย์ของไทยเราคาดว่าคงเป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้ที่นิยม บริโภคมะรุมทั้งในแง่ของการกินเป็นอาหารและในแง่ของการใช้เป็นยาเพื่อป้องกันและรักษาโรคต่างๆ แต่ก่อนที่เราจะนำมะรุมมาใช้สรรพคุณในด้านต่างๆนั้นก็ควรที่จะได้ทราบถึงข้อแนะนำหรือข้อที่ควรระวังในการใช้ เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มักจะมีข้อดีและข้อเสียในตัวของมันเองเสมอ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับข้อแนะนำและผลข้างเคียงที่ควรทราบก่อนจะใช้มะรุม โดยในวิถีชีวิตของคนไทยนั้น จะมีการอุปโภคเนื้อในฝัก ใบและดอกของมะรุมเป็นอาหารมาตั้งแต่อดีตแล้ว ซึ่งก็ไม่มีรายงานของอาการการเกิดพิษหรืออาการข้างเคียงเลย นั้นอาจเป็นเพราะในการกินเพื่อเป็นอาหารนั้น เราจะมักบริโภคกันครั้งละไม่มากและไม่รับประทานติดต่อกันหลายๆมื้อจึงทำให้สารบางลักษณะที่มีผลต่อร่างกายมนุษย์ยังไม่ไปสะสมในร่างกายมากพอที่จะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้นหากเราจะใช้ประโยชน์จากมะรุมเพื่อเป็นยาป้องกันและรักษาโรคแล้วจึงไม่ควรอุปโภคในปริมาณที่มากและใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจนเกินไป รวมถึงในรายที่เป็นโรคเกี่ยวกับเลือด เช่น G6PD ไข้เลือดออก ก็ไม่ควรกินมะรุมไม่ว่าจะเป็นการรับประทานเป็นอาหารหรือยาเยียวยาโรคเพราะอาจทำให้เม็ดเลือดแดงเปราะและแตกง่ายอันจะทำให้เลือดไหลไม่หยุด หรือไตวายได้ และยังมีการวิจัยความเป็นพิษในหนูทดลองพบว่า สารสกัดมะรุมทำให้สัตว์ทดสอบเกิดอาการแท้ง จึงควรระมัดระวังในการใช้มะรุมในสตรีมีครรภ์ด้วยเช่นกัน รวมถึงในตำรายาไทยได้ระบุว่า "มะรุมจัดอยู่ในยารสร้อน มีฤทธิ์ขับลม(เช่นเดียวกับกระชายและข่า) หากทานมากและไม่มีการขับออก อาจทำให้เกิดภาวะโลหิตร้อนได้" แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ใช่ว่ามะรุมจะมีความเป็นพิษมากจนไม่สามารถอุปโภคได้ เนื่องจากมีรายงานการลองความเป็นพิษของมะรุมในหนูทดลองที่ระบุว่า ให้หนูลองกินส่วนรากของมะรุม และให้สารสกัดจากส่วนรากของมะรุมโดยการฉีดใต้ผิวหนังในขนาด 10 กรัม/กิโลกรัม (น้ำหนักตัว)ปรากฏว่า ไม่พบความเป็นพิษในหนูทดลอง ดังนั้นจึงสรุปได้ว่ามะรุมนั้นมีคุณประโยชน์ทั้งด้านอาหารและด้านสมุนไพร แต่เราต้องค้นพบถึงข้อกำหนดและข้อแนะนำก่อนการใช้เพราะอีกด้านหนึ่งมะรุมยังคงมีสารบางคุณสมบัติที่ก็พร้อมที่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อมนุษย์(หากใช้ไม่ถูกวิธี ใช้นานจนเกินไปหรือใช้ในปริมาณมากเกินกำหนด)ได้เช่นกัน
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

kdidd

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

kdidd

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

kdidd

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions