พระโพธิสัตว์กวนอิม (观音菩萨) Part 2

พระโพธิสัตว์กวนอิม (观音菩萨) Part 2

เริ่มโดย etatae333, 17 สิงหาคม 2018, 13:18:34

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

พระโพธิสัตว์กวนอิม (观音菩萨) Part 2



มีตำนานหลายตำนานที่กล่าวถึงว่าพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ซึ่งเป็นบุรุษเพศมากลายเป็นสตรีเพศ เรื่องมีดังนี้

ครั้งที่พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ทรงเสด็จตรวจตราในสรรพสัตว์อยู่นั้น มีหญิงคนนั้นเกิดเจ็บท้องจะคลอดบุตร
ด้วยความทุกข์ทรมาน เสียงร้องของนางดังไปถึงพระกรรณแห่งพระโพธิสัตว์เข้า พระองค์ผู้ทรงมีพระกรุณา
ทรงเข้าช่วยหญิงสาวผู้นั้นทำคลอดโดยจำแลงเป็นหญิงสาว จากนั้นพระองค์ทรงช่วยให้หญิงสาวกับบุตรของ
นางรอดพ้นจากอันตราย แต่ด้วยมือแห่งพระโพธิสัตว์เปื้อนเลือดจึงมิอาจจะกลับคือร่างเดิมของพระองค์ได้
พระองค์จึงทรงมีร่างเป็นสตรีเพศแต่นั้นมา


ถึงอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพระองค์จะเป็นบุรุษหรือสตรีก็ตาม แต่เหล่าผู้นับถือก็ยังเคารพนับถือพระองค์ในความเมตตา
มีรูปเคารพของพระองค์เป็นทั้งบุรุษ และ สตรี แต่มีสิ่งเดียวที่บ่งบอกถึงความเป็นพระองค์ คือ ความเมตตากรุณา
อันไม่มีขอบเขตแห่งพระองค์ ในตำนานเป็นเรื่องเล่าหลายเรื่องเล่าถึงความเมตตาแห่งพระองค์มากมาย


ตำนานพระโพธิสัตว์กวนอิมถือตระกร้า



พระโพธิสัตว์ทรงโปรดชาวบ้านในหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่ไม่มีศาสนา ไม่ยึดมั่นในความดี
พระโพธิสัตว์ทรงลงมาจำแลงเป็นหญิงสาวงดงามถือตระกร้าใบหนึ่ง ในตระกร้านั้นมีปลาอยู่ตัวหนึ่ง แต่ปลาตัว
นั้นกลับไม่ตายเพราะมีน้ำหล่อเลี้ยง เป็นเรื่องประหลาดที่ตระกร้าสานนั้นหากใส่น้ำย่อมรั่ว นางเดินเร่ขายปลาตัวนี้
เฉพาะให้แก่ผู้ที่ใจบุญนั้นไปปล่อยเป็นทาน หญิงสาวผู้งดงาม และมีจิตใจงดงามเป็นที่หมายปองของชายหนุ่ม
ในหมู่บ้าน แต่นางประกาศไว้แล้วว่า


"หากชายใดยอมได้เราเป็นภรรยา เพียงสามารถสวดมนต์มงคลสูตรได้แล้วเราจะแต่งงานกับชายผู้นั้น"

ผลปรากฏว่าชายหนุ่มทุกคนสามารถสวดมงคลสูตรได้ทุกคน และติดเป็นนิสัย ชายหนุ่มจะสวดมนต์นี้
ทุกเช้า-เย็น แต่แล้ว

"เราคงรับท่านทุกคนเป็นสามีมิได้เพราะหนึ่งสตรีย่อมมีสามีเดียว เช่นนั้นหากผู้ใดสามารถสวดบท
วชิรสูตรได้เราจะรับชายผู้นั้นเป็นสามี"


ผลปรากฏว่ามีชายหนุ่มสวดมนต์วชิรสูตรได้เพียง 4 คนเท่านั้น จากนั้นหญิงสาวจึงให้สวดมนต์บทสัทธรรมปุณฑริกสูตร
ได้จะยอมเป็นภรรยา ผลออกมาว่า คุณชายหม่าลิ่ง สามารถสวดมนต์บทนี้ได้ ซึ่งคุณชายแอบชอบหญิงสาวมานานแล้ว
และมักจะช่วยนางซื้อปลาไปปล่อยเป็นทานอยู่เสมอ และแล้วคุณชายกับหญิงสาวก็แต่งงานกัน พอผ่านพิธีสมรสแล้ว
หญิงสาวซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์จำแลงจึงกลายสภาพเป็นซากศพ สร้างความเสียใจให้แก่คุณชายเป็นอันมาก คุณชายจัด
พิธีฝังศพของนางอันเป็นที่รักเป็นอย่างดี และชายหนุ่มยึดมั่นในรักเพียงนางผู้เดียวจึงไม่แต่งงานใหม่

ต่อมาขณะที่ชายหนุ่มมาไหว้หลุมศพของหญิงสาว มีภิกษุรูปหนึ่งเข้ามาหาและบอกแก่ชายหนุ่มว่า หญิงสาวผู้เป็น
ภรรยานั้น เป็นร่างอวตารแห่งพระโพธิสัตว์กวนอิมลงมาโปรดสัตว์ คุณชายไม่เชื่อ ภิกษุจึงให้คุณชายเปิดโลงศพดู
ผลออกมาว่าร่างของหญิงสาวหายไป ผลเป็นที่แน่ชัดแล้วว่านางไม่มีตัวตนอยู่จริง และแล้วภิกษุนั้นก็หายไปเช่นเดียวกัน
(บางตำนานว่าร่างของนางกลายเป็นทองคำ) หลังจากนั้นชายหนุ่มจึงเลื่อมใสในพระโพธิสัตว์กวนอิม เขาอุทิศบ้าน
ของเขาทำเป็นศาลพระโพธิสัตว์กวนอิม โดยจ้างช่างปั้นรูปพระโพธิสัตว์เป็นลักษณะหญิงสาวในชุดสีกรมท่า
ยืนเท้าเปล่าและมือข้างหนึ่งถือตระกร้า ผู้คนจึงต่างเรียกว่า


"กวนอิมถือตระกร้า"




ตำนานพระโพธิสัตว์กวนอิมเปลือกหอย



ยังมีอีก ตำนานต่อมาเล่าถึงพระโพธิสัตว์ ทรงสัมผัสได้ถึงความแค้นแห่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในแถบชายฝั่งทะเลแห่งหนึ่ง
พระโพธิสัตว์ทรงจำแลงเป็นภิกษุธุดงค์ถามไถ่ชาวบ้านถึงความคับแค้นนั้น จนได้ใจความว่า หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านประมง
มีสินค้าขึ้นชื่อคือ "หอยปอหนิง" ซึ่งเป็นที่โปรดปรานแห่งพระเจ้าถังบุนจง


ทางหมู่บ้านจึงต้องส่งไปเป็นบรรณาการเป็นประจำทุกเดือน แต่สาเหตุแห่งความแค้นนั้นมาจากหน่วยราชการผู้ตรวจ
บรรณาการ หอยปอหนิง มักจะแกล้งชาวบ้านว่า หอยไม่ได้ขนาดไม่สมบูรณ์พอมิอาจจะส่งเข้าวังได้ก็จะเทหอยเหล่านั้น
ที่ชาวบ้านหามาอย่างยากลำบากทิ้ง ชาวบ้านจึงจำต้องติดสินบนข้าราชการ หากใครไม่มีสินบนให้หอยนั้นก็จะถูกส่งเข้าวัง
จากชาวบ้านที่ทำประมงเป็นอาชีพเคยมั่งคั่งก็กลับยากจนลง เพื่อเหล่าข้าราชการที่กินสินบนไม่เคยพอ ภิกษุจึงได้แต่
เวทนาชาวบ้านมิอาจจะทำอันใดได้เลย

จากนั้นมาเกิดเหตุทางวังยกเลิกรับหอยปอหนิง เป็นบรรณาการโดยมีเหตุปาฏิหาริย์เกิดขึ้นว่า ขณะที่พ่อครัวหลวง
ทำการผ่าเปลือกหอยปอหนิงอยู่นั้น ปรากฏแสงรัศมีรองเรืองและมีภาพพระโพธิสัตว์กวนอิมปรากฏอยู่ท่ามกลางรัศมีนั้น
พระเจ้าถังบุนจงทรงเลื่อมใสจึงเลิกเสวยหอยปอหนิง แล้วทรงสร้างศาลพระโพธิสัตว์ไว้ด้วย ชาวบ้านจึงขนานพระองค์ว่า


"กวนอิมเปลือกหอย"




ตำนานพระโพธิสัตว์กวนอิมสามหน้า


 
มีตำนานอีกเล่าว่า พระโพธิสัตว์จำแลงเป็นหญิงสาวชนบท เดินเร่ขายกระจกทองเหลืองธรรมดาในเมืองลั่วหยาง
หากผู้ใดถามนางถึงราคาของกระจกบานนี้ นางก็จะตอบว่า


"กระจกทองเหลืองนี้ราคา1000ตำลึง เพราะมีคุณสมบัติสามารถบอกถึงเหตุการณ์ในอดีตและอนาคต
ของผู้ที่ส่องได้ หากท่านไม่เชื่อก็ลองส่องดู เราคิดเพียงแค่ 3 อีแปะเท่านั้น"


มีวัยรุ่นหนุ่มวัยคะนองคนหนึ่ง เข้ามาลองดูเพื่อไม่เชื่อว่าของวิเศษแบบนี้จะมีในโลกจึงขอหญิงสาวส่องกระจกว่า
เป็นจริงตามที่พูดหรือเปล่า แต่ผลปรากฏว่า เด็กหนุ่มเห็นภาพตนเองว่าเคยกระทำแต่สิ่งที่หยาบช้าไว้มากมาย
และภาพสุดท้ายที่ปรากฏคือ ตนเองต้องเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉา เด็กหนุ่มหน้าซีดเผือกกับภาพที่เห็น ผู้คนแตกตื่น
กับภาพที่เห็น จึงอยากจะดูภาพอดีตและอนาคตของตนเองบ้าง หญิงเลยยอมให้ผู้คนดู

มีชาวบ้านมากันมากมาย เรื่องของหญิงสาวซึ่งมีกระจกทองเหลืองวิเศษก็แพร่กระจายไปทั่ว จนชาวบ้านเมือง
ใกล้เคียงเดินทางมาดูกระจกทองเหลืองวิเศษด้วย ถึงจะมีคนมารอดูกระจกทองเหลืองวิเศษอันนี้มากมายเพียงใด
หญิงสาวก็ยินดีด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม จนค่ำชาวบ้านแยกย้ายกันไป หญิงสาวเดินถือกระจกทองเหลืองจากไป
และหันหน้ามาล่ำลาชาวบ้าน

แต่ที่เป็นมหัศจรรย์นั้นคือ ชาวบ้านต่างเห็นใบหน้าของหญิงสาวต่างกันไป บางคนเห็นใบหน้าของหญิงสาว
คล้ายกับเทวรูปพระโพธิสัตว์กวนอิม บางคนเห็นปีศาจที่น่ากลัวแต่ใบหน้าเป็นทองคำ บางคนเห็นเป็นหน้า
เทพเจ้าที่หน้าตาบึ้งตึงโกรธเคือง และแล้วหญิงสาวก็หายไป เหล่าชาวบ้านพากันเชื่อว่า เป็นพระโพธิสัตว์
กวนอิมมาโปรดให้พวกตนรู้ถึงบุญและกรรม ผู้ที่ส่องแล้วพบว่าชาติหน้าตนจะเกิดในนรกภูติ เปรตภูมิ
และ เดรัจฉาภูมิก็จะทำการประกอบคุณงามความดี ผู้คนต่างขนาดนามว่า


"กวนอิมสามหน้า"




ตำนานพระโพธิสัตว์กวนอิมผู้ผุดขึ้นจากดินโคลน
 


ตำนานต่อมา พระโพธิสัตว์ทรงแสดงปาฏิหาริย์ช่วยเหลือผู้ที่นับถือพระองค์ นามว่า "อี่เผิง" เขาเป็นคนดีรักษา
คุณธรรมมาโดยตลอด เขาเป็นเถ้าแก่ร้านขายยา เขามักเอายาไปแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านเสมอจนเป็นที่
ยกย่องนับถือ เขามีภรรยาที่ยังสาวแต่กลับลักลอบเป็นชู้กับเพื่อนบ้าน นามว่า"คังซี"  พระโพธิสัตว์ทราบว่า
อี่เผิงจะมีเคราะห์ พระองค์ทรงเข้าฝันบอกอี่เผิงซึ่งขณะนั้นอี่เผิงเดินทางไปแจกจ่ายยาให้ชาวบ้านยังต่างเมือง


"อี่เผิงเธอกำลังจะมีเคราะห์หากทำตามที่เราบอก 4 ประการแล้วไซร้เธอจะพ้นจากเคราะห์ทั้งปวง

1. เมื่อพบสะพานอย่าหยุดเรือ
2. พบน้ำมันให้เอาลูบหัว
3. แมลงวันหัวเขียวใหญ่เสมอพู่กัน
4. ข้าวสารสามทะนาน


อี่เผิงตื่นจากความฝันก็จดจำ 4 ประการแห่งพระโพธิสัตว์ไว้ พอรุ่งเช้าอี่เผิงหมายจะออกเดินทางกลับบ้าน
โดยเดินทางทางเรือนายแจว แจวเรือผ่านสะพานหนึ่งซึ่งแจวมาเหนื่อยก็หมายจะแวะพักใต้สะพานจาก
แสงแดดอันร้อนแรง แต่อี่เผิงนึกถึงคำเตือนจากพระโพธิสัตว์เขาจึงสั่งห้ามให้นายแจวแวะพัก พอนายแจวเรือ
แจวผ่านสะพานไปไม่เท่าไร สะพานนั้นก็ทลายลงมาทันที (หากยังคงพักอยู่ใต้สะพานไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น)

พออี่เผิงกลับมาถึงบ้านก็เข้าจุดธูปเทียนบูชาพระโพธิสัตว์ แต่แล้วตะเกียงกลับตกน้ำมันนองไปทั่ว
อี่เผิงนึกถึงคำพูดของพระโพธิสัตว์จึงเอาน้ำมันนับลูบที่หัวจนมันเงา เมื่อคังซีทราบว่าอี่เผิงกลับมาแล้ว
ก็หมายจะสังหารอี่เผิงเพื่อครอบครองภรรยาสาวของอี่เผิง พอตกดึกคังซีลอบขึ้นบ้านและเข้ามาให้ห้องนอน
คังซีหมายจะสังหารอี่เผิง ด้วยความมืดแห่งราตรีกาลทำให้คังซีมองไม่รู้ว่าใครคืออี่เผิง และใครคือภรรยาสาว
แต่คังซีได้กลิ่นหอมของน้ำมัน จึงคิดว่าเป็นภรรยาสาวแน่ เลยลองมือแทงเข้ากับร่างที่นอนอยู่ข้างๆเต็มๆ
แต่พอปรากฏว่าร่างที่คังซีแทงนั้นคือ ภรรยาสาว อี่เผิงรอดมาได้จากความช่วยเหลือจากพระโพธิสัตว์กวนอิม

อี่เผิงตกใจ เลยหมายจะจุดตะเกียงมองว่าใครเป็นคนร้าย แต่เจ้าคังซีหนีกระโดดออกนอกหน้าต่างไปแล้ว
อี่เผิงไปแจ้งทางการ แต่ทางการเจ้าหน้าที่มาตรวจดูแล้วไม่พบรอยงัดใดๆที่แสดงว่ามีคนเข้ามา ทางการ
จึงสรุปว่า อี่เผิงสังหารภรรยาของตนเอง อี่เผิงถูกจับกุมส่งให้อำเภอเพื่อสอนสวน ทางอำเภอสอนสวนอี่เผิง
ซึ่งไม่เป็นคนผิด ก็ถูกลงโทษจนยอมรับออกมา เขาจึงถูกประกาศแล้วว่าเป็นคนร้ายฆ่าภรรยาตนเอง


แต่ในขณะที่อี่เผิงกำลังจะเขียนชื่อยอมรับว่าเป็นคนร้าย เกิดมีแมลงวันหัวเขียนจำนวนหนึ่งบินเข้ามาเกาะพู่กันนั้น
จนมิดพอสะบัด มันก็บินกลับมาเกาะอีกจนมิอาจจะเขียนได้ เรื่องนี้รู้เข้าถึงนายอำเภอ นายอำเภอจึงทำการ
สอบสวนใหม่ อี่เผิงกล่าวถึงความฝันที่พระโพธิสัตว์กวนอิมมาบอกเหตุว่าตนจะมีเคราะห์นั้นให้นายอำเภอฟัง
นายอำเภอยังครุ่นคิดถึงคำว่า ข้าวสารสามทะนาน หมายถึงอะไร..?

แต่แล้วนายอำเภอก็นึกขึ้นมาว่า คำว่าข้าวสารสามทะนานตรงกับคำว่า "ชี"กับ"คัง" ซึ่งไปตรงกับชื่อของ
เพื่อนบ้านว่า "คังซี" ทางการจับกุมคังซีและสอบสวนได้ความว่าคังซีเป็นคนร้ายตัวจริง นายอำเภอจึงสั่ง
ประหารคังซี


หลังจากนั้นอี่เผิงสละสมบัติทั้งหมดให้ทานแก่คนยากไร้ และตนเองออกบวชแล้วออกธุดงค์ไปยังที่ต่างๆ
จนมาถึงเมืองเจียซิน เกิดเหตุขึ้นว่า มีพระพุทธรูปหยกพุ่งขึ้นกลางท้องนามีชาวบ้านมาชุมนุมกันมากมาย
อี่เผิงได้เดินเข้ามาดูเช่นกัน อี่เผิงทราบว่า พระพุทธรูปหยกนั้น คือพระโพธิสัตว์กวนอิม และหากเมื่อขึ้นมา
จากที่ดินแถวนี้ ย่อมเป็นสิริมงคลจึงบอกให้ชาวบ้านสร้างศาลขึ้นเพื่ออัญเชิญพระพุทธรูปหยกขึ้นประดิษฐาน
แต่ชาวบ้านไม่เชื่อเขา จนเขาเล่าถึงประสบการณ์ที่พระโพธิสัตว์กวนอิมทรงช่วยเหลือ ชาวบ้านเกิดศรัทธา
จึงช่วยกันสร้างศาลเพื่อประดิษฐานพระพุทธรูป ชาวบ้านจึงขนานามว่า


"กวนอิมผู้ผุดขึ้นจากดินโคลน"
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่