ทางหลวงแนวใหม่ชม.-ลพ. คุ้มทุนทางเศรษฐกิจถึง 4 เท่า

ทางหลวงแนวใหม่ชม.-ลพ. คุ้มทุนทางเศรษฐกิจถึง 4 เท่า

เริ่มโดย etatae333, 19 พฤษภาคม 2015, 17:07:08

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

ทางหลวงแนวใหม่ชม.-ลพ. คุ้มทุนทางเศรษฐกิจถึง 4 เท่า


บ.ที่ปรึกษาเสนอผลการศึกษาทางหลวงแนวใหม่สายเชียงใหม่-ลำพูน ระยะทาง 14.01 กิโลเมตร มูลค่าลงทุนกว่า 2,000 ล้าน
เผยผลวิเคราะห์มีความคุ้มทุนทางเศรษฐกิจถึง 4 เท่า ทั้งย่นระยะเวลาการเดินทางและรองรับปริมาณการจราจรที่จะเพิ่มขึ้น


นายสุริยะ ประสาทบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการประชุมสรุปผลการศึกษาของโครงการ การศึกษาผล
กระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางหลวงแนวใหม่ สายเชียงใหม่-ลำพูน ซึ่งบริษัททีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด
ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษากรมทางหลวง ได้จัดขึ้น

สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่ สายเชียงใหม่-ลำพูน เป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงบริเวณ
พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นโครงการที่มีความสำคัญลำดับสูงเพราะมีความต้องการเดินทางค่อนข้างสูงมาก
แต่เนื่องด้วยสภาพพื้นที่โครงการซึ่งมีแหล่งโบราณสถานในระยะ 2 กิโลเมตรและแนวยังตัดผ่านแม่น้ำปิงซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลัก
กรมทางหลวงจึงได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯโครงการนี้ โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน
นับตั้งแต่เริ่มโครงการ ซึ่งได้มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นมาเป็นระยะๆ

ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า โครงการนี้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเมืองแฝดและสอดคล้องกับความต้องการเดินทางของประชาชนที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งการจราจรมีความคับคั่งในปัจจุบัน เชียงใหม่ทุกวันนี้เป็นศูนย์กลางความเจริญที่การพัฒนาต่างๆ จะมุ่งเข้ามาที่เชียงใหม่
เพราะเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางของภาคเหนือ เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ เส้นทางต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจึงเป็นความจำเป็นในการ
รองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งระบบขนส่งมวลชนในอนาคตด้วย และโครงการนี้เป็นอีกเส้นทางหนึ่งจะบรรเทาการเดินทาง
เชื่อมเชียงใหม่-สารภี-ลำพูน โดยเฉพาะสายต้นยางที่ไม่สามารถขยายได้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปีจะแล้วเสร็จ


ดร. ปรีดา พิชยาพันธ์ อาจารย์ด้านวิศวกรรมขนส่ง หัวหน้า ศูนย์ความเป็นเลิศทางวิศวกรรมขนส่งและเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน (ExCITE)
ภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า แนวเส้นทางโครงการที่ได้จากผลการศึกษาความเป็นไปได้เมื่อปี 2550 เส้นทาง
ค่อนข้างตรง จุดเริ่มต้นโครงการอยู่ถนนมหิดล จุดสิ้นสุดโครงการทางหลวงหมายเลข 106


สำหรับช่วงเริ่มต้นโครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้พิจารณาการปรับเนื่องจาก 7-8 ปีที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่มีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก
จึงได้แบ่งการศึกษาออกเป็น 3 ส่วนๆ แรกจุดเริ่มต้นโครงการถนนมหิพล ทล.141 จนถึงทล 121 ถนนวงแหวนรอบ 3 ส่วนที่ 2 ตั้งแต่ทล 121
จุดก่อสร้างสะพานแม่น้ำปิง และช่วงที่ 3 ทล 106 สารภี-ลำพูน จากการศึกษาได้เสนอ 4 แนวทางเลือกในช่วงที่ 1 และ 2 แนวทางเลือกใน
ช่วงที่ 2 ส่วนช่วงที่ 3 จากการศึกษาพบว่าการใช้สภาพพื้นที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากนักจึงยึดผลการศึกษาปี 2550 เป็นหลัก

จากการประเมินโครงการนี้จะมีความยาว 20.59 กิโลเมตร หลังศึกษาเสร็จได้นำเสนอในการประชุมรับฟังความคิดเห็นในหลายครั้ง พบว่าในหลายที่
ประชุมช่วงต้นโครงการถนนมหิดล-วงแหวนรอบ 3 ผ่านชุมชนค่อนข้างมากและพยายามหาพื้นที่ลดผลกระทบแล้วแต่ก็ยังกระทบ กรมทางหลวง
จึงมีแนวคิดว่าจุดเริ่มต้นโครงการให้ขยับเพื่อลดผลกระทบกับชุมชน จึงขยับจุดเริ่มต้นโครงการมาที่ทล 121 ถนนวงแหวนรอบ 3 และจุดสิ้นสุด
โครงการอยู่บนถนนเลี่ยงเมืองจว.ลำพูน ทช 3186 ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนก่อสร้าง

ระยะทางโครงการที่ปรับแล้วประมาณ 14.01 กิโลเมตร จากการศึกษาตลอดระยะเวลาศึกษาได้สำรวจข้อมูลครอบคลุมโครงการโดยเฉพาะปริมาณ
จราจรและความต้องการการเดินทาง สำรวจความเร็วและโครงข่ายที่มีผลกระทบ จากนั้นได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์ปริมาณความต้องการการเดินทาง
เทียบกับขนาดถนนและความสามารถในการรองรับ ซึ่งพบว่าการเดินทางจากอ.เมืองเชียงใหม่-อ.สันกำแพงมีการเดินทางสูงมาก การเชื่อมโยง
ระหว่างเชียงใหม่-ลำปาง-กรุงเทพฯมาเป็นอันดับ 2 และเชียงใหม่-ลำพูนเป็นอันดับ 3

ปี 2557 ปริมาณรถในทล 11 ชั่วโมงเร่งด่วนมีรถ 5 พันเศษ ถ้ารวมทั้งวันประมาณ 8 หมื่นคันขณะที่ทางหลวง 4 ช่องจราจรซึ่งเกินความสามารถ
ถนนรองรับได้ และปริมาณรถที่คาดการณ์ในอนาคตพบว่า ปี 2557 มีรถ 7 หมื่นคัน ถ้าไม่พัฒนาจะมีรถเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าใน 20 ปีข้างหน้า
ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องพัฒนาโครงการเพื่อให้รองรับเพิ่มในปี 2565 โดยแบ่งเบารถได้เกือบ 3 หมื่นคัน และถ้าขยายปี 2585 จะรองรับได้ 4 หมื่นคันเศษ

สำหรับการออกแบบโครงการ พบว่า ต้องเวนคืนเขตทางกว้าง 60 เมตร ช่องจราจรกว้าง 3.5 เมตร ไหลทางด้านในกว้าง 1.5 เมตรและไหล่ทาง
ด้านนอกกว้าง 2.5 เมตร ยาว 14 กิโลเมตร เบื้องต้นในปีก่อสร้างจะเป็นถนน 4 ช่องจราจร เกาะกลางกดเป็นร่อง และในอนาคต 50 ปีข้างหน้า
ถนนสามารถพัฒนาได้สูงสุด 10 ช่องจราจร

ส่วนการออกแบบทางแยกจุดกลับรถ พยายามลดจุดกลับรถเพื่อลดอุบัติเหตุ ส่วนถนนท้องถิ่นในหมู่บ้านที่มาเชื่อมกับถนนโครงการจะออกแบบไม่ให้
ถูกแบ่งแยกเป็นทางเชื่อมแบบทางลอดให้ชุมชนสองข้างทางไม่ถูกตัดขาดและบางจุดมีจุดกลับรถอย่างปลอดภัย โดยจุดกลับรถจะให้มีระยะทาง
ไม่เกิน 3 กิโลเมตร และบางจุดที่มีข้อกังวลของชุมชนว่าเป็นเส้นทางไปฌาปนกิจสถานจะออกแบบเป็นช่องลอดและมีช่องเปิดกลางถนนเวลามี
ขบวนแห่โดยสามารถเปิดจุดชั่วคราวได้ ซึ่งจะมีทั้งหมด 16 จุดและทำให้วิถีชุมชนเป็นแบบเดิมได้

การวิเคราะห์โครงการ มูลค่าก่อสร้างประมาณ 2,000 ล้านบาท พบว่าถ้า 20 ปีผลประโยชน์มากกว่าการลงทุนประมาณ 4 เท่าหรือมากกว่าการ
ลงทุนประมาณ 3,500 ล้านบาท เพราะทำให้คนเดินทางด้วยระยะเวลาสั้นลง เพราะคำนวณแล้วผลตอบแทนนออกมาสูงถึง 37%.


credit :: chiangmainews.co.th
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

rc

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

rpbaby

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

samapet

เส้นนี้ที่ทำถึง โรงพยาบาลใช่ไหมครับ เห็นเร่งทำกันอยุ่
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions