สัตววัตถุ งูเหลือม

[แสงจันทร์5555]

งูเหลือม
งูเหลือมเป็นงูไม่มีพิษมีขนาดใหญ่แล้วก็ยาวที่สุดในโลก
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า python retculatus (schneider)
จัดอยู่ในวงศ์ Boidae
ตระกูลย่อย pythoninae
มีชื่อสามัญว่า reticulated python หรือ regal python
ชีววิทยาของงูเหลือม
งูเหลือมมีลำดับตัวยาว ครึ้ม บางทีอาจยาวได้ถึง ๑๐ เมตร ใจกลางลำตัวป่องออกมีเกล็ดปกคลุม โดยธรรมดาเกล็ดมีสีเหลืองหรือสีเหลืองคละเคล้าสีน้ำตาล มีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีเกล็ดสีดำ มีเกล็ดสีเหลืองเป็นขอบใน และก็มี เกล็ดสีน้ำตาลปนเทาอญุ่ข้างในอีกครั้งหนึ่ง ขอบนอกของเกล็ดมีสีดำ มีเกล็ดสีเหลืองทองคำสดกว่ารอบๆอื่น รอบๆข้างในข้างลำตัวมีแถบเกล็ดสีดำ ด้านในมีเกล็ดสีขาวเป็นแถบ เกล็ดข้างลำตัว รอบๆที่ติด กับเกร็ด ท้อง มีสีดำสลับกับขาวไร้ระเบียบ เกล็ดท้อง สีนวลหรือสีเหลืองอ่อน แถวๆหัวมีสีเหลืองผสมน้ำตาล มีเส้นสีดำเล็กๆพิงผ่านกึ่งกลางหัว ซึ่งเป็นจุดแข็งของงูเหลือม ที่ใช้จัดประเภท จากงูชนิดเดียวกันชนิดอื่นๆที่คล้ายคลึงกัน ( เป็นต้นว่างูหลาม) ดวงตาสีเหลืองหรือสีเหลืองเข้ม มีแถบสีดำเล็กๆภาพถ่านจากตาถึงมุมปาก งูเหลือมบางทีอาจ
งูเหลือม
วางขายได้ถึงเวลาละ๑๒๔ฟอง  แม่งูคอยดูแลจนไข่ฟักเป็นตัว ลูกงูเหลือมที่ฟักออกมาใหม่ยาวราว  ๕๕ เซนติเมตร
งูเหลือมพบได้ในทุกภาคของประเทศ ในป่าดิบแล้วก็ป่าทรุดโทรม พบได้บ่อยทำมาหากินบนพื้นดิน โดยการดักรอเหยื่อ เมื่อเหยื่อผ่านเข้ามาในระยะใกล้ก็จะฉกกัด และก็ม้วนตัวรัดเหยื่อจนตาย แล้วจึงกลืนกินเหยื่อที่ตายแล้ว
งูหลาม
ลวดลายบริเวณศีรษะของงูเหลือม งูหลาม และก็งูหลามปากเป็ดงูหลาม(rook python)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่าpython molunis bivittatus schiegel  เป็นงูที่มีขนาดใหญ่เป็นชั้น ๓ ของโลก รองจากงูเหลือม แล้วก็งูแอนะคอนด้า | anaconda ชื่อวิทยาศาสตร์ Eunectes murinus (Linnaeus) ในตระกูล Boidel พบบ่อยในป่าโปร่ง ทุ่งหญ้า ยกเว้นทางภาคใต้ (มีเฉพาะจังหวัดชุมพร)งูนี้ มีลักษณะ อ้วน หนา ลำตัวสั้นกว่างูเหลือมมากมาย ยาวเต็มที่ไม่เกิน ๗ เมตร มีลวดลายแตกต่างจากงูเหลือม โดยที่ลำดับตัวมีสีเหลืองหรือสีเหลืองอมสีน้ำตาลแล้วก็ มีแผลสีน้ำตาลเข้มขนาดใหญ่ รูปร่างเป็นเหลี่ยมไม่แน่นอน เกล็ดท้องสีขาวหรือสีนวล จุดแข็งอยู่ที่ลวดลายบริเวณศีรษะ ซึ่งมีลาย3สีน้ำตาลเข้ม เป็นรูปลูกศรอยู่กลางหัว ข้างๆหัวมีแถบสีน้ำตาลเข้มด้วยเหมือนกัน ในตามีสีน้ำตาลเข้ม งูหลามตกไข่คราวละ ๓๐-๕๐ ฟอง แม่งู รอดูแลไข่โดยใช้ลำตัวออกรอบ ลูกงูหลามที่ฟักออกมามีความยาว ราว ๕๐- ๘๐ เซนติเมตร งูหลามอีกเรียบงูหลามปากเป็ด (blood python) มีชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ว่า python curtus schiegel เป็นงูที่มีขนาดเล็กที่สุดในสกุลงูเหลือม พบในป่าดงดิบบริเวณชายน้ำ เนื่องมาจากเป็นงูที่ชอบน้ำว่ายได้ พบได้บ่อยงูประเภทนี้ในน้ำ ซุกตัวอยู่ตามโคลนหรือตามพืชที่ขึ้นอยู่ในน้ำเพื่อดักรอเหยื่อ เจอเฉพาะภาคใต้ของเมืองไทย ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงไป งูนี้มีความยาวเต็มตัวที่ราว ๒.๕ -๓ เมตร รูปร่างสั้นและหนากว่าจำพวกอื่น หัวมีขนาดค่อนข้างจะเล็กเมื่อเทียบกับลำตัว พื้นลำตัวสีน้ำตาลอมสีส้มจนกระทั่งสีแดงคล้ำ สีจะเข้มที่สุดทางด้านบนลำตัว ข้างๆมีสีอ่อน กว่า ข้างบนลำตัวมีแถบสีน้ำตาลเหลืองหรือสีน้ำตาล ยาวบ้างสั้นบ้างไม่แน่นอนกระจัดกระจายตามสันหลัง ข้างๆลำตัวมีเกล็ดสีขาว หรือสีนวลเรียงกันแบบซิกแซ็ก ไม่เป็นระเบียบ ด้านล่างของเส้นนี้มีเกร็ดสีดำ ท่อนหัวมีสีน้ำตาลถึงสีน้ำตาลเข้ม มีเส้นสีเข้มเล็กๆลากผ่าน หัวเหมือนงูเหลือม งูหลามปากเป็ดวางไข่คราวละ ๑๐-๑๕ ฟอง ลูกหมูที่ฟักออกมาจากไข่ใหม่ๆมีความยาวราว ๓๕เซนติเมตร

ผลดีทางยา
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร[/url] แพทย์แผนไทยใช้ดีงูเหลือมกระดูกงูงูเหลือมแล้วก็น้ำมันงูเหลือมเป็นเครื่องยาในตำรับยาหลายขนาน ดีงูเหลือมเป็นเครื่องยาอย่างหนึ่งที่ใช้มากในยาไทยใช้แทรก เป็นกระสายยาและก็เป็นเครื่องยา ได้จากถุงน้ำดีของงูเหลือมนำมาผึ่งจนกว่าจะแห้งสนิท แบบเรียนสรรพคุณยาโบราณว่า ช่วยทำให้ตัวยา แล่น เร็ว ดับพิษ ตานซางในเด็ก ใช้ฝนกับยาหยอดตา แก้ตาแฉะตามัวตาฟางตาแดงแล้วก็แก้ปวดตาได้ คู่มือฉันทศาสตร์อันเป็นตำราเรียนแพทย์ที่เรียบเรียงแล้วก็แต่งลางส่วน โดยพระยาวิชยาหัวหน้า (กล่อม) เจ้าผู้ครองนครจันทบุรีขณะนี้เอ๋ยถึงไข้ป่วง๘ ประการรวมทั้งยาบำบัด มีเรื่องมีราวที่เกี่ยวกับการใช้ดีงูเหลือมเป็นกระสายยาดังต่อไปนี้ จะอภิปรายในเรื่องรส เปรี้ยวปรากฏเคยใส่ใจ ส้มมะขามแฉะฝักส้มป่อย เปรี้ยวอร่อยน้ำส้มซ่า ขมธรรมดาบอระเพ็ด จู๋ม ขมเป็นจอม ดีงูเหลือม เผ็ดพอเพียงเอื้อม ขิง ดีปลี ภิมเสนมีให้ใส่แซก อนึ่งเค็มแปลกเว้นแต่ เกลือ รู้ไว้เผื่อแก้ไม่หยุดมุตร์มนุษย์เปลือกลำภู สองสิ่งรู้เถิดเค็มกร่อยอ่านบ่อยๆให้จำได้ จะได้ใช้แซก จูงยาในแบบเรียนป่วง เป็ด ประการตามตำราโบราณซึ่งท่านแต่ก่อนกล่าวเอย ภาพตำราปฐมจินดาร์ อันเป็นตำราแม่บทของแพทย์แผนไทยที่ว่าด้วยแม่และก็เด็กให้ยาหลายขนานที่ใช้ดีงูงูเหลือม มีอยู่ขนานหนึ่งที่ใช้ดีงูงูเหลือมเป็นเครื่องยาด้วยดังนี้ ยาทาหละ ขนานนี้ท่านให้เอาชาดหรคุณ ๑พิมเสน ๑ใบนมจิตร์ ๑ใบมะระ ๑ใบแมลงสาบ ๑ดีงูงูเหลือม รวมยา๖ สิ่งนี้เอาส่วนเสมอกันตามเป็นผุยผงทำแท่งไว้เอาเกลือรำฝึกฝนทาหละแลยอดทราง ที่ขึ้นลิ้นนั้นหายดีนักกรอบเดือนกงูเหลือมแบบเรียนสรรพคุณ ยาโบราณว่ากระดูกงูเหลือมมีรสเย็น เมาเบื่อมีคุณประโยชน์ดับพิษกาฬ แก้เมื่อยล้าแก้ร้อนใน กระวนกระวายใช้เป็นเครื่องยาในไทยหลายขนาน อย่างเช่นยาขนานหนึ่งในพระตำราไกษย มีบันทึกไว้ว่า ยาแก้ลมไกษย เอาหินปูน 1 กระดูกงูเหลือม 1 หอยกาบเผา 1 ละลายเหล้ากิน ถ้าเกิดมิฟังยานี้ แล้ว ก็เป็นกรรมของผู้นั้นตายแลอย่าฉงนสนเท่ห์เลย
๓. น้ำมันงูเหลือมตระเตรียมไว้โดยการเอาไปเปลวมัน ในตัวงูเหลือมใส่ขวดผึ่งแดดจัดจัด จนถึงเปลวมันละลายใส่เกลือไว้ตูดขวดน้อยเพื่อการเหม็นเน่าหมอแผนไทยว่าน้ำมันงูเหลือมมีรสร้อน ใช้ป้ายยาแก้เคล็ดลับ ขัดยอกแรงรอบฉายคาดหัวนวดเพื่อให้เส้นเอ็นอ่อนและหย่อนยานได้ ในตำราชวดารให้ยา 2 ๒ขนานที่เข้า "น้ำมันงูเหลือม" เป็นเครื่องยาด้วย ขนานหนึ่งมีบันทึกไว้ดังนี้ ลมประเภทหนึ่งเข้าในไส้ใหญ่ไส้น้อย มัดให้ช่างมือชักเท้าแขนงอจะเปิบเข้าก็มิได้ จะจับสิ่งอันใดก็ไม่ได้สมมติเรียกว่าลงตะคิว เอาน้ำมันหมู ๑ บาทหัวดองดึง ๑บาท พริกไท ๒๐ บาทใส่หม้อฝังไว้ใต้ดิน ๓ วันแล้วเอาขึ้นหุงให้คงแม้กระนั้นน้ำมัน จึงเอาการะบูร ๑ พิมเสน ๑ กระวาน ๑  กานพลู ๑น้ำมันงูเหลือม ๑ ใส่ลงทา ตากแดด สำหรับรมเท้าตาย หายแล ยิ่งไปกว่านั้นหนังงูเหลือมที่ถูดีแล้วใช้ทำรองเท้าสายรัดเอวกระเป๋าเนื้องูเหลือมกินได้ชาวจีนชอบรับประทานแต่ว่าหากินยากและก็ราคาแพงแพง