คุณประโยชน์จากสมุนไพรเจียวกู่หลาน

คุณประโยชน์จากสมุนไพรเจียวกู่หลาน

เริ่มโดย parple1199, 18 พฤษภาคม 2017, 19:28:57

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

parple1199


รูปแบบขนาดวิธีการใช้ของเจียวกู่หลาน
  รูปแบบการใช้เจียวกู่หลานนั้น สามารถใช้ได้ตามตำรับยาต่างๆ ได้ และในปัจจุบันมีการสกัดสารและทำในรูปแบบยาแผนปัจจุบันและชาชงกันอย่างแพร่หลาย และมีขนาดการใช้แตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท ขนาดที่ใช้เป็นยาอายุวัฒนะชะลอความแก่ และยังให้ใช้ยาเจียวกู่หลานแห้งบดเป็นผงใส่ในแคปซูล  ให้ทานครั้งละไม่เกิน 3 กรัม  ตามตำรับยาไทยโบราณ  ใช้เข้ากับตำรายาตามต้องการ
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของเจียวกู่หลาน   
·        Dr Osama Tanaka แห่งคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮิโรชิมา  ได้ทำการหาจนพบว่า เจียวกู่หลานมีสาร Saponins ที่มีโครงสร้างโมเลกุลเหมือนกับโสม ต่อมา Dr Tsunematsu Takemoto ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรที่ค้นคว้าประโยชน์ของเจียวกู่หลานมากกว่า 10 ปี ได้พบว่าเจียวกู่หลานมีสาร Saponins อยู่มากถึง 82 ชนิด  หรือที่เรียกว่า Gypenosides และเจียวกู่หลานยังเป็นสมุนไพรที่ใช้เป็นยาได้เหมือนกับโสมแต่ดีกว่าโสม  เนื่องจากโสมมีสาร Saponins ที่เรียกว่า Gypenosides อยู่เพียง 28 ชนิด ในขณะที่เจียวกู่หลานนั้นมี Gypenosides อยู่ถึง 82 ชนิด และสาร Gypenosides ที่พบในเจียวกู่หลานจะมีอยู่ 4 ชนิดที่เหมือนกับโสม และมีอีก 17 ชนิด ที่มีประเภทคล้ายกับโสม นอกจากนี้มีปริมาณของGypenosides ที่มีอยู่ในเจียวกู่หลานก็ยังมีมากกว่าและมีคุณประเภททางยาที่ดีกว่า Gypenosides
ที่พบได้ในโสม  อีกทั้งเจียวกู่หลานยังไม่มีพิษและไม่มีอาการแพ้ที่เกิดขึ้นจากการบริโภคอีกด้วย
·        LIM และคณะ ได้ทำการทดลองนำเจียวกู่หลานแห้งไปสกัดด้วยน้ำ จากนั้นนำไปทดสอบฤทธิ์ต้านการอักเสบในหนูขาวทดลอง พบว่าอาจต้านการอักเสบลดอาการบวมของอุ้งเท้าหนูได้
·        การให้สารสกัดด้วยน้ำจากส่วนที่อยู่เหนือดินของต้นเจียวกู่หลาน ในขนาด 1 กรัม ต่อกิโลกรัม (คิดตามน้ำหนักของเจียวกู่หลานที่นำมาสกัด) แก่หนูขาวทดลองโดยการฉีดเข้าทางช่องท้อง พบว่าสามารถป้องกันตับจากการเกิดสารพิษจาก CCI และยังมีรายงานว่า Gypenosides มีฤทธิ์ในการเยียวยาภาวะ การเกิดพิษเรื้อรังที่ตับ ซึ่งถูกเหนี่ยวนำด้วย CCI4 และลดการเกิด Fibrosis ด้วย โดยพบว่า Gypenosides จะลดการเพิ่มของ SGOT, SGPT activities ในหนูขาว ซึ่งตับถูกทำลายด้วย CCI4 เป็นเวลานานถึง 8 สัปดาห์ และยังทำให้{ปริมาณ|จำนวน|คุณภาพ|ของคอลลาเจนลดลง 33%
การศึกษาทางพิษวิทยาของเจียวกู่หลาน    ความเป็นพิษได้ทำการทดสอบความเป็นพิษกับหนูขาว โดยให้กินสารสกัดปัญจขันธ์ในขนาด 6, 30 , 150 และ 750 มก./กก./วัน  นาน 6 เดือน ไม่พบอาการผิดปกติใดๆ ค่าชีวเคมีในเลือดปกติ อวัยวะภายในเป็นปกติ ไม่พบพิษหรือผลข้างเคียงใดๆ และมีการทดลองความเป็นพิษกับคน โดยทานสารสกัดเจียวกู่หลาน(ปัญจขันธ์)แคปซูลประกอบด้วยสาร Gypenoside 40 มก./แคปซูล ครั้งละ 2 เม็ดหลังอาหารเช้า – เย็น ติดต่อกันนาน 2 เดือน พบว่า ไม่พบอาการไม่ปกติใดๆ ในอาสาสมัคร ฉะนั้น การศึกษาความเป็นพิษของปัญจขันธ์ สามารถสรุปได้ว่าค่อนช้างปลอดภัย เพราะไม่พบสารพิษและอาการข้างเคียง แต่อย่างไรก็ตามควรมีหาทางคลินิกเพิ่มเติม
ข้อควรแนะนำ  ข้อควรระวังของเจียวกู่หลาน
            จากจดหมายข่าวผลิตใบของกรมวิชาการเกษตร ได้เขียนถึงการกินชาเจียวกู่หลานไว้ว่า ห้ามกินติดต่อกันเกิน 7 วัน เมื่อดื่มครบ 7 วันแล้ว ก็ให้หยุดกินประมาณ 1 – 2 วัน แล้วค่อยเริ่มต้นกินใหม่  และถ้าหากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดศีรษะ  มึนงง  ตาพร่าลาย ก็ให้หยุดดื่มช่นกัน  ส่วนขนาดที่รับประทานนั้นให้ดูที่ฉลาก และสามารถชงซ้ำได้ 1 – 2 รอบ ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใส่ลงไปหรือจนกว่าน้ำชาและเจือจางลง  เมื่อใช้เสร็จแล้วก็อย่าลืมปิดซองให้สนิท หรือจะใส่ในภาชนะอื่นที่เป็นภาชนะสุญญากาศก็ได้  (ห้ามเก็บในตู้เย็น  เพราะในชาอาจขึ้นราได้) สตรีมีครรภ์ควรงดกิน 1 เดือน ก่อนคลอด และ ให้นมบุตร  ผู้ที่ฟอกไต คนผอมแห้งไม่ควรดื่มชาเจียวกู่หลาน

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สารสกัดเจียวกู่หลาน
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

parple1199

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions