สุดยอดหนังสือแปลกลึกลับ?

สุดยอดหนังสือแปลกลึกลับ?

เริ่มโดย etatae333, 20 สิงหาคม 2011, 13:35:57

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

10. Codex Seraphinianus



เป็นหนังสือที่ออกแบบและเขียนโดยศิลปิน(สถาปนิก)ชาวอิตาลีหลุยส์(Luigi Serafini) ในช่วงสามสิบเดือน 1976-1978
หนังสือยาวกว่า 360 หน้า(ขึ้นอยู่กับรุ่น) เป็นหนังสือรวมภาพประหลาดพร้อมกับภาษาที่ไม่เข้าใจ


หนังสือแบ่งออกเป็นสิบเอ็ดบท แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกจะปรากฏขึ้นเพื่ออธิบายโลกธรรมชาติเกี่ยวกับพืช สัตว์ และฟิสิกซ์
หากแต่สัตว์และพืชแต่ละอย่างมันไม่มีในโลก เช่นแรดสองหัว ม้า ช้างน้ำ แรด นก หอยทากหลากสีสัน คนต่างดาว ดอกไม้แปลก
ต้นไม้เดินได้ พืชมีขา เป็นต้น ส่วนที่สอง เป็นเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์ศาสตร์ แง่มุมต่างๆ ของชีวิตมนุษย์ เสื้อผ้า ประวัติ อาหาร สถาปัตยอื่นๆ
กีฬาแปลกๆ ส่วนตัวอักษรที่ปรากฏ ดูเหมือนเป็นอักษรจอร์เจีย หรือกลุ่มภาษาเซมิติกเขียนจากขวาไปซ้าย



แต่จนบัดนี้อักษรและภาพเหล่านั้นก็ไม่มีใครตีแตกมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 80 ว่ามันสื่อถึงอะไรและคนเขียนก็ยังคงปากแข็งเกี่ยวกับความหมายนี้
แต่ กระนั้น มีคนวิเคราะห์ว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้มีเจตนาให้ลึกลับซ่อนเงื่อนหากแต่ต้อง การสื่อถึงโลกจินตนาการของผู้เขียน และหนังสือเล่มนี้
ได้เป็นงานศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและภาพที่มีชื่อ เสียงที่สุดคือคนเปลือยกายกลายร่างเป็นจระเข้(ภาพหน้าปกของหนังสือ)
ถ้าคุณไม่เชื่อลองพิมพ์ชื่อหนังสือลงในกูเกิ้ลหาภาพดู คุณจะพบว่าคนเขียนหนังสือเล่มนี้ท่าจะไม่เต็มเต็ง......



ส่วนใหครอยากโหลดก็เชิญ ผมว่าแนวดี >>> http://www.mediafire.com/?nnynjgynoio
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

etatae333

9. The Liber Linteus


   
Liber Linteus เป็นตัวอักษรโบราณของพวกอีทรัสคันซึ่งเป็นชนกลุ่มหนึ่งที่มีวัฒนธรรมเฉพาะ ของตนที่รุ่งเรืองในอิตาลี
เมื่อ 700 ปีก่อนคริสตกาลก่อนที่โรมจะเรืองอำนาจ(และวัฒนธรรมของอิทรัสนั้นโรมก็นำมา ใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น การชนประทาน หรือสงคราม)
Liber Linteus เป็นเอกสารที่มีข้อความเกี่ยวข้องกับพวกเขาที่ยาวที่สุด เก่าแก่ที่สุดที่มีชื่อเสียง โดยมันทำมาจากผ้าลินิน


สิ่งที่น่าสนใจหนังสือที่ว่านั้นเป็นมันทำหน้าที่คล้ายผ้าห่อศพคลุมชาวอี ทรัสคันที่ตายแล้วนำไปฝังหรือเก็บรักษาไม่ให้เน่าเหมือนมัมมี่
เหมือนวัฒนธรรมการรักษาศพของอียิปต์ และตอนที่พบหนังสือนี้ก็มาพร้อมกับมัมมี่เช่นกัน

มัมมี่ที่พบพร้อมตัวอักษรนี้คาดว่าเป็นเพศหญิงที่มียศสูงศักดิ์พอสมควร เนื่องจากเวบานั้นผ้ามีราคาแพงมากและศพที่ถูกห่อด้วยผ้านั้น
ผู้ทำต้องมีฐานะ ดีพอสมควร อักษรของ Liber Linteus ประกอบด้วย 1,200 คำ 230 บรรทัดอ่านจากขวาไปซ้าย แม้จะมีแถวที่หายไปบ้าง
แต่ก็ถือว่าเกือบสมบูรณ์ เขียนด้วยหมึกดำและหมึกสีแดงที่ขีดเป็นเส้นๆ เสมือนกับว่าเป็นเครื่องหมายในการออกเสียง และ จนบัดนี้ไม่มีใคร
อ่านภาษาของพวกเขาออกได้ทั้งหมด ภาษาเขียนเหมือนอักษรกรีกแต่ไม่สามารถจัดเข้าพวกใดๆได้เลย แม้จะขุดพบหลักฐานเป็นจำนวนมาก
แต่ก็ไม่มีคีย์เวิร์ดในการช่วยแปลอักษรเหล่า นี้ได้


แต่กระนั้นนักวิชาการสันนิษฐานว่า Liber Linteus น่าจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับปฏิทินพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ ศาสนา เกี่ยวกับชาวพวกอีทรัสคัน
ปัจจุบันหนังสือนี้ถูกเก็บรักษาอย่างดี(พร้อมมัมมี่) ในห้องเย็นของพิพิธภัณฑ์ ซาเกร็บ โครเอเชีย

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

etatae333

8. The Book of Soyga



The Book of Soyga เป็น หนังสือลาตินเวทมนต์ในศตวรรษที่ 16 ที่รู้จักกันดีโดยนักวิชาการจอห์นดี หรือด็อกเตอร์ดี
หลังจากที่เขาตายหนังสือนี้ก็หายไป จนกระทั้งปี 1994 มีการค้นพบสองต้นฉบับที่เหลือ


จอห์น ดี( 1608-1609) เขาเป็นนักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ โหร นำทำนาย และที่ปรึกษาพระราชินีอลิซาเบธที่ 1 แห่ง อังกฤษในยุคนี้
โหราศาสตร์ได้ถูกพัฒนาไปสู่ความซับซ้อนมากถึงขีดสุด และเป็นที่แพร่หลายในหมู่กษัตริย์และผู้นำทางศาสนา เขามีผลงานเด่นคือได้วางฤกษ์
วันพระราชพิธีราชาภิเษกของพระราชินีอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ โดยวางให้อาทิตย์ ศุกร์ และพฤหัส ทำมุมดีต่อดาวกำเนิดของพระองค์
ส่งผลให้พระราชินีทรงครองราชย์ยาวนานถึง 44 ปี จอห์น


ดีเป็นโหรที่มีความเชี่ยวชาญหลายแขนงไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ และการแพทย์ ซึ่งในช่วงบั้นปลายเขาได้หันมาเล่นแร่แปรธาตุ
ศึกษาพลังเหนือธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกับภูตสวรรค์ หรือการอ้างว่าเขาสามารถสร้างหินนักปราชญ์(ศิลาอาถรรพ์)
แปรธาตุตะกั่วให้เป็นทองคำ หลายคนจึงเชื่อว่าหนังสือ The Book of Soyga ถือกำเนิดขึ้นเพื่อเหตุผลนี้



แต่อย่างไรก็ตามหนังสือเล่มนี้ปัจจุบันยังไม่สามารถตีความได้หมด หลายคนพยายามไขความลับของหนังสือเรื่องนี้เพราะเชื่อว่ามันได้บรรจุความรู้
ที่เหนือธรรมชาติเอาไว้ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากคำบางคำนั้นไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันใช้ยังไง หรือมีรหัสมากมายที่ปรากฏในหนังสือ
เช่น วงกลม วงเวทย์ เวทย์ ตาราง และรูปปริศนามากมาย
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

etatae333

7. The Rohonc Codex
   


The Rohonc Codex เป็น หนังสือลึกลับของฮังการีที่ไม่ทราบว่าเป็นหนังสืออะไรและใครเป็นคนเขียน
ที่คาดว่าทำขึ้นเมื่อ ปี 1700(กระดาษทำขึ้นในปี 1530 แต่กระนั้นก็ไม่สามารถระบุได้แหล่งผลิตคือที่ไหน)
มีทั้งหมด 448 หน้า ภาษาในหนังสือปัจจุบันไม่สามารถแปลได้ มันเป็นภาษาที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน


นักวิชาการหลายคนมีความคิดเห็นมากมายว่า มันน่าจะเป็นภาษาโบราณจำพวกภาษาฮังการีโบราณ หรือไม่ก็ภาษาฮินดี
(ภาษาฮินดีเป็นภาษาที่พูด ส่วนใหญ่ในประเทศอินเดียเหนือและกลาง) หรือภาษาโรมาเนีย แต่กระนั้นมันก็ขาดคุณสมบัติ
ที่จะแปลภาษาดังกล่าวได้ ดังนั้นสิ่งที่คาดเดาได้ว่าหนังสือเรื่องนี้คืออะไรก็คงจะเป็นภาพประกอบใน เล่มเท่านั้น

โดยภาพหนังสือเล่มนี้มีทั้งหมด 87 ภาพ ภาพเหล่านี้แสดงถึงภูมิประเทศ ฉากสภาพแวดล้อมของคนในศาสนาคริสเตียน
คนในศาสนาฮินดูอยู่ร่วมกัน และมีสัญลักษณ์(อักษร) แปลกๆ อยู่บนภาพที่ บางอันรูปร่างเหมือนดวงอาทิตย์หรือพระจันทร์
นอกจากนี้ยังมีภาพการต่อสู้ของทหารด้วย ปัจจุบันหนังสือเล่มนี้อยู่หอสมุด Hungarian Academy of Sciences ในฮังการี
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

etatae333

6. Rongorongo


   
Rongorongo หรือรองโกรองโก้เป็นอักษรภาพที่ค้นพบเมื่อศตวรรษที่ 19 สลักในไม้กระดานปักหลุมศพของชาวเมืองราโน
บนเกาะอิสเตอร์กลางมหาสมุทรแปซิ ฟิค ตัวอักษรต่างๆ มีรูปร่างเหมือนรูปมนุษย์ สัตว์(อารมณ์ไปทางไส้เดือน กิ่งกือ)
พืช ศิลปวัตถุ รูปทรงเรขาคณิต


แต่ จนบัดนี้ภาษานี้ก็ไม่มีใครหน้าไหนที่แปลออกและกลายเป็นภาษาลึกลับที่สุดใน โลกอีกอันดับ สาเหตุที่แปลไม่ได้
เนื่องจากเกาะอิสเตอร์นั้นเป็นเกาะที่โดดเดี่ยวดังนั้น พวกเขาจึงมีภาษาเฉพาะโดยไม่มีอิทธิพลภาษาอื่นๆ มาเจือปน
ทำให้นักโบราณคดีไม่สามารถหาคีย์ในการแปลได้ แต่กระนั้นก็มีการสันนิษฐานว่าบางที่รองโกรองโก้อาจไม่ใช่ภาษา
อาจจะเป็นงาน ศิลปะไม่ก็ปฏิทินอะไรสักอย่าง และนอกจากภาษาแล้วนักโบราณคดียังไม่รู้เลยว่าชาวพื้นเมืองนี้อาศัยเกาะนี้

อย่างไรในเมื่อมันไม่มีอาหาร ไม่มีพื้นบ้าน หรือกระทั่งประวัติศาสตร์ก็ไม่มีใครกล่าวถึงพวกเขาเลยสักบท
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

etatae333

5. The Beale Ciphers



เป็น ข้อความรหัสสามชุด ว่ากันว่ามันเป็นลายแทงสมบัติในการนำไปสู่ขุมสมบัติเงินทองและอัญมณีกว่า 40,000,000 ดอลลาร์
โดยสองชุดที่ว่าสามารถแปลได้คร่าวๆ ว่า ...


เนื้อหาได้อธิบายถึงเนื้อหาสมบัติและรายชื่อของสมบัติของเจ้าของคือโทมัส เจฟเฟอร์สัน บีส( Thomas Jefferson Beale)
ที่ซ่อนมันไว้ในสถานที่ลับในเบดฟอร์ด เวอรจีเนียเมื่อปี 1820 ก่อนที่เขาจะมอบรหัสลับนี้แก่เจ้าของโรงแรมท้องถิ่นชื่อโรเบิร์ต(Robert Morriss)
เขาบอกว่าให้เปิดรหัสนี้หากเขาไม่กลับมา และขาก็หายสาบสูญไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลย เจ้าของโรงแรมได้เปิดรหัสนี้ก็พบว่ามันเป็นรหัส
ตัวเลขแปลก ๆ เรียงกันโดย มีเลขหลักหนึ่ง หลักสิบ หลักร้อย เรียงเหมือนสลับกันเหมือนรหัสลับอะไรสักอย่าง

เจ้าของโรงแรมพยายามไขปริศนานี้แต่ล้มเหลวเขาเลยได้ให้สามรหัสส่งต่อแก่ เพื่อนของเขาก่อนตาย และเพื่อนคนนั้นได้ใช้เวลาทั้งชีวิต
ในการพยายามถอดรหัสข้อความดังกล่าวนี้ จนสามารถแก้ปัญหาได้ส่วนหนึ่งคือบอกเนื้อหาและรายการสมบัติโดยวิธีไขโครตง่าย(เขาบอกว่างั้น)
โดยการใช้คำในประกาศอิสรภาพของอเมริกาเทียบตำแหน่งใน รหัสเท่านั้น หากแต่ส่วนสำคัญคือสถานที่ซ่อนจนบัดนี้ไม่สามารถไขได้

ต่อมารหัสนี้ถูกลงในหนังสือพิมพ์และแจกแผ่นพับเพื่อให้คนทั่วอเมริกามาช่วย กันไขรหัสนี้แต่จนบัดนี้ก็ไม่สามารถไขได้ ดังนั้นจึงมีคนมาสันนิษฐาน
ว่ามันเป็นของปลอมแต่กระนั้นก็ไม่มีหลักฐานใด พิสูจน์เรื่องนี้
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

etatae333

4. Kryptos


   
Artist Jim Sanborn's เป็นประติมากรรมที่ไม่ใช้เอกสาร หากแต่ทำมาจากหิน ไม้ และทองแดง ตัวตั้งอยู่ที่มุมตะวันตกเฉียงใต้
ของศูนย์บัญชาการใหม่ของ CIA สลักไว้ด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ 26 ตัวบวกเครื่องหมายคำถาม ตัวอักษรเหล่านั้นรวมกันทั้งหมด
มีถึง 869 คำว่า คริปโตสเป็นภาษากรีก แปลว่า ซ่อนอยู่ ซึ่งแน่นอนว่า ตัวอักษรทั้ง 869 ตัวนั้นก็คือรหัสลับนั่นเอง


เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า วันหนึ่ง CIA เกิดอยากได้ประติมากรรมเจ๋งๆไว้ประดับหน่วยงานของตน จึงได้ขอให้ประติมากรคนหนึ่ง
ที่มีชื่อว่า James Sanbornทำขึ้นมาให้ ทีนี้นาย Sanborn ก็เลยไปเรียนรู้วิชารหัสลับจาก Ed Scheidt ซึ่งเป็นถึงอดีตประธาน
หน่วยถอดรหัสของ CIA จนนำเทคนิคเหล่านั้นมาสร้างเป็นรหัสลับในประติมากรรมของเขานั่นเองครับ ปัจจุบันเจ้าประติมากรรมชิ้นนี้
เป็นที่สนใจของคนที่หลงใหลในการถอดรหัสไป ทั่วโลก


ซึ่งรหัสลับใน Kryptos นั้นถูกไขออกได้เพียงแค่สามในสี่ส่วนเท่านั้นในปี 1999 คนแรกที่ออกมาพูดอย่างเปิดเผยก็คือ นาย James Gillogly
นัก วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ นายคนนี้เขาใช้เทคนิคในการถอดรหัสกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เขียนขึ้นเองช่วย ในการไขความลับของรหัส
ออกมาได้ถึงสามส่วน

หลังจากนั้น CIA ก็ออกมาอ้างว่าไขรหัสได้แล้วสามส่วนเหมือนกันตั้งแต่ปี 98 ส่วน NSA ก็ออกมาบอกว่าไขได้แล้วตั้งแต่ปี 92 แต่สุดท้าย
ก็ยังไม่มีใครสามารถถอดรหัสส่วนสุดท้าย 97-98 ตัวออกมาได้อยู่ดี
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

etatae333

3. The Urantia Book



เป็นหนังสือปรัชญา และจิตวิญญาณที่ไม่มีชื่อผู้เขียน โดยเนื้อหากล่าวถึง พระเจ้า พระเยซู จักรวาล วิทยาศาสตร์ ประวัติ และโชคชะตา
ที่เผยแพร่ในชิคาโก อิลลินอยด์ ประเทศสหรัฐอเมริการะหว่าง 1925-1955


มีการถกเถียงมากในเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้(มีการแปลเป็นภาษาอื่นๆ กว่า 11 ภาษา) โดยคำนำของหนังสือได้แนะนำดาวเคราะห์หนึ่ง
ชื่อโลก(โดยใช้ชื่อดาวว่า Urantia) และนำเสนอแนวคิดในการฝึกพลังจิตวิญญาณขั้นสูง ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับพระเจ้า
ไปจนถึงบอกอนาคตโลก หนังสือเล่มนี้ยาวถึง 2,097หน้า หนังสือไม่ระบุผู้เขียนหากแต่หนังสือบอกว่าเครดิตทั้งหมดมาจากคำสั่งของฟ้า




สาเหตุเนื่องมาจากในปี 1925 นายวิลเลี่ยม แซดเลอร์ (William Sadler) ได้ นิมิต(หรือหลับลึก)อ้างว่าเขาติดต่อกับพระเจ้าได้
เขาเปร่งเสียงพูดที่มีความยาวและเขาได้ให้นักชวเลขจดคำพูดของเขาไว้ ซึ่งคำพูดของเหล่านั้นได้แพทย์ตกตะลึงให้กับทางการแพทย์
เพราะว่าแต่ละคำนั้น เหนือธรรมชาติมากๆ ก็ว่าได้


ว่ากันว่าหนังสือเล่มนี้ใช้ศัพท์ซับซ้อนและมีรายละเอียดมาก นักวิชาการทางศาสนาพยายามแปลหนังสือและสัญลักษณ์
ทางศาสนาแต่สุดท้ายก็ยังคง เป็นปริศนาต่อไป
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

etatae333

2. The Gnostic Gospels


   
บันทึกของคัมภีร์นอสติก (Gnostic gospels) เป็นหนังสือที่เก็บความรู้หรือคำสอนของพระเยซูที่เขียนขึ้นเมื่อ 2nd –4th
หากแต่หนังสือ(gospels แบบว่าพระวรสาร)นี้ไม่ได้ถูกรับเลือกเป็นพระคัมภีร์ ไม่ได้รับการยอมรับหรือบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ




กอสเปล(และอีกหลายเล่ม)นี้ถูกเรียกว่าเป็น 'งานเขียนที่ผิดพลาด' (pseudepigrapha) บ้าง หรือเรียกว่า 'สิ่งที่ถูกซ่อนเอาไว้' และ
ถูกหาว่าเป็นหนังสือนอกรีตจนถูกทำลายไปจนหายไปหลายศตวรรษ ก่อนที่ถูกค้นพบเมื่อปี 1945(สงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุด)
โดยเกษตรกรในประเทศอียิปต์ หากมันไม่เหมือนหนังสือในอันดับอื่นๆ เพราะนักวิชาการทั่วๆไปเข้าใจในเรื่อง Gospels และ
ได้แปลเป็นที่เรียบร้อยในหลายแบบ




ยกเว้นแต่สิ่งที่ค้นพบนั้นจะมีเนื้อหาทีลึกลับซุกซ่อนอยู่ บางที่มันอาจซุกซ่อนหลักคำสอนของพระเยซูที่ไม่เคยปรากฏ
ในพระคัมภีร์ใหม่ หรือความลับที่สั่นคลอนต่อศาสนา
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

etatae333

1. Voynich manuscript


   
Voynich manuscript เป็น หนังสือ ที่ลึกลับที่สุดในโลกเนื่องจากทุกข้อความในหนังสือล้วนพิศวงและแปลกประหลาด
ภาษาที่ใช้ก็ไม่สามารถไขได้ว่ามันต้องอ่านด้วยวิธีอะไร


โดยหนังสือเล่มนี้พบในห้องสมุดโรมันคาธอบิคนิกายหนึ่งในปี 1800 ไม่ระบุผู้เขียนหรือปีที่ผลิต แต่คาดว่าน่าจะเขียนเมื่อ
ศตวรรษที่ 15 เขียนด้วย ปากกาขนนก มีขนาด 6 x 9 นิ้ว หนา 11/2นิ้ว มีอยู่ 240 หน้า แต่บางหน้าขาดหายไป
ปกสมุดทำจากหนังลูกวัวสีครีม Voynich manuscript เป็น หนังสือที่ยังคงมีเสน่ห์ในต่อนักภาษาศาสตร์คนชอบเรื่องลึกลับ
ในการไขปริศนา โดยภายในหนังสือนี้เต็มไปด้วยรหัสปริศนามากมายที่เขียนด้วยภาษาที่ไม่พบเห็น มาก่อนบนโลกใบนี้




ดังนั้นสิ่งที่อธิบายว่าหนังสือนี้เป็นหนังสืออะไรก็คือภาพวาดประกอบเท่า นั้น หากแต่กับกลายเป็นความดำมืดยิ่งขึ้น เมื่อภาพวาดประกอบ
มีทั้ง พืชพันธุ์แปลก ๆ ภาพผู้หญิงเปลือยเชื่อมด้วยท่อที่ดูคล้ายเส้นโลหิต มีภาพคล้ายแผนผังเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ภาพแผนภูมิจักรราศี
มีภาพผู้หญิงเปลือยถือดวงดาวล้อมรอบจักรราศีอยู่ บางหน้าก็สามารถคลี่ออกมาได้อีกเป็น 6 หน้า มี ภาพวาดหน้าผังดาราศาสตร์
ภาพคล้าย กาแลคซี่ แอนโดรมีดา ที่มองจากกล้องเทเลสโคป ภาพที่มองจากกล้องโทรทัศน์ และภาพคล้ายเซลล์
สิ่งมีชีวิตที่มองผ่านกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งสมัยก่อนไม่น่าจะมีกล้องโทรทัศน์หรือกล้องเทเลสโคปได้เลย

ทำให้มีหลายคนสันนิษฐานว่าหนังสือเล่มนี้เป้นของปลอม แต่กระนั้นด้วยความซับซ้อนของไวยากรณ์เกินกว่าที่จะได้รับการปลอม
และเร็วๆ นี้มีการพิสูจน์แล้วว่าหนังสือเล่มนี้เป็นของจริงแต่สุดท้ายวัตถุประสงค์ของ หนังสือเล่มนี้ยังคงลึกลับอยู่ดี
ปัจจุบันหนังสือลึกลับนี้เก็บไว้ในถูกเก็บรักษาอยู่ที่ห้องสมุดเบนเนคเก้ (Beinecke Rare Bood & Manuscript Library)




cadit : pantip
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

gunslinger2

ชอบหนังสือไม่เต็มจังครับ อิอิ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Avbnnn

ชอบเล่มแรกกับเล่มสุดท้ายครับ ลึกลับดี
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Z_Slayer

Codex Seraphinianus เจ๋งมากรับ ไอเดียกระฉูดเลย hgjhg
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Yaiii

แปลกดี ขอบคุณคับ ที่เอามาให้อ่าน
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Redfield

เนื้อหาน่าสนใจอีกแล้ว ขอบคุณมากเลยครับ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Jikkolapoon

โหลดมาดู หน้าตาแปลกดีครับ  hgjhg
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

jwing

น่าเสียดายความรู้ที่อยู่ในหนังสือพวกนี้จัง
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Caranthir

ถึงผมจะเป็น หนอนหนังสือ อยู่บ้าง แต่ว่า
แบบนี้ แต่ละเล่มผมก็ไม่ไหวแฮะครับ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

bond2529

ถอดรหัสได้จัง 40,000,000 ดอลลาร์
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
Khatawut

LEVIATHAN21

 .,mn ชอบเรื่องแนวๆนี้มากเลยครับ ชอบชอบ pongz
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

ngpizza

แต่ละเรื่องนี่สุดยอดทั้งนั้น แต่ ไม่มีแบบของไทยบ้างเหรอ จะไปขุด อิอิ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

FCUK

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
อายุขนาดเราเอาได้ให้เอาไว้ก่อน ตอนเมื่อยามมะเขือเผาจะได้ไม่มานั่งบ่นเสียดาย

pankadang

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions