สัตววัตถุ นกกะลิง

สัตววัตถุ นกกะลิง

เริ่มโดย bilbill2255, 07 ธันวาคม 2017, 15:26:18

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

bilbill2255


นกกะลิง
นกกะลิง หรือที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือเรียก นกกะแล
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Psittacula himalayana finchii (Hume)
จัดอยู่ในสกุล Psittacidae
มีชื่อสามัญว่า gray – headed parakeet หรือ slaty – headed parakeet
ชีววิทยาของนกกะลิง
นกนี้เป็นนกปากงุ้มเป้นขอประเภทหนึ่ง ความยาวยาวของตัววัดจากปลายปากถึงปลายหายราว ๔๖ เซนติเมตร ความยาวนี้เป็นความยาวของหางราวกึ่งหนึ่ง ปากบนสีแดงปลายเหลือง ปากล่างสีเหลือง ตาสีดำ หัวสีเทาแก่  ที่คอมีแถบดำใหญ่พิงจากบริเวณใต้คางไปถึงด้านหลัง แถบนี้จะเบาๆเรียวเล็กลงจนเหลือเป็นเพียงแต่เส้นเล็กๆที่ท้ายทอย ต้นคอใต้เส้นดำเป็นสีฟ้า ใต้ปีกสีน้ำเงินอมเขียว หางยาว ตอนบนสีฟ้ามึงอมเขียว ปลายเหลือง เมื่อมองดูผาดๆจะเห็นเป็นนกที่มีสีเขียว เพศผู้มีทาสีแดงเข้มที่ที่หัวปีกข้างๆ รวมทั้งแถบดำที่คางมีขนาใหญ่กว่าของตัวเมีย นกกะลิงอยู่รวมกันเป็นฝูง พบมากทางภาคเหนือที่ระดับความสูงจากระดับน้ำมะเลปานกลาง ๖๐๐ – ๑,๒๐๐ เมตร นกชนิดนี้รับประทานผลไม้ เมล็ดพืชและก็ยอดอ่อนของพืช  สร้างรังตามโพรงไม้ วางไข่คราวละ ๒ – ๕ ฟอง ในระหว่างมกราคมถึงม.ย. ไข่ค่อนข้างจะกลม สีขาว ใช้เวลาฟัก ๒๒ – ๒๕ วัน

ประโยชน์ทางยา
แพทย์แผนไทยตามต่างจังหวัดใช้เลือดนกกะลิงผสมกับยาอื่น เป็นยาบำรุงโลหิต แก้โรคโลหิตจางรวมทั้งโลหิตทุพพลภาพ
สมุนไพร ใน พระหนังสือชวดารให้ยาขนานหนึ่ง คือยาแก้ลมกล่อน ยาขนานนี้เข้า "หางนกกะลิง" เป็นเครื่องยาด้วยดังต่อไปนี้ ยาแก้ลมกล่อน อัณฑะเจ็บเมื่อยล้าตายไปข้างหนึ่ง ทั้งยังกายก้ดี เอายาเข้าเย็น ๑ พันพาย ๑ พรมคตตีนเต่า ๑ หางนกกะลิง ๑ กำลังวัวเถลิง ๑ หนวดนาคราช ๑ เอาเสมอกัน ต้มทากล่อนลม หายแล

Tags : สมุนไพร
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions