ธุรกิจการบิน"ฮับ"เชียงใหม่สุดคึก! แอร์เอเชียท้าชนดราก้อนแอร์ชิงแชร์น่านฟ้าฮ่องกง

[etatae333]

ธุรกิจการบิน"ฮับ"เชียงใหม่สุดคึก! แอร์เอเชียท้าชนดราก้อนแอร์ชิงแชร์น่านฟ้าฮ่องกง

ฮับบินเชียงใหม่คึกคัก "ดราก้อนแอร์" ฟัด "ไทย แอร์เอเชีย" ชิงเค้กผู้โดยสารน่านฟ้า "ฮ่องกง"
หลังดีมานด์จีน-ญี่ปุ่นแห่เที่ยวเชียงใหม่พุ่งไม่หยุด ด้าน "คาเธ่ย์ฯ" เพิ่มเที่ยวบินกรุงเทพฯ-ฮ่องกง
รับลมหนาว รองรับตลาดคนไทยกระหน่ำช็อปปิ้ง พร้อมกางแผนกลยุทธ์สู้อุตฯการบินโลกแข่งดุ
มุ่งพัฒนาโปรดักต์เจาะความต้องการแบบนิชมาร์เก็ตมากขึ้น

นายทัศ พล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย แอร์เอเชีย กล่าวว่า มีแผนเปิดเส้นทางบินใหม่
เชียงใหม่-ฮ่องกง โดยจะเริ่มบิน 7 มกราคมปี 2557 เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของชาวเชียงใหม่และ
นักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ ต้องการบินเชื่อมต่อจากเชียงใหม่ไปฮ่องกง โดยไม่ต้องผ่านกรุงเทพฯ และหวังว่าจะช่วย
กระตุ้นการท่องเที่ยวเชียงใหม่ให้คึกคักมากยิ่งขึ้น เพราะถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เป็นที่ชื่นชอบของชาวฮ่องกง ทั้งเรื่องของอาหารไทย ธรรมชาติ รวมถึงศิลปวัฒนธรรมและวัดวาอาราม
ที่สวยงามของชาวเหนือ เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางแบบส่วนตัว คู่รัก และครอบครัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไทย แอร์เอเชีย มีแผนดันเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ทางการบินที่แข็งแกร่งอีกจุดหนึ่ง
โดยเส้นทางในประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ไปกรุงเทพฯ ภูเก็ต หาดใหญ่ อุบลราชธานี กระบี่ ส่วนเส้นทาง
ต่างประเทศมีมาเก๊า และฮ่องกง

นอกจากนี้ กำลังศึกษาความเป็นไปได้สำหรับเส้นทางบินตรงไปเมืองอื่น ๆ ของจีนตอนบน เช่น หางโจว
ซึ่งมีดีมานด์เที่ยวเชียงใหม่สูงมาก ส่งผลให้สายการบินต่าง ๆ ทั้งของไทยและจีนเพิ่มเที่ยวบินตรงเข้าเชียงใหม่
อย่างต่อเนื่อง

นาย เลสลี่ ลู ผู้จัดการประจำประเทศไทย สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค กล่าวว่า เชียงใหม่ถือเป็นจุดหมายปลายทาง
ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั้งเมืองจีนและ ฮ่องกง จึงส่งสายการบินดราก้อนแอร์ แบรนด์ลูกในเครือคาเธ่ย์ฯ
ให้บริการเส้นทางเชียงใหม่-ฮ่องกงเป็นสายการบินแรก โดยได้เพิ่มความถี่เที่ยวบินจาก 5 เป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวจีนและญี่ปุ่นที่ต้องการเดินทางมา ที่เชียงใหม่
รวมถึงชาวเชียงใหม่ที่ต้องการเดินทางไปญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาโดยแวะเปลี่ยน เครื่องที่ฮ่องกง

ปัจจุบัน เส้นทางเชียงใหม่-ฮ่องกงมี 2 สายการบินที่ให้บริการ คือ ดราก้อนแอร์ และฮ่องกง เอ็กซ์เพรส ที่เพิ่งเปิด
ให้บริการไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และกำลังจะมีไทย แอร์เอเชียเข้ามาให้บริการเพิ่ม เมื่อมีผู้เล่นมากขึ้น
ดราก้อนแอร์จำเป็นต้องรักษาความเป็นผู้นำของเส้นทาง บินนี้

