ตำนานผีญี่ปุ่น Part1

ตำนานผีญี่ปุ่น Part1

เริ่มโดย etatae333, 07 กุมภาพันธ์ 2014, 17:12:32

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

1   โอบะเกะ ภูตผีปีศาจวิญญาณของญี่ปุ่น   



ในบรรดาของภูตผีปีศาจของญี่่ปุ่นที่เล่าสืบตามกันมา ได้มีการแบ่งประเภทของภูตผีปีศาจทั้งที่อาศัยในโลกมนุษย์ สรวงสวรรค์ และนรก
โดย โทะริยะมะ เซคิเอ็ง เขาได้ศึกษาอย่างระเอียด จนภูตผีปีศาจของญี่ปุ่นมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น แต่การแบ่งประเภทของภูตผีปีศาจนั่น
มันยากด้วยว่า โอบะเกะ เป็นภูตผีปีศาจที่สามารถอยู่ในรูปร่างใดก็ได้ เช่น ในวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตอย่างสัตว์

ซึ่งภูตผีปีศาจที่เช่นได้ชัดคือ "โจจิง โอบะเกะ" (ปีศาจโคมไฟ) หรือ ปีศาจสุนัขจิ้งจอง ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีพลังเร้นลับ


2   อาคานาเมะ ปีศาจเลียของโสโครก   



อาคานาเมะ เป็นปีศาจที่น่าสงสาร เป็นปีศาจที่อยู่ได้ด้วยการเลียกินของโสโครกสกปรก คงไม่ต่างจากภูตผีปีศาจของไทย คือ กระสือ
อาคานาเมะอยู่ได้ด้วยการเลียกินสิ่งโสโครกสกปรก มันจะใช้ลิ้นของมันเลียคราบสกปรกโดยเฉพาะห้องน้ำที่เสมือนเป็นห้องครัว
แหล่งคลังอาหารอย่างดีของมัน และด้วยมันเป็นปีศาจที่สกปรกด้วยเนื้อตัวและผมของมันที่มีแต่สิ่งสกปรกเวลามันเดินมันจะสะบัดผม
อันหยิกของมันและเชื้อโรคสิ่งสกปรกต่างๆของมันจะหลุดออกมา

ซึ่งว่าไปปีศาจตนนี้ก็มิได้สร้างความเตือนร้อนให้ใคร มันกลับกลัวมนุษย์เสียด้วย เพราะมันจะออกมากินคราบสกปรกเฉพาะตอนกลางคืน
และในช่วงที่มนุษย์ไม่ใช้ห้องน้ำ แต่หากบ้านไหนกลัวเจ้าปีศาจอาคานาเมะก็จงทำความสะอาดห้องน้ำที่บ้านให้สะอาดเสีย
เพราะหากห้องน้ำบ้านคุณมีความสกปรกเจ้าอาคานาเมะอาจจะไปหาคุณที่บ้านก็ได้....



3   อาซุคิ อาราอิ ปีศาจล้างถั่ว      



อาซุคิ อาราอิ เป็นปีศาจที่ไม่มีความโหดร้าย แต่ด้วยเป็นปีศาจที่น่าประหลาดเพราะยามค่ำคืน มันจะมายังริมแม่น้ำหรือลำธาร
เพื่อทำกิจอย่างหนึ่งที่มันมักจะทำนั่นคือ "การล้างถั่ว" มันจะล้างถั่วอย่างเสียงดัง ผู้คนที่เดินทางสัญจรผ่านบริเวณแถบแม่น้ำ
มักได้ยินกันบ่อยๆ แต่มักมีเรื่องเล่ากันมาว่า เวลาที่ อาซุคิ อาราอิ ล้างถั่วมันมักจะร้องเพลงด้วยประโยคว่า "จะล้างถั่วหรือจับคนกินหนอ"

แต่เมื่อมีใครได้ยินมักจะตกลงไปในน้ำ แต่นี้มักเป็นการล้อเล่นกันมากกว่า เพราะอาซุคิ อาราอิ เป็นปีศาจที่เป็นมิตร และมีนิสัย
น้ำใจงามมากกว่ารูปร่างที่เห็น มันเคยแอบเอาข้าวไปให้กับครอบครัวมนุษย์ที่ยากจนด้วย...



4   อาบุราสุมาชิ ปีศาจน้ำมันตะเกียง      



อาบุราสุมาชิ เป็นปีศาจที่ไม่อยู่ในประเภทที่ดุร้ายหรือสร้างความเตือนร้อนให้แก่มนุษย์ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจและย่อมเป็นที่หวาดกลัวอยู่แล้ว
ด้วยเหตุที่ำกำเนิดอาบุราสุมาชิด้วยว่าเป็นจิตของน้ำมัน ด้วยชาวญี่ปุ่นในอดีตไฟฟ้ายังไม่มีมักจะใช้ตะเกียงให้แสงสว่างเวลาเดินทางในตอนกลางคืน

ในปัจจุบันที่จะพบกลับน้อยเพราะด้วยว่าในปัจจุบันมีความเจริญนำไฟฟ้ามาใช้ ผู้คนที่เดินทางตอนกลางคืนก็มักจะมีแสงไฟจากเสาไฟเป็นเพื่อน
และสว่างเห็นเส้นทางชัดมากมายแสงไฟจากตะเกียงเสียอีก...อาบุราสุมาชิจะปรากฏตัวเป็นคนชราจูงหลานเดินไปตามเขาแถบคุซาซุมิโงเอะ
ซึ่งมักจะมีคนพบอยู่บ่อยครั้ง หากคุณเดินคนเดียวตอนกลางคืน อาจจะมีเจ้าอาบุราสุมาชิเดินแอบตามหลังก็เป็นได้



5   อามาโนจาคุ ปีศาจจอมปลิ้นปล้อน      



อามาโนจาคุ หากแปลตามภาษาญี่ปุ่น เขาแปลว่า "มารฟ้า" ซึ่งดูจากภาพอาจเป็นปีศาจกึ่งเทพ แต่กลับมีนิสัยที่ปลิ้นปลอน แต่ด้วยอามาโนจาคุ
มักชอบล้อเ่ล่นมนุษย์และมักชอบพูดกลับตาลปัตร และยังมีความสามารถในการอ่านใจมนุษย์ได้ ซึ่งหากใครซวยไปเจอกับเจ้าอามาโนจาคุ
คงจะเรียกโคตรมหาซวยเลย เพราะจะถูกแกล้งบ้างอะไรต่อมิอะไร

อามาโนจาคุ ดูแล้วจะไม่เหมือนว่าเป็นปีศาจที่สร้างความเตือนร้อนให้กับมนุษย์อย่างมหันต์นัก แต่เขาเล่ากันว่ามันเคยกินเด็กผู้หญิงมาแล้ว
แต่ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นรู้กัีนว่าอาหารโปรดของมันจริงๆคือ อาหารย่างไฟทุกประเภทที่มนุษย์กิน เช่น ปลาปิ้ง ข้าวโพดปิ้ง มันเผา เป็นต้น

ถึงอามาโนจาคุจะดูแลรูปร่างใหญ่โตเหมือนยักษ์สูงเสียดฟ้า แต่มันกลับมีจุดอ่อนเช่นกัน คือ มันไม่ชอบการต่อสู้ หากใครไปท้ามันต่อสู้
มันจะหนีไปทันที ซึ่งหากใครเจอเจ้าอามาโนจาคุก็ทำเป็นท้าแล้วมันจะหนีไปเอง...



6   อามาปิเอะ ภูตผู้นำพาความสุข      



ราวเมื่อ140ปีก่อนหรือมากกว่านั้น ในบันทึก "วางาโคโรโมะ" กล่าวถึงการปรากฏตัวของปีศาจจากท้องทะเล ที่คนญี่ปุ่นในตอนนั้น
เรียกว่า "จินจาฮิเมะ" มีลักษณะตัวเป็นปลาแต่ศีรษะเป็นมนุษย์ผู้หญิง ปรากฏตัวขึ้นที่ฮามาเบะในแคว้นฮิเซ็นแห่งคิวซู

ซึ่งต่อมาในปัจจุบันคือ เขตจังหวัดซางะและนางาซากิ แสดงว่าเรื่องนี้เกิดมากมายกว่า140ปี ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อมาแต่อดีตว่าเวลาบ้านเมือง
มีภัยเมื่อใด เจ้าปีศาจอามาปิเอะจะปรากฏตัวขึ้นเพื่อมาส่งข่าวทั้งดีและร้ายเพื่อให้มนุษย์ป้องกันตัวทัน โดยทั้งสุดท้ายที่มาปรากฏด้วยการ
แจ้งข่าวว่า "ประเทศนี้จะอุดมสมบูรณ์นับจากนี้ไปตลอด 6 ปี"อันนี้เป็นข่าวดี"แต่จะเกิดโรคระบาดคืออหิวาตกโรค
ตามมาและหากผู้ใดไม่เชื่อจงนำร่างของข้านี้ไปให้ผู้คนเหล่านั้นดูเป็นหลักฐาน"


ซึ่งแสดงว่าเจ้าปีศาจตนนี้เคยมาส่งข่าวคนญี่ปุ่นหลายครั้งในอดีตถึงกับเอาร่างตนเองเป็นประกันความจริงกันเลย ซึ่งหลังจากนั้นก็เป็นจริง

คนญี่ปุ่นเชื่อว่า อามาปิเอะ นั้นคงเป็นข้ารับใช้ของจ้าวสมุทร เพราะทุกครั้งที่มาปรากฏมักจะกล่าวขึ้นเสมอว่า "ป้าเป็นคนของวังมังกร"
ซึ่งมังกรนั้นคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นจ้าวสมุทร ซึ่งเท่ากับว่า อามาปิเอะ คงเป็นเทพกึ่งปีศาจ ด้วยมีรูปลักษณ์ที่ผิดกลับเทพเจ้า แต่มีคุณความดี
กับมนุษย์มาก คนญี่ปุ่นจึงได้วาดภาพของอามาปิเอะไว้ และปรากฏว่าบ้านที่มีภาพวาดของอามาปิเอะประดับหรือเก็บไว้กลับไม่เป็นโรคระบาด
คนญี่ปุ่นจึงได้วาดคัดภาพอามาปิเอะไปประดับไว้ในบ้าน เพราะเชื่อว่าจะป้องกันตนจากโรคระบาดด้วยความศักดิ์สิทธิ์ เพราะคนญี่ปุ่นยกย่อง
เป็นภูตผู้นำพาความสุขมาให้ตนเองและประเทศชาติของพวกเขาอีกด้วย.... 



7   อิชิโมกุ ฤาษีตาเดียว      



อิชิโมกุ เป็นปีศาจที่มีลักษณะเหมือนกับปะ แต่กลับต่างที่ใบหน้ากลับไม่มีดวงตาแต่กลับไปอยู่บนศีรษะตรงกลางศีรษะที่ล้านและดูเหมือน
จานบนศีรษะอย่างกับปะทั่วไป ซึ่งทำไมจึงเรียกว่า "ฤษีตาเดียว" คงเพราะเป็นปีศาจที่รอบรู้เหมือนผู้วิเศษ เพราะดวงตาบนศีรษะทำให้
มันสามารถมองเห็นและรับรู้เรื่องราวต่างๆได้ จึงมักมีนิสัยอีกอย่างคือ สอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้าน

มีครั้งหนึ่ง ชายคนหนึ่งเดินทางมาแวะใกล้บริเวณที่เจ้าอิชิโมกุอยู่ คือ ทะเลสาบคาโมะ (ทะเลสาบนี้อยู่ที่เกาะซาโดงะ) ซึ่งชายผู้นี้ต้องการ
แค่แวะดูน้ำและล้างหน้าล้างตาเท่านั้น แต่พอชายหนุ่มได้ผูกม้าของคนไว้กับต้นไม้ต้นหนึ่งที่ไม่ไกลกันนัก เจ้าอิชิโมกุ ก็เห็นม้าด้วยความ
ประหลาดใจจึงอยากที่จะลองขี่ม้าสักครั้ง จึงขึ้นขี่ม้า

บังเอิญม้านั้นร้องด้วยความตกใจที่เห็นตัวประหลาดมานั่งขี่ตนจึงส่งเสียงร้องดัง จนชายหนุ่มได้ยินก็ต้องกลับมายังที่ม้านั่น ก็พบกับเจ้าอิชิโมกุ
จึงจับมันไว้ได้ ด้วยว่ามันเป็นตัวประหลาดชายหนุ่มก็หมายจะฆ่ามัน แต่มันขอชีวิตไว้ว่าหากชายหนุ่มปล่อยมัน มันจะนำปลามาให้ทุกวัน
ชายหนุ่มจึงปล่อยมันไป และเจ้าอิชิโมกุก็นำปลามาให้ชายผู้นี้ และเป็นปลาจากทะเลสาบคาโมะ ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่า อิชิโมกุ
เป็นจ้าวแห่งทะเลสาบคาโมะด้วย เพราะเป็นที่พำนักของเจ้าอิชิโมกุ ฤาษีตาเดียว นั่นเอง...

แต่ด้วยว่าเจ้าอิชิโมกุ มีลักษณะคล้ายกับกับปะอีกอย่างคือ เวลามันขึ้นมาอยู่บนบกพลังของมันก็จะอ่อนลง และอาหารโปรดของมันคือ
แตงกวา เช่นเดียวกันกับปะ ดีไม่ดีมันอาจเป็นญาติกันกับกับปะก็ได้


8   อิตตันโมเม็ง ปีศาจผ้าแถบ      



อิตตันโมเม็ง เป็นปีศาจที่กำเนิดจากจิตวิญญาณของผ้าแถบ หรือ ผ้าแถบที่มีจิตวิญญาณสิงอยู่ ลักษณะของอิตตันโมเม็งจะเป็นผ้าแถบสีขาว
ที่ปลิวไสวหรือดูเหมือนลอยด้วยตัวเองในยามค่ำคืน เจ้าผ้าแถบอิตตันโมเม็งนี้ปรากฏตัวแถบโอสุมิ จังหวัดคาโงชิมะ ซึ่งมันมีความอันตรายถึงชีวิต
หากเข้าไปยุ่งกับมันมาก มันจะช่วยตัวของมันที่เป็นผ้าแถบรัดคอผู้นั้นจนขาดอากาศหายใจตาย

อิตตันโมเม็ง เป็นปีศาจที่เ็ป็นที่น่าหวาดกลัวของผู้คนเวลาพบเห็น ซึ่งหนึ่งคือ กลัวมันจะรัดคอตาย จึงมีวิธีการปราบมันคือ ไฟ เพราะเวลา
มันพบคนที่ถือโคมไฟเดินในตอนกลางคืน มันจะหลีบหลบทันทีเพราะมันสามารถตายได้ด้วยการเผานั้นเอง หรือไม่ก็พบกรรไกรติดตัว
หากมันเข้ามาทำร้ายเราอย่างจู่โจมเราก็หยิบกรรไกรออกมาให้มันเห็นแล้วมันก็จะหนีไปเอง หรือหากมันมาทีเพ้อเราก็พยายามตั้งสติ
แล้วหยิบกรรไกรที่ซ่อนไว้มาตัดมัน แล้วมันจะดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดและมัีนจะมีเลือดออกด้วย...



9   ดาตาระ ปีศาจขาเดียว      



ดาตาระ เป็นปีศาจที่มีรูปลักษณ์ทางร่างกาย มีดวงตาดวงเดียว มีขาเดียว โดยทั่วไป ผู้คนที่มักขึ้นเขา ไปทำไม้ทำฟื้นในช่วงที่เขาปกคลุม
ไปด้วยหิมะ ก็มักจะพบรอยเท้าที่ใหญ่ผิดปกติ ซึ่งไม่ต้องตกใจเพราะมันเป็นรอยเท้าของ เจ้าดาตาระขาเดียว นั่นเอง ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่า
เป็นเทพแห่งขุนเขาประเภทหนึ่ง ซึ่งถึงจะมีรูปลักษณ์ที่น่ากลัวแต่ก็ไม่ได้ทำลายมนุษย์หรือสร้างความเดือดร้อนแก่มนุษย์

ดาตาระ เป็นภูตปีศาจของญี่ปุ่น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ารับอิทธิพลความเชื่อมาจากประเทศจีน เพราะที่ประเทศจีนก็มีปีศาจแบบนี้เหมือนกัน
แต่กลับไม่ได่รับยกย่องเป็นภูตหรือเทพ นั่นคือ ซัวกง เป็นปีศาจที่มีลักษณะคล้ายกับดาตาระแต่เป็นเพศชายมีนิสัยไม่ดีเพราะมักจะหลอก
ผู้คนที่เดินทางในเขา โดยวิธีการหลอกเอาเงินจากนักเดินทาง ส่วนอีกตนเป็นเพศหญิง เรียกว่า ซัวกู้ มักจะขอแป้งและเครื่องสำอาง
จากกลุ่มนักเดินทาง

ซึ่งบอกได้ว่า ดาตาระ เป็นปีศาจที่ได้รับอิทธิพลความเชื่อมาจากประเทศจีน... แต่ไม่ได้มีความน่ากลัว และยกย่องให้เป็นเทพแห่งขุนเขาอีกด้วย...


10   นักบวชอิวานะ ภูตผู้พิทักษ์ปลาอิวานะ   



นักบวชอิวานะ เป็นปีศาจที่จัดอยู่ประเภทไม่ให้โทษและคุณต่อมนุษย์ ด้วยว่าไม่ได้สร้างความเดือดร้อนแก่มนุษย์ และไม่ได้ประทานโชคลาภแก่มนุษย์
ปีศาจตนนี้ปรากฏขึ้นใน ร่างของนักบวชในพระพุทธศาสนา ซึ่งปีศาจตนนี้เกิดขึ้นมในช่วงที่ญี่ปุ่นรับพระพุทธศาสนาเข้ามาแล้ว ซึ่งมีตำนานเล่ากันมาว่า
ชาวบ้านแถบแม่น้ำทานิงาวะ ซึ่งมีปลาอิวานะชุกชุม ด้วยคงมีความเชื่อว่าเหล่าที่มีสัตว์น้ำชุกชุมย่องมีเทพารักษ์คุ้มครอง จึงบังเกิดว่าปลาอิวานะตัวหนึ่ง
กลายเป็นปีศาจสามารถแปลงกายได้ และด้วยมีความรักใคร่ในพวกพ้อง และหาวิธีการป้องกันเผ่าพันธุ์ของตนจากการถูกจับกิน จึงอาศัยความเลื่อมใส
ในพระพุทธศาสนาว่า มนุษย์นับถือนักบวชในศาสนาพุทธมากจึง แปลงกายเป็นนักบวชมาห้ามไม่ให้ชาวบ้านจับปลาอิวานะกิน

ซึ่งปีศาจนักบวชอิวานะน่าจะเป็นการสร้างกุศโลบายของคนในอดีตเรื่องของการอภัยทานสัตว์ไม่จับสัตว์กินในช่วงระยะเริ่มแรกที่พระพุทธศาสนา
เข้ามาครั้งแรกๆในประเทศญี่ปุ่นก็ว่าได้ นักบวชอิวานะ ถึงจะเป็นปีศาจแต่มีจิตใจงดงาม ครั้งก่อนเคยมีคนแอบวางยาพิษในแม่น้ำทานิงาวะ
นักบวชอิวานะจึงเข้าคิดขวางด้วยชีวิตจนตัวตาย เท่ากับเป็นผู้เสียสละอย่างยิ่



credit :: มะเดหวีมาตา@dek-d.com
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

memento

ขอบคุณครับ รอ part ต่อไป pongz
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

wanchalearm147

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions