อาเธน่า (Athena) เทพีแห่งปัญญา สงคราม และงานหัตถกรรม

อาเธน่า (Athena) เทพีแห่งปัญญา สงคราม และงานหัตถกรรม

เริ่มโดย etatae333, 09 สิงหาคม 2012, 13:32:13

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

อาเธน่า (Athena) เทพีแห่งปัญญา สงคราม และงานหัตถกรรม



คณะเทพโอลิมเปียนมีเทวีพรหมจารีอยู่ 3 องค์ ทรงนามตามลำดับว่า เฮสเทีย (Hestia) เทพีแห่งครัวเรือน
อาเธน่า (Athena) เทพีแห่งปัญญา และ อาร์เทมิส (Artemis) เทพีแห่งดวงจันทร์ องค์แรกเป็นเทวีภคินี
ของเทพซุส ส่วน 2 องค์หลังเป็นธิดาเทพีอะธีนา หรือ อาเธน่า (Athena) เป็นหนึ่งในสิบสองเทพแห่งโอลิมปัส
ได้รับสมญานามว่าเทพีแห่งปัญญา


เนื่องจากเกิดมาจากส่วนหัวของ ซุส ประมุขแห่งเหล่าทวยเทพ นอกจากนี้ยังได้รับสมญานามเป็น เทพีแห่งสงคราม
เทพีแห่งงานหัตถกรรม (โดยเฉพาะงานทอผ้า ปั้นหม้อ และงานไม้) อีกด้วย




การถือกำเนิดของอาเธน่านั้น กล่าวกันว่า ครั้งหนึ่ง เทพซุส ได้รับคำทำนายว่า โอรสธิดา ที่ประสูติจาก
มเหสีเจ้าปัญญา นามมีทิส (Metis) นั้นจะ มาโค่นบัลลังก์ของพระองค์ เทพซุส ก็แก้ปัญหาด้วยการจับเอามีทิส
ซึ่งทรงตั้งครรภ์แก่นั้นกลืนเข้าไปในท้อง


แต่เวลาไม่นานนักซุสก็บังเกิดอาการปวดเศียรขึ้นมา ให้รู้สีกปวดร้าวเป็นกำลัง จึงมีเทวโองการสั่งให้เรียกประชุม
เทพทั้งปวงบนเขาโอลิมปัส ให้ช่วยกันหาทางบำบัดเยียวยา แต่ความพยายามของทวยเทพก็ไม่เป็นผล
ซุสไม่อาจทนความเจ็บปวดต่อไปได้ ในที่สุดจึงได้ให้เฮฟเฟสตุส เทพแห่งการตีเหล็ก ใช้ขวานผ่าศีรษะออก
ปรากฏเป็นอาเธน่ากระโดดออกมาในลักษณะเจริญเต็มวัย แต่งฉลององค์หุ้มเกราะแวววาวพร้อมสรรพ
ถือหอกเป็นอาวุธ พร้อมกันนั้นทั่วพื้นพสุธาและมหาสมุทร ก็บังเกิดอาการสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น
ประกาศกำเนิดเทวีองค์นี้สนั่นไปทั้งโลก



การอุบัติของเทวีองค์นี้ถือว่าเป็นไปเพื่อยังสันติสุข ให้บังเกิดในโลกและขจัดความโฉดเขลาที่ครองโลก
จนตราบเท่าบัดนั้นให้สิ้นไป ด้วยว่าพออาเธน่าผุดจากเศียรซุส เทวีแห่งความโฉดเขลาซึ่งไม่ปรากฏรูปก็ล่าหนีไป
ด้วยเหตุนี้เทวีอาเธน่าจึงเป็นที่นับถือบูชาในฐานะเทวีครองปัญญา นอกจากนั้นอาเธน่ายังมีฝีมือในการเย็บปักถักร้อย
และ เชื่อว่าพระนางเป็นเทพีแห่งสงครามด้วย เนื่องจากเทวรูปของพระนาง มักปรากฏเป็นรูปผู้หญิงสวมชุดเกราะ
ถือโล่ห์ และหอกที่มือซ้าย พร้อมถือ เทพีไนกี้ เทพีแห่งชัยชนะที่มือขวา




ภายหลังการอุบัติของอาเธน่าไม่นาน มีหัวหน้าชนชาวฟีนิเชียคนหนึ่งชื่อว่า ซีครอบส์ (Cecrop) พาบริวารอพยพ
เข้าไปในประเทศกรีซ เลือกได้ชัยภูมิอันตระการตาแห่งหนึ่งในแคว้น อัตติกะ (Attica) ตั้งภูมิลำเนา
ก่อสร้างบ้านเรือนขึ้นเป็นนครอันสวยงามนครหนึ่ง เทพทั้งปวงเฝ้าดูงานสร้างเมืองนี้ด้วยความเลื่อมใสยิ่ง




ในที่สุดเมื่อเห็นว่า เมืองมีเค้าจะกลายเป็นนครอันน่าอยู่ขึ้นมาแล้ว เทพแต่ละองค์ต่างก็แสดงความปรารถนา
ใคร่จะได้เอกสิทธิ์ตั้งชื่อนคร จึงประชุมกันถกถึงเรื่องนี้ เมื่อมีการอภิปรายโต้แย้งกันพอสมควรแล้ว
เทพส่วนใหญ่ในที่ประชุมก็พากันยอมสละสิทธิ์ คงเหลือแต่ เทพโปเซดอน และเทวีอาเธน่า 2 องค์เท่านั้น
ยังแก่งแย่งกันอยู่


เพื่อยุติปัญหาว่าใครควรจะได้เอกสิทธิ์ตั้งชื่อนคร เทพซุส ไม่พึงประสงค์จะชี้ขาดโดยอำนาจตุลาการที่จะพึงใช้ได้
ด้วยเกรงว่าจะเป็นที่ครหาว่าเข้า ข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จึงมีเทวโองการว่านครนั้น พึงอยู่ในความคุ้มครอง
ของเทพ หรือเทวี ซึ่งสามารถเนรมิตของที่มีประโยชน์ที่สุดให้มนุษย์ใช้ได้ และมอบหน้าที่ตัดสินชี้ขาดให้แก่ที่ประชุม



เทพโปเซดอน เป็นฝ่ายเนรมิตก่อน โดยยกตรีศูลคู่หัตถ์ขึ้นกระแทกลงกับพื้น บันดาลให้มีม้าตัวหนึ่งผุดขึ้น
ท่ามกลางเสียงแสดงความพิศวง และชื่นชมของเหล่าเทพ เมื่อเทพผู้เนรมิตม้า อธิบายคุณประโยชน์ของม้า
ให้เป็นที่ตระหนักแก่เทพทั้งปวงแล้ว เทพองค์ต่างๆ ก็คิดเห็นว่า เทวีอาเธน่าคงไม่สามารถเอาชนะ
เทพโปเซดอนเสียเป็นแน่แล้ว


ส่วนฝ่าย เทวีอาเธน่า ก็ได้เนรมิตต้นมะกอกต้นหนึ่งขึ้นมา และได้อธิบายถึงคุณประโยชน์ ของต้นมะกอก
ที่มนุษย์จะเอาไปใช้ได้นานัปการ นับตั้งแต่ใช้เนื้อไม้ ผล กิ่งก้าน ไปจนถึงใบ พร้อมกับยังมีความหมาย
เชิงสัญลักษณ์ของมะกอกว่า เป็นเครื่องหมายถึงสันติภาพและความรุ่งเรืองวัฒนาอีกด้วย


เมื่อผลเป็นดังนั้นจึงเป็นที่พึงประสงค์ ยิ่งกว่าม้า ซึ่งเป็นเครื่องหมายของสงคราม หลังจากพิจารณาแล้ว
มวลเทพก็เห็นพ้องต้องกันว่า ของที่เทพีอาเธน่าเนรมิต มีประโยชน์กว่า จึงลงมติตัดสินชี้ขาดให้เป็นฝ่ายชนะ

เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงชัยชนะครังนี้ เทพีอาเธน่าได้ตั้งชื่อนครนั้น ตามนามของท่านเองว่า เอเธนส์ (Athens )
และสืบจากนั้นมา ชาวกรุงเอเธนส์ ก็นับถือบูชาท่านในฐานะเทวีผู้ปกครองนครอย่างแน่นแฟ้น

โดยรวมๆ แล้ว อาเธน่าเป็นเทพธิดาที่มีจิตใจเอื้ออารีชอบช่วยเหลือผู้อื่นมาก ในมหากาพย์อีเลียด
ที่ว่าด้วยสงคราม แห่งชาวกรีก และ ชาวเมืองทรอย อาเธน่า ก็มีบทบาทในการช่วยวีรบุรุษกรีกหลายครั้ง
เช่น หลอกเฮกเตอร์ว่าจะคอยช่วย และให้มาสู้กับอคิลลิส ทำให้เฮกเตอร์ถูกอคิลลิสสังหาร
อย่างโหดเหี้ยมในสนามรบ เป็นต้น



และในมหากาพย์โอดิสซีที่กล่าวถึงการเดินทางกลับบ้านที่อิธาก้าของ โอดิสซีอุส หรือ ยูลิซีส วีรบุรุษกรีก
ผู้คิดสร้างม้าไม้ ซึ่งเป็นผู้ทำให้สงครามเมืองทรอยสิ้นสุดลง ต้องใช้เวลาในการเดินทางกลับบ้านเป็นเวลาถึงยี่สิบปี
เพราะเขาไปทำให้โปเซดอนพิโรธ อาเธน่าก็เป็นเทพีอุปถัมภ์ของโอดิสซีอุส ช่วยให้เขาพ้นภัยหลายครั้ง
จนกลับถึงบ้านได้



อาเธน่า (Athena) เทพีแห่งปัญญา



อาเธน่ายังมีบทบาทมากมาย โลดแล่นในตำนานการผจญภัยของวีรบุรุษอีกหลายคน เช่น
ช่วยให้การแนะนำในการต่อเรืออาร์โกที่ใช้ในการตามหาขนแกะทองคำ โดยถ่ายทอดคำพูด
ผ่านกิ่งของต้นโอ๊คศักดิ์สิทธิ์ ที่นำมาทำเป็นหัวเรือ บอกวิธีสังหารเมดูซ่าแก่เปอร์ซีอุส
ช่วยเอเปอีอุสสร้างม้าไม้มอบบังเหียนวิเศษเพื่อใช้ควบคุมเพกาซัสแด่เบลเลโรฟอน ฯลฯ



เทพธิดาที่แสนดีก็พร้อมจะโหดได้ หากมีใครไปหยามเข้า เช่น เรื่องของนางอาแรคนี (Arachne)
ซึ่งมีฝีมือทอผ้า และปั่นด้ายเป็นเลิศ ด้วยความลุ่มหลงทะนงตนสำคัญว่าไม่มีผู้ใดอีกแล้ว จะมีฝีมือเสมอกับนาง
ในที่สุดจึงกำเริบคุยฟุ้งเฟื่องไปว่า ถึงแม้เทพีเอเธน่าจะลงมาประกวดฝีมือกับนาง นางก็ยินดีจะสู้ด้วยไม่รอช้าเลย
นางโอ้อวดดังนี้เนือง ๆ จนเทพีเอเธน่าสุดแสนจะทนต่อไปได้ ต้องลงมาจากเขาโอลิมปัส เพื่อมาลงโทษ
นางอาแรคนีมิให้ใครเอาไปเป็นเยี่ยงอย่างสืบไป


โดย เทพีอาเธน่าจำแลงองค์เป็นยายแก่ เดินเข้าไปในบ้านของนางอาแรคนี และนั่งลงชวนคุย นางอาแรคน
ก็ได้คุยถึงฝีมือตน และเริ่มโวเรื่องจะแข่งขัน ประกวดฝีมือกับเทพีเอเธน่าอีก เทพีอาเธน่าตักเตือน
โดยให้นางยับยั้งคำไว้เสียบ้าง กลัวว่าคำของนางซึ่งพูดเอาเองเป็นเหตุให้เทพเจ้าขัดเคือง จะทำให้นางเคราะห์ร้าย

แต่นางอาแรคนีมีจิตมืดมนไปในความทรนงตนเสียแล้ว จนไม่แยแสต่อคำตักเตือน กลับพูดสำทับว่า
นางอยากให้เทพีอาเธน่าได้ยิน และลงมาท้าประกวดฝีมือเสียด้วยซ้ำ นางจะได้แสดงความสามารถ
ให้เป็นที่ประจักษ์เพื่อพิสูจน์ว่า คำกล่าวอ้างของนางเป็นความจริงเพียงใด



ในที่สุดเทพีอาเธน่าก็สำแดงองค์ให้ปรากฏแก่อาแรคนี ตามจริง และรับคำท้านั้นทันที

ทั้ง 2 ฝ่ายจัดแจงตั้งหูก แล้วต่างฝ่ายต่างทอลายผ้าอันงามวิจิตรขึ้น เทพีเอเธน่าเลือกเอาภาพตอนอาเธน่าแข่งขันกับเทพโปเซดอน
ส่วนนางอาแรคนีเลือกเอาภาพซูส ลักพานางยูโรปาเป็นลาย ครั้นทอเสร็จ ต่างฝ่ายต่างเอาลายผ้ามาเทียบเคียงกัน
อาแรคนีรู้สึกทันทีว่าของนางแพ้หลุดลุ่ย ลายรูปโคโลดแล่นลุยไปในทะเล มีคลื่นซัด สาดออกเป็นฟองฝอยกับนางยูโรปา
เกาะเขาอยู่ดูอาการกึ่งยิ้มกึ่งตกใจประกอบด้วยเกศาและผ้าสไบปลิวสยายด้วยแรงลม ไม่สามารถจะเทียบกับลายรูป
ชมรมทวยเทพพร้อม ด้วยรูปม้าและต้นมะกอกเนรมิต ซึ่งดูประหนึ่งมีชีวิตกระดุกกระดิกได้นั้นเลย




ในที่สุดอาแรคนีก็แพ้แก่เทพีอาเธน่า และได้เสียใจยิ่งนัก ทั้งเจ็บทั้งอาย ในความผิดพลาดของตนไม่อาจทนอยู่ได้
หมายจะเอาเชือกผูกคอตาย เทพีเอเธน่าเห็นนางจะด่วนหนีโทษทัณฑ์ไป จึงรีบแปรเปลี่ยนร่างของนาง
ให้กลายเป็นแมงมุม ห้อยโหนโตงเตง และสาปให้นางต้องปั่น และ ทอใยเรื่อยไปไม่มีเวลาหยุด
เป็นการเตือนมนุษย์ ผู้ทรนงทั้งปวง มิให้หลงไปว่าตนจะเทียมเทพได้เป็นอันขาด



นกฮูกเป็นนกคู่ใจของเทพีอาเธน่า



เกี่ยวกับการครองความบริสุทธิ์ของเทพีอาเธน่า มีเรื่องเล่าว่า เทพฮีฟีสทัส หมายปองเทพีอาเธน่า
ใคร่จะได้วิวาห์ด้วย ได้ทูลขอต่อเทพบิดา เทพบิดาประทานโปรดอนุญาต แต่ให้ฮีฟีทัสทาบทาม
ความสมัครใจของเทพีอาเธน่าเอาเอง ซึ่งผลลัพธ์ก็คือ เทพีอาเธน่าไม่ตกลงด้วย




ทำให้ฮีฟีสทัส เข้าไปหา เทพีอาเธน่า หมายจะรวบรัด ในระหว่างที่ฉุกละหุกอุตลุดนั้นของไม่บริสุทธิ์
ของฮีฟีทัส ตกลงมายังพื้นโลก เป็นเหตุให้เกิดทารก ผุดขึ้นมาเป็นเพศชาย เทพีอาเธน่ารอดพ้นมลทินแปดเปื้อน
แต่รับทารกไว้ในปกครอง เอาทารกบรรจุหีบให้งูเฝ้า และฝากไว้ให้ลูกสาวท้าวซีครอปส์ดูแล
โดยห้ามเด็ดขาด มิให้เปิดหีบดู




แต่ลูกสาวท้าวซีครอปส์ไม่เชื่อฟัง พยายามจะเปิดหีบ ครั้นเห็นงูเข้าก็ตกใจวิ่งหนีตกเขาตาย
ทารกนั้นได้ขนานนามว่า อิริคโธเนียส (Erichthonius) และ ดำรงชีวิตอยู่สืบมา จนภายหลัง
ได้ครองกรุงเอเธนส์ ส่วนเทพีอาเธน่าก็ไม่ได้รับการเกี้ยวพาราสี ของเทพองค์หนึ่งองค์ใดอีกต่อไป
ตั้งแต่บัดนั้น

แม้ว่าจะมีบางตำนานกล่าวว่า อาเธน่าเคยแอบรักบุรุษรูปงามคนหนึ่งชื่อว่า เบลเลอโรฟอน



จนถึงกับเอาอานม้าทองคำมาให้เขาในความฝัน เนื่องจากเบลเลอโรฟอนต้องการขี่ม้าวิเศษ เปกาซัส แต่ไม่ปรากฏว่า
เทพีอาเธน่าได้สานเรื่องราวระหว่าง เทพีอาเธน่า กับเบลเลอโรฟอนต่อไปแต่อย่างใด แต่ทว่าบุรุษหนุ่มผู้นั้น
ตกม้าตายในตอนหลัง เทวีอาเธน่ามีต้นโอลีฟเป็นพฤกษาประจำตัว และนกฮูกเป็นนกคู่ใจ




เทพีอาเธน่านอกจากจะมีชื่ออาเธน่า หรือ มิเนอร์วาแล้ว ชาวกรีกและโรมันยังรู้จักกันในชื่ออื่น ๆ อีกหลายชื่อ
ในจำนวนนี้มีชื่อที่แพร่หลายที่สุดคือ พัลลัส (Pallas) จนบางที เรียกควบกับชื่อเดิมว่า พัลลัสอาเธน่า


ว่ากันว่ามูลเหตุของชื่อนี้สืบเนื่องมาจากพฤติกรรมตอนปราบยักษ์ชื่อ พัลลัส ซึ่งไม่ปรากฏตำนานชัดแจ้ง
อาศัยเหตุที่ได้ถลก หนังยักษ์มาคลุมองค์ คนทั้งหลายเลยพลอยเรียกในชื่อของยักษ์นั้นด้วย และเรียกรูปประติมา
หรือ อนุสาวรีย์ อันเป็นเครื่องหมายถึงเทพีอาเธน่า ว่า พัลเลเดียม (Palladium)

ในที่สุดคำว่า Palladium ก็มีที่ใช้ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง ภาวะ หรือ ปัจจัยที่อำนวยความคุ้มครอง
หรือ ความปลอดภัยให้เกิดแก่ชุมชน ทำนอง Palladium ที่ชาวโรมัน อารักขาไว้ในวิหารเวสตา


credit :: tumnandd.com / phuketindex.com
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

etatae333

เทพีไนกี้ (Nike)



ตามตำนานเทพปกรณัมกรีก เป็นเทพีบุคลาธิษฐานแห่งชัยชนะ นางเป็นพระธิดาแห่งเทพพาลลัส (Pallas)
เทพแห่งปัญญาและนักรบ และเทพีสติกซ์ (Styx) เทพีแห่งความเกลียดชัง อาฆาตแค้น และเป็นพระขนิษฐา
ของเทพคราตอส (Cratos) เทพแห่งพละกำลัง เทพีไบอา (Bia) เทพีแห่งอำนาจและความรุนแรง
และเทพซีลุส (Zelus) เทพแห่งการต่อสู้




เทพีไนกี้และเหล่าพี่น้องของนางเป็นผู้รับใช้ของเทพซุส (Zeus) ตามตำนานเทพ เทพีสติกซ์นำพวกนางมาช่วยเหลือ
เทพซุสในศึกกับยักษ์ไททัน เทพีไนกี้ทำหน้าที่เป็นผู้ขับรถม้าศึก ซึ่งภาพนี้มักปรากฏในผลงานศิลปกรรมคลาสสิก
พระนามในตำนานเทพปกรณัมโรมันของนางคือ เทพีวิคตอเรีย (Victoria)



ปีกของเทพีไนกี้เป็นสัญลักษณ์ของลักษณะอันรวดเร็วแห่งชัยชนะ

http://www.youtube.com/v/nVgfAd1Yz6M?version=3&hl=en_US

เทพีไนกี้ได้รับการบูชาร่วมกับเทพีอะธีน่า (Athena) ผู้ซึ่งนางมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดด้วยหลังจากชัยชนะ
เหนือชาวเปอร์เชียนในสงครามแห่งกรุงมาราธอน (Battle of Marathon) ช่วง 490 ปีก่อนคริสตกาล
ว่ากันว่ารูปปั้นของเทพีอาธีน่าแห่งพาร์ธีนอส ในวิหารพาร์ธีนอน (Parthenon) ในกรุงเอเธนส์ (Athens)
มีเทพีไนกี้กำลังยืนอยู่บนมือของนาง ศูนย์กลางวิหารพาร์ธีนอนยังรวมเอาสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพีอาธีน่า
ไนกี้ เข้าไว้ด้วย ซึ่งสถานศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวสร้างขึ้นราว 410 ปีก่อนคริสตกาล ชาวเอเธนส์ยังมีรูปปั้น
ของเทพีไนกี้อยู่ ณ เมืองเดลฟี (Delphi) อีกด้วย




ในปัจจุบัน เทพีไนกี้ได้กลายมาเป็นทั้งชื่อและโลโก้ของผลิตภัณฑ์ทางการกีฬายี่ห้อ ไนกี้ของสหรัฐอเมริกา
โดยที่โลโก้ที่เป็นรูปโค้งยาวนั้นก็คือ ปีกของไนกี้นั่นเอง




นอกจากนี้แล้วไนกี้ยังเป็นเทพีที่อยู่บนกระโปรงหน้ารถอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถยนต์ยี่ห้อโรลส์-รอยซ์ ของอังกฤษ



ในวัฒนธรรมสมัยนิยม การ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องเซนต์เซย์ย่า เทพีไนกี้ได้กลายร่างเป็นคทาในมือขวาของคิโด ซาโอริ
ซึ่งคือเทพีอาธีน่าที่จุติลงมาในโลกยุคปัจจุบันนั่นเอง
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

gundam1974

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

yoneo

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

nat2029

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

tommyjaa

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

tommyjaa

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions