บทสัมภาษณ์คุณ จ๊ะเอ๋ย Yes business School

บทสัมภาษณ์คุณ จ๊ะเอ๋ย Yes business School

เริ่มโดย projectpost, 20 กุมภาพันธ์ 2014, 17:51:28

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

projectpost

คลิกเพื่อดูภาพเต็ม


สัมภาษณ์คุณจ๊ะเอ๋ย
1. ให้คุณจ๊ะเอ๋ยช่วยแนะนำตัวหน่อยค่ะ เรียนจบด้านไหน และตำแหน่งปัจจุบันคืออะไรคะ

- ชื่อ จ๊ะเอ๋ย ค่ะ นางสาว ธันย์ชนก คำคุณ เรียนจบปริญญาตรีจากธรรมศาสตร์ คณะ SIIT ( Sirindhorn Internation Institute of Technology) ภาควิชา Management Technology สาขา Supply Chain Management หลังจากจบปริญญาตรี ก็บินไปเรียนต่อ Diploma สาขา Fashion Design ที่ Istituto Marangoni Milan Italy เป็นเวลา 1 ปี ค่ะ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่แบรนด์เสื้อผ้าสตรี KEM ISSARA ตำแหน่ง Studio Manager ค่ะ


2.Studio Manager มีหน้าที่อะไรบ้าง และมีความสำคัญต่อธุรกิจเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นอย่างไร
- หน้าที่ของ Studio Manager ที่จ๊ะเอ๋ยทำอยู่ จะมีหน้าที่หลักคือ ดูแลความเรียบร้อยของกระบวนการการผลิตสินค้าและสต๊อคสินค้า รวมไปถึงหน้าที่ในการออกแบบดีไซน์, งาน creative ต่างๆ, โปรเจคดีไซน์พิเศษ และ ติดต่อกับต่างประเทศ เรียกได้ว่าทำงานภาพรวมทั้งหมด แต่เน้นหลักๆคือการผลิตและสต๊อคสินค้า
ความสำคัญของหน้าที่จริงๆแล้วทุกหน้าที่ในงานด้านธุรกิจแฟชั่นสำคัญทั้งหมด เพราะทุกหน้าที่ต้องติดต่อสื่อสารเชื่อมโยงกันตลอดจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ ความสำคัญของหน้าที่ที่จ๊ะเอ๋ยทำเห็นจะเป็น การดูแลภาพรวมและแก้ปัญหาต่างๆให้งานและสินค้าออกมาดีที่สุด

3.สำหรับคนที่ต้องการทำงานสายแฟชั่น คิดว่าการเรียน Fashion Marketing จำเป็นหรือไม่ อย่างไร
-  สำหรับคนที่ต้องการทำงานด้านนี้ เรื่อง Fashion Marketing เป็นอีกเรื่องนึงที่สำคัญและคนมักมองข้ามไปเน้นเรื่องการดีไซน์เป็นหลัก แต่จริงๆแล้วนอกเหนือจากการดีไซน์ Fashion Marketing เป็นอีกหนึ่งสาขาวิชาที่ทำให้เจ้าของแบรนด์หรือตัวดีไซน์เนอร์เองรู้จักลูกค้าหรือผู้บริโภคมากขึ้น อีกทั้งยังจะทำให้การออกแบบหรือการทำงานมีระบบระเบียบมากขึ้น เพราะเราจะรู้ว่าเราทำอะไร เพื่อใคร และทำอย่างไร Fashion Marketing จึงเป็นอีกหนึ่งวิชาที่ตอบโจทย์งานด้านธุรกิจแฟชั่นได้เป็นอย่างดี

4.คุณจ๊ะเอ๋ยเรียนด้าน  Fashion Design มาและเรียน Fashion Marketing เพิ่มเติมกับสถาบันฯเรา สองศาสตร์นี้ความต่างและความเหมือน ยังไงบ้างคะ
- การดีไซน์จะเน้นหลักที่ความคิดสร้างสรรค์ ความคิดริเริ่มใหม่ๆ การสื่อสารตัวตนของเราออกมาผ่านทางเสื้อผ้า คือเน้นหลักในด้านของศิลปะการออกแบบสร้างสรรค์ แต่ Fashion Marketing จะเน้นที่ความคิด ความเข้าใจ ขั้นตอน กระบวนการการทำงาน และการสื่อสารของเสื้อผ้าสู่ตลาดผู้บริโภค แต่ทั้งนี้ก็ต้องอิงจากงานดีไซน์เป็นหลักด้วย สองสิ่งนี้ต้องไปควบคู่กัน

5.อะไรทำให้คุณจ๊ะเอ๋ยตัดสินใจเลือกเรียนกับเราคะ
- เห็นว่าที่นี่เปิดคอร์สเรียนวิชาที่น่าสนใจ และไม่ต้องใช้ระยะเวลาเรียนนาน ส่วนมากคอร์สพวกนี้จะไม่ค่อยมีเอาออกมาสอนเดี่ยวๆ มักอยู่ในหลักสูตรที่ต้องใช้เวลาเรียนนานและเรียนรวมกับวิชาอื่นๆอีก

6.ประทับใจบรรยากาศการเรียนการสอนของเราหรือไม่ อย่างไรคะ เม้าส์ได้เลยเต็มที่ ^ ^
- ประทับใจค่ะ เพราะคอร์สที่เรียนมีจำนวนนักเรียนเรียนไม่มาก ทำให้สื่อสารกับครูได้อย่างเต็มที่ เพื่อนร่วมห้องเป็นกันเองแชร์ประสบการณ์และความคิดกันเต็มที่ เนื่องด้วยเป็นคลาสเล็กๆแต่อบอุ่น และครูผู้สอนก็เป็นกันเองมาก ให้คำปรึกษาและคอยสอนคอยดูแลแบบใกล้ชิดตลอด :)

7.การเรียน Fashion Marketing ช่วยให้เราเข้าใจกลุ่มลูกค้า หรือสื่อสารกับเจ้าของแบรนด์สินค้าแฟชั่นได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือไม่ อย่างไรคะ
- เรียกได้ว่ามากค่ะ เพราะ ก่อนหน้านี้เราคิดว่าเราเข้าใจกลุ่มลูกค้าอยู่แล้ว แต่พอมาเรียนเพิ่ม เราจะได้สิ่งที่ลึกลงไปอีก มีสิ่งที่เรายังลืมยังไม่รู้อยู่ก็มาก ทริคและเทคนิคต่างๆก็มีมากมาย ยิ่งรู้มากเท่าไหร่เราก็จะเข้าใจลูกค้ามากเท่านั้น อีกทั้งทำให้การสื่อสารของเรากับเจ้าของแบรนด์เข้าใจและเห็นภาพตรงกันมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

8.การที่ต้องดูแลทั้งเรื่องดีไซน์ และ เรื่องการหมุนเวียนสินค้า ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่ใช้คนละทักษะ สำหรับคุณจ๊ะเอ๋ยมันยากง่ายยังไงบ้างคะ
- จริงๆการทำงานสองอย่างนี้พร้อมๆกันไม่ง่ายและก็ไม่ยาก พูดได้ว่าเราต้องแยกสมองเราให้ออก เพราะอย่างที่บอกสองสิ่งนี้มันใช้ทักษะคนละอย่างกัน เราต้องมีสติ สมาธิและความตั้งใจ งานสองอย่างนี้มันจะมีกระบวนการเป็นขั้นตอน ถ้าเราเข้าใจกระบวนการและจัดระเบียบตัวเองได้แล้ว งานสองอย่างนี้ทำพร้อมๆกันก็จะไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ

9.เมื่อเข้ามาทำงานในสายแฟชั่น คุณจ๊ะเอ๋ยต้องปรับทัศนคติมากมั้ยค่ะ เพราะเราเรียนสายวิทย์มาก่อน
- ไม่มากเลยค่ะ เพราะส่วนตัวเป็นคนศึกษาและชอบเรื่องแฟชั่นอยู่แล้ว ทำให้มีความคุ้นเคยกับมันมาพอสมควร ส่วนเรื่องการเรียนสายวิทย์ก็ไม่ใช่วิทย์จ๋า เพราะคณะที่เรียนจะเน้นหลักที่การบริหารการจัดการเลยทำให้เอามาประยุกต์กับงานธุรกิจสายแฟชั่นได้ด้วยค่ะ


10.ในมุมมองของคุณจ๊ะเอ๋ย นอกจากความสามารถในการดีไซน์แล้ว ความรู้เรื่อง Fashion marketing สำคัญต่อการการสร้างแบรนด์หรือไม่ อย่างไรคะ
- สำคัญนะคะ เพราะการที่เราจะสร้องแบรนด์ขึ้นมาแบรนด์นึงเราไม่สามารถที่จะใช้ความรู้เรื่องการดีไซน์อย่างเดียวได้ ผลงานสินค้าของเราต้องคำนึงถึงผู้บริโภคและตลาดด้วย สองสิ่งจะต้องไปพร้อมๆกัน เพื่อที่จะหนุนซึ่งกันและกันให้ธุรกิจออกมาได้ดีทั้งในด้านผลงาน การทำงาน การเติบโต

11.เทรนด์หรือกระแสสังคม มีผลต่อแบรนด์สินค้าแฟชั่นที่คุณจ๊ะเอ๋ยรับผิดชอบอยู่ยังไงบ้างคะ
- ถ้าเรื่องเทรนด์คงจะไม่ค่อยมีผลมากนัก เพราะแบรนด์ที่จ๊ะเอ๋ยทำอยู่ไม่ได้ติดอยู่กับเทรนด์หรือต้องตามเทรนด์ แต่เราทำในสิ่งที่เป็นตัวตนของแบรนด์จริงๆ ส่วนเรื่องกระแสสังคมก็ไม่ได้มีผลมากนักแต่ก็อาจจะหยิบจับบางกระแสสังคมมาสร้างการตลาดให้แบรนด์บ้าง แต่พูดได้ว่าน้อยมากกกก เพราะเราเน้นที่ตัวตนแบรนด์เป็นหลักค่ะ

12.คิดว่าปัจจัยในการทำแบรนด์แฟชั่น นอกจากความสามารถในการดีไซน์แล้ว มีอะไรอีกบ้างคะ
- คิดว่าการบริหาร ( Management ) และการตลาด ( Marketing ) เป็นอีกสองปัจจัยสำคัญในการทำแบรนด์แฟชั่นค่ะ

13.คุณจ๊ะเอ๋ยคิดว่าธุรกิจแฟชั่นของไทย ยังสามารถเติบโตได้อีกมากน้อยแค่ไหนคะ
- จ๊ะเอ๋ยคิดว่าเรายังสามารถเติบโตได้อีกมากนะคะ เพราะ จากการที่ไปใช้เวลาคลุกคลีกับการเรียนแฟชั่นที่เมืองนอก ทำให้เห็นว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่ธุรกิจแฟชั่นไทยยังไม่มี แต่กำลังจะเรียนรู้และซึมซับสิ่งใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น บุคคลากรที่มีความรุ้และเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆก็เกิดขึ้นมากในวงการเช่นเดียวกัน

14.ในอนาคตคุณจ๊ะเอ๋ยวางแผนจะมีกิจการหรือแบรนด์เป็นของตัวเองหรือไม่ หรืออาจหันเหไปทำแผนกอื่นๆในสายงานแฟชั่น?
- ในอนาคตวางแผนจะมีแบรนด์เป็นของตัวเองค่ะ แต่ยังเป็นเรื่องของอนาคตที่ค่อยๆวางแผนและศึกษาสิ่งใหม่ๆเรื่อยๆค่ะ

15.คุณจ๊ะเอ๋ยมองภาพตัวเองในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้าเป็นอย่างไรบ้าง
- ในอนาคอีก 5 ปี จ๊ะเอ๋ยอยากจะมีแบรนด์เล็กๆเป็นของตัวเอง ได้ทำธุรกิจที่เป็นของตัวเอง เป็นแบรนด์เล็กๆที่ได้ทำในสิ่งที่เรารักเราชอบทุกๆวัน และถ้ามีโอกาสก็อยากจะไปให้ถึงเมืองนอกแบบเปิดตัวเล็กๆ หรือเป็นเว็บที่รับลูกค้าจากเมืองนอกด้วยค่ะ ( ความฝันหน่ะค่ะ 555555 )

16. ขอให้คุณจ๊ะเอ๋ยช่วยฝากอะไรถึงคนที่สนใจเปลี่ยนสายงานมาทำด้านแฟชั่นแต่ยังลังเลอยู่
- อยากฝากให้ถามใจตัวเอง ถ้าเรารักเราชอบมันจริงๆก็อย่างลังเลค่ะ ทุกงานทุกอาชีพมีอุปสรรคทั้งนั้น ถ้าเราตั้งใจทำมันเราจะทำได้ค่ะ เราได้ทำในสิ่งที่เรารักเราชอบ จ๊ะเอ๋ยว่าเราจะทำมันออกมาได้ดีค่ะ ที่สำคัญไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามท้อค่ะ อะไรที่ผิดพลาดก็เอามาเป็นความรู้ อะไรที่เราไม่รู้ก็หมั่นศึกษาต่อไป ตั้งใจและเราจะทำได้ค่ะ
------------------------------------------------------------------
Tel : 086.610.4744 , 085.555.1781 , 083.800.5885
website : http://www.yesbuschool.com
Email : Yesbuschool@gmail.com
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions