ปล่อยนกปล่อยปลา ทำคุณบูชาโทษ

ปล่อยนกปล่อยปลา ทำคุณบูชาโทษ

เริ่มโดย j007, 26 มิถุนายน 2010, 15:50:27

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

j007

"ปล่อยนกปล่อยปลา ทำคุณบูชาโทษ" โดย "คุณฐิติขวัญ คุยกับ ดร.สนอง วรอุไร" จากหนังสือ "ซีเคร็ต"

มีคนถามคำถามเข้ามาถึง คุณฐิติขวัญ เหลี่ยมศิริวัฒนา เรื่อง "การปล่อยนก ปล่อยปลา ค่ะ"
อยากเรียนถามอาจารย์ เรื่องการปล่อยนกปล่อยปลาโดย ละเอียดว่ามีอานิสงส์อย่างไร และเราควรปล่อยสัตว์อะไรมากที่สุด หาซื้อที่ไหน ปล่อยที่ไหน อย่างไรคะ เพื่อให้ได้บุญจริงและไม่ให้การกระทำจากเจตนาที่ดีกลายเป็นบาป โดยไม่ได้ตั้งใจ ขอบคุณค่ะ
อาจารย์คะ การปล่อยสัตว์ เช่น ปล่อยนก ปล่อยปลา แบบที่คนทั่วไปนิยมทำกันนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร และมีอานิสงส์ อย่างไรคะ

การปล่อยชีวิตนั้นเป็นบุญ เช่น วัวกำลังจะถูกนำไปเข้าโรงฆ่า ถ้าเราไปไถ่ชีวิตเขา เราก็จะได้บุญจากการให้ชีวิตเป็นทาน ซึ่งมีอานิสงส์ทำให้เรามีชีวิตที่เป็นอิสระ อย่างไรก็ตาม ระหว่างการปล่อยสัตว์กับการไม่เบียดเบียนสัตว์ ขวัญต้องคิดดูว่าสิ่งไหนดีกว่ากัน อาจารย์ว่า ถ้าเลือกได้ การปล่อยให้สัตว์อยู่กันตามธรรมชาติโดยไม่ไปเบียดเบียนเขาน่าจะดีกว่า เพราะเมื่อเราไม่ไปเบียดเบียนเขา ไม่จับเขามากักขังให้หมดอิสรภาพ เราก็ไม่จำเป็นต้องไปปล่อยเขา ใช่ไหม



แล้วทำไมจึงมีคำแนะนำให้คนที่มีเคราะห์หรือว่าดวงไม่ค่อยดี ไปปล่อยนกปล่อยปลาล่ะคะ

เขาแนะนำก็ถูกของคนที่แนะนำ แต่ไม่ถูกสำหรับผู้รู้ เพราะตามวิถีพุทธที่แท้ ถ้าดวงไม่ดี เราสามารถทำดวงให้ดีขึ้นได้ด้วยการ ให้ ทาน รักษาศีล และเจริญจิตภาวนา เมื่อทำครบทั้งสามอย่างน้แล้ว เมื่อใดที่บุญให้ผล รับรองว่าดวงดีแน่นอน ดังนั้นเวลาใครแนะนำอะไร เราต้องใช้ปัญญาพิจารณาก่อน อย่าเพิ่งปลงใจเชื่อ



แต่การปล่อยนกปล่อยปลาก็ถือว่าเป็นทาน ไม่ใช่หรือคะอาจารย์

การปล่อยสัตว์ถือว่าเป็นทานที่มีอานิสงศ์ เป็นบุญเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นเมื่อเทียบกับการปฏิบัติธรรม ซึ่งมีอานิสงส์เป็นบุญที่ใหญ่ที่สุด
เพราะเป็นการทำชีวิตให้เป้นอิสระจากสิ่งร้อยรัด ซึ่งต้องทำเหตุให้ถูกตรงตามธรรม ด้วยการรักษาศีลแล้วเจริญสติและวิปัสสนาปัญญาให้กล้าแข็ง แล้วใช้สติปัญญาเห็นแจ้งหรือที่เรียกว่า "สติสัมปชัญญะ" เป็นเครื่องส่องนำทางชีวิต เมื่อสติสัมปชัญญะของเรากล้าแข็ง เราจะเห็นว่าสิ่งกระทบที่เข้ามาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เมื่อกระทบจิตแล้วก็อนัตตา คือไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ทำให้จิตใจยึดเอาสิ่งกระทบเข้าปรุงเป็นอารมณ์ จึงเป็นอิสระจากสิ่งกระทบทั้งปวง

ดังนั้นหากเราต้องการได้บุญด้วยการปล่อยนกปล่อยปลา สู้เราไปสร้างเหตตุให้เกิดบุญใหญ่ที่สุด ด้วยการ "ปฏิบัติธรรม" เสียยังดีกว่า เพราะการปฏิบัติธรรมสามารถพัฒนาจิตให้เข้าถึง "นิพพาน" ได้ ดีกว่าการปล่อยสัตว์เป็นทานซึ่งเป็นการทำเหตุให้เกิดเป็นบุญเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น



แล้วถ้าเราไปเห็นสัตว์ที่กลังจะถูกฆ่าแล้วเกิดสงสาร ต้องการช่วยเหลือมันล่ะค่ะ

อย่างนี้ทำได้ แต่ต้องพิจารณาให้ดีด้วยว่า จะนำเขาไปปล่อยที่ไหน อย่างไร เพื่อให้สัตว์นั้นสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างปกติสุข โดยไม่ถูกจับมาเป็นเครื่องมือหากินของมนุษย์ หรือนำมาเป็นอาหารอีก ยกตัวอย่างเช่น ปลาไหล หากเรานำไปปล่อยลงในแม่น้ำ เขาก็อาจจะตายได้ หรือปลาดุกน้ำจืด หากนำไปปล่อยลงทะเลาเขาก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นก่อนจะปล่อยสัตว์ให้ป็นอิสระจึงต้องพิจารณาสถานที่ปล่อยให้เหมาะสม ด้วย



ถ้าเราเห็นสัตว์ที่ถูกจับมาขายเพื่อให้คนซื้อไปปล่อย แล้วรู้สึกสงสารล่ะคะอาจารย์ เราสามารถช่วยมันด้วยการซื้อมาปล่อยได้ไหม

อย่างนี้ถือว่าเป็นการสนับสนุนคนที่จับสัตว์มาขาย ทำให้เราต้องเข้าไปร่วมกระบวนกรรมกับเขาด้วย เพราะบางเจ้านอกจากจะไปจับสัตว์มาขังกรงแล้ว ยังนำยาเสพติดให้สัตว์เหล่านั้นกิน เพื่อให้มันติดยา เมื่อสัตว์ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระแล้ว ความอยากเสพสิ่งเสพติดยังมีอยู่ จึงต้องย้อนกลับมาหาคนขายอยู่เรื่อยไป ดังนั้นการที่เราไปซื้อสัตว์เหล่านี้มาปล่อย ก็เท่ากับว่าเราได้เข้าไปร่วมกระบวนกรรมที่เป็นบาปกับคนขายไปด้วย



แล้วถ้าเขาไม่ได้จับสัตว์มาขาย แต่ว่าเพาะขึ้นมาขายเองล่ะคะ บาปไหมคะ

บาปสิ เพราะแม้จะเพาะขึ้นมาเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นเจ้าของชีวิตสัตว์เหล่านั้น ดังนั้นการไปกักขังหน่วงเหนี่ยวสัตว์เหล่านั้นไว้จึงเป็นบาป เพราะเป็นการทำให้ชีวิตของผู้อื่นไม่มีอิสระ อีกทั้งยังเป็นการพรากลูกพรากแม่เขาอีกด้วย

การพรากลูกพราะแม่ถือว่าเป็นบาป อาจารย์มีเรื่องจริงจะเล่าให้ฟัง มีอยู่ครอบครัวหนึ่งประกอบอาชีพทำฟาร์มเพาะลูกสุนัขขาย เขาสั่งซื้อพ่อพันธุ์สุนัขที่มีประกาศนียบัตรรับรองคุณสมบัติมาจากต่าง ประเทศ แล้วนำมาผสมกับแม่ลูกสุนัขสายพันธุ์เดียวกันที่เกิดในประเทศ สุนัขทั้งหมดได้รับการเลี้ยงดูด้วยอาหารอย่างดี แต่ถูกกักขังอยู่ในกรงแคบๆ เมื่อแม่พันธุ์สุนัขคลอดลูกออกมาแล้ว ลูกสุนัขก็ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีเช่นกัน จนกระทั่งเติบใหญ่และหย่านม เจ้าของฟาร์มจึงโทรศัพท์ไปบอกให้คนขายสุนัขมารับเอาลูกสุนัขไป ในวันที่คนขายมารับเอาลูกสุนัขทั้งครอกไปจากฟาร์ม เช่อไหมว่า แม่สุนัขน้ำตาไหลย้อยเลย เมื่อเห็นคนมาพรากลูกของมันไป

กรรมจากการเพาะพันธุ์สุนัขขายนั้น ทำให้สองสามีภรรยาเจ้าเของฟาร์มไม่มีบุตร และธิดาสืบสกุล ต่อมาทั้งสองคงสำนึกได้ในบาปที่ตัวเองก่อขึ้น จึงเลิกอาชีพเพาะสุนัขขายในที่สุด



แต่การเพาะสัตว์ไม่ถือว่าเป้นการให้ชีวิตหรอกหรือคะอาจารย์

ไม่ถือว่าเป็นการให้ชีวิต เพราะไม่ว่าเราจะเข้าไปจัดการหรือไม่ ชีวิตสัตว์ย่อมเกิดขึ้นมาได้ด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว



อย่างนี้คนที่ทำอาชีพค้าขายสัตว์ หรือว่าร่วมสนับสนุนการจับสัตว์มาขาย จะต้องได้รับผลกรรมอย่างไรล่ะคะ

ผู้ใดที่ทำให้ชีวิตผู้อื่นขาดอิสรภาพ บุคคลนั้นย่อมสูยเสียอิสรภาพไปด้วย เช่น อาจจะถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ต้องหลบซ่อนตัว หรือว่าเจ็บไข้ได้ป่วย ทำให้อึดอัด ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ เช่นเดียวกับสัตว์ที่ถูกเขาจับมากักขังนั่นเอง

ดังนั้นขวัญควรจะบอกคนที่ถามปัญหาเข้ามาว่า อย่าเลือกทำบุญด้วยวิธีนี้เลย เพราะถ้าวัตถุประสงค์ของเขาคือการมีชีวิตที่เป็น "อิสระ" แล้วละก็ สู้ไปทำเหตุให้ถูกตรงด้วยการ "ปฏิบัติธรรม" จะดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับการสร้างบาปโดยไม่รู้ตัว

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Keijikung

มันเป็นความสบายใจส่วนตัวหว่ะ อย่างน้อยเราทำด้วยใจบริสุทธิ์ บาปไม่บาปน่าจะอยู่ที่คนขายมากกว่า น๊อะะะะะ  /jhtdc /jhtdc
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

j007

^
^
^
เหมือนกับการเที่ยว ออน. นั่นหล่ะ...... ,mnnb
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Keijikung

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

j007

^
^
^
อ่ะ อ่านอีกรอบ....

อ้างจาก: Keijikung เมื่อ 26 มิถุนายน 2010, 15:59:50
มันเป็นความสบายใจส่วนตัวหว่ะ อย่างน้อยเราทำด้วยใจบริสุทธิ์ บาปไม่บาปน่าจะอยู่ที่คนขายมากกว่า น๊อะะะะะ  /jhtdc /jhtdc

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

ilovesupreme

ส่วนตัวผมไม่ทำบุญลักษณะนี้น่ะครับ เห็นแล้วหดหู่ใจแทน
อีกอย่างเสียดายเงินมากกว่า
ปล่อยเสร็จก็ไปไล่จับมาขายอีก ผมว่ามันก็เป็นธุรกิจมากกว่าทำบุญ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

j007

^
^
^
ขอความกรุณาให้ความเคารพด้วยครับ
ห้องนี้ ห้องธรรมะ เราจะโพสแต่สาระดีๆ และ ผมก็ตั้งกฏไว้แล้ว

กรุณาอย่าผิดกฏ ถ้าเจอคราวหน้า ผมลบกระทู้นะครับ
ด้วยความเคารพ
ss
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

roonaldo

sorry ครับบ

อย่าเซฟไปนะครับ

อะลงรูปดีดีก้อได้



























































friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

lankhuchong

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

riviara

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions