ป้องกันหน้าท้าพระอาทิตย์ด้วยครีมกันแดดทาหน้า สำหรับผิวหน้า

[donich]

   เกิดเป็นคนจะกลัวอะไรกับแดดฝน คำนี้ดูท่าจะไม่จริงเสียแล้ว เมื่อเจอฝนก็ยุคนี้เข้าไปความป่วยไข้ก็เข้ามาเยือนทันทีเช่นเดียวกับแดดที่เมื่อก่อนชาวนาเกษตรกรอดทน สู้แดดทำนาเลี้ยงลูกมาได้ แต่ได้ลองเจอแดดปีพ.ศ.นี้เข้าไปชักเริ่มหวั่น
   สำหรับคนมีอาชีพอยู่กับแดดยังเริ่มกลัวแดด แล้วคนอย่างเราๆ จะเหลืออะไร ก็หลบกันสิ เสื้อแขนยาวบ้าง ร่มบ้าง หมวกบ้างจัดกันไป เอาให้มิดแม้ลูกกะตายังต้องสวมแว่นกันแดด เอาเข้าไปสิ จึงมีคำถามว่าเราต้องหลบแดดไปจนถึงเมื่อไหร่ ...ตอบว่า รอให้ค่ำก่อนสิแล้วถึงไม่ต้องหลบ
   สรรหาครีมบำรุงแบรนด์ดังมาใช้ตั้งเยอะแต่พอเจอแดดทีเดียว ผิวหน้าถอยหลังกลับไปยังจุดสตาร์ท แบบนี้ยอมได้ซะที่ไหน รังสียูวีเอและยูวีบี ในแสงแดด สร้างทั้งรอยแดงไหม้ ความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้า กระ และรอยเหี่ยวย่น รังสีเหล่านี้ไม่มีเฉพาะกลางแดดเท่านั้น ยังสามารถทะลุผ่านเมฆผ่านกระจกเข้ามาในที่ร่มได้ด้วย จึงไม่ต้องแปลกใจไป นั่งทำงานในห้องหน้ายังโดนแสงแดดทำร้ายได้
   แทนที่จะถามว่าจะต้องหลบแดดไปจนถึงเมื่อไหร่ เปลี่ยนคำถามใหม่เป็น เลือกที่จะหลบแดดแบบไหนดีกว่ามั๊ย หากการหลบแดดด้วยหมวก  เสื้อผ้า ร่ม ไม่เวิร์ค เปลี่ยนไปหลบด้วย ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า คงจะ แถมยังสามารถเปิดเผยผิวหน้าได้โดยไม่ต้องกลัวหน้าดำอีกด้วย
   ครีมกันแดดทาหน้าเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้สาวๆรอดพ้นจากภัยแดด ครีมกันแดดทาหน้าจะมีสารป้องกันทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี จึงสามารถปกป้องใบหน้าจากรอยไหม้ จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ ฝ้ากระ และริ้วรอยได้ ครีมกันแดดมักจะแสดงค่าให้เราเห็นหลักๆ2 ค่าคือค่า PA หรือ Protection Grade of UVA ค่านี้แสดงถึงคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ (UVA) โดยจะมีเครื่องหมายบวกต่อท้ายมาด้วย แสดงเป็นเท่าของความสามารถป้องกันรังสี UVA และอีกค่าหนึ่งคือค่า SPF หรือ Sun Protection Factor เป็นค่าที่แสดงถึงประสิทธิภาพของการป้องกันผิวจากรังสียูวีบี UVB  ไม่ให้เกิดรอยแดงไหม้
   ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้านั้นมักจะมาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำ เพราะเมื่อไหร่ที่ครีมกันแดดเจอกับน้ำ ก็จะละลายหายไป ประสิทธิภาพในการปกป้องผิวหน้าก็จะสูญหาย ไปด้วย ครีมกันแดดที่กันน้ำ จึงเหมาะกับอากาศร้อนแบบเมืองไทย ที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่ความร้อนซึ่งเรียกเหงื่อได้อย่างดี
   มากกว่าการใช้ ครีมกันแดดทาหน้า ตอนนี้ความสามารถในการกันแดดถูกหยิบใส่ลงไปในแทบทุกผลิตภัณฑ์ เช่น การใส่สารกันแดดลงไปในลิปบาล์ม ครีมบำรุง หรือแม้แต่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแต่งหน้าดังนั้นหากหลบแดดให้ได้จริงๆ ก็ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่มีสารกันแดดผสมอยู่ด้วย สังเกตได้จากค่า SPF ที่ฉลากข้างกล่อง
   ไม่ใช่ว่าเมื่อใช้ ครีมกันแดดทาหน้า แล้วจะจับหมวก หยิบร่มทิ้งไป และไม่จำเป็นต้องหลบเลี่ยงแดดนะ เพราะถึงอย่างไรครีมกันแดดก็ไม่อาจจะช่วยป้องกันแดดได้ 100% การทาครีมกันแดดให้มีประสิทธิภาพต้องทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 30 นาที และทาแล้วก็ต้องทาซ้ำทุกๆ2 ชั่วโมง หากยังทำแบบนี้ไม่ได้หมวกเอยร่มเอย เสื้อผ้าเอย ก็ยังช่วยลดการการปองร้ายจากแดดได้ในระดับหนึ่ง
คุณผู้บริโภคสามารถดูข้อปลีกย่อยของผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.kiehls.co.th/th/skin-care/sun-care.html หรือเข้าเว็บไซต์ได้ที่ https://www.kiehls.co.th

[donich]

   เกิดเป็นคนจะกลัวอะไรกับแดดฝน คำนี้ดูท่าจะไม่จริงเสียแล้ว เมื่อเจอฝนก็ยุคนี้เข้าไปความป่วยไข้ก็เข้ามาเยือนทันทีเช่นเดียวกับแดดที่เมื่อก่อนชาวนาเกษตรกรอดทน สู้แดดทำนาเลี้ยงลูกมาได้ แต่ได้ลองเจอแดดปีพ.ศ.นี้เข้าไปชักเริ่มหวั่น
   สำหรับคนมีอาชีพอยู่กับแดดยังเริ่มกลัวแดด แล้วคนอย่างเราๆ จะเหลืออะไร ก็หลบกันสิ เสื้อแขนยาวบ้าง ร่มบ้าง หมวกบ้างจัดกันไป เอาให้มิดแม้ลูกกะตายังต้องสวมแว่นกันแดด เอาเข้าไปสิ จึงมีคำถามว่าเราต้องหลบแดดไปจนถึงเมื่อไหร่ ...ตอบว่า รอให้ค่ำก่อนสิแล้วถึงไม่ต้องหลบ
   สรรหาครีมบำรุงแบรนด์ดังมาใช้ตั้งเยอะแต่พอเจอแดดทีเดียว ผิวหน้าถอยหลังกลับไปยังจุดสตาร์ท แบบนี้ยอมได้ซะที่ไหน รังสียูวีเอและยูวีบี ในแสงแดด สร้างทั้งรอยแดงไหม้ ความหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้า กระ และรอยเหี่ยวย่น รังสีเหล่านี้ไม่มีเฉพาะกลางแดดเท่านั้น ยังสามารถทะลุผ่านเมฆผ่านกระจกเข้ามาในที่ร่มได้ด้วย จึงไม่ต้องแปลกใจไป นั่งทำงานในห้องหน้ายังโดนแสงแดดทำร้ายได้
   แทนที่จะถามว่าจะต้องหลบแดดไปจนถึงเมื่อไหร่ เปลี่ยนคำถามใหม่เป็น เลือกที่จะหลบแดดแบบไหนดีกว่ามั๊ย หากการหลบแดดด้วยหมวก  เสื้อผ้า ร่ม ไม่เวิร์ค เปลี่ยนไปหลบด้วย ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้า คงจะ แถมยังสามารถเปิดเผยผิวหน้าได้โดยไม่ต้องกลัวหน้าดำอีกด้วย
   ครีมกันแดดทาหน้าเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้สาวๆรอดพ้นจากภัยแดด ครีมกันแดดทาหน้าจะมีสารป้องกันทั้งรังสียูวีเอและยูวีบี จึงสามารถปกป้องใบหน้าจากรอยไหม้ จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ ฝ้ากระ และริ้วรอยได้ ครีมกันแดดมักจะแสดงค่าให้เราเห็นหลักๆ2 ค่าคือค่า PA หรือ Protection Grade of UVA ค่านี้แสดงถึงคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากรังสียูวีเอ (UVA) โดยจะมีเครื่องหมายบวกต่อท้ายมาด้วย แสดงเป็นเท่าของความสามารถป้องกันรังสี UVA และอีกค่าหนึ่งคือค่า SPF หรือ Sun Protection Factor เป็นค่าที่แสดงถึงประสิทธิภาพของการป้องกันผิวจากรังสียูวีบี UVB  ไม่ให้เกิดรอยแดงไหม้
   ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้านั้นมักจะมาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำ เพราะเมื่อไหร่ที่ครีมกันแดดเจอกับน้ำ ก็จะละลายหายไป ประสิทธิภาพในการปกป้องผิวหน้าก็จะสูญหาย ไปด้วย ครีมกันแดดที่กันน้ำ จึงเหมาะกับอากาศร้อนแบบเมืองไทย ที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่ความร้อนซึ่งเรียกเหงื่อได้อย่างดี
   มากกว่าการใช้ ครีมกันแดดทาหน้า ตอนนี้ความสามารถในการกันแดดถูกหยิบใส่ลงไปในแทบทุกผลิตภัณฑ์ เช่น การใส่สารกันแดดลงไปในลิปบาล์ม ครีมบำรุง หรือแม้แต่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแต่งหน้าดังนั้นหากหลบแดดให้ได้จริงๆ ก็ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆที่มีสารกันแดดผสมอยู่ด้วย สังเกตได้จากค่า SPF ที่ฉลากข้างกล่อง
   ไม่ใช่ว่าเมื่อใช้ ครีมกันแดดทาหน้า แล้วจะจับหมวก หยิบร่มทิ้งไป และไม่จำเป็นต้องหลบเลี่ยงแดดนะ เพราะถึงอย่างไรครีมกันแดดก็ไม่อาจจะช่วยป้องกันแดดได้ 100% การทาครีมกันแดดให้มีประสิทธิภาพต้องทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 30 นาที และทาแล้วก็ต้องทาซ้ำทุกๆ2 ชั่วโมง หากยังทำแบบนี้ไม่ได้หมวกเอยร่มเอย เสื้อผ้าเอย ก็ยังช่วยลดการการปองร้ายจากแดดได้ในระดับหนึ่ง
คุณผู้บริโภคสามารถดูข้อปลีกย่อยของผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.kiehls.co.th/th/skin-care/sun-care.html หรือเข้าเว็บไซต์ได้ที่ https://www.kiehls.co.th