สาเหตุของอาการโรคกรดไหลย้อน โรคนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ

[LikeFreeVer]

โรคกรดไหลย้อน เป็นภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร โดยของที่ไหลย้อนส่วนใหญ่จะเป็นกรดในกระเพาะอาหาร ส่วนน้อยอาจเป็นด่างจากลำไส้เล็ก โดยอาจมีหรือไม่มีหลอดอาหารอักเสบก็ได้ โรคนี้มีความสำคัญคือ ผู้ป่วยจะมีอาการแสบยอดอกและ/หรือร่วมกับมีภาวะเรอเปรี้ยว(รู้สึกเหมือนมีกรดซึ่งมีความรู้สึกเหมือนมีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมไหลย้อนขึ้นมาที่คอหรือปาก) ภาวะนี้อาจทำให้เกิดหลอดอาหารอักเสบหรือเป็นมากจนเกิดแผลที่รุนแรง จนทำให้ปลายหลอดอาหารตียหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงเซลล์ของเยื่อบุหลอดอาหารได้ บางรายอาจรุนแรงจนถึงขั้นเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้ ในบางรายผู้ป่วยอาจมาด้วยอาการทางด้านของ โรคหู คอ จมูก อาทิ ไอเรื้อรัง เสียงแหบเรื้อรัง หรืออาจมาด้วยอาการเจ็บหน้าอกที่ไม่ได้เกิดจากโรคหัวใจ หรือมีกลิ่นปาก เป็นต้น
.

.
สาเหตุของโรคกรดไหลย้อน โรคนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ
- การคลายตัวของหลอดอาหารส่วนปลายโดยที่ไม่มีการกลืน พบว่าคนไข้โรคนี้จะมีจำนวนครั้งของภาวะนี้ เกิดขึ้นบ่อยกว่าในคนปกติ ซึ่งสาเหตุนี้ถือเป็นภาวะสำคัญของโลกนี้
อาการโรคกรดไหลย้อน เป็นภาวการณ์ที่น้ำย่อยจากกระเพาะไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร โดยของที่ไหลย้อนจำนวนมากจะเป็นกรดในกระเพาะ ส่วนน้อยอาจเป็นด่างจากลำไส้เล็ก โดยอาจมีหรือเปล่ามีหลอดอาหารอักเสบก็ได้ โรคนี้มีความจำเป็นเป็น คนป่วยจะมีอาการแสบยอดอกแล้วก็/หรือร่วมกับมีสภาวะเรอเปรี้ยว(รู้สึกราวกับมีกรดซึ่งมีความรู้สึกราวกับมีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมไหลย้อนขึ้นมาที่คอหรือปาก) ภาวการณ์นี้อาจส่งผลให้กำเนิดหลอดของกินอักเสบหรือเป็นมากจนกระทั่งเกิดแผลที่ร้ายแรง กระทั่งทำให้ปลายหลอดของกินตียหรือเกิดการเปลี่ยนเซลล์ของเยื่อบุหลอดของกินได้ บางรายอาจรุนแรงจนกระทั่งขั้นเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้ ในบางรายผู้เจ็บป่วยอาจมาด้วยอาการทางด้านของ โรคหู คอ จมูก อาทิเช่น ไอเรื้อรัง เสียงแหบเรื้อรัง หรืออาจมาด้วยอาการเจ็บหน้าอกที่มิได้มีต้นเหตุที่เกิดจากโรคหัวใจ หรือมีกลิ่นปาก ฯลฯ
.
สิ่งที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อน โรคนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
.
- การคลายตัวของหลอดของกินส่วนปลายโดยที่ไม่มีการกลืน พบว่าคนไข้โรคนี้จะมีจำนวนครั้งของภาวะนี้ เกิดขึ้นบ่อยมากกว่าในคนปกติ ซึ่งมูลเหตุนี้นับว่าเป็นภาวะสำคัญของโลกนี้
- ความดันของหูรูดของหลอดอาหารส่วนปลายลดน้อยลงต่ำลงยิ่งกว่าในคนธรรมดาหรือเกิดมีการเลื่อนของกระเพาะเข้าไปในหลอดอาหาร ทำให้เพิ่มจังหวะการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ
- เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากความผิดปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหารหรือหลอดอาหาร
- อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียบางประเภทหรือเกี่ยวกับพันธุกรรม
.
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคกรดไหลย้อน
อาการสำคัญ คือ อาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่แล้วลุกลามขึ้นมาที่หน้าอกหรือคอ อาการนี้จะเป็นมากขึ้นหลังรับประทานอาหารมื้อหนัก การโน้มตตัวไปด้านหน้า การชูของหนัก หรือการนอนหงาย อาการสำคัญอีกประการก็คือ อาการเรอเปรี้ยวเป็น มีกรดซึ่งเป็นน้ำรสเปรี้ยวหรือรสขมไหลย้อนขึ้นมาในปาก โดยคนไข้อาจมีทั้งยัง 2 อาการ หรืออาการใดอาการหนึ่งก็ได้ ในชาวไทยที่เป็นโรคนี้บางทีบางทีอาจพบอาการนี้กำกวม อย่างผู้ป่วยในแถบตะวันตกหรือในอเมริกา อาการอื่นๆที่อาจเจอได้ อาทิ อาการท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้คลื่นไส้หรือกลืนทุกข์ยากลำบาก ในรายที่เป็นมากบางรายอาจมาด้วยอาการที่ไม่ใช่อาการของหลอดของกิน อาทิ เจ็บทรวงอก จุดที่คอเรื้อรัง หอบหืด หรือมีกลิ่นปากโดยหาต้นเหตุมิได้
.
จะวินิจฉัยโรคนี้ได้เช่นไร
ปกติหมอสามารถวินิจฉัยโรคนี้จากอาการดังที่กล่าวมา โดยผู้เจ็บป่วยที่มีอาการทั้งยังแสบยอดอกแล้วก็/หรือ เรอเปรี้ยว (ทั้งนี้ไม่ควรมีลักษณะที่บ่งบอกว่าน่าจะเป็นโรคอื่น เป็นต้นว่า น้ำหนักลด อ้วกเป็นเลือด ถ่ายดำหรือถ่ายเป็นเลือด หรือเป็นไข้) หมอสามารถวิเคราะห์ได้เลยว่าผู้ป่วยมีภาวการณ์อาการโรคกรดไหลย้อนและให้การรักษาเบื้องต้นได้เลย โดยจะติดตามดูลักษณะของคนป่วย ในบางรายอาจมีความต้องการจำเป็นต้องได้รับการตรวจค้นพิเศษเสริมเติม อย่างเช่น การส่องกล้องทางเดินอาหาร การกลืนแป้ง การวัดการบีบตัวของหลอดของกิน และการตรวจวัดความเป็นกรดด่างในหลอดอาหาร ซึ่งพบว่าสำเร็จถูกต้องแม่นยำแล้วก็เหมาะสมที่สุดในปัจจุบัน เป็นต้น
.
จะทำตัวเช่นไรถ้าเป็นโรคนี้
โดยปกติจุดมุ่งหมายของการดูแลและรักษา แพทย์จะเน้นให้ลักษณะของคนไข้ รักษาอาการอักเสบของแผลในหลอดของกินรวมทั้งคุ้มครองปกป้องผลสอดแทรก การดูแลและรักษาประกอบไปด้วยการเปลี่ยนความประพฤติปฏิบัติ การดำนงชีพ การให้ยา การส่งกล้องรักษาและการผ่าตัด โดยวิธีที่ง่ายที่สุดหมายถึงการเปลี่ยนความประพฤติปฏิบัติการดำเนินชีวิต ซึ่งสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
.
- หลีกเลี่ยงการกินน้ำชา น้ำอัดลม น้ำผลไม้ หรืออาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด ของกินไขมันสูง ช็อคโกแลต
- ระวังอย่าให้น้ำหนักตัวมากหรืออ้วนเกินความจำเป็น
- ระวังข้าวเย็น ไม่กินในจำนวนมากและไม่ควรจะนอนโดยทันทีหลังรับประทานอาหารขั้นต่ำ 3 ชั่วโมง
- ควรจะทานอาหารจำนวนน้อยๆแต่ว่าหลายครั้ง
- ไม่สวมเสื้อรัดรูปเกินไป
- บริหารร่างกายบ่อย
- นอนตะแคงซ้ายแล้วก็นอนหนุนหัวเตียงให้สูงอย่างน้อย 6 นิ้ว
.
เมื่อกระทำตนเบื้องต้นแล้วอาการเกิดขึ้นอีกควรจะทำอย่างไร
ถ้าหากการปฏิบัติพื้นฐานแล้วอาการกำเริบ ต้องกินยาร่วมด้วย โดย ยาที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในปัจจุบันเป็นยาลดกรดในกลุ่ม Proton Pump Inhibitors (PPI) ซึ่งได้ผลดีกว่า ยาในกลุ่ม H2 blocker receptor antagonist และดีกว่ากรุ๊ปยาที่กระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหวของหลอดของกิน โดยที่แพทย์จะให้กินยาในกลุ่มนี้ตรงเวลา 6-8 สัปดาห์ ในบางรายที่เป็นมาก อาจมีเหตุจำเป็นต้องใช้ยาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานหลายเดือนหรือเป็นปี ซึ่งอาจจะมีการปรับการรับประทานยาเป็นแบบช่วงช่วงเวลาสั้นๆหรือเปล่ากี่วันตามอาการที่มี หรือกินต่อเนื่องกันตลอดเป็นระยะเวลานาน
.
อย่างไรก็ดีการใช้ยาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ในรายที่รับประทานยาแล้วอาการกำเริบบางทีอาจใคร่ครวญ สำหรับยาในกลุ่มที่ส่งผลต่อการคลายตัวของหูรูดนั้นยังมีอยู่จำนวนไม่มากมายและยังส่งผลข้างๆอยู่พอควรการดูแลรักษาด้วยการส่องกล้องหรือการผ่าตัด
.
รศ.นพ. สมชาย ลีลากุศลวงศ์
อายุรแพทย์ด้านระบบทางเดินอาหารและตับ
โรงพยาบาลธนบุรี
.
บทความกรดไหลย้อนจาก: http://thonburihospital.com/2015_new/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99.html
Website: http://thonburihospital.com/2015_new/
Fanpage: https://www.facebook.com/thonburihospitalclub
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCB2afWT1BsZAnPIg7WqNN2Q
Instagram: https://www.instagram.com/thonburi_hospital/

Tags : โรคกรดไหลย้อน,กรดไหลย้อน,อาการโรคกรดไหลย้อน