"กรุงเทพฯ-ฮ่องกง เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่มีการเติบโตอย่างมาก ปัจจุบันมีเที่ยวบินทั้งหมด 174 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
จาก 12 สายการบินที่ให้บริการ และในช่วงตารางการบินฤดูหนาวหรือไฮซีซั่นนี้ สายการบินคาเธ่ย์ฯได้เพิ่มเที่ยวบิน
จาก 42 เป็น 52-63 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพื่อรองรับกระแสการเดินทางของทั้งลูกค้าชาติอื่น ๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น
อเมริกาเหนือ รวมถึงคนไทย ซึ่งการท่องเที่ยวฮ่องกงได้ระบุอัตราการเติบโตของตลาดไทยเที่ยวฮ่องกงในช่วง 9
เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัวอยู่ที่ 8%"

สำหรับเส้นทางอื่น ๆ อย่างภูเก็ต-ฮ่องกง ของสายการบินดราก้อนแอร์ ซึ่งปัจจุบันให้บริการ 13 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
ถือเป็นเส้นทางที่ตอบโจทย์กลยุทธ์การเป็นฮับบินของฮ่องกงได้ดี เพราะผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวขาเข้า
(อินบาวนด์) ถึง 90% จากจีนและอเมริกาเหนือ

นอกจากนี้ คาเธ่ย์ฯยังให้บริการเส้นทางบินจากกรุงเทพฯไปอินเดีย เมืองเดลี 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ไปการาจี 4
เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ไปโคลอมโบ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และกรุงเทพฯไปสิงคโปร์ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ รวมจำนวน
เที่ยวบินทั้งหมดของคาเธ่ย์ฯและดราก้อนแอร์ที่บินเข้า-ออกกรุงเทพฯ อยู่ที่ 93 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

"เราได้ประกาศทำโค้ดแชร์หรือทำการ บินร่วมกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ในเส้นทางกรุงเทพฯไปเชียงใหม่,
กระบี่ และเกาะสมุย เมื่อ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมาด้วย" นายเลสลี่กล่าว และว่านอกจากนี้ การแข่งขันในตลาดการบิน
โลกยังรุนแรงต่อเนื่อง ทำให้คาเธ่ย์ฯต้องปรับกลยุทธ์ทำตลาดความสนใจเฉพาะ (นิชมาร์เก็ต) ด้วยการพัฒนา
ผลิตภัณฑ์แทนการแข่งขันด้านราคา

"ตลาดการบินในเมืองไทย เองก็แข่งขันสูงอย่างมาก กลยุทธ์การทำตลาดของเราจะเน้นเรื่องราคาที่คุ้มค่า
ไม่ใช่การดัมพ์เพื่อสู้กับคู่แข่ง และมุ่งพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งเส้นทางบินระยะไกล
และในรีจินอล พร้อมเพิ่มจุดบินใหม่ ๆ ขยายเน็ตเวิร์กเพื่อเป็นทางเลือกแก่ลูกค้า"

นายเลสลี่กล่าวถึงผลการ ดำเนินงานของคาเธ่ย์ฯในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาด้วยว่า สายการบินมีกำไรที่ 24 ล้านเหรียญฮ่องกง
เติบโตถึง 102% มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (เคบินแฟคเตอร์) เฉลี่ยที่ 81% สำหรับครึ่งปีนั้นคาดหวังว่าผลการ
ดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะใกล้เคียงกับ ครึ่งปีแรกทั้งกำไรและเคบินแฟคเตอร์

ปัจจุบันสายการบินคาเธ่ย์ฯมีฝูง บินทั้งหมด 137 ลำในปีนี้ ให้บริการ 177 เดสติเนชั่นใน 40 ประเทศทั่วโลก
และรอทยอยรับมอบอีก 74 ลำในอนาคต ส่วนดราก้อนแอร์ปีนี้มีฝูงบินทั้งหมด 39 ลำ ให้บริการ 45 เดสติเนชั่น
ใน 14 ประเทศ

credit :: prachachat.net