สารลูทีน (Lutein) แล้วก็ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) มีความจำเป็นต่อดวงตายังไง

สารลูทีน (Lutein) แล้วก็ ซีแซนทีน (Zeaxanthin) มีความจำเป็นต่อดวงตายังไง

เริ่มโดย billcudror1122, 19 กันยายน 2017, 20:30:21

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

billcudror1122



ขายลูทีน (Lutein) สุดยอด วิตามิน บำรุงสายตา
ขายลูทีน การมองมองเห็นนับว่าเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสที่มีความจำเป็นต่อมนุษย์เราเป็นอย่าง ยิ่ง รวมทั้งอวัยวะที่เป็นตัวรับภาพต่างๆจากภายนอกให้เราได้รับทราบก็คือดวงตา กลไกสำหรับการมองเห็นก็คือ เมื่อมีแสงตกกระทบกับวัตถุ แสงสว่างขายส่งลูทีนจะสะท้อนไปสู่ดวงตาพวกเราผ่านกระจกตา รูม่านตา แก้วตา รวมทั้งไปตกที่จอสำหรับรับภาพตาในลักษณะของภาพหัวกลับแล้วจึงถูกส่งไปแปลเป็นภาพที่เรา เห็นจริงในระบบประสาทส่วนท้ายทอย สารอาหารต้องสำหรับดวงตา ขายลูทีนมีอยู่หลายประเภท ด้วยกันหมายถึงวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี รวมทั้งสารอาหารที่มีงานค้นคว้าอย่างกว้างขวางว่ามีคุณประโยชน์กับดวงตาโดยตรงก็ คือ ลูทีน แล้วก็ ขายลูทีน (Lutein) และก็ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)เป็นสารธรรมชาติที่มีในผักผลไม้หลายประเภท เป็นสารในเครือญาติของสารแคโรทีนอยด์ และก็พบได้ในรอบๆดวงตา โดยเฉพาะตรงรอบๆเลนส์ตารวมทั้งจอรับภาพตาในธรรมชาติแม้ว่าจะมีแคโรทีนอยด์ มากกว่า 600 ประเภท แต่ว่ามีเพียงสาร 2 จำพวกนี้เพียงแค่นั้น ที่เจอในจุดรับภาพของเรตินา สารทั้งสองชนิดนี้จะปฏิบัติหน้าที่ช่วยกรองหรือคุ้มครองป้องกันขายลูทีนรังสีจากแสงอาทิตย์ที่เป็น อันตรายต่อดวงตา และช่วยป้องกันเซลล์ของหน้าจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย โดยการลดอนุมูลอิสระ โดยเหตุนี้ ก็เลยปฏิบัติภารกิจบำรุงตา ทำให้เรตินาไม่เสื่อมเร็ว ด้วยเหตุผลดังกล่าวผู้ใดกันที่ต้องการถนอมสายตาไว้ ใช้งานนานๆก็จำต้องรับประทานผักผลไม้ สีเหลือง และสีเขียวเข้มมีการขายลูทีนทั่วๆไป และยังมีแหล่งที่เจอ ลูทีน และ ซีแซนทีน ในธรรมชาตินอกจาก จะพบได้มากในดอกดาวเรือง และก็โกจิเบอร์ปรี่(เก๋ากี้) แล้ว ยังเจอใน กะหล่ำ ผักโขม ถั่วลันเตา ต้นอ่อนกะหล่ำดาว ถั่วพิสตาชิโอ บคอยกวัวลี ข้าวโพด ไข่ แครอท ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักปวยเล้ง ผักกาดหอม ผักโขม แตงร้านอีกทั้งเปลือก ซูกินีทั้งเปลือก ถั่วแขก อะโวคาโด มัสตาร์ด ฟักทอง เป็นต้นการบริโภคผักที่มีการรับผลิตลูทีนและชีแซนทีน หรือแม้กระทั้งของกินสุขภาพที่มีประโยชน์สำคัญนี้ จึงมีคุณประโยชน์อย่างมากต่อสุขภาพของดวงตา มีส่วนช่วยลดการเสี่ยงการเกิดโรคหลายอย่างด้วยกัน ที่สำคัญคือ โรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อมโดยสรุปแล้ว ลูทีน (Lutein) จะช่วยทำให้ตาค้างแรง คุ้มครองประสาทตาเสื่อม สร้างเสริมการมองเห็นโดยช่วยคุ้มครองปกป้องการเสื่อมของ Macular ที่จุดเล็กๆตรงกลางของที่รับแสงในตา (Retina) อันเป็นส่วนสาคัญของ Main pigment (สี) ในฉากรับแสงสว่างของตา ปกป้องขายส่งลูทีนไม่ให้แดดทำลายเรตินา คุ้มครองป้องกันโรคจุดรับภาพเสื่อม หรือหน้าจอประสาทตาเสื่อม AMD (Age – Related Macular Degeneration) ช่วยคุ้มครองป้องกันแคปซูลลูทีนและลดอาการโรคต้อกระจก (Cataracts) ต้านอนุมูลอิสระ ที่ทำลายเซลล์ตา ทำให้เซลล์แข็งแรง ช่วยชะลอความเสื่อมถอยของตา แล้วก็เพิ่มสมรรถภาพในการมองเห็นเจริญในที่มืดได้ดีขึ้น
    ขายลูทีน การรับประทานสารในกลุ่มแคโรทีนในปริมาณที่สูงที่สุดจะมีอัตราเสี่ยงต่ำกว่าปริมาณร้อยละ 43 สำหรับสภาวะการเสื่อมของจอประสาทตาตามอายุอย่างเฉียบพลัน เมื่อเปรียบเทียบการกินในปริมาณที่ต่ำที่สุด จากการเล่าเรียนกลุ่มทดลองจำนวน 876 คนซึ่งมีอายุ ระหว่าง 55-80 ปี การได้รับลูทีนแล้วก็ซีซานทีน ในอัตราสูงจะช่วยลดการเสี่ยงของจอประสาทตาเสื่อมอย่างเฉียบพลันได้
ส่วนประกอบสำคัญ
 

ทอลีน
 
เบต้าแคโรทีน
 
วิตามิน บี2
 
สารสกัดบิลเบอร์รี่
 
สารสกัดดอกดาวเรือง (มีลูทีนและซีแซนทีน)
 
สารสกัดใบแปะก๊วย

ขายส่งลูทีน จำหน่ายลูทีน แคปซูลลูทีน รับผลิตลูทีน ลูทีน(Lutein) และ ซีแซนทีน(Zeaxanthin)
สรรพคุณลูทีน ช่วยบำรุงสายตา ทำหน้าที่ช่วยให้มองภาพได้คมชัด
 และเห็นรายละเอียดของภาพดีขึ้นช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนของเลือด
 และเส้นเลือดฝอยที่เลี้ยงตาช่วยให้ดวงตาแข็งแรง
 ป้องกันประสาทตาเสื่อม
สรรพคุณอื่นๆ
สรรพคุณเถาวัลย์เปรียง
เถาวัลย์เปรียงตามตำราไทยว่าทำให้เส้นเอ็นอ่อนลง แก้เส้นเอ็นทุพพลภาพ รวมทั้งแก้ลักษณะของการปวดปวดเมื่อยตามร่างกาย ซึ่งราษฎรประยุกต์ใช้เป็นยารักษาบรรเทาลักษณะของการปวดเมื่อยร่างกายมานานแล้วรับขายลูทีน
แบบเรียนยาประจำถิ่น: ใช้เถา ขับเยี่ยว แก้บิด แก้หวัด ใช้เถาคั่วไฟให้หอมชงน้ำกินแก้ปวดเมื่อย แก้เอ็นทุพพลภาพ แก้เมื่อยขบภายในร่างกาย แก้กระษัยเหน็บชา ต้มกินถ่ายเส้น ถ่ายกระษัย แก้เส้นเอ็นขอด ถ่ายเสมหะ ไม่อึรับผลิตลูทีนเหมาะสมที่จะใช้ในโรคบิด ไอ หวัด ใช้ในเด็กได้ดี แก้ปวด แก้ไข้ ทำให้เอ็นอ่อนลง ขับฉี่ แก้เยี่ยวพิการ บางแบบเรียนขายส่งลูทีนพูดว่าทำให้มีพอดีแข็งแรงสู้ไม่ถอย
o เป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้ในสูตรยาอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ โดยใช้เป็นองค์ประกอบเพิ่มจากสูตรยาอบสมุนไพรหลัก เมื่ออยากได้อบเพื่อรักษาอาการปวดเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอว เป็นต้น
o เถามีรสเฝื่อนแคปซูลลูทีนเอียน ใช้ต้มกินเป็นยาขับปัสสาวะ แก้เยี่ยวเปลี่ยนไปจากปกติ แก้ฉี่กระปริบกะปรอยๆ ส่วนรากมีรสเฝื่อนฝาดเอียนมีสรรพคุณเป็นยาขับฉี่รับผลิตลูทีนเช่นกัน (เถา,ราก)แล้วก็ยังมีข้อมูลกล่าวว่าการใช้สมุนไพรชนิดนี้จะก่อให้ฉี่ได้บ่อยกว่าปกติ ก็เลยบางทีอาจขายลูทีน[/url]มีประโยชน์ต่อคนไข้ที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตด้วย
o คนรุ่นเก่าจะนิยมใช้เถาของเถาวัลย์เปรียงเพื่อเป็นยารักษาอาการตกขาวของสตรี (อาการตกขาวชนิดที่ไม่มีกลิ่น ไม่มีอาการคัน ไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียว) (เถา)
o เถามีคุณประโยชน์สำหรับในการบีบมดลูก (เถา)ขายเห็ดหลินจือ
แบบอย่าง ขนาดการใช้ บัญชียาหลักแห่งชาติ บัญชียาจากสมุนไพร 2556 ยาพัฒนาจากสมุนไพร กลุ่มยารักษากลุ่มอาการทางกล้ามเนื้อและกระดูก เจาะจงรับผลิตลูทีนแบบและขนาดวิธีใช้ยาดังต่อไปนี้

  • ขับโลหิตเสียของสตรี ด้วยการใช้เถาวัลย์เปรียงทั้งห้าแบบสดๆนำมาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้ดื่มต่างน้ำ (ทั้งยังห้า)แคปซูลลูทีน
  • ทำให้มดลูกเข้าอู่ ด้วยการใช้เถาสดนำมาตีให้ยุ่ย แล้ววางทาบลงบนหน้าท้อง แล้วนำหม้อเกลือที่ร้อนมานาบลงไปบนเถาวัลย์เปรียง จะช่วยให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น
  • ใช้เถานำมาหั่นตากแห้งคั่วชงน้ำกินต่างน้ำชาเป็นยาทำให้เส้นหย่อนยาน แก้อาการเมื่อยขบตามร่างกาย แก้อาการปวดเมื่อยล้า แก้เหน็บชา (เถา)
  • ใช้เถาเพื่อรักษาโรคอัมพฤกษ์แล้วก็กระดูกหัก โดยการนำเถามาตำให้เป็นผงผสมกับน้ำมันที่ทำจากมะพร้าวหรือน้ำมันหัวครำ แล้วใช้เป็นยาใช้ภายนอกนวดรอบๆที่เป็นทุกวันกระทั่งหาย (เถา)ยาเถาวัลย์เปรียง ยาแคปซูล (โรงพยาบาล)ข้อบ่งใช้ : บรรเทาลักษณะของการปวดกล้าม ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อขนาดแล้วก็วิธีการใช้ : รับประทานทีละ 500 มก. – 1 กรัม วันละ 3 ครั้งแคปซูลลูทีน หลังรับประทานอาหารทันทีข้อที่ไม่อนุญาตใช้ : ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ยาสารสกัดจากเถาวัลย์เปรียง ยาแคปซูลข้อบ่งใช้ : ทุเลาลักษณะของการปวดหลังข้างล่าง (low back pain) และก็อาการปวดจากข้อหัวเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis)ขนาดรวมทั้งการใช้ : กินทีละ 400 มก. วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารโดยทันทีสิ่งที่ห้ามใช้ : ห้ามใช้กับหญิงตั้งท้องยาเถาวัลย์เปรียง(แคปซูล) 400 mg (บัญชีร่วม รพสต.)ข้อบ่งใช้ : แก้ข้ออักเสบ ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อเกร็ง OAขนาดและวิธีใช้ : กินครั้งละ 2*3PC (500Mg.– 1g.) วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารในทันทีข้อห้ามใช้ : ห้ามใช้ในหญิงตั้งท้องรับผลิตลูทีน

    สรรพคุณชะพลู
    ชะพลูด้านการใช้เป็นอาหาร ใบชะพลูมีรสหวาน เย็น แล้วก็กลิ่นหอมยวนใจที่เป็นเอกลักษณ์ ก็เลยนิยมเอามาทำอาหารได้มากมายเมนู บทบาทของชะพลูในจานของกินครัวเรือนพื้นบ้านมีมากมายก่ายกองขายลูทีนเริ่มตั้งแต่เป็นผักสดที่นิยมรับประทานกับของกินรสอร่อยทั้งหลายแหล่ ดังเช่นว่า ลาบ ก้อย น้ำตก เนื้อย่าง ปลาย่าง ตลอดจนน้ำพริกต่างๆชะพลูเป็นเครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้ในของกินจานประจำถิ่นต่างๆแกงแคของภาคเหนือซึ่งถึงกับเรียกใบชะพลูว่า"ใบผักแค" เลยทีเดียว หรือไม่ก็เป็นด้วยเหตุว่าใช้ใบชะพลูเป็นเครื่องปรุงเฉพาะบุคคล ก็เลยเรียกแกงนั้นว่าแกงแค เป็นได้สิ่งเดียวกันแคปซูลลูทีนส่วนภาคอีสารนิยมใส่เอาไว้ภายในแกงอ่อมต่างๆแกงขนุนอ่อน แกงหัวปลี ภาคใต้ใช้แกงกะทิใบชะพลูกับหอยแครง ส่วนภาคกลางนิยมใส่แกงคั่วหอยขม นิยมเอามารับประทานร่วมกับข้าวมันตำส้ม ประเภทที่เรียกว่าหากขาดใบชะพลู รสชาติของข้าวมันตำส้มก็อร่อยไปเลย รสใบชะพลูช่วงเวลาที่กัดและบดรับประทานจะมีกลิ่นหอมสดชื่นในขว้างรสจัด เคี้ยวนานๆจะได้รสเผ็ดอ่อนๆใบชะพลูขนาดกำลังอร่อยควรเป็นใบที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป ใบจึงจะนุ่ม หอม และเผ็ดกำลังพอดี แต่ ใบชะพลูกินได้ทุกขนาดอายุของมัน รับผลิตลูทีนแก่มากมายก็กินได้ เนื่องจากว่าเส้นใยไม่ถึงกับเหนียวจนกระทั่งกัดไม่ขาด ก็แค่ใบจะหยาบคายสักนิด และก็กลิ่นจะผลักเล็กน้อย
    ในใบชะพลูมีสารบีตา-แคโรทีนสูงมาก ใบนำมากินกับเมี่ยงคำ เอามาแกงใส่น้ำกะทิ ข้าวยำ ห่อหมก หรือเป็นผักจิ้มน้ำพริก ทางภาคใต้ใส่ด้านในแกงน้ำกะทิหอยขม แกงคั่วปูในจังหวัดจันทบุรีใส่ด้านในรับผลิตลูทีนแกงป่าปลา

    Tags : ขายลูทีน,ขายส่งลูทีน
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions