สารลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) มีความสำคัญต่อดวงตาเช่นไร

สารลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) มีความสำคัญต่อดวงตาเช่นไร

เริ่มโดย teareborn, 13 กันยายน 2017, 17:11:11

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

teareborn



ขายลูทีน (Lutein) สุดยอด วิตามิน บำรุงสายตา
ขายลูทีน การมองมองเห็นนับว่าเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสที่มีความสำคัญต่อมนุษย์เราเป็นอย่าง ยิ่ง รวมทั้งอวัยวะที่เป็นตัวรับภาพต่างๆจากข้างนอกให้เราได้รับรู้ก็คือดวงตา กลไกในการมองเห็นก็คือ เมื่อมีแสงตกกระทบกับวัตถุ แสงขายส่งลูทีนจะสะท้อนไปสู่นัยน์ตาพวกเราผ่านกระจกตา รูม่านตา แก้วตา และก็ไปตกที่จอสำหรับรับภาพตาในลักษณะของภาพหัวกลับแล้วจึงถูกส่งไปแปลเป็นภาพที่เรา แลเห็นจริงในระบบประสาทส่วนท้ายทอย สารอาหารจำเป็นจะต้องสำหรับดวงตา ขายลูทีนมีอยู่หลากหลายประเภท ร่วมกันหมายถึงวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงสารอาหารที่มีการวิจัยอย่างกว้างขวางว่ามีประโยชน์กับดวงตาโดยตรงก็ คือ ลูทีน แล้วก็ ขายลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)เป็นสารธรรมชาติที่มีในผักผลไม้หลายประเภท เป็นสารในตระกูลของสารแคโรทีนอยด์ และเจอได้ในรอบๆดวงตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงรอบๆเลนส์ตาและก็จอรับภาพตาในธรรมชาติแม้ว่าจะมีแคโรทีนอยด์ มากยิ่งกว่า 600 จำพวก แต่มีเพียงแค่สาร 2 จำพวกนี้แค่นั้น ที่เจอในจุดรับภาพของจอตา สารทั้งสองชนิดนี้จะทำหน้าที่ช่วยกรองหรือคุ้มครองป้องกันขายลูทีนรังสีจากแดดที่เป็น อันตรายต่อดวงตา แล้วก็ช่วยปกป้องเซลล์ของหน้าจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย โดยการลดอนุมูลอิสระ ดังนั้น จึงปฏิบัติภารกิจบำรุงตา ทำให้จอตาไม่เสื่อมเร็ว ด้วยเหตุดังกล่าวผู้ใดกันแน่ที่อยากถนอมสายตาไว้ ใช้งานนานๆก็ต้องทานผักผลไม้ สีเหลือง และก็สีเขียวเข้มมีการขายลูทีนทั่วๆไป และยังมีแหล่งที่พบ ลูทีน และก็ ซีแซนทีน ในธรรมชาติเว้นแต่ จะพบบ่อยในดอกดาวเรือง รวมทั้งโกจิเบอร์รี่(เก๋ากี้) แล้ว ยังเจอใน กะหล่ำ ผักโขม ถั่วลันเตา ต้นอ่อนกะหล่ำดาว ถั่วพิสตาชิโอ บคอยกวัวลี ข้าวโพด ไข่ แครอท ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักปวยเล้ง ผักกาดหอม ผักโขม แตงกวาทั้งเปลือก ซูกินีทั้งเปลือก ถั่วแขก อะโวคาโด มัสตาร์ด ฟักทอง เป็นต้นการบริโภคผักที่มีการรับผลิตลูทีนและชีแซนทีน หรือแม้แต่อาหารสุขภาพที่มีสาระสำคัญนี้ ก็เลยมีประโยชน์เป็นอย่างมากต่อร่างกายของดวงตา มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลายชนิดด้วยกัน ที่สำคัญเป็น โรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อมโดยสรุปแล้ว ลูทีน (Lutein) จะช่วยทำให้ตาแข็งแรง คุ้มครองป้องกันประสาทตาเสื่อม เสริมสร้างการมองมองเห็นโดยช่วยปกป้องการเสื่อมของ Macular ที่จุดเล็กๆตรงกลางของที่รับแสงสว่างในตา (Retina) อันเป็นส่วนสาคัญของ Main pigment (สี) ในฉากรับแสงของตา คุ้มครองขายส่งลูทีนไม่ให้แสงแดดทำลายเรตินา ป้องกันโรคจุดรับภาพเสื่อม หรือหน้าจอประสาทตาเสื่อม AMD (Age – Related Macular Degeneration) ช่วยป้องกันแคปซูลลูทีนรวมทั้งลดลักษณะโรคต้อกระจก (Cataracts) ต้านอนุมูลอิสระ ที่ทำลายเซลล์ตา ทำให้เซลล์แข็งแรง ช่วยชะลอความเสื่อมของตา และเพิ่มสมรรถภาพในการแลเห็นได้ดิบได้ดีในที่มืดเจริญขึ้น
    ขายลูทีน การกินสารในกรุ๊ปแคโรทีนในจำนวนที่สูงที่สุดจะมีอัตราเสี่ยงต่ำลงยิ่งกว่าจำนวนร้อยละ 43 สำหรับภาวการณ์การเสื่อมของจอประสาทตาตามอายุอย่างฉับพลัน เมื่อเปรียบเทียบการกินในปริมาณที่ต่ำที่สุด จากการเรียนรู้กลุ่มทดลองปริมาณ 876 คนซึ่งแก่ ระหว่าง 55-80 ปี การได้รับลูทีนและซีซานทีน ในอัตราสูงจะช่วยลดการเสี่ยงของจอประสาทตาเสื่อมอย่างกระทันหันได้
ส่วนประกอบสำคัญ
 

ทอลีน
 
เบต้าแคโรทีน
 
วิตามิน บี2
 
สารสกัดบิลเบอร์รี่
 
สารสกัดดอกดาวเรือง (มีลูทีนและซีแซนทีน)
 
สารสกัดใบแปะก๊วย

ขายส่งลูทีน จำหน่ายลูทีน แคปซูลลูทีน รับผลิตลูทีน ลูทีน(Lutein) และ ซีแซนทีน(Zeaxanthin)
สรรพคุณลูทีน ช่วยบำรุงสายตา ทำหน้าที่ช่วยให้มองภาพได้คมชัด
 และเห็นรายละเอียดของภาพดีขึ้นช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนของเลือด
 และเส้นเลือดฝอยที่เลี้ยงตาช่วยให้ดวงตาแข็งแรง
 ป้องกันประสาทตาเสื่อม
สรรพคุณอื่นๆ
สรรพคุณเถาวัลย์เปรียง
เถาวัลย์เปรียงตามตำราไทยว่าทำให้เอ็นอ่อนลง แก้เอ็นทุพพลภาพ แล้วก็แก้ลักษณะของการปวดเมื่อยตามร่างกาย ซึ่งราษฎรนำมาใช้เป็นยารักษาทุเลาอาการปวดเมื่อยล้าร่างกายมานานแล้วรับขายลูทีน
ตำราเรียนยาพื้นบ้าน: ใช้เถา ขับฉี่ แก้บิด แก้หวัด ใช้เถาคั่วไฟให้หอมชงน้ำดื่มแก้ปวดเมื่อย แก้เอ็นพิการ แก้เมื่อยขบในร่างกาย แก้กระษัยเหน็บชา ต้มรับประทานถ่ายเส้น ถ่ายกระษัย แก้เส้นเอ็นขอด ถ่ายเสมหะ ไม่ขี้รับผลิตลูทีนเหมาะสมที่จะใช้ในโรคบิด ไอ หวัด ใช้ในเด็กเจริญ แก้ปวด แก้ไข้ ทำให้เอ็นอ่อนลง ขับเยี่ยว แก้ฉี่พิการ บางแบบเรียนขายส่งลูทีนบอกว่าทำให้มีกำลังดีแข็งแรงสู้ไม่ถอย
o เป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้ในสูตรยาอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ โดยใช้เป็นส่วนประกอบเพิ่มจากสูตรยาอบสมุนไพรหลัก เมื่ออยากอบเพื่อรักษาอาการปวดเมื่อยล้า ปวดหลัง ปวดเอว เป็นต้น
o เถามีรสเฝื่อนฝาดแคปซูลลูทีนเอียน ใช้ต้มรับประทานเป็นยาขับเยี่ยว แก้ฉี่ไม่ดีเหมือนปกติ แก้เยี่ยวกระปริบกะปรอยๆ ส่วนรากมีรสขื่นเอียนมีคุณประโยชน์เป็นยาขับปัสสาวะรับผลิตลูทีน[/url]เช่นกัน (เถา,ราก)รวมทั้งยังมีข้อมูลบอกว่าการใช้สมุนไพรจำพวกนี้จะมีผลให้เยี่ยวได้บ่อยกว่าธรรมดา จึงอาจขายลูทีนเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตด้วย
o คนรุ่นเก่าจะนิยมใช้เถาของเถาวัลย์เปรียงเพื่อเป็นยารักษาอาการตกขาวของสตรี (อาการตกขาวชนิดที่ไม่มีกลิ่น ไม่มีอาการคัน ไม่กลายเป็นสีเขียว) (เถา)
o เถามีคุณประโยชน์ในการบีบมดลูก (เถา)ขายเห็ดหลินจือ
แบบอย่าง ขนาดวิธีใช้ บัญชียาหลักแห่งชาติ บัญชียาจากสมุนไพร 2556 ยาพัฒนาจากสมุนไพร กลุ่มยารักษากลุ่มอาการทางกล้ามและก็กระดูก กำหนดรับผลิตลูทีนแบบและขนาดวิธีใช้ยาดังต่อไปนี้

  • ขับโลหิตเสียของสตรี ด้วยการใช้เถาวัลย์เปรียงอีกทั้งห้าแบบสดๆเอามาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้ดื่มต่างน้ำ (อีกทั้งห้า)แคปซูลลูทีน
  • ทำให้มดลูกเข้าอู่ ด้วยการใช้เถาสดเอามาทุบให้ยุ่ย แล้ววางทาบลงบนพุง แล้วนำหม้อเกลือที่ร้อนมานาบลงไปบนเถาวัลย์เปรียง จะช่วยให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น
  • ใช้เถาเอามาหั่นตากแห้งคั่วชงน้ำดื่มต่างชาเป็นยาทำให้เส้นหย่อน แก้อาการเมื่อยขบตามร่างกาย แก้อาการปวดเมื่อย แก้เหน็บชา (เถา)
  • ใช้เถาเพื่อรักษาโรคอัมพฤกษ์และก็กระดูกหัก โดยการนำเถามาตำให้เป็นผงผสมกับน้ำมันที่ทำขึ้นมาจากมะพร้าวหรือน้ำมันหัวครำ แล้วก็ใช้เป็นยาทานวดบริเวณที่เป็นทุกวี่วันกระทั่งหาย (เถา)ยาเถาวัลย์เปรียง ยาแคปซูล (รพ.)ข้อบ่งใช้ : บรรเทาอาการปวดกล้าม ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อขนาดรวมทั้งการใช้ : รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม – 1 กรัม วันละ 3 ครั้งแคปซูลลูทีน หลังอาหารทันทีสิ่งที่ไม่อนุญาตใช้ : ห้ามใช้ในหญิงตั้งท้องยาสารสกัดจากเถาวัลย์เปรียง ยาแคปซูลข้อบ่งใช้ : บรรเทาอาการปวดหลังข้างล่าง (low back pain) รวมทั้งอาการปวดจากข้อหัวเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)ขนาดแล้วก็การใช้ : กินทีละ 400 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารทันทีสิ่งที่ห้ามใช้ : ห้ามใช้กับหญิงตั้งท้องยาเถาวัลย์เปรียง(แคปซูล) 400 mg (บัญชีร่วม รพสต.)ข้อบ่งใช้ : แก้ข้ออักเสบ ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อเกร็ง OAขนาดแล้วก็วิธีใช้ : รับประทานทีละ 2*3PC (500Mg.– 1g.) วันละ 4 ครั้ง หลังรับประทานอาหารในทันทีสิ่งที่ห้ามใช้ : ห้ามใช้ในหญิงมีท้องรับผลิตลูทีน

    สรรพคุณชะพลู
    ชะพลูด้านการใช้เป็นอาหาร ใบชะพลูมีรสหวาน เย็น และก็กลิ่นหอมหวนที่เป็นเอกลักษณ์ ก็เลยนิยมนำมาทำอาหารได้นานัปการเมนู หน้าที่ของชะพลูในจานของกินครอบครัวประจำถิ่นมีมากไม่น้อยเลยทีเดียวขายลูทีนเริ่มตั้งแต่เป็นผักสดที่นิยมกินกับของกินรสแซบทั้งหลายแหล่ ยกตัวอย่างเช่น ลาบ ก้อย น้ำตก เนื้อย่าง ปลาย่าง ตลอดจนน้ำพริกต่างๆชะพลูเป็นเครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้ในอาหารจานประจำถิ่นต่างๆแกงแคของภาคเหนือซึ่งถึงกับเรียกใบชะพลูว่า"ใบผักแค" อย่างยิ่งจริงๆ หรือไม่ก็เป็นเนื่องจากว่าใช้ใบชะพลูเป็นเครื่องปรุงส่วนตัว จึงเรียกแกงนั้นว่าแกงแค เป็นได้เหมือนกันแคปซูลลูทีนส่วนภาคอีสารนิยมใส่ไว้ในแกงอ่อมต่างๆแกงขนุนอ่อน แกงหัวปลี ภาคใต้ใช้แกงน้ำกะทิใบชะพลูกับหอยแครง ส่วนภาคกึ่งกลางนิยมใส่แกงคั่วหอยขม นิยมเอามากินร่วมกับข้าวมันส้มตำ ประเภทที่เรียกว่าถ้าหากขาดใบชะพลู รสชาติของข้าวมันตำส้มก็อร่อยไปเลย รสใบชะพลูในเวลาที่กัดและก็บดรับประทานจะมีกลิ่นหอมหวนในขว้างรสจัด บดนานๆจะได้รสเผ็ดอ่อนๆใบชะพลูขนาดกำลังอร่อยควรจะเป็นใบที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนกระทั่งเกินไป ใบก็เลยจะนุ่ม หอม และเผ็ดกำลังดี อย่างไรก็ตาม ใบชะพลูกินได้ทุกขนาดอายุของมัน รับผลิตลูทีนถึงแม้แก่มากก็กินได้ ด้วยเหตุว่าเส้นใยไม่ถึงกับเหนียวกระทั่งกัดไม่ขาด เพียงแค่ใบจะหยาบสักนิด และก็กลิ่นจะผลักนิดหน่อย
    ในใบชะพลูมีสารอนุภาคบีตา-แคโรทีนสูงมาก ใบเอามารับประทานกับเมี่ยงคำ นำมาแกงใส่น้ำกะทิ ข้าวยำ ห่อหมก หรือเป็นผักจิ้มน้ำพริก ทางภาคใต้ใส่เอาไว้ภายในแกงกะทิหอยขม แกงคั่วปูในจังหวัดจันทบุรีใส่เอาไว้ข้างในรับผลิตลูทีนแกงป่าปลา

    Tags : ขายลูทีน,ขายส่งลูทีน,รับผลิตลูทีน
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions