เสือทัสมาเนียนพ้นมลทินจากข้อหากินแกะ

เสือทัสมาเนียนพ้นมลทินจากข้อหากินแกะ

เริ่มโดย etatae333, 19 ตุลาคม 2013, 14:15:38

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

ผู้ร้ายกินแกะ



กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสัตว์กินเนื้อที่ชื่อว่าเสือทัสมาเนียน (Tasmanian tiger) อาศัยอยู่บนเกาะเล็กๆ ทางตะวันออกเฉียงใต้
ของทวีปออสเตรเลีย รูปลักษณ์ของสัตว์ชนิดนี้อยู่ก้ำกึ่งระหว่างสุนัขกับเสือ มองด้านหน้าคล้ายๆ กับสุนัข แต่กลับมีลายคล้ายเสือ
อยู่ท้ายลำตัว


อย่างไรก็ตามเสือทัสมาเนียนไม่ใช่ทั้งเสือและสุนัข เพราะเสือทัสมาเนียนมีกระเป๋าหน้าท้อง อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นที่พบเฉพาะ
สัตว์ในทวีปออสเตรเลีย ฉะนั้นหากจะนับญาติกันแล้ว เสือทัสมาเนียนถือว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจิงโจ้และโคอาล่า
เสือทัสมาเนียนที่โตเต็มที่มีความยาวประมาณ  180 เซนติเมตร (จากจมูกถึงหาง, หางยาวประมาณ 50 เซนติเมตร)
หนักประมาณ 30 กิโลกรัม จัดเป็นสัตว์กินเนื้อมีกระเป๋าหน้าท้องที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยพบ



นอกจากนี้เสือทัสมาเนียนยังมีความสามารถที่น่าทึ่งอีกอย่างคือ สามารถอ้าปากได้กว้างถึง 120 องศา กว้างกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใดๆ
ไม่มีใครทราบสาเหตที่แท้จริง แต่คาดว่าเป็นการคัดสรรตามธรรมชาติที่ทำให้เสือทัสมาเนียนหายไปจากแผ่นดินใหญ่ของทวีป
ออสเตรเลียตั้งแต่เมื่อสองพันปีก่อน เหลืออยู่เพียงบนเกาะทัสมาเนียเท่านั้น เสือทัสมาเนียนจึงถูกขนานนามตามชื่อเกาะแห่งนี้


                                         
ทวีปออสเตรเลีย และ เกาะทัสมาเนีย



เกาะทัสมาเนียเป็นแหล่งพำนักอันสงบสุขของเสือทัสมาเนียนอยู่นาน จนกระทั่งชาวยุโรปอพยพไปตั้งถิ่นฐานบนทวีปออสเตรเลีย
และแน่นอนว่ารวมถึงเกาะทัสมาเนียด้วยชาวยุโรปเข้าไปเข้าไปตั้งถิ่นฐาน รุกไล่พื้นที่ป่าเพื่อปลูกพืชไร่และเลี้ยงสัตว์ 
โดยเฉพาะ แกะ ซึ่งเลี้ยงกันอย่างกว้างขวาง

                                     
เมื่อมีผู้ย้ายไปอยู่ใหม่เป็นธรรมดาที่จะกระทบกระทั่งกับผู้อาศัยเดิม ชาวบ้านมักพบเห็นเสือทัสมาเนียนเข้ามาวุ่นวายกับแกะที่เลี้ยงไว้
หากแกะโดนขโมยกินหมายถึงการสูญเสียรายได้ เสือทัสมาเนียนจึงถูกเจ้าของฟาร์มสังหารอยู่เนืองๆ ยิ่งว่านั้นรัฐบาลออสเตรเลีย
ถึงกับประกาศให้นำศพเสือทัสมาเนียนมาขึ้นเงินรางวัลได้ เพราะเห็นว่าเสือทัสมาเนียนสร้างความสูญเสียให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงแกะ
อย่างมาก ความโชคร้ายจึงตกอยู่กับเสือทัสมาเนียนเมื่อมีการตั้งค่าหัว การล่าเพื่อเงินรางวัลก็เริ่มขึ้น เสือทัสมาเนียนถูกสังหารหมู่
อย่างไร้ความยั้งคิด
                         
ผลคือ เสือทัสมาเนียนลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วจนเกือบสูญพันธุ์ ทำให้รัฐบาลต้องหันกลับมาตั้งองค์กรเพื่ออนุรักษ์
เสือทัสมาเนียนแทนแต่สายไปแล้ว...




หลังจากเริ่มอนุรักษ์ได้ไม่กี่เดือน "เบนจามิน" เสือทัสมาเนียนตัวสุดท้ายของโลกก็เสียชีวิตในกรงขังที่สวนสัตว์โฮบาร์ต
บนเกาะทัสมาเนีย เสือทัสมาเนียนสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้ในวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2479 เพราะถูกพิพากษาประหาร
ข้อหาขโมยแกะ


                                                         
พ้นมลทิน
75 ปี ผ่านไป...งานวิจัยใหม่ชี้ว่าเสือทัสมาเนียนเป็นผู้บริสุทธิ์!



นักวิทยาศาสตร์จากจากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลล์ ได้เผยแพร่ผลงานวิจัยที่ช่วยแก้ต่างให้เสือทัสมาเนียน ในวารสาร
Journal of Zoology เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2554 นี้เอง


Marie Attard พยายามศึกษาถึงพฤติกรรมการกินอาหารของเสือทัสมาเนียนเพื่อหาปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการสูญพันธุ์ของสัตว์
ซึ่งอาจช่วยให้เข้าใจสาเหตุที่เสือทัสมาเนียนหายไปจากแผ่นดินใหญ่ของออสเตรเลีย Marie ได้สร้างแบบจำลองหัวกะโหลก
ของเสือทัสมาเนียนขึ้นในคอมพิวเตอร์ แล้ววิเคราะห์ด้วยวิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ (Finite Element Method) โดยทั่วไปเทคนิค
วิเคราะห์ด้วยไฟไนต์เอลิเมนต์นิยมใช้ในทางวิศวกรรม เช่น ใช้จำลองชิ้นงานในคอมพิวเตอร์เพื่อวิเคราะห์ว่ามีจุดเปราะบางที่จุดใดบ้าง
ก่อนที่จะผลิตออกมาใช้งานจริง



เทคนิคนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้เพื่อวิเคราะห์แรงกัดของของเสือทัสมาเนียน เปรียบเทียบกับสัตว์กินเนื้อที่มีกระเป๋าหน้าท้อง
อีก 2 ชนิด คือ ทัสมาเนียนเดวิล (Tasmanian devil) และ ควอลล์หางจุด (Spotted-tail quoll) ซึ่งทราบพฤติกรรม
การกินอาหารของมันดีอยู่แล้ว



Tasmanian devil                                         


Spotted-tail quoll

แบบจำลองในคอมพิวเตอร์ถูกสร้างขึ้นอย่างละเอียด กำหนดตัวแปรของเนื้อเยื่อแต่ละชนิด เชื่อมโยงด้วยมัดกล้ามเนื้อถึง 7 มัด
จากนั้น จึงทดสอบการกัดเหยื่อเพื่อวัดว่าเสือทัสมาเนียนมีแรงกัดมากแค่ไหน นอกจากนี้ยังกำหนดค่าให้เหยื่อมีการดิ้นในรูปแบบ
ต่างๆ เช่น สะบัดไปมา บิดตัว กระชากตัวเพื่อหนี เพื่อให้แบบจำลองสอดคล้องกับความเป็นจริงที่สุด ...ผลปรากฏว่า...



แม้เสือทัสมาเนียนจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสัตว์กินเนื้อที่มีกระเป๋าหน้าท้อง แต่กรามของมันกลับไม่มีกำลังมากพอ
ที่จะฆ่าสัตว์ขนาดใหญ่อย่างแกะ และขากรรไกรของเสือทัสมาเนียนยังเปราะบางเกินกว่าจะทนแรงดิ้นของแกะได้ด้วย
นั่นหมายถึงเสือทัสมาเนียนไม่มีทางล่าแกะที่แข็งแรงดีกินเป็นอาหารได้แน่นอน Marie อธิบายว่าเสือทัสมาเนียน
น่าจะล่าเหยื่อที่มีขนาดเล็กกว่าตัวมันค่อนข้างมากเป็นอาหาร ซึ่งน่าจะมีขนาดพอๆ กับตัวโอพอสซั่ม (Opossum)
หรือวอลลาบี (Wallaby) เท่านั้น



Opossum                                 


Wallaby

สรุปคือที่ผ่านมาเสือทัสมาเนียนถูกปรักปรำว่าเป็นผู้ร้ายฆ่าแกะ และถูกมนุษย์ตัดสินประหารจนสูญพันธุ์ไป 
เพียงเพราะเกรงว่าเสือทัสมาเนียนจะมาขัดขวางการตักตวงผลประโยชน์จากการทำปศุสัตว์


แม้จะพ้นจากข้อกล่าวหา แต่เผ่าพันธุ์ของเสือทัสมาเนียนก็สูญสิ้นไปหมดแล้ว เหลือเพียงภาพถ่าย วีดีโอซาก
และซากที่สตาฟไว้ที่เป็นหลักฐานว่าเคยมีเสือทัสมาเนียนอยู่บนโลกนี้ร่วมกับเรา และเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เห็นถึง
ผลของการกระทำอันไร้ความยั้งคิด ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ทางธุรกิจ


เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า



การตัดสินสิ่งต่างๆ จากภาพที่ปรากฏเพียงผิวเผิน โดยไม่คิดวิเคราะห์ให้ถี่ถ้วนก่อน นำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลยร้ายเพียงใด
เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดกับสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่นที่คุยกับเราไม่รู้เรื่องเท่านั้น ในสังคมของเราเองก็เช่นกัน หลายคน
มักตัดสินผู้อื่นอย่างผิวเผิน จากภาพลักษณ์สิ่งที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ นำไปสู่การประณาม การตอบโต้ในรูปแบบต่างๆ
ก่อนที่จะตรึกตรองหรือวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนด้วยซ้ำ สิ่งใดที่กระทำลงไปแล้วก็ยากทีจะย้อนกลับไปแก้ไขให้เหมือนเดิม


กรณีของเสือทัสมาเนียน มีความพยายามที่จะโคลนนิ่งกลับมา โดยใช้ดีเอ็นเอจากศพที่ดองไว้ แต่โครงการนี้ก็ล้มเหลว
เพราะดีเอ็นเอสกัดออกมา เสียหายเกินกว่าจะนำมาสร้างเป็นเสือทัสมาเนียนอีกครั้ง ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว เพราะตอนที่
ล่าคงไม่มีใครคิดจะเก็บรักษาเอาไว้

สิ่งที่เกิดขึ้นกับเสือทัสมาเนียนอาจจะเกิดขึ้นกับสายพันธุ์อื่นที่โดนมนุษย์รุกรานถิ่นอาศัย อีกหลายร้อยหลายพันชนิด
เพียงแต่เราอาจไม่เห็นอย่างชัดแจ้งอย่างกรณีของเสือทัสมาเนียน เราจึงไม่รับรู้ผลการกระทำของเรา
หรือกว่าจะรับรู้ ก็อาจสายไปแล้วก็เป็นได้




อ้างอิง
Skull mechanics and implications for feeding behaviour in a large marsupial carnivore
guild: the thylacine, Tasmanian devil and spotted-tailed quoll
M.R.G. Attard, U. Chamoli, T.L. Ferrara, T.L. Rogers, S. Wroe

http://onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1111/j.1469-7998.2011.00844.x/full
http://www.physorg.com/news/2011-09-tasmanian-tiger-jaw-small-sheep.html
http://www.fogonazos.es/2007/04/last-thylacine.html
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่