Norse Mythology: Episode 8 – เทพคู่แฝด: เฟรย์และเฟรย่า

Norse Mythology: Episode 8 – เทพคู่แฝด: เฟรย์และเฟรย่า

เริ่มโดย etatae333, 28 กุมภาพันธ์ 2014, 13:24:28

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

Norse Mythology: Episode 8 – เทพคู่แฝด: เฟรย์และเฟรย่า



เฟรย์ (Frey) และเฟรยา (Freya) เทพสององค์ที่ผมจะพูดถึงต่อไปนี้ครับ เป็นเทพต่างวงศ์ที่มาอยู่บนแอสการ์ด แต่ก็มีบทบาทไม่น้อยเลย
เฟรย์และเฟรยาต่างก็เป็นลูกชาย-ลูกสาวของนจอร์ด เทพแห่งสายลมและท้องทะเล เทพวงศ์วาเนอร์ที่แลกตัวมาอยู่แอสการ์ด ตำนานหนึ่งว่า
มารดาของพวกเขาคือเนอร์ธัส (Nerthus) พี่หรือน้องสาวของนจอร์ดเอง ซึ่งเมื่อนจอร์ดถูกแลกให้มาอยู่แอสการ์ด มันเป็นเวลาที่การแต่งงาน
ระหว่างพี่น้องด้วยกันกลายเป็นที่รังเกียจไปเสียแล้ว ภรรยาของนจอร์ดก็เลยไม่มาด้วยคงปล่อยให้สามีกับลูกมาแทน ส่วนตัวนางนั้นไม่เคย
ปรากฏตัวที่แอสการ์ดเลย เป็นเหตุให้สามีต้องได้ภรรยาคนที่สองคือยักษ์สกาดิ (อ่านในบทเทพอื่นๆ ครับ) ทีนี้เรามาว่าเรื่องเทพเฟรย์กันก่อน

เฟรย์ (Frey)เทพแห่งอากาศดีและแสงอาทิตย์



เฟรย์เป็นเทพแห่งอากาศดีและแสงอาทิตย์ (คนเหนือไม่รู้ว่าดวงอาทิตย์แผ่รังสีให้ความร้อน จึงแยกดวงอาทิตย์กับเทพแห่งแสงอาทิตย์เป็นคนละองค์)
ธรรมชาติของการให้ ทำให้เฟรย์เป็นเทพรูปงามหลังสงครามระหว่างเทพอีเซอร์และวาเนอร์ ครอบครัวของเขาต้องมาอยู่แอสการ์ด เฟรย์เป็นเทพต่างวงศ์
ที่มีโอกาสได้นั่งเป็นหนึ่งใน 12 ของท้องพระโรงแกลดสไฮล์ม รับหน้าที่ปกครองอาล์ฟไฮล์ม-อาณาเขตของเอลฟ์และแฟรี่ ซึ่งนับเป็นที่ๆ เหมาะที่สุด
สำหรับเทพแห่งแสงตะวันเช่นเขา


เฟรย์เป็นเจ้าของอาวุธที่มีอานุภาพมากที่สุดถ้าไม่นับมจอลเนียร์ของธอร์ ดาบวิเศษของเฟรย์เมื่อชักออกจากฝัก มันจะต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามด้วยตัวของมันเอง
พาหนะทรงพลังของเฟรย์คือหมูป่าขนทองกัลลินเบิร์สติกับเรือสกิดแบลดเนียร์ที่สามารถพับให้เหลือเล็กนิดเดียวเก็บไว้ในกระเป๋า ถึงเฟรย์จะเป็นเทพของ
แสงอาทิตย์ที่มีค่ามากที่สุดสำหรับชาวเหนือ แต่เขากลับต้องทนทุกข์กับความรักและความรักนี่ละครับทำให้เขาต้องนิราศร้างไปจากชาวเหนือหลายเดือน
ในช่วงหนึ่งปี เรื่องนี้เป็นคำอธิบายว่าเหตุใดผู้คนถึงต้องผจญอากาศหนาวและความมืดมากกว่าจะพบเจอความอบอุ่น




เรื่องมันเกิดขึ้นในวันหนึ่งขณะที่โอดินไม่อยู่ เฟรย์เดินเข้าไปในท้องพระโรงว่างๆ แลเห็นบัลลังก์ฮลิดสเกียฟตั้งตระหง่านก็เกิดความคิดซุกซน เขาไต่ขึ้นไป
นั่งบนบัลลังก์สูงสุด ปรารถนาจะเห็นความเป็นไปของทุกโลกอย่างละเอียดจากที่นั่นเช่นเดียวกับโอดิน เฟรย์เขม้นมองไปยังดินแดนต่างๆ อย่าเพลิดเพลิน
แต่พอหันไปยังทิศทางโจตันไฮล์มเท่านั้น ... เฟรย์ถึงกับชะงักเขาเห็นธิดายักษ์น้ำแข็งเกอดา (Gerda) ยืนอยู่ตรงหน้าต่างปราสาทของนาง ใบหน้า
ของหล่อนงามราวกับเทพธิดา หมอกควันน้ำแข็งซึ่งลอยอ้อยอิ่งล้อมขอบภาพเพิ่มความงามราวกับหล่อนตกอยู่ในดินแดนแห่งความฝันทำให้เฟรย์ตะลึงงัน
ตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา


เฟรย์รู้อย่างเดียวว่าเขาไม่ปรารถนาสิ่งอื่นใดนอกจากนาง ทั้งๆ ที่รู้แก่ใจอีกด้วยว่ามันเป็นไปไม่ได้ เขาอยู่ในฐานะเทพชั้นปกครองของสวรรค์ การจะเอา
นางสาวยักษ์เข้ามาอยู่กินด้วยย่อมเป็นไปไม่ได้ และเขาก็แน่ใจว่ายักษ์ก็คงไม่ต้องการให้เทพอย่างเขาไปอยู่ในโจตันไฮล์ม เฟรย์กินไม่ได้นอนไม่หลับ
ความทุกข์ทรมานของความรักที่เป็นไปไม่ได้ทำให้เฟรย์เปลี่ยนแปลงไป นจอร์ดพ่อของเฟรย์ต้องเรียกสเคอร์เนียร์คนสนิทของลูกมากระซิบถาม
สั่งให้เขาหาสาเหตุรวมทั้งแก้ไขให้ได้ เรื่องการหาสาเหตุนี่มันไม่ยากอยู่แล้วครับ เพราะเฟรย์เองก็อยากระบายให้ใครฟังเหมือนกัน เฟรย์บอกคนสนิทว่า
เขาตกหลุมรักนางสาวยักษ์เข้าตนหนึ่ง เป็นรักแรกเห็นที่หักใจไม่ได้ เขาทุกข์เหลือเกิน ไม่รู้ว่ายักษ์สาวตนนั้นจะรู้สึกอย่างเดียวกับเขาหรือเปล่า
ที่แย่กว่านั้นเขารู้ว่าความรักของเขามันเป็นไปไม่ได้ทั้งในสวรรค์และแดนยักษ์

เฟรย์คอตกด้วยความเศร้า จู่ๆ ก็ฮึดสู้ เขาอยากรู้ว่ายักษ์สาวจะมีความรู้สึกเช่นเดียวกับเขาหรือไม่ จึงขอร้องสเคอร์เนียร์ให้เดินทางไปหาเกอดา
ณ ดินแดนยักษ์ เทพอยากรู้เพียงว่าเกอดารักพระองค์บ้างหรือไม่ เฟรย์ลงทุนอ้อนวอนคนสนิทสัญญาจะให้รางวัลอะไรก็ได้ที่ผู้ถือสารต้องการ
สเคอร์เนียร์ตกลง เขาขอดาบวิเศษของเฟรย์เป็นข้อแลกเปลี่ยน พร้อมกับม้าบโลดักโฮฟี (Blodughofi, Blóðughófi) ม้าวิเศษของเฟรย์
ที่สามารถมองเห็นทางในความมืดและไม่กลัวไฟ




รางวัลที่ทูตสื่อสารขอเล่นเอาเฟรย์อึ้งไปเหมือนกันครับ เฟรย์น่ะรักดาบวิเศษเล่มนี้มาก แต่ถึงจะเสียดายขนาดไหนเมื่อแลกกับสิ่งที่เพื่อนจะไปทำให้
เขาก็ตกลง สเคอร์เนียร์ออกเดินทางด้วยความเด็ดเดี่ยว ทิ้งให้เฟรย์นั่งรออยู่ในแอสการ์ดด้วยความหดหู่สเคอร์เนียร์เดินทางไปถึงปราสาทของกายเมียร์ (Gymir)
พ่อของเกอดา ยิ่งเข้าใกล้ เสียงหอนของหมาเฝ้าปราสาทลอยลมมาก็ยิ่งดังขึ้น เสียงของมันอันที่จริงก็คือตัวแทนของสายลมอันรุนแรงในฤดูหนาว
สเคอร์เนียร์มองไปยังตัวปราสาทที่เห็นข้างหน้าตัดขอบฟ้าและแล้วก็เห็นสิ่งที่คาดไม่ผิด วงล้อไฟลุกสว่างล้อมรอบปราสาท สเคอร์เนียร์คิดถูกที่เอา
ม้าวิเศษของเฟรย์มา ความที่มันไม่กลัวไฟ เขาจึงเร่งฝีเท้ามันให้ลอดบ่วงเข้าไปในตัวปราสาท

จะเป็นโชคของสเคอร์เนียร์ (หรือของเฟรย์) ก็ไม่รู้นะครับ ตอนที่สเคอร์เนียร์ไปถึงยักษ์กายเมียร์ออกไปล่าสัตว์ทิ้งให้เกอดาอยู่ลำพังที่ปราสาท
เขาตามหาตัวนางสาวยักษ์ต้นปัญหาเจอในเวลาไม่นานนักแล้วก็หว่านล้อมรำพันถึงความรักที่เฟรย์มีต่อนางตั้งแต่แรกเห็นถึงขนาดกินไม่ได้นอนไม่หลับ
สเคอร์เนียร์เอาชามใส่น้ำมาให้เกอดาถือแล้วเสกภาพเฟรย์ปรากฏในนั้นให้เกอดาดูว่าเจ้านายของตนรูปงามเพียงใด นางยักษ์รูปงามฟังความแล้ว
ก็เฉยดูรูปหนุ่มแล้วก็ยังเฉย นางไม่สนใจเทพแห่งความอบอุ่นเพราะนางอยู่แต่ในแผ่นดินอันเย็นเยียบของน้ำแข็งจนคุ้นเคย เธอไม่ต้องการจากที่นี่
ไปจึงไม่รู้สึกอะไรกับความรักของเทพแม้แต่น้อย ทูตสื่อสารเห็นไม่ได้การเลยเสนอจะเอาแอปเปิลแห่งความเยาว์วัยให้นาง 11 ผลเพื่อให้นาง
ทรงความเยาว์วัยแบบเทพ เกอดาก็ยังคงไม่สนใจ นางวางชามน้ำแล้วเดินหนี


สเคอร์เนียร์ถึงกับเสนอจะให้แหวนแบบเดียวกับของโอดินแก่นาง คราวนี้นางยักษ์หันมาตะเพิดสเคอร์เนียร์ด้วยความรำคาญ ความอดทนของ
สเคอร์เนียร์ขาดผึง เขาชักดาบวิเศษของเฟรย์ออกมากวัดแกว่งขู่ว่า หากเธอยังคงปฏิเสธ ... ยักษ์อาจจะต้องเดือดร้อน



เกอดาไม่กลัวครับ เธอกลับรุกไล่ท้าทายทูตแห่งสวรรค์ กำลังที่สเคอร์เนียร์จะสิ้นท่า เขาก็เกิดนึกถึงอาวุธของตนขึ้นมาได้ มันเป็นไม้คทาที่สลักอักษรรูน
อักษรศักดิ์สิทธิ์บันดาลความเป็นไป คราวนี้เขาคว้าไม้คทาอันนี้ขึ้นมาชูตรงหน้าเกอดากล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นเขาจะส่งเธอให้ไปอยู่ขอบโลก ที่ๆ ไม่มีอะไรเลย
นอกจากประตูดินแดนแห่งความตาย หนาวเย็นโดดเดี่ยวและเปล่าเปลี่ยวตลอดกาล ก่อนไปเขาจะสาปให้เกอดากลายเป็นหญิงชราใบหน้าเหี่ยวย่นหน้าตา
น่าเกลียดน่ากลัว จนแม้สัตว์ก็ไม่อยากเข้าใกล้ ว่าแล้วสเคอร์เนียร์ก็เริ่มควงคทา ท่าทางและความศักดิ์สิทธิ์ของอักษรรูนทำให้เกอดาเกิดกลัวขึ้นมาจริงๆ
ละครับคราวนี้ เธอถอยหลังอย่างตกใจ ละล่ำละลักร้องห้าม ยอมตกลงรับรักเทพเฟรย์ สเคอร์เนียร์สมใจละครับคราวนี้ เขาคว้าข้อมือเกอดาจะให้นั่งม้า
ซ้อนท้ายกลับแอสการ์ดเหมือนที่เฟรย์บอก แต่เกอดาขืนตัว เธอขอเวลา 9 วัน อย่างน้อยก็ขอให้มีเวลาเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนแปลงบ้าง
แล้วเธอจะไปพบเฟรย์ที่ป่าบาร์รี (Barri) ของพวกเอลฟ์และยอมเป็นภรรยาของเขา



สเคอร์เนียร์กลับมาแจ้งข่าวดีแก่เฟรย์ เขารู้สึกว่าเวลาเก้าวันนานเกินไปสำหรับเขา (ชาวเหนือเปรียบช่วงนี้เป็นเวลาเก้าเดือนที่พวกเขาต้องผจญอากาศอันเลวร้าย)
แต่เมื่อไม่มีทางใดดีกว่านี้ ความอดทนก็เป็นทางเดียวที่เฟรย์ต้องทำ ในที่สุดเมื่อเวลามาถึงเฟรย์ก็พบเกอดาที่ป่าบาร์รี ตัวตนอันอ่อนหวานนุ่มนวลของเฟรย์
เล่นเอายักษ์สาวอ่อนไหวไปเหมือนกันครับ ทั้งเฟรย์และเกอดาตกอยู่ในความรักซึ่งกันและกัน ทำให้ผืนป่าและท้องทุ่งที่แห้งแล้งเพราะความโศกเศร้า
ของเฟรย์กลับมีชีวิตขึ้นอีกครั้งหนึ่ง



เฟรยา (Freya) เทพีแห่งความรัก



ลูกสาวของนจอร์ดคนนี้เป็นเทพีแห่งความสมบูรณ์และความรักทางร่างกาย ไม่เหมือนฟริกก้าชายาแห่งโอดินตรงที่องค์นั้นดูแลความรักในชีวิตสมรส
ขณะที่เฟรยาดูแลให้แรงเร้าแห่งความรักยังคงอยู่ ชื่อของเฟรยานี่เป็นต้นเค้าของชื่อวันศุกร์ในภาษาฝรั่ง (Friday) นั่นละครับ
เฟรยาเป็นน้องสาวของเฟรย์ เป็นเทพต่างวงศ์ที่ขึ้นไปอยู่บนแอสการ์ด ซึ่งปรากฏว่าเธอกลายเป็นคนสวยที่สุดบนสวรรค์แห่งนั้น ผมของเธอสวยกว่า
ของซิฟและรูปร่างก็สง่างามกว่าฟริกก้า เฟรยากลายเป็นคนงามที่เทพีส่วนใหญ่อิจฉาและกลายเป็นที่หมายปองของเทพและบรรดายักษ์มากมาย


วังของเฟรยาคือ เซสริมเนียร์ (Sessrymnir) อยู่ในอาณาเขตของแอสการ์ด ที่นี่ยังเป็นที่อยู่ของบรรดาวิญญาณเมียเล็กเมียน้อยของเอนเฮเรียร์
(นักรบที่ถูกเลือกขึ้นมาอยู่บนวัลฮัลลา)เฟรยาเป็นคนมีสองบุคลิก ด้านหนึ่งของความสวยงามเธอมีความอ่อนไหวของผู้หญิงเต็มเปี่ยมยามที่เธอปฏิบัติงาน
ในหน้าที่เทพีแห่งความรัก เธอจะสวมเสื้อผ้าบางเบาเน้นให้เห็นร่างกายอันงดงาม แต่ในอีกบุคลิกหนึ่งเธอดุเหมือนเสือ ทั้งนี้เพราะเฟรยามีความรู้
ในศาสตร์แม่มด รู้เรื่องพลังที่มีเหนือชีวิตและความตายสิ่งนี้เป็นสิ่งที่โอดินโปรดปรานมาก ขอเรียนจากเฟรยาและมอบตำแหน่งในเธอเป็นหัวหน้านางวัลคิรี
นางฟ้าดำของพระองค์ เวลาปฏิบัติงานหน้าที่นี้หล่อนจะสวมเสื้อเกราะติดอาวุธแล้วขึ้นม้าพาบริวารลงไปโฉบเหนือทุ่งสงคราม เลือกวิญญาณผู้กล้า
ขึ้นหลังม้าแล้วกลับมาทางสะพานรุ้ง




เฟรยาเป็นเจ้าของสมบัติวิเศษ 2 ชิ้น คือ สร้อยไบรซิงกาเมนและเสื้อคลุมขนเหยี่ยวที่ทำให้คนใส่บินได้ เป็นตัวเดียวกับที่โลกิขอยืมไปใช้ช่วยตัวเอง
และเทพให้รอดพ้นสถานการณ์คับขันหลายหน ทว่าประวัติของเสื้อไม่สนุกเท่าประวัติการได้มาซึ่งสร้อยเส้นที่งดงามที่สุดในโลกเลยครับ มันทำให้
เห็นเลือดบ้าของแม่เจ้าประคุณจริงๆ มันเกิดขึ้นเมื่อครั้งหนึ่งเฟรยาได้ข่าวระแคะระคายว่าคนแคระกำลังทำสร้อยเส้นที่สวยที่สุดในโลกให้ฟริกก้า
ชายาของโอดิน เธออยากเห็นว่ามันจะสวยมากมายขนาดไหนจึงดอดเข้าไปในสวาร์ทาฟไฮล์ม

ที่นั่นเฟรยาเห็นคนแคระสี่คนกำลังรุมอะไรสักอย่างที่โรงงาน เธอค่อยๆ ลอบเข้าไปดู แล้วก็เห็นสิ่งที่เธอสงสัย จริงเสียด้วย สร้อยแสนสวยไบรซิงกาเมน
ลวดลายสวยงามและอัญมณีที่ประดับอยู่บนสร้อยส่งประกายระยิบระยับงดงามราวกับดวงดาว มันเรียกร้องเชิญชวนเธอ มันทำให้ความอยากรู้อยากเห็น
กลายเป็นอยากได้ กิเลสของเฟรยาลุกโพลงเวลานั้นเธอยอมแลกทุกอย่างกับการได้ครอบครองไบรซิกาเมน



เฟรยาลงทุนอ้อนวอนคนแคระขอสร้อยเป็นของเธอ ยอมแลกสมบัติที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ได้ แต่คนแคระไม่ยอมให้ เฟรยาแทบจะเกลือกกลิ้งไปกับพื้น
เพื่อให้พวกมันเห็นใจ คราวนี้คนแคระจ้องหน้าเฟรยาครู่หนึ่งแล้วหันไปซุบซิบ ความงามของเฟรยาทำให้คนแคระอยากได้เหมือนกัน แต่คราวนี้มันไม่ยักกะ
อยากได้ทองเป็นของแลกเปลี่ยน แต่พวกมันขอร่วมอภิรมย์กับเฟรยาเรียงตัวแลกกับสร้อย มันเป็นข้อเสนอที่ลบหลู่ศักดิ์ศรีของผู้หญิงมากที่สุด
ยิ่งเป็นเทพีสูงศักดิ์อย่างเฟรยาย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เฟรยา ... ยอม หล่อนคิดเสียว่าหลับหูหลับตาเสียเวลาน่าขยะแขยงไม่กี่นาทีหล่อนก็จะเป็น
เจ้าของสร้อยแล้ว

ผลการกระทำครั้งนี้ทำให้โอดินโกรธมากสั่งให้เฟรยาไปหาวิญญาณนักรบขึ้นมาไถ่โทษ เฟรยาก็ก้มหน้าทำครับ ไม่ว่าจะต้องช่วยบันดาลให้เกิดสงคราม
มากสักกี่ครั้ง ไม่ว่าจะต้องเหนื่อยออกตระเวนล่าวิญญาณอีกกี่ร้อยดวง เพื่อสร้อยไบรซิงกาเมนแล้วหล่อนยอม นิสัยของเฟรยาตรงนี้เห็นชัดๆ เลยว่าเต็มไปด้วย
ความกระหายใคร่อยากและตัณหา ซึ่งมันก็คือด้านมืดของความรักที่เธอเป็นเทพีอยู่




อย่างไรก็ตามครับเฟรยายังมีบุคลิกอีกข้างหนึ่งด้วยเป็นข้างที่อ่อนไหวเหมือนกับหญิงสาวทั่วไป ตำนานที่จะเล่าต่อไปนี้แสดงให้เห็นว่า ถึงเจ้าหล่อน
จะเป็นเทพีแห่งความรัก แต่ชีวิตรักของเธอไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ในบางพื้นที่ทางแถบเหนือเฟรยาไม่ใช่เทพีแห่งความรักอย่างเดียวครับ แต่เป็นเทพี
แห่งความอุดมสมบูรณ์ไปด้วย อุปนิสัยนี้ทำให้เทพโอเดอร์ (Odur, Óðr, Odr, Od) เทพวงศ์วาเนอร์แห่งแสงตะวันเช่นเดียวกับพี่ชายของนางสนใจ
จนในที่สุดเมื่อความรักสุกงอม ทั้งสองก็แต่งงานเป็นสามีภรรยากันมีลูกสาวสองคนคือ เจอเซมิ (Gersemi) และนอส (Hnoss) เป็นผู้หญิงสวย
ที่สุดจนเวลาผู้คนบนแอสการ์ดจะพูดถึงความสวยงามก็ใช้สองชื่อนี้เปรียบเทียบ ชีวิตรักของเฟรยาในช่วงนี้นับว่าสมบูรณ์พูลสุขที่สุด สมาชิกครอบครัว
ทั้งสี่ก็อาศัยอยู่กันบนแอสการ์ดชั่วระยะหนึ่ง แล้วเรื่องก็เกิดขึ้นเพราะอุปนิสัยของโอเดอร์เอง



เช่นเดียวกับดวงอาทิตย์ในฤดูร้อน โอเดอร์ชอบผจญภัยและที่ๆ เขาชอบไปมากที่สุดคือแผ่นดินทั่วโลก โอเดอร์ตื่นขึ้นมาในวันหนึ่งแล้วสูดกลิ่นหอมของฤดูร้อน
มันหอมหวนเสียจนเขาไม่อาจห้ามใจ จู่ๆ เขาก็ออกเดินทางไปจากแอสการ์ดโดยไม่ได้บอกใครสักคน เมื่อเฟรยาตื่นทีหลังแล้วพบว่าสามีหายไป หาอย่างไร
ก็ไม่พบเธอเริ่มร้องไห้ น้ำตาของเธอร่วงเป็นสายตกลงไปยังพื้นโลก ความอุ่นของมันทำให้แทรกตัวลึกลงไปในเนื้อหิน เปลี่ยนเป็นสายแร่ทองคำ

เมื่อไม่มีตัวโอเดอร์ในแอสการ์ด เฟรยาจึงสวมเสื้อขนเหยี่ยวออกเดินทางจากสวรรค์ไปทั่วโลก ทั่วแผ่นดินที่รู้จักและไม่รู้จัก ตลอดเวลานั้นเธอร้องไห้ๆ และร้องไห้
น้ำตาของเฟรยาร่วงลงสู่พื้นดินตามรายทาง (เป็นเหตุให้พบทองคำทั่วโลก) การเดินทางของเฟรยากินเวลายาวนาน แต่ในที่สุดหล่อนก็พบโอเดอร์ ณ แดนใต้
ขณะนั้นเขากำลังหันหลังพิงต้นเมอร์เทิล (Myrtle) อย่างขี้เกียจ เฟรยาโฉบลงจากฟ้าที่ด้านหลังเทพเก็บเอาดอกและใบเมอร์เทิลนั้นมาควั่นเป็นมงกุฏดอกไม้
สวมศีรษะ เจ้าหล่อนโผล่ออกจากที่ซ่อนทำให้สามีประหลาดใจ




ความสดใสของดอกไม้และความงามของเธอ ทำให้ภาพของเฟรยาเหมือนกับวันแรกที่ทั้งสองแต่งงานกัน (อันนี้เป็นต้นเค้าว่าทำไมเจ้าสาวชาวเหนือจึง
สวมมงกุฏดอกเมอร์เทิลในวันแต่งงาน) เฟรยาไม่ถาม ไม่กระบึงกระบอนที่จู่ๆ สามีก็หายไปไม่บอกไม่กล่าว เจ้าหล่อนแสดงแต่ความดีใจที่พบสามีอีกครั้ง
เช่นเดียวกับโอเดอร์ซึ่งดีใจที่ได้พบเมียเหมือนกัน การเดินทางที่คิดว่าหอมหวนของเขากลับไม่มีอะไรน่ารื่นรมย์ ทั้งสองจึงจูงมือกันกลับแอสการ์ด
ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ธรรมชาติก็ฉลองให้แก่เฟรยาและโอเดอร์ด้วยการสร้างดอกไม้ใบไม้ของหน้าร้อนสะพรั่ง



credit : ต้นข้าว@dek-d.com
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่