เรื่องประหลาดของ วงการอาหาร

เรื่องประหลาดของ วงการอาหาร

เริ่มโดย etatae333, 03 สิงหาคม 2018, 13:25:56

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

เรื่องประหลาดของ วงการอาหาร
cr. cammy@dek-d

กาแฟที่สุดในโลกมาจากขี้ชะมด
   


กาแฟนี้มีชื่อว่า โคปี ลูแว็ค (Kopi Luwak) เป็นกาแฟโรบัสต้าชนิดหนึ่ง และเป็นกาแฟที่แพงที่สุดในโลก
เนื่องจากมีกระบวนการผลิตที่ยุ่งยากและแปลกประหลาด มีการออกสู่ตามท้องตลาดปีละ 500 ปอน ต่อปี
เนื่องจากปริมาณน้อยจึงแพงเป็นธรรมดา ราคากิโลกรัมละ 41,000 บาท ก้าขายเป็นแก้วจะราคา 5 เหรียญสหรัฐ
และผลิตไม่กี่แห่งในโลกประเทศอินโดนีเซีย ที่เกาะสุมาตรา (Sumatra) , เกาะจาวา ( Java ) เกาะสุลาเวสี
( Sulawesi ) ประเทศฟิลิปปินส์ ( จะเรียกกาแฟชนิดนี้ว่า Kape Alamid ) ประเทศทิมอร์ ( จะเรียกกาแฟ
ชนิดนี้ว่า kafé-laku )  ประเทศเวียดนาม ( จะเรียกกาแฟชนิดนี้ว่า weasel coffee )

   
แต่สิ่งที่เหลือเชื่อของกาแฟชนิดนี้คือมันมาจากขี้ชะมด โดยการทำกาแฟนี้จำเป็นต้องมีชะมดสายพันธุ์เอเชีย
(Asia Palm Civet) หรือ "ลูแว็ค" โดยนำเม็ดกาแฟสุกให้ชะมดกินเมื่อชะมดกินเม็ดกาแฟเข้าไป กรดและ
เอนไซม์ในกระเพาะอาหารของชะมดทำปฏิกิริยาทางเคมี คล้ายกับการหมัก(Fermentation) รอชะมด
ถ่ายมูลออกมา แล้วตามเก็บ แต่สามารถรวบรวมได้ค่อนข้างง่าย เนื่องจากชะมดมีนิสัยขับถ่ายในสถานที่เดิมๆ เสมอ
จากนั้นนำมูลที่ได้มาเลือกเฉพาะเม็ดกาแฟไปตากให้แห้ง แล้วนำไปคั่วจนแห้งสนิด เป็นอันจบขบวนการผลิต โคปิ ลูแว็ค

ส่วนสาเหตุที่มันอร่อย ก็เนื่องมากจากขบวนการย่อยอาหารของชะมด ทำให้โปรตีนในเมล็ดกาแฟแตกตัวเป็น
โมเลกุลขนาดเล็ก นอกจากนี้ทำให้โปรตีนบางชนิดในเม็ดกาแฟถูกสกัดออกมาในขบวนการย่อยของชะมด
เวลาเอาเม็ดกาแฟนี้ไปคั่วจะมีกลิ่นหอมพิเศษและรสชาติขมน้อยลง



เมนูอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก
   


อาหารนี้มีชื่อว่า "อูฐยัดไส้ (Stuffed Camel)" เป็นอาหารที่ประกอบไปด้วย อูฐหนึ่งตัว ลูกแกะลูกแกะ หนึ่งตัว
และไก่ 20 ตัว เนื่องด้วยปริมาณเครื่องปรุงขนาดนี้ทำให้หนังสือกินเนสส์บุ๊คถึงกับต้องบันทึกไว้ว่า นี่เป็นเมนูอาหาร
ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีตัวอย่างแน่ชัดว่าจานเด็ดชนิดนี้มีอยู่จริงหรือไม่


ตำนานกล่าวไว้ว่า..อูฐยัดไส้เป็นอาหารดั้งเดิมของชาวอาหรับที่ใช้ชีวิตท่องไปตามทะเลทราย โดยมีวิธีการปรุงไม่ต่าง
จากการทำตุ๊กตารัสเซียนัก เริ่มแรก พวกเขาจะนำไก่มายัดไส้ด้วยข้าวและไข่ จากนั้น เอาไก่ทั้งตัวไปใส่ไว้ในลูกแกะ
แล้วก็เอาลูกแกะทั้งตัวที่ยัดไส้ไก่ไปใส่ไว้ในอูฐอีกที หลังจากนั้น ก็นำไปย่างจนกระทั่งสุกและรับประทาน เป็นอันเสร็จพิธี
ถือได้ว่าเป็นอาหารแปลกที่หลายๆ คนอยากจะเห็นทีเดียว
   


เก็บความลับได้ไงตั้ง 18 ปี
   


หวานเย็นแท่งเป็นน้ำหวานที่เอาไปแช่แข็งพอได้ที่ก็ออกมาเป็นแท่ง ที่มาของหวานชนิดนี้เริ่มต้นเมื่อฤดูหนาว ปี 1905
เด็กชายแฟรงก์ เอ็พเพอร์สัน อายุ 11 ปี ได้ผสมโซดาป๊อปกับน้ำทำกินเล่นด้วยความบังเอิญ เค้าลืมส่วนผสมพร้อมไม้
คนไว้ทั้งคืน ที่หน้าระเบียง แล้วเผอิญว่าตอนนั้นเป็นช่วงฤดูหนาว และอากาศข้างนอกหนาวมากๆ


รุ่งเช้าจึงพบว่าส่วนผสมโซดาป๊อปกลายเป็นแท่งน้ำแข็งที่มีไม้เสียบไปแล้ว เขาดึงแท่งไม้ที่มีแท่งน้ำแข็งแสนอร่อยหุ้ม
อยู่ออกมาจากภาชนะ จึงรู้ว่าตนเองได้ค้นพบอะไรที่น่าตื่นเต้นด้วยความบังเอิญเสียแล้ว

แฟรงก์ เรียกเจ้าสิ่งนี้ว่า "เอ็พเพอร์สัน ไอซิเคิล" (Epperson Icicle)  ต่อมาเค้าเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ว่า "เอ็พซิเคิล"
(Epsicle)และเก็บความลับเรื่องนี้มาเป็นเวลา18ปีกว่าที่โลกจะรู้วิธีทำและฮิตขนาดนี้

ตั้งแต่นั้นมาในฤดูร้อน เขาจะทำ Epsicle ในกล่องน้ำแข็งที่บ้าน เป็นแท่งหวานเย็นออกขายให้เพื่อนบ้านราคา
แท่งละ 5 เซนต์ และชาวบ้านเรียกชื่อใหม่ว่า "ป๊อปซิเคิล" (Popsicle)



มะพร้าวใช้แทนเลือดได้   
   


มะพร้าวเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าต่อร่างกายจริงๆ สามารถทำประโยชน์ต่อเราได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชำระล้าง, ช่วยรักษา
และให้พลังงาน ในน้ำมะพร้าวใช้เป็นเครื่องดื่มที่ให้เกลือแร่ได้ เนื่องจากอุดมไปด้วยโปรแทสเซี่ยมและสารละลายไอโซโทนิก
(สารละลายที่มีความเข้มข้นเท่ากับภายในเซลล์ ซึ่งไม่ทำให้เซลล์เสียรูปทรง) ด้วยเหตุนี้ น้ำมะพร้าวจึงเป็นน้ำชนิดเดียว
ที่สามารถฉีดเข้าหลอดเลือดดำ เพื่อทดแทนการขาดน้ำหรือใช้แทนเลือดมนุษย์ในกรณีที่เกิดปริมาณเลือดลดลงได้





กินผักก็บาป


   
บรรดานักมังสวิรัติทั้งหลายที่ไม่ยอมกินเนื้อ เพราะเกรงว่าจะเป็นบาป เนื่องจากเนื้อนั้นได้มาเพราะมีการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
หรือกลัวที่สัตว์ต้องค่อยๆ ถูกฆ่าให้ตายอย่างทรมานนั้น เห็นที่จะต้องหยุดกินผักและผลไม้ด้วย


ดร. อดัม เบล็กลีย์ ตัวแทนเหล่านักวิทยาศาสตร์ผู้วิจัยเรื่อง "ความเจ็บปวดของพืชพันธุ์" ที่ได้ใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์
วัดความสั่นไหวเป็นพิเศษในพืชผัก แล้วสรุปว่าพืชผักจะทรมานมากขณะที่อยู่กระบวนการปรุงอาหาร เช่น ต้มหรือทอด
เขายกตัวอย่างที่น่าสยอดสยองว่า

"ยกตัวอย่างเช่น บร็อกโคลี่เมื่อถูกตัดมาจากแปลง มันจะทรมานอยู่ตลอดเวลาจนกว่าเหี่ยวเน่าเฉาตาย
และเมื่อคุณต้มหรือผัดมันกว่าจะสุกนั้นแหละ คือช่วงเวลาที่เจ็บปวดทรมานที่สุดของบร็อกโคลี่"


อีกตัวอย่าง

"เมื่อผลส้มยังห้อยอยู่บนกิ่ง มันจะรู้สึกสงบผ่อนคลาย และสนุกกับชีวิตที่มีอยู่แต่เมื่อเราเด็ดมันจากต้น มันจะกรีดร้อง
ด้วยความเจ็บปวด และเมื่อเราปอกเปลือกมันมันจะทรมานมากยิ่งขึ้น ซึ่งเครื่องวัดระดับของเราจะแสดงระดับความสั่นไหว
ที่พุ่งสูงขึ้นเลยขีดสูงสุดที่เรามีในตารางเสียอีก"


"แต่เป็นเพราะมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นความทรมานของมันได้ด้วยตาจึงไม่รู้ ทว่า..เครื่องมือของเราสามารถพิสูจน์ได้
อย่างชัดแจ้ง ถ้าจะเปรียบเทียบแล้ว กินสลัดสัปดาห์ละครั้ง ยังสร้างความเจ็บปวดต่อพืชพันธุ์มากกว่ากินแซนด์วิชไก่
ทุกวันเสียอีก"


สรุปคือนี้ตรูจะกินอะไร(ว่ะ)นั้น



ซอสที่เผ็ดที่สุดในโลก


   
เราวัดความเผ็ดว่า สโกวิลล์ ( Scoville heat unit) ซึ่งชื่อนี้ได้มาจากนักเคมีนามว่าWilbur Scovill เช่นพริกไทยของ
ไทยเรานั้นได้รับการวัดค่าความเผ็ดออกมาที่ระดับ 100,000-350,000 Scoville Units

   
ซอสที่เผ็ดที่สุดในโลกนั้น คือ Blair's 16 million ที่บรรจุเป็นขวดแก้วใส ผนึกผาถูกปิดด้วยขี้ผึ้งสีทอง มันมีความเผ็ดถึง
16,000,000 หน่วยความเผ็ดร้อนสโกวิลล์ เวลจะนำมากินนั้นจะพบว่าดูยังไงก็ไม่ใช่ซอสเนื่องจากมันเป็นผลึกเหมือนเกล็ดน้ำตาล
เนื่องจากน้ำซอสนั้นจะถูกเคี้ยวจนตกเป็นผลึกเก็บไว้ในหลอดพลาสติก  แต่กระนั้นความเผ็ดของมันไม่ได้ลดลงเลย ความเผ็ด
ของมันนั้นสามารถทำให้ผิวไหม้ไหม้ได้หากสัมผัสเปล่าๆ และถ้ากินเปล่าๆ ก็อาจตายได้เช่นกัน เวลาจะใส่อาหารก็ควรสวม
ถุงมือยางและใช้คีมหยิบเกล็ด Blair's 16 million ใส่อาหาร 1-2 เม็ดก็พอ




คดีฟ้องร้อง "อะไรอยู่ในอาหาร"
   


ที่อเมริกามีคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับอาหารฟาสต์ฟูตจำนวนมากมาย  และนี้คือตัวอย่างในคดีฟ้องร้อง "อะไรอยู่ในอาหาร"
ที่ดูแต่ละอันดับแล้วก็ไม่น่าเชื่อว่า "มันหล่นเข้าไปอยู่เข้าไปข้างในได้ไงเนี้ย"


- แอนนา อยาลา (Anna Ayala) ได้เรียกร้องสิทธิว่าเธอไปกัดปลายนิ้วมือมนุษย์เข้าในพริกที่อยู่ในจานแพ็ตที่เธอซื้อมา
จากร้าน Wendy's in San Jose ซุปเปอร์มาเก็ตชื่อดัง เมื่อเดือนมีนาคม 2005 โดยเธออ้างว่านิ้วมือนี้เป็นของลูกจ้างร้านนั้น
แต่จากการตรวจสอบว่าเป็นนิ้วของอยาลาน่ะแหละ(ดูจากพิมพ์ลายนิ้วมือ) เลยโดนจับตามระเบียบ เธอถูกตัดสินให้จำคุกเก้าปี
ส่วนสามีของเธอถูกตัดสิน 12 ปี(มันลงทุนไม่ได้เรื่องเลยวุ้ย)



- นายเปรโดร(Pedro Sanchez) คนงานที่ ทาโคเบล แห่งมลรัฐซานตามาเรีย แคลิฟอเนีย แก้ตัวในคดีอาญาฐานทำร้าย
เจ้าพนักงาน โดยเอาอายุ 17 เอาสีสเปรย์ใส่อาหารให้ เจ้าหน้าที่มาร์ติน เลเดสมา กิน จนเขาป่วยมาหลายวันหลังจากนั้น
ซานเชซ ให้การกับ พนักงานสอบสวนว่าเขาวางยาพิษ หลังจากนั้นเขาถูกตัดสินโทษจำคุก 9 เดือน  และนี้เป็นสิ่งซึ่งเขา
ได้รับหลังเรียนจบไฮสคูล

- ในเดือนพฤษภาคม  2005, Clarence Stowers แห่ง Wilmington, N.C.,ตอนนั้นเขากำลังกินคัสตาร์ดช็อกโกแล็ต
ในพินท์(พุดดิ้ง)ยี่ห้อของ Kohl's Frozen  อย่างเอร็ดอร่อย แต่ทันใดนั้นเอง เขาก็กัดสิ่งหนึ่งแปลกๆ ในเนื้อขนมเข้า
ตอนแรกเขานึกว่าเป็นออฟชั่นเสริมพุดดิ้ง เขาเลยหยิบสิ่งนั้นมาอมเข้าในปาก



"ผมคิดว่ามันลูกกวาดเคลือบน้ำตาลแบบที่เขาวางในไอติมนะครับมันเหมือนจริงๆ....พอผมอมไปอมมา แล้วก็รู้สึกแปลกๆ
เอ้ยทำไมรสไม่เหมือนลูกกวาด(ว่ะ) เลยคายและหยิบขึ้นมาพิจารณาดู อ้าวนี้มันนิ้วมือคนนี้หว่า!!"


Stowers เลยแจ้งคนมาตรวจสอบ จากการสอบสวนก็พบว่านิ้วมือนั้นเป็นของคนงานคนหนึ่งที่เกิดอุบัติเหตุเพราะเครื่องจักร
ตัดนิ้วมือขณะทำงาน  และตอนนี้ Stowers กำลังวางแผนฟ้องร้องร้านอาหารนี้อยู่ และเขาเก็บนิ้วมือเจ้าปัญหานี้ไว้ในตู้เย็น
ของเขาเพื่อใช้เป็นหลักฐานต่อไป

- มิถุนายน 2005 Penny Needham แห่งแมดิสัน Twp., จาก Ohio ออกมาฟ้องแม็กโดนัลด์มลรัฐโอไฮโอ ตอนนั้นเธอ
สั่งชีสเบเกอร์เมนูโปรดของเธอ ระหว่างที่เธอกัดหนึ่งอ่ะไม่เป็นไรจ้า แต่คำที่สองนี้สิฟันเธอแทบหัก เมื่อเธอพบว่าเธอกัดไป
โดนโลหะ อะไรหว่า....เธอหยิบมาดู ว้ายต๊ายตายนี้มันพวงกุญแจพวงกุญแจมีฉากร่วมเพศโจ่งครึ่มนี้หว่า(เขาก็ไม่บอกว่าพวง
กุญแจรูปร่างอะไร) กริ๊ดๆ.... ภายหลังเธอได้อธิบายใน Dayton รายวันว่า

"มันจะฆ่าฟันฉัน(It about killed my teeth,)"

แต่กระนั้นตำรวจก็ยังนิ่งเงียบในการสอบสวนนี้

- May Deal Chambers Johnson ฟ้องภัตตราคาร Applebee's ใน เจฟเฟอร์สัน La เดือนมิถุนายน 2005,
เมื่อเธอพบปลายนิ้วมนุษย์ในยำผักของเธอ เธออธิบายว่าเธอเดือดร้อนมากน่ะ เพราะการพบนิ้วคนในอาหารนั้นทำให้เธอ
ไม่สามารถกินข้าวใกล้บ้านของเธอได้อีกต่อไปแล้ว ส่วนนิ้วมือเจ้าปัญหานั้นปัจจุบันถูกเก็บไว้ในตู้เย็นในสำนักงาน
ทนายความของเธอเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีต่อไป

- Jacqueline Rowland และ Jon McQuater ลูกจ้างที่  Burger King ในเขตมหาลัยออคฟอร์ด ถูกฟ้องร้องในข้อหา
ทำกิริยาถ่อยกับอาหาร หลังจาก McQuater ถ่มน้ำลายอย่างน่าสงสัยในแซสวิสไก่ของตำรวจ ในวันที่  4 มิถุนายน 2004



- ที่นิวเม็กซิโก สองนายตำรวจกำลังหิว หลังจากทำงานและมีเรื่องกับ Mark Landavazo และ Henry สองลูกจ้างของ
เบอร์เกอร์คิงเข้าเพราะพวกเขาได้โปรยส่วนผสมพิเศษลงเบอร์เกอร์พวกเขานั้นคือกัญชา ซึ่งพวกเขากินแฮมเบอร์เกอร์นั้น
กว่าครึ่งอัน เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2006พวกเขาฟ้องร้องเบอร์เกอร์คิงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่