สัตววัตถุ ปลาซ่อน

สัตววัตถุ ปลาซ่อน

เริ่มโดย billcudror1122, 25 ธันวาคม 2017, 08:28:18

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

billcudror1122


ปลาช่อน
ปลาช่อนเป็นสัตว์เลือดเย็น มีกระดูกสันหลัง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Channa striata (Bloch)
จัดอยู่ในสกุล Channidae
มีชื่อสามัญว่า snakehead murrel
บางถิ่น (ตะวันตกเฉียงเหนือและอีสาน) เรียก ปลาค้อ ก็มี
ชีววิทยาของปลาช่อน
ปลาช่อนมีรูปร่างกลมเป็นทรงกระบอก ลำตัวข้างหางจะแบนนิดหน่อย ความยาวของลำตัวเมื่อโตเต็มที่ ๖๐-๗๕ ซม. (มีแถลงการณ์ว่าลำตัวยาวได้ถึง ๑ เมตร) หรือ มีความยาวเป็น ๕.๕-๖ เท่าของความลึกของลำตัว และก็เป็น ๓.๒-๓.๓ เท่าของส่วนหัว ลำตัวด้านบนโค้งลงเล็กน้อย ส่วนเรือท้องแบน ด้านข้างของส่วนหางแบน ลำตัวมีตั้งแม้กระนั้นสีเทาถึงสีเทาผสมน้ำตาล หลังสีดำ ส่วนท้องสีขาว รวมทั้งอาจมีจุดประสีดำหรือสีน้ำตาลกระจายอยู่ทั่วไป ข้างๆของลำตัวมีลายสีน้ำตาลหรือสีเทาปนดำ (ขนาดแล้วก็รูปร่างไม่บ่อยนัก) พาดขวางลำตัวจากรอบๆใต้เส้นข้างตัวไปยังบริเวณท้อง ในลางตัวลายพวกนี้บางทีอาจพาดขวางลำตัวต่อเนื่องกันจากรอบๆครีบหูถึงคอดหางราว ๑๕ แถบ   แต่ สีแล้วก็ลายนี้เปลี่ยนแปลงไปตามถิ่นที่อยู่รวมทั้งฤดู หัวปลาช่อนมีขนาดใหญ่ ลักษณะแบนจากบนลงล่าง ตามีขนาดใหญ่ อยู่ข้างๆของส่วนหัว จะงอยปากกลมมน ปากกว้างแล้วก็เฉลง มุมปากลึกแล้วก็ยื่นเลยจากตามาก ขากรรไกรสามารถยึดหดได้ ขากรรไกรล่างยื่นล้ำขากรรไกรบนน้อย ฟันที่ขากรรไกรบนและด้านล่างเป็นซี่เล็กมากมาย ติดกันเป็นแผ่นและคม ขากรรไกรบนมีเขี้ยว มีฟันที่เพดานด้านหน้าและก็เพดานส่วนใน ฟันที่กรามและก็เพดานมีราว ๔ แถว แผ่นปิดกระพุ้งแก้มเปิดกว้างได้ บริเวณบ้องคอเหนือเหงือกมีอวัยวะพิเศษช่วยหายใจ  ทำให้เคลื่อนอยู่บนบกและก็ฝังตัวอยู่ในโคลนได้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน  ส่วนบนรวมทั้งข้างๆหัวมีเกล็ดปกคลุมครีบหลังรวมทั้งครีบก้นยาวแทบถึงโคนครีบหาง ครีบข้างหลังมีก้านครีบ ๓๘-๔๒ ก้าน ครีบตูดมีก้านครีบ ๒๔-๒๖ ก้าน ครีบอยู่ทางด้านท้องใกล้ช่องเปิดทวารและครีบก้น ครีบหูอยู่ด้านข้างของลำตัวถัดจากช่องเหงือก ครีบหางกลม คอดหางแบนข้าง  ครีบทุกครีบมีสีเทาผสมสีน้ำตาลดำ และก็ครีบทุกครีบไม่มีก้านครีบแข็ง เกล็ดปลาช่อนมีลักษณะกลมมน ขอบเรียบ เกล็ดตามลำตัวมีสีเทาถึงสีน้ำตาลอมเทา ส่วนหลังสีดำ เกล็ดบนเส้นข้างลำตัวมี ๕๒-๕๗ เกล็ด เส้นข้างลำตัวไม่ต่อกันเป็นแถวเดียว แม้กระนั้นมีรอยหักลงไปตรงรอบๆเกล็ดที่ ๑๗-๒๐ ข้างบนและด้านข้างของลำตัวมีเกล็ดขนาดใหญ่ แต่ว่าเกล็ดที่บริเวณหัวแข็งกว่าเกล็ดที่รอบๆลำตัว ปลาช่อนเป็นปลาที่มีนิสัยดุร้าย   ทรหดอดทน   ทำมาหากินตั้งแต่ระดับพื้นดินจนกระทั่งผิวน้ำ ชอบอาศัยอยู่ในน้ำที่มีความลึกไม่เกิน ๑ เมตร โดยเฉพาะในรอบๆที่มีพรรณไม้น้ำให้ซ่อนตัวตัวได้ ปลาช่อนสืบพันธุ์กันในฤดูฝน  โดยที่ตัวผู้รวมทั้งตัวเมียที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์จะจับคู่กัน  ช่วยเหลือกันกัดหญ้าชายน้ำเพื่อทำแอ่งออกไข่ ต่อจากนั้นตัวเมียก็ออกไข่ แล้วตัวผู้ฉัดน้ำเชื้อเข้าผสม ตัวผู้ทำหน้าที่คอยดูแลลูก  ประชาชนเรียกลูกอ่อนของปลาช่อนว่า ลูกครอก เมื่อยังเล็กตัวมีสีออกแดง ดำผุดดำว่ายอยู่ตามแอ่งน้ำไม่ลึกนัก โดยมีบิดาปลาช่อนซุ่มตัวคอยระวังอยู่ ปลาช่อนรับประทานปลาเล็กและเนื้อสัตว์อื่นเป็นอาหาร เป็นปลาที่พบได้บ่อยในทุกภาคของประเทศไทย

ผลดีทางยา
สมุนไพร แพทย์แผนไทยรู้จักใช้ปลาช่อนเป็นเครื่องยามาแต่โบราณ หนังสือเรียนคุณประโยชน์ยาโบราณว่า เนื้อสด มีรสหวาน ชอบกับธาตุทั้งมวล นำไปสู่เสลด ปิดตะหยุดวาตะ เนื้อแห้ง มีรสหวาน มัน มีคุณประโยชน์บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย แก้เด็กตัวร้อน นอนตกใจ   มือเท้าเย็น ข้างหลังร้อน หอบ  ชักจากไข้สูง แก้ชางทับสำรอก ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ดี มีรสขม   แก้ตาอักเสบ ตาแดง แก้ลอยแผลเป็น   หางแห้ง มีรสเย็น คาว แก้เม็ดยอดในปาก แก้ฝ้าละออง และเกล็ด มีรสจืด  คาว นำไปสู่ลมเบ่งเวลาคลอด พระคู่มือโรคนิทาน ให้ยาขนานหนึ่งสำหรับใช้หยอดตาแก้ "น้ำตาตกหนักให้ตามัว" ยาขนานนี้เข้า "หินในสีสะปลาช่อน" หรือหินในหัวปลาช่อน   เป็นเครื่องยาด้วย  ดังนี้ น้ำตานั้น  แตกทุพพลภาพให้ตามัว  ให้น้ำตาตกหนัก  แล้วตั้งแต่แห้งไปตานั้นก็เปนดุจเยื่อ ผลลำไย ถ้าหากจะแก้ให้ประกอบยานี้  รากคนทิสอ ๑  รากเสนียด ๑  ผลมะตูมอ่อน  ๑  ขิงแห้ง ๑ ทำเท่าเทียม  ต้มกิน  แล้วจึงประกอบยาหยอดตาให้ประชุม  หินในสีสะปลาช่อน  ๑  บัลลังก์ศิลา ๑ พิมเสน  ๑ ฝนหยอดตา  สังเกตดูถ้าหากมีน้ำตาไหลออกมาถึงแก้ม  คนป่วยนั้นก็ยังไม่ตาย  ถ้าเกิดไม่มีน้ำตา  ตายแล   พระตำราธาตุภิวังค์ ให้ยาแก้ไข้ที่ทำให้ชักขนานหนึ่ง ชื่อ "ยาอนันตไกรวาต" ยาขนานนี้เข้า "คางปลาช่อน" เป็นยาเครื่องด้วย ดังนี้ ยาชื่ออนันตไกรวาต  แก้พิษไข้ทำให้ชักลิ้นหยาบคางแข็ง  และก็ชักให้สั่นไปกาย  แลทำพิษต่างๆ ถ้าจะแก้ท่านให้เอากระดูกงูเหลือม ๑  กระดูกงูทับสมิงคลา  ๑  คางปลาช่อน ๑ งาช้าง ๑  กรามแรด ๑ ยาทั้งนี้ขั้วให้เกรียม โกฐหัวบัว  ๑  โกฐสอ  ๑  โกศกระดูก  ๑  เทียนดำ  ๑  ผลโหระพา  ๑  ผลผักชี  ๑  น้ำประสานทอง  ๑ ใบพิมเสน  ๑ ใบสันมีดพร้าหอม ๑ ใบผักหวาน ๑ ใบทองหลางน้ำ  ๑  รากถั่วภู  ๑  รากตำลึงเพศผู้  ๑  ดอกบุนนาค  ๑  ดอกพิกุล  ๑  ยาทั้งนี้เอาส่วนเท่ากัน  บดทำแท่งไว้ น้ำกระสายยานั้นให้เอาชาวเข้าหรือน้ำดอกไม้ก็ได้ แซกดีงูแลพิมเสน กินแก้กิน แก้ชัก แก้เชื่อมมึน แก้ลิ้นหยาบคางแข็ง อีกทั้งรับประทานซะโลมก็ได้แล ยานี้ได้เชื่อมาแล้ว เปนมหาดีเลิศนัก
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions