10 เรื่องตำนานเมืองขนหัวลุกของญี่ปุ่น

10 เรื่องตำนานเมืองขนหัวลุกของญี่ปุ่น

เริ่มโดย etatae333, 23 สิงหาคม 2013, 15:18:22

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

10 เรื่องตำนานเมืองขนหัวลุกของญี่ปุ่น

10. Nure-Onna



นูเระ อนนะ (หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ผู้หญิงเปียก") เป็นสัตว์สะเทือนน้ำสะเทินบก(ปีศาจ?) ที่ ตำนานของญี่ปุ่น
ที่มีหัวเป็นหญิงสาวลำตัว (ร่างกาย) เป็นงู รายละเอียดของรูปร่างหน้าตาของเธอจะแตกต่างเล็กน้อยไปตามเรื่องเล่า
โดยตัวเธอยาว 300 เมคร มีผมสวย (บางตำนานก็มีลำตัวเป็นผู้หญิงมีแขนและหน้าอก) มักอาศัยตามชายฝั่งทะเล
ตำนานที่มาของเธอนั้นไม่มีใครทราบ แต่สิ่งที่หลายคนรู้แน่นอนคือมันเป็นสิ่งอันตรายสำหรับมนุษย์ ที่เธอสามารถ
รัดมนุษย์ด้วยพลังมหาศาลที่สามารถบดขยี้ต้นไม้ได้อย่างง่ายดาย


บางตำนานกล่าวว่าเธอมักพาลูกน้อยมาด้วยเพื่อล่อเหยื่อเข้ามาหา จากนั้นก็ใช้ลิ้นงูพันตัวเหยื่อและดูดเลือดออก
จากร่างกาย อย่างไรก็ตามเธอเป็นปีศาจที่สันโดษ และจะทำร้ายมนุษย์หากรบกวนเธอเท่านั้น นูเระ อนนะใน
ตำนานเมืองปัจจุบัน มีความเชื่อว่าเกิดจากวิญญาณแค้นของผู้หญิงตามน้ำ และมักอยู่สระว่ายน้ำหรือชายหาด
ที่เงียบสงบ หากใครที่ลงไปในน้ำจะถูกปีศาจงูลากเหยื่อให้จมน้ำตาย ซึ่งผู้ปกครองมักเตือนบุตรหลานไม่ให้
ไปว่ายน้ำคนเดียว



9. Hitobashira



ฮิโตบาชิระ หมายถึง เสามนุษย์หรือเสาหลักเมืองในตำนานญี่ปุ่นซึ่งเป็นสังเวยหรือบวงสรวงมนุษย์ที่ใช้มนุษย์ทั้งเป็น
ฝังไว้ใต้หรือใกล้อาคารใหญ่ จำพวกเขื่อน, สะพาน และปราสาท ซึ่งเพื่อเป็นคำอธิษฐานต่อเทพเจ้าเพื่อก่อสร้างเสร็จ
ลุล่วงและไม่ให้อาคารโดนทำลายจากธรรมชาติหรือการโจมตีของศัตรู


เชื่อว่าเสามนุษย์เริ่มขึ้นในสมัยระหว่างก่อสร้างสุสานโบราณของชนชั้นสูงและได้กลายเป็นประเพณีที่อยู่ในท้องถิ่นและเมืองหลายแห่ง
ในญี่ปุ่นอย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีตำนานเสาหลักเมืองพบเห็นในสถานที่ต่างๆ ในญี่ปุ่น แต่เหตุการณ์เหล่านี้ไม่มีหลักฐานยืนยัน



