10 หายนะในการสร้างหนังที่สุดแสนจะเลวร้าย

[etatae333]

10 หายนะในการสร้างหนังที่สุดแสนจะเลวร้าย
cr.cammy@dek-d

การสร้างภาพยนตร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จะต้องวางแผนทุกส่วนให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการสร้างหนัง คัดเลือกตัวแสดง
การเลือกสถานที่ หากพลาดนิดเดียว หนังที่ทำออกมาจะแย่ทั้งหมด หรือบางครั้งอาจได้เรื่องซวยๆ เป็นของแถม
และนี้คือ 10 อันดับภาพยนตร์ ที่วางแผนผิดพลาดจนนำไปสู่หายนะที่ไม่คาดคิด


อันดับ 10 Catwoman (2004)



เนื้อหาหนังกลล่าวถึงเชียนซ์ ฟิลลิปส์ (ฮัลลี่ แบร์รี่) กราฟฟิกดีไซน์เนอร์ของ ฮีแดร์ บิวตี้ บริษัทเครื่องสำอาง
ยักษ์ใหญ่ ที่ไปรู้ความลับของนายจ้างจอมโหด จอร์จ ฮีแดร์ (แลมเบิร์ต วิลสัน)เข้า และถูกจัดการจนเหี้ยม
แต่เธอก็คืนชีพใหม่โดยได้ พลัง ความว่องไว ปราดเปรียว และความรู้สึกที่เฉียบคมของแมว จนการเป็น
แคทวูแมนในที่สุด

มันพลาดตรงไหน?
พลาดตั้งแต่ชุดที่บรรดาแฟนการ์ตูน DC Comics ไม่ยอมรับว่านี้คือแคทวูแมนเพราะชุดของเธอเหมือน
อะไรสักอย่างแถวๆ โซมาเลียอะไรสักอย่าง แถมเรียกเธอว่า "ซีโน" มากกว่าจะเป็น "แคทวูแมน" แทน
และขนามนามว่าเป็นภาพยนตร์ที่เลวร้ายที่สุดที่เคยทำมา จนหนังได้รางวัลยอดแย่ประจำปีและบท
ภาพยนตร์แย่ที่สุด จนฮัลลี่ แบร์รี่คนแสดงออกมายอมรับเลยครับว่าเป็นหนังที่ทำให้เธอมัวหมองหลังได้
ออสการ์มา

หนังเลยเจ๊งอย่างที่เห็น ทุนสร้าง  122,000,000$  ทำเงินไป 41,000,000 $



อันดับ 9 Waterworld (1995)


 
ในอนาคตผืนแผ่นดินนั้นจมอยู่ใต้มหาสมุทร มวลมนุษยชาติได้ถูกขับไล่ไปรวมอยู่ ณ เกาะแห่งหนึ่ง โดยถูก
กลุ่มสมุ๊กเกอร์ ก่อความวุ่นวายอยู่เสมอ และแน่นอนผู้พิทักษ์สันติของโลกใต้น้ำ ที่มีลักษณะครึ่งคนครึ่งปลา
ต่อกรกับความชั่วร้าย

มันพลาดตรงไหน?
ได้รับการขนานนามจากเหล่าแฟนๆ ว่าเป็นหนังไซไฟ + พังค์ แนวออกอ่าวออกทะเล นอกจากโลเกชั่น
จะเป็นทะเลแล้วหนังก็ยังออกทะเลแบบที่บอกไว้ หนังผลิตโดย Kevin Costner กำกับโดย Kevin Reynolds
มีปัญหาการถ่ายทำคือทำเกินงบประมาณ

จนกลายเป็นหนังที่แพงที่สุดที่เคยทำมา(เวลา)ทุนสร้าง 175,000,000$
ทำเงินไป 88,000,000 $



อันดับ 8 Battlefield Earth: A Saga of the Year 3000 : 2000



ในปี ค.ศ. 3000 มนุษย์ไม่มีอำนาจในการปกครองโลก เนื่องจาก โลกได้ถูกพิชิตโดยเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาว
ที่โหดร้าย มนุษย์ได้ถูกจำแนกออกเป็นสองพวก อันได้แก่พวกที่สวามิภักดิ์ต่อผู้ปกครองใหม่ และ พวกที่อยู่
ตามป่าตามเขา และพระเอกของเราจำเป็นต้องกอบกู้โลก

มันพลาดตรงไหน?
หนังดัดแปลงจากนวนิยายขายดีของ แอล. รอน ฮับบาร์ด แต่ดูเหมือนมันเปิดตัวด้วยยอดทำเงินสุดเลวร้าย
และได้รับรางวัลถึงเจ็ดรางวัลโกลเด้นราสเบอรร์รี่(หนังห่วยแตกประจำปี)รวมถึงภาพยนตร์เลวร้ายที่สุดในปี
2005 และถูกโหวตให้เป็นหนังไซไฟยอดแย่ที่สุดในรอบ10 หนังไอเดียดีน่ะบรรเจิดดี เอามนุษย์เป็นทาส
ชาวต่างดาว มีท่อออกซิเจนด็แนวดี แต่ท่าเดินของมนุษย์ต่างดาวนี้ตลกไงไม่รู้ไม่เหมือนพวกวิทยาการ
สูงกว่าเลยอ่ะ

มีข่าวว่าทราโวลตร้าผู้กำกับเรื่องนี้นอกจากได้ค่าตัวยังได้ส่วนแบ่งหนังอีก สามสิบเปอร์เซนต์ คิดเป็น อีก
เจ็ดล้าน ส่งผลให้วอร์เนอร์ ไล่โปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องออกทันที(ร่วมกับทราโวลตร้าด้วย ) 

สรุปว่าตอนเป็นหนังนี่เจ๊งเละเทะ ทุนสร้าง 73,000,000 $ ทำเงินไป   21,471,685 $




อันดับ 7 Gigli (2003)
 


จีลี่ มือปืนกระจอกคนหนึ่ง ได้รับมอบหมายให้จับตัวน้องชายที่เป็นปัญญาอ่อนของอัยการคนหนึ่ง เพื่อกดดัน
ไม่ให้มาเล่นงานหัวหน้ามาเฟียของเขา ขณะเดียวกัน ริคกี้ มือปืนสาวก็ถูกส่งตัวมาเพื่อดูแลไม่ให้ จีลี่ ทำงาน
พลาด การพบกันของหนุ่มสาวมากเสน่ห์ที่เป็นคู่กัดในตอนแรก ค่อยๆ กลายเป็นความรักสุดหวานที่เคล้าด้วย
ความแสบ

มันพลาดตรงไหน?
เพราะผู้กำกับที่ผลงานกำกับหนังห่วยหลายเรื่องบวกกับดาราที่แสดงในเรื่อง ล่มกันแบบถล่มทลายสุดๆ ซวยสุดๆ
นอกจากรายได้จะล่ม ยังโดนนักวิจารณ์จวกกันถล่มทลายจนภาพยนตร์ถูกถอดลงแผ่นอย่างรวดเร็ว  นอกจากนี้
หนังเรื่องนี้กวาดรางวัลยอดห่วยกลับไปนอนกอดถึงบ้านถึง 6 ตัว จากที่มีแจกเพียง 10 สาขา ในการประกาศ
ผลรางวัล ราสเบอร์รี่ทองคำ หรือ แรซซี่ อวอร์ด ครั้งที่ 24 เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ก.พ. ประจำปี 2003 จนเกือบ
เป็นภาพยนตร์ที่ห่วยที่สุดในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูด เป็นรองแค่ Showgirls และ Battlefield Earth ที่ได้ถึง
7 ตัว  โดยรางวัลมีดังต่อไปนี้

-ภาพยนตร์ยอดแย่ : Gigli
-ดารานำชายยอดแย่ : เบน เอฟเฟล็ก จาก Daredevil, Gigli, Paycheck
-ดารานำหญิงยอดแย่ : เจนนิเฟอร์ โลเปซ จาก Gigli
-ดาราสมทบชายยอดแย่ : ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน จาก Spy Kids 3-D: Game Over
-ดาราสมทบหญิงยอดแย่ : เดมี่ มัวร์ จาก Charlie's Angels: Full Throttle
-คู่แสดงยอดแย่ : เบน เอฟเฟล็ก และ เจนนิเฟอร์ โลเปซ จาก Gigli
-ภาพยนตร์ท่าดีทีเหลว : Dr. Seuss' The Cat in the Hat
-ภาพยนตร์ภาคต่อหรือภาพยนตร์เก่ามาทำใหม่ได้แย่ที่สุด : Charlie's Angels: Full Throttle
-ผู้กำกับยอดแย่ : มาร์ติน เบรสต์ จาก Gigli
-บทภาพยนตร์ยอดแย่ : Gigli  ด้วยประโยคยอดแย่แห่งปีอย่าง
"ถึงเวลายัดไส้ไก่งวงแล้วจ้ะ ... มาเถอะหน่าที่รัก อ๊ะ หม่ำ หม่ำ หม่ำ"
ซึ่งส่อนัยเรื่องบนเตียงอย่างโจ่งครึ่ม แถมยังเป็นการส่อที่ไม่มีศิลปะเอาเสียเลย
-รางวัลพิเศษ (สำหรับภาพยนตร์ที่เต้นได้น่าเบื่อที่สุดแห่งปี) : From Justin to Kelly



อันดับ 6 Showgirls (1995)


 
ภาพยนตร์ที่จะเปิดโปงให้เห็นเบื้องหลังของนครแห่งแสงสีที่มีชื่อเรียก ขานกันว่าลาสเวกัส ในซอกหลืบ
ของบรรดาไนท์คลับที่มีชื่อเสียงไปจนถึงกระทั่งลีลาการโชว์บนเวที อันเย้ายวน โลกในยามค่ำคืนเป็นโลก
แห่งความใคร่, อำนาจ รวมไปถึงการเลือกทางเดินของมนุษย์ในสถานที่ที่ซึ่งทุกคนล้วนแล้วแต่มีราคา

มันพลาดตรงไหน?
มีฉากเซ็กต์มากเกินความจำเป็น IFC news ได้จัดอันดับ The Most Disturbing Sex Scenes of All Time
หรือ สุดยอดหนังที่มีฉาก Sex ชวนจิตตกตลอดกาล ทั้ง 15 อันดับและหนึ่งในนั้นมีหนังเรื่องรวมอยู่ด้วย 

มันส่งเริมเรื่องเพศมากเดินไปจนดูเหมือนไม่เป็นหนังศิลปะ นอกจากนี้ยังกวาดรางวัล
แรซซี่ อวอร์ดถึง 7 ใน 13 สาขา



อันดับ 5 Kolberg (1945)


 
หนังเกี่ยวกับอัตชีวประวัติของ Joachim Nettelbeck นายกเทศมนตรีของ Kolberg ที่ป้องกันเมือง
จากทหารฝรั่งเศสในปี 1807

มันพลาดตรงไหน?
หนังโฆษณาชวนเชื่อของนาซีเยอรมัน กำกับโดย Vrit Harlan และ wolfgang Liebeneiner เปิดตัวในปี
30 มกราคม 1945 ออกอากาศในสถานีของฮิตเลอร์ โดยตั้งใจเพิ่มขวัญกำลังใจทหารแต่ขอโทษเพราะ
หลายโรงหนังในประเทศเยอรมันโดนทำลายจากไฟสงครามเกือบหมด แถมต้นทุนการผลิตสูงถึง 8,000,000
ซึ่งเป็นหนังที่แพงที่สุดในยุคนาซี เช่นฉากหิมะที่ถ่ายทำในช่วงฤดูร้อน ต้องใช้รถบรรทุก 100 คนขนเกลือ
มารถ่ายทำ

และฉากสุดท้ายถ่ายทำใกล้ๆ เมืองที่อยู่ในสนามรบที่โดนระเบิดศัตรูต่อเนื่อง จนทีมถ่าย
เกือบเอาชีวิตไม่รอด




อันดับ 4 Glitter (2001)



หนังดัดแปลงจากประวัติของมารายห์ แครีเป็นนักร้องชาวอเมริกัน นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์เพลง และนักแสดง
โดยเธอแสดงเองเลย กำกับโดย วอนดี้ เคอร์ติส-ฮอลล์ พร้อมกับออกอัลบั้มเพลงขายคู่ด้วยกะว่าจะได้เงินเยอะๆ

ส่วนเนื้อหาประมาณว่าบิลลี่ แฟรงค์ (มารายห์ แครี) เป็นนักร้องสาวที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ เธอถูกแม่ทอดทิ้งไป
ตั้งแต่ยังแบเบาะ ชีวิตของเธอจึงเติบโตขึ้นมาในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า จูเลียน ซึ่งเป็นดีเจผู้แสนฟู่ฟ่าและ
มีความมั่นใจในตัวเองสูง ได้ชักนำให้บิลลี่มาเป็นนักร้อง ทั้งคู่กลายเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ และยังเป็นคู่รักกันด้วย

เมื่ออาชีพนักร้องของบิลลี่เริ่มอยู่ตัว เธอเริ่มรู้สึกว่าการจะก้าวสู่ความมีชื่อเสียงนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เส้นทางอาชีพ
ของเธอ นำเธอไปยืนอยู่ ณ จุดที่สูงเด่น แต่เธอก็ได้พบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับจูเลียนเริ่มเข้าสู่จุดวิกฤติ
เธอจึงเริ่มรู้สึกว่า เธอจะต้องทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อที่จะจัดการกับความรักและการงานของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เมื่อเธอมีชื่อเสียงโด่งดังขนาดนี้

มันพลาดตรงไหน?
หนังห่วยกวาดรางวัลหนังห่วยเพียบ บวกกับวันที่หนังและอัลบั้มออกนั้นดันอยู่ในช่วงวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001
(วันเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน) ทำให้ล้มเหลวรายได้และยอดขายอัลบั้มการเป็นสถิตเป็นอัลบั้มที่มียอดขายน้อยที่สุด
ในชีวิตของเธอในที่สุด




อันดับ 3 Batman&Robin(1997)


 
สองวีรบุรุษคู่หูปราบอธรรม แบ๊ทแมน (จอร์จ คลูนี่ย์) และ โรบิน (คริส โอดอนเนล) ต้องร่วมใจกันจัดการกับมิสเตอร์ฟรีซ
(อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์) และ พอยซั่น ไอวี่ (อูม่า เธอร์แมน) ซึ่งคิดจะยึดครองเมืองก็อธแธม

มันพลาดตรงไหน?
หนังซุปเปอร์ฮีโร่จากการ์ตูน ที่เลวร้ายที่สุดในซีรีย์ของแบทแมน และถูกตำหนิจากสังคมอเมริกันมาก ไม่ว่าจะเป็นตัวหนัง
ที่กลายเป็นแฟนตาซี, ตัวละครเล่นค่อนข้างแย่ ได้รับการโหวตอย่างถล่มทลายให้เป็นภาพยนตร์ยอดแย่ตลอดกาลมากที่สุด
และที่สุดในหัวข้อที่ตำหนิคือแบทแมนกับโรบินเป็นเกย์เหรอ?

ความจริงหัวข้อแบทแมนเป็นเกย์นี้ มีการวิจารณ์มานานแล้วนะครับ เมื่อปี 1954 นักจิตวิทยา เฟรดริค เวอร์แธม
ตีพิมพ์หนังสือชื่อ Seduction of the Innocent  เหตุผลวิเคราะห์เขาบอกว่าแบบนี้ครับ

-เริ่มจากชุดออกแบบของแบทแมนมันกระชับรัดแน่น เน้นย้ำสัดส่วนเพศชายเป็นพิเศษ พร้อมด้วยหัวนมยาง
บั้นท้ายกลมกลึง และกระจับนูนตรงส่วนสำคัญ

-พวกเขาใช้ชีวิตร่วมกันในคฤหาสน์สุดหรู ประดับตกแต่งด้วยแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ พร้อมสรรพด้วยพ่อบ้านมันเหมือน
ความฝันของการอยู่ร่วมกันระหว่างชายรักร่วมเพศสองคน

-บางครั้งโรบินจะถูกจับขังในกรง ถูกมัด หรือติดกับดักของผู้ร้าย และต้องรอคอยให้แบทแมนมาช่วยเหลือเหมือน
พวกนางเอกในนิยายอาชญากรรมอื่นๆ

-บรูซ เวย์น ชอบสวมชุดนอนและชุดผ้าคลุมยาวในบ้าน แล้วนั่งแนบชิดบนโซฟาเดียวกันกับเด็กหนุ่มในการดูแลของเขา

-ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ผู้กำกับแบทแมน Joel Schumacher พยายามสร้างหนังโดยแฝงให้แบทแมนและโรบินเป็นเกย์กัน
แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะประสบความสำเร็จโดยสามารถทำรายได้ไปประมาณร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้
ก็นำมาซึ่งคำพูดที่ว่า เป็นภาพยนตร์ที่สร้างได้แย่มาก คนด่าระนาว ทำให้ผู้กำกับต้องออกมาแถลงข่าวเสียใจที่ทำผิดพลาด
ในที่สุด



อันดับ 2 The Conqueror (1956)


           
หนังเล่าถึงนักรบมองโกลผู้ยิ่งใหญ่ "เจงกิสข่าน" (Genghis Khan) ผู้มีนามเดิมว่า "เตมูจิน" (Temujin)


มันพลาดตรงไหน?
คนแสดงเป็นเตมูจิน คือดัน John Wayne คาวบอย-อมตะนิรันดร์กาล มารับบท  ซึ่งก็พอทนได้ไม่น่าเกลียดจนเกินไป
แต่โดยรวมหนังก็โดนสับแหลกเพราะดูเป็นเจงกิสข่านสไตล์ลูกทุ่งบนหลังม้าแถบเท็กซัสมากกว่านักรบผู้เกรียงไกร
บนทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ กลายมาเป็นประวัติศาสตร์อีกหนึ่งหน้าในวงการมายาฐานะ "หนังดับของจอห์น เวย์น"
ทั้งๆ ที่ทุนการสร้างสูงถึง 12000000$ และเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่ Hughes ผลิต

นอกจากนี้กว่าหนังเรื่องนี้จะถ่ายทำเสร็จ มันเล่นเอาเดือดเช่นเดียวกับชื่อหนังนั้นแหละ

เรื่องของเรื่องคือ ปี 1950 ปีที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ทีมงานถ่ายทำหนังเรื่องนี้เกือบตายยกกอง ไล่ตั้งแต่ ซูซานเฮย์วาร์ด
โดนกลุ่มเสือดาวจู่โจมแต่โชคดีรอดมาได้ แล้วต่อมาก็เจออีกเมื่อบ้านผู้กำกับโดนไฟไหม้ แถมสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้
ที่ทะเลทรายใน เซ็นต์จอร์จ ยูทาห์บังเอิญพอดีที่ทางการสหรัฐทดลองระเบิดปรมาณูเสียอีก โดยทดลองไป 11 ลูก
(อะไรจะซวยขนาด) แถมเกิดขึ้นหลังหนังใกล้ถ่ายทำจบแล้ว ทำให้ทีมงานต้องดันทุรังถ่ายหนังต่อไป(ใกล้จุดทดลอง
ระเบิดนั้นแหละ)ท่ามกลางความร้อนถึง 120 องศาในทะเลทราย ทำให้โดนกัมมันตรังสีเต็มๆ


ทำให้ 2-3 ปี ต่อมา 91 คน จาก 220 สมาชิกกองถ่ายเป็นมะเร็ง และอีก 46 คนตายเพราะโรคนี้
รวมถึงดารานำและผู้กำกับ ซูซาน เฮย์วาร์ด และผู้กำกับ และทำให้ เปโดร อาร์เมนดาริซ ซึ่งเป็น
ดารานำเรื่องนี้ต้องฆ่าตัวตายอีกหลังทราบข่าวว่าเขาเป็นมะเร็ง




อันดับ 1 Inchon (1982)


 
เป็นหนังเกี่ยวกับสงครามเกาหลีในอินซอน กำกับโดย Terence Young โดยมีคริสตจักรสามัคคี,Inchon,หนังสือพิมพ์
มิตซูฮารุอิชิอิ ในการให้ทุน โดยหนังได้รับแรงบันดาลใจจากพระเจ้าที่ส้าวันหนึ่งซันเมียงมูน(คริสตจักรสามัคคี)ได้ยินเสียง
พระเจ้าให้สร้างหนังเพื่อให้โลกเกิดสันติ(อะไรประมาณนั้นแหละ) จนสร้างหนังนี้ขึ้นมา

มันพลาดตรงไหน?
ดูเหมือนว่านั้นคงมี่ใช่เสียงของพระเจ้าแล้วมั้ง น่าจะเป้นเสียงหายนะมากกว่า เพราะว่าหนังได้รับพิบัติเพียบเลย
ในระหว่างถ่ายทำ ไม่ว่าเป็น

-พายุที่กวาดประภาคารนันทนาการของ Inchon ต้องสร้างใหม่หมด

-สร้างที่จอดเรือชายหาด 2,000,000 ดอลลาร์

-ฉากฝูงคนในรถลีมูซีนที่ตัวละครตัวหนึ่งต้องถูกทำใหม่สามครั้ง ครั้งแรกไม่พอใจ ครั้งที่สองตรงกับช่วงแรก

สุดท้ายผู้ผลิตต้องจ้างสตูดิโอในดับลินทำฉากนี้โดยเฉพาะเป็นเงิน 3,000,000 ดอลลาร์

สุดท้ายกลายเป็น หนังไม่สมจริง ได้รับการจารึกว่าเป็นภาพยนตร์เกรดบีที่ทุนสร้างสูงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก
และเมื่อฉายในงานเทศกาลภาพยนต์เมืองคานส์ก็ไม่มีใครสนใจซื้อไปฉายเลย แม้มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ถึง
250,000 ดอลลาร์ก็ตาม จนกลายเป็นภาพยนต์ที่ขาดทุนที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ตัวหนังได้ผลตอบแทน
แค่ 2 ล้านเหรียญในสหรัฐ และแคนาดาเท่านั้น

ทั้งที่ทุนการสร้างถึง 44,000,000 ดอลลาร์ และกวาดรางวัลได้ 3 โกลเด้นราสเบอรี่