8. Gozu (Cow Head)



โกซูเป็นที่รู้จักในฐานะหัวหน้าวัวซึ่งเป็นตำนานเมืองของญี่ปุ่น โดยตำนานเล่าว่ามีกลุ่มเด็กและอาจารย์แห่งหนึ่งกำลังเบื่อ
ในระหว่างเดินทาง ทำให้คุณครูรู้สึกกังวัลใจกับนักเรียนของเขา จึงตัดสินใจเล่าเรื่องผี ซึ่งสำหรับเด็กแล้วชอบเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว
และแล้วคุณรู้ก็ถามนักเรียนพวกเขาว่าในที่นี้มีใครเคยได้ยิน "หัววัวบ้าง" นักเรียนได้ฟังก็ตอบว่าไม่เพราะไม่เคยคุ้นเคย
กับเรื่องดังกล่าวเลย จากนั้นครูก็เราเรื่องซึ่งเรื่องน่าสนใจมากจนนักเรียนเหมือนต้องมนต์สะกด


เรื่องของครูก็เริ่มน่ากลัวขึ้น น่ากลัวขึ้น จนเด็กนักเรียนหลายคนบอกว่าให้ครูหยุด แต่ปรากฏว่าครูไม่สามารถหยุดเรื่องนี้ได้
จนกระทั้งต่อมาจู่ๆ รถก็หยุดกลางถนน เด็กเอนลงเบาะและก็พบว่าเด็กและคนขับรถตั้งกล่าวไม่สามารถเคลื่อนไหว
หรือพูดอะไรได้เลย เนื่องจากเขาได้ยินเรื่องสยองขวัญของครูและเกิดอาการหวาดกลัวมากนั้นเอง จนกระทั้งต่อมาเมื่อ
ทั้งหมดเคลื่อนไหวได้ ก็พบเรื่องแปลกคือพวกเขาจำเรื่องสยองขวัญน่ากลัวนั้นไม่ได้ อีกทั้งคุณครูก็ไม่สามารถจำได้
เรื่องเล่า "หัววัว" ที่เขาเล่าได้เด็กได้เลย ซึ่งเรื่องสยองขวัญน่ากลัวดังกล่าวเขาได้ลืมไปหมดสิ้น

ตำนานเรื่องสยองขวัญของหัววัวนั้นมีรูปแบบแตกต่างไปตามแต่ละท้องที่ บางท้องที่ถึงขั้นเป็นคำสาปว่าหากใคร
ฟังเรื่องสยองขวัญดังกล่าวพวกเขาจะตายไม่นานหลังจากนั้น ทำให้ไม่มีใครที่รู้เนื้อหาว่าเรื่องมันน่ากลัวขนาดไหน



7. Jinmenken (Human Faced Dog)



หรือสุนัขหน้าคน เป็นเรื่องเล่าที่ฮิตมาในญี่ปุ่นช่วงหนึ่ง ในปลายศตวรรษที่ 1980 และ 1990 (แต่ตำนานเก่าแก่ที่สุด
พบว่ามันมีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ 1603-1868) โดยเป็นรายงานการพบสุนัขที่มีใบหน้าเป็นมนุษย์ มักปรากฏตัวในกลางคืน
บนถนนทางหลวงเขตเมืองของญี่ปุ่น หรือไม่ก็ตามเมืองตอนกลางคืนในขณะคุ้ยถังขยะ ซึ่งมันวิ่งเร็วมาก
ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


นอกจากนี้มันยังสามารถพูดคุยเป็นภาษามนุษย์ได้อีกด้วย แต่ส่วนมากมักพูดเป็นประโยคไม่กี่คำส่วนมากเป็นคำหยาบ
ซึ่งส่วนมากพูดว่า "อย่ามายุ่งกับฉัน" หรือไม่ก็ขอของกิน มีเรื่องเล่าว่ามีเด็กสาวประถมคนหนึ่งนั่งทางไอศกรีม
ที่สวนสาธารณะบนมานั่ง และแล้วเธอก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นว่า "กินมั้ง กินมั้ง" เมื่อเธอหัสกลับไปก็พบสุนัขหน้าชาย
วัยกลางคนน่ากลัวกำลังแลบลิ้นกระดิกหาง ส่งผลทำให้เธอตกใจสุดขีด ส่วนที่มาของสุนัขหน้าคนนั้นมีความแตกต่างกันตาม

บ้างก็ว่าเป็นวิญญาณของเหล่าคนบาปที่ทำกรรมเอาไว้อดีตชาติ หรือเป็นวิญญาณของคนที่ตายบนท้องถนน
บ้างก็ว่าเป็นสัตว์ที่หนีจากการทดลองวิทยาศาสตร์ลับๆ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือที่สุดคือมันน่าจะเป็น
ลิงญี่ปุ่นที่เคลื่อนไหวแบบสี่เท้าของสุนัขทำให้เหมือนสุนัขหน้าคนอีกทั้งเสียงร้องของมันก็เหมือนคำพูดของมนุษย์นั่นเอง



6. Kokkuri-San

http://www.youtube.com/v/y3eoN6d6xV8

แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศขึ้นชื่อว่ากลัวผีมากที่สุด แต่กระนั้นญี่ปุ่นกับชื่นชอบเล่นคกคุริซัง(คล้ายกับผีถ้วยแก้วบ้านเรา)
อยู่ไม่น้อย โดยเป็นเกมญี่ปุ่นในช่วงยุคเมจิซึ่งคล้ายๆ กับการทำนาย โดยวิธีเล่นจะใช้กระดานที่เรียกว่า Ouija
(หรือจะเป็นกระดาษ ซึ่งเขียนรูปประตูตรงกลางหัวกระดาษและพยัญชนะญี่ปุ่น) และใช้เหรียญสิบเยนเรียกวิญญาณเลื่อนไปมา
สร้างคำเพื่อตอบคำถาม โดยผุ้เล่นต้องมีสองคนขึ้นไป และให้ทุกคนวางนิ้วบนเหรียญสิบเยนแล้วท่องว่า


"คกคุริซัง คกคุริซังที่นี้คือโลกดาวเคราะห์ดวงที่สามแห่งระบบสุริยะ (ที่อยู่) กรุณามาที่นี่ด้วย ถ้าหากมาแล้วละก็
ช่วยกรุณาเคลื่อนไปยังคำว่า ใช่ ที่เถิด"


หากเหรียญเคลื่อนไปคำว่าใช่ก็สามารถตอบคำถามได้ตามชอบใจ ซึ่งเชื่อว่าวิญญาณดังกล่าวคือสุนัขจิ้งจอก
อย่างไรก็ตามถ้าใครถอดนิ้วออกกลางคันจะถูกเข้าสิงและฆ่าคนนั้นตาย ซึ่งตำนานเมืองได้กล่าวว่ามีผู้คิดจะเลิกคกคุริซัง
กลางคันและถูกวิญาณเข้าสิงจำนวนมาก ซึ่งส่วนมากมักมีอาการโรคจิต



5. Hanako-San of the Toilet

http://www.youtube.com/v/z5QPrcRo1BI

คุณฮานาโกะแห่งห้องน้ำ ฮานาโกะซัง เป็นชื่อวิญญาณที่เป็นความเชื่อของนักเรียนในประเทศญี่ปุ่นที่ฮิตญี่ปุ่นในปี 1980
ในหมู่เด็กประถมทั่วประเทศ โดยเล่าว่ามีวิญญาณเด็กนักเรียนหญิงที่เสียชีวิตในห้องน้ำ ซึ่งนักเรียนลือกันให้ทั่วว่าฮานาโกะซัง
จะอยู่ในห้องน้ำห้องสุดท้ายทางขวามือ ถ้าอยากเจอเธอ จะต้องเคาะประตูห้องนั้นสามครั้งแล้วเรียกชื่อเธอตอนกลางคืน


ตำนานของฮานาโกะมีอยู่หลากหลาย บ้างก็ว่ามีมีมาตั้งแต่สมัยสงครามโลก มีเด็กหญิงคนหนึ่งพลัดหลงจากมือแม่ยาม
ที่เครื่องบินมาทิ้งระเบิด ผู้คนต่างหนีตายกันแบบมั่วไปหมด เธอผู้นั้นกลัวมากเลยเข้าไปหลบในห้องน้ำสาธารณะ
แต่แล้วห้องน้ำถูกไฟไหม้ เธอเอื้อมมือไปเปิดประตูแต่ประตูเกิดเสียเลยเปิดไม่ออก เธอร้องไห้ทรมานอยู่ในนั้น
แล้วลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเธอ เธอร้องหาแม่คำสุดท้ายจนไฟก็ลามมาถึง เธอเลยถูกไฟคลอกตายในนั้น

ตั้งแต่นั้นมาหลายสมัย วิญญาณของเธอไม่ได้อยู่กับที่ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าจะเลือกสิงห้องน้ำใดห้องน้ำหนึ่ง
เธอล่องลอยไปทั่งญี่ปุ่นแล้วเข้าไปในห้องน้ำต่างๆ พอเข้าไปแล้วก็เปิดประตูไม่ออก ร้องให้คนช่วยเป็นอย่างงี้มาเรื่อยๆ
ถ้าบังเอิญใครไปเข้าห้องน้ำสาธารณะยามวิกาลคนเดียว ก็จะมีเสียงเด็กผู้หญิงร้องไห้อยู่ห้องข้างๆ เสียงนั้นทรมาน
ร้องว่า เปิดไม่ออก เปิดไม่ออก

http://www.youtube.com/v/B87txEFwSUs

อย่างไรก็ตามตำนานที่ฮิตที่สุดของฮานาโกะก็คือ ตำนานน้ำหมึกสีแดง เป็นความเชื่อที่เล่าสืบต่อกันมาว่ามีกลุ่มเด็กผู้หญิง
กลุ่มหนึ่งที่เป็นพวกท้าทาย ได้เข้าไปพิสูจน์ความกล้าในโรงเรียนยามวิกาล ที่ห้องน้ำซึ่งเชื่อกันว่ามีฮานาโกะสิงสถิตอยู่
หนึ่งในกลุ่มเด็กหญิงเห็นหมึกสีแดงวางอยู่ในห้องน้ำจึงคิดพิเรนท์เอาหมึกสีแดงมาทาตัวราวกับตัวโชกเลือด
และเข้าไปหลอกทุกคน เพื่อนๆตกใจจนสั่งให้เธอคนนี้ลบหมึกสีแดงบนตัวออก วันต่อมา เด็กหญิงที่แกล้งเอาหมึก
สีแดงมาทาตัว ได้ถูกรถบรรทุกชนเสียชีวิต ในสภาพมีเลือดโชกตัวเหมือนที่เธอแกล้งเพื่อนในคืนนั้นเอง



4. Gashadokuro



กาซาโดคุโระเป็นชื่อของปีศาจโครงกระดูกยักษ์ใหญ่กว่ามนุษย์หลายเท่า มีนิสัยชั่วร้ายอำมหิตโหดร้าย ชอบปรากฏตัว
กลางป่าเปลี่ยวหลังเที่ยงคืน วิธีที่ทำให้รู้ว่ามันจะปรากฏตัวคือจะได้ยินเสียงแปลกๆ ในรูหูของเรา เมื่อเจอมนุษย์
จะคว้ามนุษย์คนนั้นและพยายามกัดหัวจนตาย ที่มาของโครงกระดูกยักษ์นั้นมีหลากหลาย


บ้างก็ว่าเกิดจากการรวบรวมกระดูกของคนตายเพราะความอดอยาก ที่ไม่ได้ถูกเผา และวิญญาณของศพจึงรวมกัน
เป็นกระดูกยักษ์ นอกจากนี้ยังมีตำนานกล่าวว่าสมัยก่อนปีศาจโครงกระดูกยักษ์เคยเป็นแม่ทัพนำกองทหารบุกฆ่า
และผ่านศึกสงครามมามากมาย จนในที่สุดได้จิตใจที่เหี้ยมโหดผิดมนุษย์ เขาได้ฆ่าจักรพรรดิโชกุนของตนเองตาย
และขึ้นเป็นประมุขแทน ด้วยบาปกรรมนี้เองเมื่อเขาตายไปจึงถูกสาปให้ไปเกิดเป็นคาชาโดคุโระ เฝ้าสุสานอยู่จนกว่า
จะหมดกรรม...

กาชาโคโระมีพลังพิเศษสามารถเข้าครอบงำจิตใจมนุษย์ได้แต่จิตใจนั้นต้องเป็นจิตที่ชั่วช้า และจิตใจด้านมืดของมนุษย์
เมื่อมนุษย์หลงทางผิด มักมุ่นอยู่ในโมหะและกิเลศตัณหา เมื่อถึงเวลานั้นมันก็จะเข้าครอบงำจิตใจและสิงร่างอาศัย
ไปก่อความเดือดร้อนวุ่นวาย



3. Aka Manto (Red Cape)



เสื้อคลุมแดงเป็นตำนานเมืองของญี่ปุ่นว่าหากคุณกำลังนั่งชักโครกในห้องน้ำสาธารณะหรือโรงเรียน หากมีเสียงลึกลับ
ถามคุณว่าต้องการกระดาษสีแดงหรือกระดาษสีฟ้า ถ้าคุณตอบว่ากระดาษสีแดงคุณจะถูกหั่นออกจากกันจนเสื้อผ้า
ของคุณถูกย้อมเป็นสีแดง ถ้าคุณเลือกกระดาษสีฟ้าคุณจะถูกรัดคอจนผิวหนังของคุณเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน


ดังนั้นหากคุณที่คิดจะรอดล่ะก็ควรตอบไม่เอาทั้งสองอย่าง แต่ส่วนมากหลายคนมักตอบกระดาษสีใดสีหนึ่ง
เนื่องจากเป็นคำถามกระทันหันทำให้หลายคนตอบอย่างไม่รู้ตัว ตัวที่มาของเสียงนั้นกล่าวกันว่าเป็นมนุษย์
ที่อยู่ในเสื้อคลุมสีแดง ซึ่งไม่ทราบเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเพราะสวมหน้ากากมิดชิด

แต่ตำนานที่เชื่อกันคือเป็นผู้หญิงสาวสวยที่กลายเป็นวิญญาณหลอกหลอน เสื้อคลุมสีแดงก็เป็นอีกตำนานหนึ่ง
ที่มีหลายเวอร์ชั่นบางเรื่องก็เปลี่ยนจากกระดาษสีแดงเป็นเสื้อกั๊กสีแดง โดยเล่ากันว่ามีตำรวจหญิงคนหนึ่งถูกเรียกตัว
ไปที่โรงเรียนหลังจากได้รับรายงานว่าได้ยินเสียงผู้ชายในห้องน้ำหญิง เมื่อตำรวจหญิงเข้าไป
(โดยให้คู่หูที่มีตำรวจชายอยู่ข้างนอก) และจู่ๆ ก็มีเสียงถามกะทันหันวา "เธอจะใส่เสือสีแดงได้หรือไม่"

เมื่อเธอได้ยินก็เผลอตอบว่าใช่ และแล้วเสียงกรีดร้องของตำรวจหญิงก็ดังขึ้น เมื่อตำรวจชายด้านนอกได้ยินจึงรีบ
เข้าไปข้างในและเปิดประตูห้องน้ำก็พบศพตำรวจหญิงไร้หัว เลือดของเธอได้เลอะเสื้อของเธอจนเสื้อเปลี่ยนเป็นสีแดง



Teke-Teke

http://www.youtube.com/v/tFjmeBM41Bg

เทเค-เทเค เป็นตำนานเมืองญี่ปุ่นซึ่งเป็นเรื่องของหญิงสาวหรือนักเรียนหญิงที่เกิดอุบัติเหตุหล่นลงไปทางรถไฟ
และร่างกายของเธอก็ถูกตัดครึ่งโดยรถไฟที่แล่นมาทับ และเธอก็กลายเป็นวิญญาณพยาบาล ถือเคียวหรือเลื่อย
และเดินทางโดยใช้ข้อศอกเคลื่อนตัวไปคลานไปมาโดยขณะที่เธอลากตัวเธอจะเกิดเสียง ทัคเค-ทัคเค
อันเป็นที่มาของชื่อดังกล่าว


แม้ว่าจะคลานแต่มีความเร็วมาก หากใครพบเห็นเธอและหนีเธอไม่พ้นจะถูกเชือด และตัดครึ่งตัวของเหยื่อเพื่อเป็นเทเคตัวใหม่ต่อไป
อย่างไรก็ตามตำนานดังกล่าวมีหลายเวอร์ชั่น แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือตำนานเกี่ยวกับผู้หญิงที่ฆ่าตัวตายจากการโดดรางรถไฟ
จนร่างกายขาดเป็นสองท่อน แต่เธอไม่ตายทันที โดยเธอใช้ข้อศอกคลานพร้อมร้องเรียกว่าโดยเสียงโหยหวนว่า


"ขาของฉันอยู่ไหน"


1. Kuchisake-onna

http://www.youtube.com/v/NotjQjc8iL0

ผีสาวปากฉีกเป็นตำนานที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ซึ่งมีลักษณะปากฉีกถึงใบหู โดยผีปากฉีกเป็นตำนานผีพยาบาลที่อยู่ในสมัยเฮฮัน
หากแต่ปัจจุบันผีสาวปากฉีดได้กลายเป็นตำนานเมืองที่มีพฤติกรรมน่ากลัว ที่เล่าลือในกลุ่มเด็กที่เล่าว่า มันมักจะยืนอยู่ตรง
ริมถนนในช่วงเย็นๆถึงค่ำ ในวันที่หมอกลง และจะสวมผ้าปิดปากไว้ พอใครเดินผ่านมาจะเข้าไปทัก


แล้วถามว่า ฉันสวยไหม?

ถ้าตอบกลับไปว่าสวย แล้วสาวปากฉีกจะถอดผ้าปิดปากออก แล้วถามอีกครั้งว่า แล้วแบบนี้ละ?
เหยื่อที่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของสาวปากฉีก ถ้าตกใจแล้วพยายามวิ่งหนี สาวปากฉีกจะวิ่งไล่ และหนียังไง
ก็หนีไม่พ้น สาวปากฉีกจะเล่นงานเหยื่อโดยจะตัดให้ปากฉีกเหมือนเธอ เชื่อกันว่าหากถูกสาวปากฉีกวิ่งไล่
ให้โยนขนมหวานชื่อดัง จะดึงความสนใจสาวปากฉีกไปที่อื่นได้

และยังมีเรื่องเล่าต่อเนื่องในการตอบคำถามของเธอครั้งที่สอง หากตอบว่าไม่สวยเธอก็จะวิ่งไล่และเล่นงาน
แต่หากตอบว่า ก็ดูปกติดีนี่ ก็สวยดีนี่ สาวปากฉีกจะพอใจและไม่ทำร้ายเหยื่อ แล้วจากไปแต่โดยดี
ผีสาวปากฉีกเป็นตำนานที่ได้รับความนิยมและตื่นตระหนกในประเทศญี่ปุ่นในระหว่างปี 1980
ซึ่งในเวลานั้นทางการถึงขั้นประกาศให้โรงเรียนระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย



เครดิต : cammy แปล และ เรียบเรียง
แหล่งที่มา : Dek-D.com
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

unless

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

oomaim

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
Post by Speed Boom Origin SBO