20 อันดับ คาแร็คเตอร์ทรงคุณค่าของญี่ปุ่น ประจำปี 2011

[etatae333]

20 อันดับ คาแร็คเตอร์ทรงคุณค่าของญี่ปุ่น ประจำปี 2011

haracter Databank บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาด ได้ลิสต์ 100 อันดับ คาแร็คเตอร์ที่ทรงคุณค่าที่สุดของญี่ปุ่น
ประจำปี 2011 ลงตีพิมพ์ในหนังสือ CharaBiz Data 2012 โดยอันดับดังกล่าวเป็นการวัดจากเรตมูลค่าของสินค้า
คาแร็คเตอร์ที่วางขายใน ญี่ปุ่นในรูปแบบต่างๆ โดยคาแร็คเตอร์ 20 อันดับสุงสุดมีดังนี้

20. Kamen Rider Fourze



มาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ ได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยเป็นการฉลองการครบรอบ 40 ปี ในซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ ประจำปี 2011 เป็นลำดับที่ 22
การออกอากาศของซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ทางโทรทัศน์ และ ครบรอบ 50 ปี  ทางทีวีอาซาฮี ในช่วง ซูเปอร์ฮีโร่ ไทม์
มีจำนวนตอนทั้งหมด 48 ตอน และ ตอนพิเศษอีก 7 ตอน โดยตอนพิเศษในโรงภาพยนตร์มีทั้งหมด 4 ตอน ได้แก่

มาสค์ไรเดอร์โอซ์ WONDERFUL โชกุน และ คอร์เมดัลทั้ง 21
มาสค์ไรเดอร์ X มาสค์ไรเดอร์ โฟร์เซ & โอซ์ MOVIE ไทเซน MEGA MAX
คาเมนไรเดอร์ x ซูเปอร์เซนไท ซูเปอร์ฮีโร่ไทเซน
มาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ มุ่งสู่ห้วงอวกาศของทุกคน!

http://www.youtube.com/v/wV-ZUW1Vdz4?version=3&hl=en_US

การเดินทางสู่อวกาศเป็นครั้งแรกของยูริ กาการิน ซึ่งนำมาเป็นคอนเซ็ปต์หลักของมาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ
นอกจากนี้ ยังเป็นการนำเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตในวัยเรียนของวัยรุ่น (ในช่วงอายุ 16 - 18 ปี)
มาเป็นเนื้อเรื่องในการดำเนินหลัก ซึ่งเป็นเนื้อหาที่ต่างจากมาสค์ไรเดอร์เรื่องที่ผ่านมาที่เน้น
ไปทางตัวละครในช่วงอายุ 20 - 35ปี


19. Cars




ไลท์นิ่ง แม็คควีน รถแข่งใหม่ซิงร้อนฉ่า ที่มีความสำเร็จเป็นแรงขับเคลื่อน แต่เขาก็ได้เรียนรู้ว่า
ชีวิตเป็นเรื่องของการเดินทาง ไม่ใช่เส้นชัย เมื่อเขาพบว่าตัวเองต้องวิ่งทางอ้อมตามเส้นทางรูท 66 ที่นำไปสู่เรดิเอเตอร์ สปริงส์
ระหว่างการเดินทางข้ามประเทศ ไปเพื่อเข้าแข่งขันรายการพิสตัน คัพ แชมเปียนชิพในแคลิฟอร์เนีย เพื่อประชันความเร็ว
กับรถแข่งเก๋าเกมสองคัน คือ คิง(สตริป เวตเธอร์) และ ชิคฮิค รถแข่งที่2จอมขี้โกง

http://www.youtube.com/v/RNPQn-i_X2c?version=3&hl=en_US

แม็คควีนก็มีโอกาสได้รู้จักเหล่ารถน่ารัก น่าเอ็นดูของเมืองนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย ด็อค ฮัดสัน 5 รถฮัดสัน ฮอร์เน็ต ปี 1951 ที่มีอดีตลึกลับ,
แซลลี คาร์เรรา รถปอร์เชสุดเฉียบ ปี 2002 และ เมเทอร์ รถลากเก่าสนิมเขรอะ ที่ช่วยให้เขารู้ว่า ยังมีสิ่งอื่นที่สำคัญยิ่งไปกว่าถ้วยรางวัล
ชื่อเสียง และการได้รับการสนับสนุน..



18. Daffy Duck



Daffy Duck (แดฟฟี่ ดั๊ก) แดฟฟี่ ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในบุคลิกลักษณะของการแสดงแบบห่าม ๆ แต่กระปรี้กระเปร่า มีชีวิตชีวา
การต่อสู้ที่ยาวนานระหว่าง แดฟฟี่ กับ บั๊กส์ บันนี่ เกิดจากความหมั่นไส้ซึ่งกันและกัน

http://www.youtube.com/v/M9nyDFhJZ3c?version=3&hl=en_US

เริ่มขึ้นในช่วงปี 1950 แดฟฟี่เกิดเมื่อวันที่ 17 เมษายน 1937 ประโยคติดปากที่เขาชอบพูดก็คือ
"You're despicable" ( แกนี่มันน่าเกลียดจริง ๆ )



17. Tamagotchi!



Tamagotchi สัตว์เลี้ยงดิจิตอลที่เรียกว่าได้ฮิตกันโครตๆ ช่วงปี 1996 เป็นของเล่นที่ในช่วงเวลานั้นมีคนตามหาซื้อกันในไทย
แบบแทบจะพลิกแผ่นดินหา เพราะ Tamgotchi ของแท้นั้นยังไม่มีบริษัทไหนนำเข้ามาขายในไทย ต้องหาซื้อจากคนที่หิ้วเข้ามา
ขายเท่านั้น (ก็ของมันเพิ่งออกขายสดๆ ร้อนๆ แล้วก็ดังไปทั่วโลกมันเลยยังเข้าไทยไม่ทันตามความต้องการ)



ต่อมาพอจะหาซื้อได้ส่วนมากก็เป็นของเลียนแบบ เช่นเลี้ยงหมู เห็ด เป็ด ไก่ หมาแมว ยันเลี้ยงเด็ก
แต่คนก็ยังซื้อเพราะราคามันถูกกว่าของแท้ 3 - 4 เท่า (ของแท้ตอนนั้นขายกันถึง 2000 บาทเลยนะ)

http://www.youtube.com/v/S__tjTH2sOM?version=3&hl=en_US

Tamagotchi นั้นของแท้ต้องเป็นของบริษัท Bandai อันแสนโดงดังเท่านั้น โดยคำว่า Tamagotchi นั้นมาจากการผสมคำ
ว่า "たまご" (tamago) แปลว่าไข่ กับคำว่า ウオッチ (uocchi) แปลว่า watch ทำให้รูปร่างหน้าตาของ Tamagotchi นั้นจะมี
รูปทรงเหมือนไข่ และดูนาฬิกาได้ด้วย



16. Miffy



Miffy เป็นกระต่ายหน้าตาไร้ความรู้สึกจากดัตช์ มิฟฟี่เป็นกระต่ายน้อยตัวเมียที่อยู่ในหนังสือภาพวาดของ
ศิลปิน ชาวดัตช์ ชื่อ Dick Bruna 

มิฟฟี่เกิดในปี 1955 โห!! ตอนนี้ก็อายุ 56 ปีแล้วหล่ะ



15 Thomas & Friends (โธมัสยอดหัวรถจักร)



Thomas & Friends ตั้งอยู่บพื้นฐานของหนังสือที่เขียนโดย The Reverend W. Awdry (1911-1997)
เรื่องราวได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1942 เพื่อให้ความบันเทิงกับ Christopher ลูกชายของเขา

คริสต์มาสในปีนั้นรถไฟไม้ที่ธรรมดาๆมีนามว่า "Thomas" ก็ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อ Christopher มันเป็นการสร้างสรรค์
ที่มีมากกว่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับ Thomas & Friends และแน่นอนด้วยความสนับสนุนจากภรรยา เรื่องราวของรถไฟเรื่องนี้
ก็ได้ออกเผยแพร่ตีพิมพ์ในปี 1945 โดยใช้ชื่อว่า "The Three Railway Engines"

http://www.youtube.com/v/1XsCUrK366c?version=3&hl=en_US

โดยภายในหนังสือประกอบด้วยเรื่องราวของ Edward, Gordon And Henry แต่ Thomas
นั้นไม่ได้รวมอยู่ในหนังสือเล่มแรก แต่มาปรากฏเรื่องราวในเล่มที่สอง ที่มีชื่อว่า "Thomas The Tank Engine



14 Minnie Mouse



มินนี่ เม้าส์ ซึ่งเป็นคู่หมั้นของมิคกี้ ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของความเป็นผู้หญิง ตัวการ์ตูนนี้เกิดขึ้นมาจากความเป็นผู้หญิง
ซึ่งมีอยู่ในทุกสังคมและความคิดของมินนี่ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามทัศนคติ มินนี่มีบุคลิกที่อ่อนหวานอ่อนไหว
ชอบการต่อสู้และมีอารมณ์ที่ค่อนข้างหุนหันพลันแล่น

http://www.youtube.com/v/lyT_Xc8DVng?version=3&hl=en_US

มินนี่จะเป็นตัวแทนของเพศหญิง ฟอยด์ ก๊อตเฟรตสันเป็นนักวาดการ์ตูนที่สร้างมินนี่ เม้าส์ขึ้นมา มินนี่เป็นตัวการ์ตูนตัวหนึ่ง
ในการ์ตูนเรื่องมิคกี้ เมาส์ โดยส่วนใหญ่แล้วมินนี่จะปรากฏตัวในห้องครัว ขณะที่ทำเค้กกับคาร์ราเบลล่า ซึ่งเป็นเพื่อนของมินนี่
การเป็นคู่หมั้นของมิคกี้และมินนี่เป็นตัวแทนของความผูกพัน ซึ่งเชื่อมทั้งสองเข้าไว้ด้วยกันชั่วนิรันดร์



13 Kaizoku Sentai Gokaiger



ไคโซคุ เซนไท โกไคเจอร์ (Kaizoku Sentai Gokaiger) เป็นภาพยนตร์แนวขบวนการนักสู้ลำดับที่ 35 ของประเทศญี่ปุ่น
และเป็นขบวนการนักสู้ที่อยู่ในช่วงเฉลิมฉลอง 35 ขบวนการนักสู้ เริ่มออกอากาศที่ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011
จนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 ทางสถานีทีวีอาซาฮี ทุกเช้าวันอาทิตย์ เวลา 7.30-8.00 น. ในช่วงซูเปอร์ฮีโร่ ไทม์
มีจำนวนตอนทั้งหมด 51 ตอน และ ตอนพิเศษทางโรงภาพยนตร์อีก 5 ตอน ได้แก่

เทนโซ เซนไท โกเซย์เจอร์ VS ชินเคนเจอร์ เอพพิค ON จอเงิน
โกไคเจอร์ โกเซย์เจอร์ ซูเปอร์เซนไท 199 ฮีโร่ ไดเคซเซน
ไคโซคุ เซนไท โกไคเจอร์ THE MOVIE เรือผีสิงที่ลอยลำบนน่านฟ้า
ไคโซคุ เซนไท โกไคเจอร์ VS. ตำรวจอวกาศเกียบัน THE MOVIE
และ คาเมนไรเดอร์ x ซูเปอร์เซนไท ซูเปอร์ฮีโร่ไทเซน

http://www.youtube.com/v/M0Mtwmakj5s?version=3&hl=en_US

โกไคเจอร์ มีแนวคิดและคอนเซ็ปท์มาจาก โจรสลัด ประกอบกับ การเฉลิมฉลองครบรอบการฉายขบวนการนักสู้ ครบ35เรื่อง
โดยโกไคเจอร์ นั้น ใช้วิธีการนำเสนอเรื่องราวที่ผูกโยงเนื้อหาของขบวนการนักสู้แต่ละเรื่องเรียงร้อยไว้ด้วยกัน เช่นเดียวกับ
เด็นจิแมน และ ซันวัลคันที่เคยใช้มาก่อน พร้อมด้วยการดำเนินเรื่องที่นำเสนอถึงการผจญภัยแฝงความสนุกและอารมณ์โรแมนติก
แบบอะนิเมะเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งคล้ายกับรูปแบบการนำเสนอของวันพีซ นอกจากนี้ ยังโครงเรื่องรองกับการโฆษณาแฝงนั้น
มีรูปแบบเดียวกับมาสค์ไรเดอร์ดีเคด อีกด้วย

สำหรับชื่อโกไคเจอร์นั้น มีความหมายถึง ผู้เป็นวีรบุรษ (豪快者) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการนักสู้ที่ปรากฏในโกไคเจอร์ทั้งสิ้น



12. Kamen Rider OOO



มาสค์ไรเดอร์โอซ์ (Kamen Rider OOO) เป็นชื่อของ ภาพยนตร์ญี่ปุ่น แนว โทคุซัทสึ ในซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ ประจำปี 2010
เป็นลำดับที่ 21 ผลิตโดย โตเอะ คัมปะนี และ อิชิโนะโมะริ โปรดักชั่นส์ โดยออกอากาศต่อจากตอนสุดท้ายของ มาสค์ไรเดอร์ดับเบิ้ล
ในวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2010 ทางทีวีอาซาฮี ในช่วง ซูเปอร์ฮีโร่ ไทม์ มีตอนพิเศษ 4 ตอน คือ

มาสค์ไรเดอร์ x มาสค์ไรเดอร์ โอซ์ & ดับเบิ้ล FEAT.สคัล MOVIE ไทเซน CORE
โอซ์ . เดนโอ . ออลไรเดอร์ เล็ท'ส โก มาสค์ไรเดอร์
มาสค์ไรเดอร์โอซ์ WONDERFUL โชกุน และคอร์เมดัลทั้ง 21
มาสค์ไรเดอร์โอซ์ x มาสค์ไรเดอร์โฟร์เซ MOVIE ไทเซ็น

http://www.youtube.com/v/IQ6yJXe-A7g?version=3&hl=en_US

ฮิโนะ เอย์จิ ชายหนุ่มที่มีความฝันที่จะให้โลกสงบสุข เขาไม่มีทั้งงานและครอบครัว เมื่อมอนสเตอร์ใน 800 ปีก่อน
ที่เรียกว่า Greeed ตื่นจากการผนึก ได้เข้าโจมตีมนุษย์เพื่อรวบรวมความโลภของมนุษย์และชิ้นส่วนของร่างกายที่หายไป
Ankh กรีดแห่งสัตว์ปีก ได้ให้เข็มขัดและเหรียญสามเหรียญแก่เอย์จิเพื่อให้เขาสามารถกลายเป็น Kamen Rider OOO
เข้าต่อสู้กับเหล่า Greeed,บริษัท Kogami มูลนิธิลึกลับที่เริ่มให้ความช่วยเหลือแก่เอย์จิในการต่อสู้ของเขากับ Greeed
แต่แรงจูงใจที่แท้จริงของพวกเขาจะไม่ชัดเจน, เอย์จิได้เข้าต่อสู้และเริ่มที่จะตระหนักถึงคำว่า"การมีชีวิต"



11. Mobile Suit Gundam franchise



กันดั้ม (Gundam) เป็นซีรีส์แอนิเมชั่นญี่ปุ่นเกี่ยวกับหุ่นยนต์ต่อสู้ขนาดยักษ์ สร้างโดยบริษัทซันไรส์ Sunrise (company)
กันดั้มนับเป็นอะนิเมะซีรีส์แรกซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มการ์ตูนหุ่นยนต์แนวเรียลโรบ็อท มีการสร้างภาคต่อและภาคใหม่มาจนถึงปัจจุบัน

http://www.youtube.com/v/nOoxOTbny7o?version=3&hl=en_US

สำหรับคำว่า กันดั้ม เป็นคำเรียกรวม ๆ ของซีรีส์สองกลุ่มคือ กลุ่มที่ใช้ระบบปฏิทินแบบ Universal Century
เช่น โมบิลสูทกันดั้ม และกลุ่มจักรวาลคู่ขนานอื่นๆ เช่น กันดั้มวิง กันดั้มเอกซ์ หรือ กันดั้มซี้ด นอกจากนั้น



ยังมีเรื่องชุดเอสดีกันดั้ม SD Gundam ซึ่งเอสดีเป็นตัวย่อมาจากคำว่าซูเปอร์ดีฟอร์ม ภาคแรกๆของเอสดีกันดั้ม
นี้มีเนื้อหาที่เป็นแนวตลกขบขันและล้อเลียนเนื้อหาของภาคหลัก

[etatae333]

10. Snoopy (Peanuts)



snoopy เกิด วันที่4 ตุลาคม ค.ศ. 1950 บวกลบ แล้วคงอายุ ราวๆ 57 ปีแล้วละ เป็นคุณตา ได้เลยนะเนี้ย
snoopy เกิดในทวีปอเมริกา ผู้ที่เขียน snoppy ขึ้นมา คือ Charles Schulz

snoopy เป็นสุนัขพันธุ์เล็กขาสั้น ใช้ในการล่าสัตว์ ชอบสอดรู้สอดเห็น ชอบเอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อม รอบๆ ตัวเค้า
snoopy เก่งศิลปะและดนตรี แต่ไม่ค่อยได้ทำ ส่วนมาก snoopy จะหมดเวลาไปกับการ ฝันกลางวันบนหลังคาบ้านสีแดง
เล็กๆ ของ เค้ามากกว่า (เก่งแต่ขี้เกียจว่างั้น)

สนูปปี้มีนิสัยใจคอและชีวิตที่ตรงข้ามกับชาร์ลี บราวน์ สนูปปี้เป็นหมาพันธุ์บีเกิ้ลที่ไม่เคยแคร์สายตาใคร
มันมีความเป็นตัวของตัวเองและเชื่อมั่นในตัวเอง คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งทุกอย่าง และความสุขของมัน
ต้องมาอันดับหนึ่งเสมอ ส่วนจะสร้างความเดือดร้อนให้ใครหรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง...

สนูปปี้ก้าวสู่โลกการ์ตูนพร้อมๆกับชาร์ลี บราวน์ เดิมสนูปปี้เป็นเพียงหมาเล็กๆธรรมดาๆที่น่ารักตัวหนึ่ง
ชูลส์ได้ค่อยๆพัฒนาให้มันเป็นหมาที่ยืนด้วยสองขา มีความคิดฝันที่จะเป็นวีรบุรุษ และรวมทั้งมีความนึกคิดอื่นๆ
ที่เหมือนกับคน...

เจ้าสไปค์—สนูปปี้ตัวจริง เป็นหมาที่ชูลส์เลี้ยงเมื่อเขาเป็นเด็ก เจ้าสไปค์ทำอะไรได้หลายอย่างคล้ายคน
เป็นแรงบันดาลใจที่ชูลส์สร้างสนูปปี้ขึ้นมา เริ่มแรกให้ชื่อมันว่า "สนิฟฟี่" แต่ยังไม่ทันเอาออกเผยแพร่ก็ปรากฎว่า
ชื่อนี้มีคนอื่นใช้แล้ว เขาหวนนึกไปถึงคำพูดของแม่ แม่เคยบอกว่าถ้ามีหมาอีกสักตัวจะให้ชื่อมันว่าสนูปปี้...
หลายปีต่อมาเขาจึงได้รู้ว่าครั้งหนึ่งดีสนีย์เองก็เคยคิดจะใช้ชื่อนี้กับหมาดาราการ์ตูน แต่แล้วกลับเปลี่ยนใจ
ไปใช้ "พลูโต" แทน

สนูปปี้มักจะปรากฏตัวอยู่บนหลังคาบ้านเล็กๆของมันเอง ท่าทางของเจ้าสนูปปี้ที่นั่งพิมพ์ดีด หรือครุ่นคิด
เพลงคลาสสิค ภาพเขียนของแวนโก๊ะ และกระทั่งอ่านหนังสือของตอลสตอล หรือ เฮสเส
ก่อนมื้ออาหารที่ชาร์ลี บราวน์จะต้องเป็นผู้นำไปให้มันเสมอ...



9. Super Mario Brothers



หลังจากความล้มเหลวทางการตลาดของเกมอาเขต "Radar Scope" ชิเงรุ มิยาโมโต้ นักออกแบบเกมได้พยายามสร้าง
เกมอาเขตตัวใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง โดยมีหนังเรื่อง "คิงคอง" เป็นแรงบันดาลใจ โดยเขาได้นำมันมาเป็นตัวร้ายของเกม
พร้อมกับตั้งชื่อเจ้าลิงยักษ์ตัวนี้ว่า "Donkey Kong" (แปลว่าเจ้าลิงแสนทึ่ม)

แล้วมิยาโมโต้ก็ได้สร้างฮีโร่ของเกมนี้ขึ้นมา เพื่อจะได้เดินทางไปปราบเจ้าลิงยักษ์ตนนี้เพื่อช่วยเหลือแฟนสาวของตัวเอง
ภาพร่างต้นแบบพระเอกของเขาเริ่มต้นที่จมูก...

"การมีจมูกหรือไม่มีจมูก มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง การมีจมูกมันสามารถบอกอะไรได้หลายอย่าง"

มิยาโมโต้ให้เหตุผลไว้เช่นนั้น ซึ่งจมูกของฮีโร่ที่มิยาโมโต้ออกแบบไว้นั้น มีขนาดที่ใหญ่ และมีรูปร่างเหมือนกับผลชมพู่
แล้วก็วาดเสริมจุดเด่นด้วยแผงหนวดที่มีลักษณะเหมือนกับแปรงลวด และเขาก็เลือกเอาดวงตากลมโตที่มีแววตาเศร้าสร้อย
แลดูน่าเห็นอกเห็นใจมาจากสมุดภาพวาดเก่าๆที่เขาเคยเขียนเอาไว้

แรกเริ่มเดิมที มิยาโมโต้เรียกตัวละครตัวนี้ว่า "Jumpman" แต่ว่าภายหลังประธาน Nintendo อเมริกา
ได้เปลี่ยนชื่อตัวละครตัวนี้ซะใหม่ เพราะหน้าตาของแคแรคเตอร์ตัวนี้ดันไปเหมือนกับเจ้าของสำนักงานที่ Nintendo เช่าอยู่
จึงได้เป็นที่มาของชื่อ "Mario" ที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง

[embed=560,349]<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/eO8xe2AUY4c" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>[/embed]

มาริโอถูกออกแบบมาให้ดูอ้วนเตี้ย และมีน้องชื่อว่า ลุยจิ ถูกออกแบบมาให้ดูสมส่วนกับตัวสูง เสื้อและหมวกสีเขียว สัญลักษณ์คือตัว(L)
เขาเป็นชาวอาณาจักรเห็ด เป็นช่างซ่อมท่อระบายน้ำ เขาได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโร่ หลังจากที่เขาได้ทำการขัดขวางแผนการชั่วร้าย
ของราชาคุปปะ (ทางฝั่งอเมริกาเรียกชื่อว่า เบาเซอร์) เพื่อที่จะลักพาตัวเจ้าหญิงพีชและชิงเพื่อครอบครองอาณาจักรเห็ด

ทุกคนรู้จักเขาเป็นอย่างดีจากความกล้าหาญ ความกระตือรือร้น และจิตวิญญาณที่จะเผชิญหน้ากับศัตรู ความสามารถทางร่างกาย
ที่คาดไม่ถึง ความร่วมมือกับน้องชายคนหนึ่งชื่อลุยจิ และการเข้าถึงสัมพันธภาพกับเจ้าหญิงพีชที่เขาได้ช่วยชีวิตไว้



นอกจากนี้ มาริโอยังมีปีศาจดอพเพลแกงเกอร์อีกหนึ่งตัว ชื่อ วาริโอในนามของสัญลักษณ์ของนินเทนโด มาริโอเป็นตัวละครอีกหนึ่งตัว
ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์วิดีโอเกม และเป็นตัวเดียวกันกับที่ปรากฏในวิดีโอเกม เกมชุดมาริโอทั้งหมดขายได้
มากกว่า 285 ล้านหน่วย เป็นการสร้างประวัติศาสตร์วิดีโอเกมชุดที่ขายดีที่สุดตลอดกาล

นอกจากเกมแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องแล้ว มาริโอยังปรากฏตัวในเกมแนวอื่น ๆ รวมถึงเกมชุดมาริโอ้คาร์ท (Mario Kart)
เกมอาร์เคดแนวกีฬา (เช่นเกมชุด มาริโอ เทนนิส และ มาริโอ กอล์ฟ) และเกมชุดแนวบทบาทสมมุติของนินเทนโด นอกจากเกม
รายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และหนังสือการ์ตูน นอกจากนั้นแล้วเขาได้สร้างเส้นทางธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าลิขสิทธิ์อื่น ๆ อีกด้วย


8. Winnie the Pooh



หมีพูห์ หรือ วินนี-เดอะ-พูห์ ( Winnie-the-Pooh) เป็นตัวละครหมีที่สร้างขึ้นโดย เอ. เอ. มิลน์
และตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 14 ตุลาคมค.ศ. 1926 ในหนังสือเรื่อง วินนี-เดอะ-พูห์ และ
เดอะเฮาส์แอตพูห์คอร์เนอร์ (1928) 

เนื้อเรื่องในหนังสือมีลักษณะคล้ายกับ ป่าแอชดาวน์ ในเมือง อีสต์ซัซเซก ในประเทศอังกฤษ โดยชื่อ วินนี
มาจากชื่อตุ๊กตาหมีของทหารชาวแคนาดานายหนึ่ง ซึ่งตั้งตามชื่อเมือง วินนีเพก ในประเทศแคนาดา

นอกจากหมีพูห์แล้วเพื่อนในป่าที่ได้รับความนิยมได้แก่ พิกเลต ทิกเกอร์ และ อียอร์
ต่อมา วอลต์ดิสนีย์ ได้นำวินนี-เดอะ-พูห์ มาจัดทำและได้เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น Winnie the Pooh (โดยไม่มีเครื่องหมายขีด)
และหมีพูห์ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของดิสนีย์ หมีที่ชื่อว่า วินนี่ เดอะ พูห์ เป็นผลงานสร้างสรรค์
ของเอ.เอ.ไมลน์ ( A.A.Miline) นักเขียนชาวอังกฤษ มีชื่อเต็มว่า อลัน อเล็กซานเดอร์ ไมลน์

[embed=560,349]<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/t2Wtpphk_Ss" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>[/embed]

ตำนานของหมีพูห์เริ่มจากการที่ทหารกองทัพแคนาดาได้นำหมีน้อยตัวหนึ่ง ชื่อว่า วินนี่ เพ็ก แก่ประเทศอังกฤษ
เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของการร่วมรบกันระหว่างกองทัพแคนาดาและอังกฤษในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1
( ค.ศ.1914-1918) 

หมีน้อยตัวนี้ได้ไปอยู่ที่สวนสัตว์กรุงลอนดอน ในปี 1919 ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวลอนดอนมาก
รวมถึงหนูน้อยคริสโตเฟอร์ โรบิน ลูกชายของนักเขียนชื่อเอ.เอ.ไมล์น

หนูน้อยคริสโตเฟอร์นำชื่อวินนี่ เพ็ก ไปตั้งชื่อตุ๊กตาหมีตัวโปรดว่า วินนี่ เดอะ พูห์ โดยคำว่า " พูห์" (Pooh)
เป็นชื่อของหงส์ในกวีบทหนึ่ง



7. Rilakkuma



Rilakkuma หรือ รีแลคคุมะ เป็นตัวการ์ตูนลักษณะคล้ายกับหมี ถูกผลิตขึ้นเมื่อประมาณเดือนกันยายน 2546
โดยบริษัท San-x (http://www.san-x.co.jp) จากประเทศญี่ปุ่น ด้วยความน่ารักของเจ้า Rilakkuma
ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศญี่ปุ่นเอง และในอีกหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย



Rilakkuma ถูกออกแบบโดยนักออกแบบของ San-x ที่มีชื่อว่า อากิ คอนโด เขาได้รับแรงบันดาลใจ
ในการออกแบบเจ้าหมีตัวนี้ เนื่องจากต้องการความผ่อนคลายในชีวิตการทำงาน เลยเลือกที่จะออกแบบตุ๊กตาหมี
ที่มีลักษณะนิสัยชอบพักผ่อน ผ่อนคลาย มองดูแล้วหายเหนื่อย

[embed=560,349]<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/t-pFSpgEjAs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>[/embed]

ลักษณะนิสัยของเจ้า Rilakkuma เป็นหมีเพศผู้ ตัวอวบอ้วนสีน้ำตาล ข้างในใบหูเป็นสีเหลือง หน้าท้องสีขาว
มีลักษณะป่องเล็กน้อย (สงสัยจะกินแล้วก็นอนบ่อยๆ) ในการ์ตูนจะอาศัยอยู่กับสาวออฟฟิศที่ชื่อ คาโอรุ
สิ่งที่เจ้าหมีชอบทำมากที่สุดคือ การพักผ่อน ทั้งการนอนหลับ กลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้น การดูทีวี การฟังเพลง
และแช่น้ำร้อน และที่ขาดไม่ได้คือการกิน โดยอาหารที่ชอบมากคือ ข้าวห่อไข่ ดังโงะ พูดดิ้งคัสตาร์ด
แพนเค้กราดน้ำผึ้ง (สงสัยเมนูเหล่านี้คนออกแบบคงชอบกิน)


6. Precure franchise หรือ มหัศจรรย์สาวน้อย พริตตี้เคียว



มหัศจรรย์สาวน้อย พริตตี้เคียว (Futari wa Pretty Cure) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น แต่งโดย อิซึมิ โทโด
เนื้อหาแนวสาวน้อยแปลงร่างต่อสู้กับเหล่าปีศาจ แต่เน้นแอ็คชั่นมากขึ้น ได้รับความนิยมอย่างมาก
จนออกมาล่าสุดได้ 9 ภาคแล้ว ได้แก่

[embed=560,349]<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/OzzVM525jfU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>[/embed]

1.มหัศจรรย์สาวน้อย พริตตี้เคียว
2.มหัศจรรย์สาวน้อย พริตตี้เคียว Max Heart
3.มหัศจรรย์สาวน้อย พริตตี้เคียว สแปลช สตาร์
4.Yes! พรีเคียว 5
5.Yes! พรีเคียว 5 Go Go!
6.เฟรชพรีเคียว!
7.ฮาร์ตแคชพรีเคียว!
8.สวีตพรีเคียว♪
9.สไมล์พรีเคียว!


5. One Piece



เขียนโดย เออิจิโร โอดะ เรื่องราวของการตามหา "วันพีซ" โดยผู้ที่ได้มาครอบครองจะได้เป็นจ้าวแห่งโจรสลัด
เริ่มลงตีพิมพ์ในนิตยสารโชเน็นจัมป์ ของสำนักพิมพ์ชูเอฉะ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 - ปัจจุบัน (พ.ค. 2555)
และเนื่องจากความโด่งดัง วันพีซ จึงได้รับการดัดแปลงเป็นอะนิเมะ นวนิยาย รวมไปถึงเกมอีกหลายภาคด้วยกัน

วันพีช เป็นเรื่องในยุคของโจรสลัดและฝ่ายทหารเรือ เพื่อค้นหา สมบัติที่เรียกว่า "วันพีซ" โดยผู้ที่มีวันพีซอยู่นั้น
คือเจ้าแห่งโจรสลัด โดยผู้ที่เคยครอบครองวันพีซนั้นมีอยู่คนเดียวตามที่เปิดเผยมาคือ เจ้าแห่งโจรสลัด โกลด์ ดี โรเจอร์

มังกี้ ดี ลูฟี่ ลูกชายของนักปฏิวัติ มังกี้ ดี ดราก้อน ได้พบกับ โจรสลัด แชงคูส(ตอนนี้เป็น 1 ใน 4 จักรพรรดิ)
และเผลอไปกิน ผลปีศาจ ทำให้ร่างกายมีคุณสมบัติเป็นยาง โดยข้อแม้ของผู้กิน ผลปีศาจ จะโดนทะเลรังเกียจ
ไม่สามารถว่ายน้ำได้และหมดพลังที่ได้รับมา

[embed=560,349]<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/jjpqFNHNBKA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>[/embed]

ลูฟี่ได้เริ่มต้นการผจญภัยออกเรือเดินทางไปทะเลแกรนด์ไลน์ โดยใช้เรือ ชื่อ โกอิ้งแมรี่ และรวบรวมลูกเรือ คือ
โรโรโนอา โซโล นามิ อุซป ซันจิ โทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์ นิโค โรบิน แฟรงกี้ บรู๊ค พวกลูฟี่ได้แล่นเรือจากอิสท์ บลู
เข้ามาในแกรนด์ไลน์และโดยใช้ล็อกโพส อุปกรณ์นำทางในการเดินเรื่องเพื่อค้นหาสมบัติตามเกาะต่างๆ

ทั้ง อาณาจักรดรัม อาณาจักรทะลทรายอลาบาสต้า หรือแม้แต่ จายา เกาะแห่งท้องฟ้าสกายเปีย และต้องผ่านด่านของ
ลองริง ลองแลนด์ จนได้เดินทางมาถึง วอเตอร์เซเว่น เพื่อสร้างเรื่อลำใหม่เทาซันต์ซันนี่ โดยนักต่อเรือแห่ง วอเตอร์เซเว่น
พร้อมรับลูกเรือ แฟรงกี้  ลูกเรือคนล่าสุดได้แก่ บรู๊ค (นักดนตรี) สมญานาม บรู้ค "ฮานะอุตะ" โครงกระดูกไว้ผมแอฟโฟร
นิสัยขี้เล่น ชอบหัวเราะ โยโฮ่ๆ และชอบเล่นดนตรี(โดยเฉพาะไวโอลิน)



4. Hello Kitty



เฮลโลคิตตี เป็นตัวการ์ตูนลิขสิทธิ์ของบริษัทซานริโอ ประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเล่นว่า "คิตตีจัง" ลักษณะเป็นลูกแมว
เพศเมียสีขาวติดโบว์สีแดงที่หูข้างซ้าย โดยนักออกแบบคนแรกที่เป็นผู้สร้างตัวเฮลโลคิตตี คือ ยูโกะ ชิมิซึ
เมื่อ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2517 แต่หลังจากนั้นเพียง 1 ปี เธอได้ออกจากบริษัท และผู้ที่มารับหน้าที่ต่อก็คือ
เซ็ตสึโกะ โยนิคุโบะ ซึ่งได้สานต่อเป็นเวลา 5 ปี ก่อนที่จะส่งมอบให้ ยูโกะ ยามางูชิ ซึ่งเป็นนักออกแบบให้กับ
เฮลโลคิตตี้ มาจนถึงปัจจุบัน

ระยะเวลาทำให้ความโด่งดังของเฮลโลคิตตี้ไปทั่วโลก และกลายมาเป็นตราสัญลักษณ์ของสินค้านานาชนิดมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้า กิ๊ฟหนีบผม เสื้อยืดลายคิตตี้ จนกระทั่งเกิดตัวการ์ตูนเฮลโลคิตตีที่มีชีวิตจิตใจ
และประวัติส่วนตัว การ์ตูนเรื่องแรกคือ เฮลโลคิตตีส์เฟอร์รีเทลเธียร์เตอร์ ออกอากาศเมื่อปี พ.ศ. 2530
ก่อนที่ผู้ผลิตการ์ตูนโทรทัศน์ชาวอเมริกันจะสร้างการ์ตูน เฮลโลคิตตีแอนด์เฟรนส์ ออกอากาศทางช่องซีบีเอส
ในปี พ.ศ. 2534 จากนั้นทางญี่ปุ่นก็ได้สร้าง เฮลโลคิตตีส์แพระไดส์ ที่มีความยาว 16 ตอนออกอากาศระหว่าง
ปี พ.ศ. 2536-2537 และมีการนำไปแปลงเป็นภาคภาษาอังกฤษ และออกอากาศในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2545



3. Mickey Mouse



มิกกี้เมาส์ (Mickey Mouse) เป็นตัวละครการ์ตูนที่ครองใจเด็กๆทั่วโลก มีลักษณะเป็นหนูสีดำ  สวมกางเกงเอี๊ยมสีแดง
ถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2471 มาถึงปัจจุบันก็เป็นเวลา 84 ปีแล้ว ปัจจุบันมิกกี้เมาส์ยังครองใจเด็กๆทั่วโลก
ได้ไม่เคยลบเลือน

มิกกี้เมาส์ โดนัลด์ดั๊ก หมาพลูโต และผองเพื่อน เปิดม่านฉายความหลังของค่ายราชาการ์ตูน วอลต์ ดิสนีย์
ก่อกำเนิดเมื่อ ค.ศ.1919 จากการประสานมือระหว่าง นายวอลต์ ดิสนีย์ กับนายเอ๊บ ไอเวอร์ก มีสำนักงานศิลปะเล็กๆ
ณ เมืองเคนซัสซิตี้ รัฐแคนซัส ผลิตภาพยนตร์โฆษณาเป็นภาพวาดความยาวประมาณ 2 นาที สำหรับฉายตอนเริ่มต้น
ในโรงภาพยนตร์ท้องถิ่น และสร้างภาพยนตร์จากภาพวาดการ์ตูนชุด Laugh-O-Grams กับอีกชุดเป็นเทพนิยาย
ยาว 7 นาที เรื่อง Alice in Cartoonland แต่ถูกผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ในนิวยอร์กฉ้อโกง ทั้งคู่จึงเดินทางสู่
ลอส แองเจอลิส เริ่มธุรกิจใหม่อีกครั้ง

วอล์ต อีลิส ดิสนีย์ (ขณะนั้นอายุ 27 ปี) เขากับภรรยา (Lillian) กลับจากการเจรจาที่ถูกโกง ทำให้สูญเสียสิทธิ์
การ์ตูนกระต่ายที่ชื่อ Oswald the Lucky Rabbit นั่งอยู่บนรถไฟระหว่างทางมุ่งสู่ลอสแอนเจลิส Walt
ได้จินตนาการถึงหนูกางเกงแดงตัวเล็กๆ ขึ้นมา โดยมี อับ ไอเวิร์กส ออกแบบรูปร่างลักษณะ แล้วตั้งชื่อว่า
Mortimer Mouse แต่ Lillian คิดว่าชื่อเป็นทางการและดูจริงจังเกินไปและตั้งชื่อใหม่ว่า Mickey Mouse

[embed=560,349]<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/RfLc265yyS0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>[/embed]

หลังจากนั้นในปี ค.ศ.1928 (พ.ศ.2471) มิกกี้ เมาส์ ก็ปรากฎตัวครั้งแรกในหนังการ์ตูนเงียบที่ชื่อว่า Plane Crazy
แต่ก่อนที่การ์ตูนเรื่องนี้จะออกฉายนั้น ก็เริ่มมีการนำเสียงมาใส่ในภาพยนตร์ ทำให้ มิคกี้ เมาส์ เป็นหนังการ์ตูน
ที่มีการใส่เสียงเรื่องแรกในโลก ในชื่อเรื่องว่า Steamboat Willie

ลักษณะเด่นของ มิกกี้ เมาส์ เป็นเพียงหนูตัวเล็ก ๆ หูกลมใหญ่สีดำ แขนขาเล็กมาก สวมกางเกงเอี๊ยมสีแดง รองเท้าสีเหลือง
มีบุคลิกที่มีความอดทน อดกลั้น ฉลาดหลักแหลม มองโลกในแง่ดี และกล้าหาญ ที่สำคัญ มิกกี้ เมาส์ มีสัญชาตญาณพิเศษ
ในเรื่องของการสืบสวนสอบสวน และด้วยบุคลิกที่โดดเด่นในแง่นี้เองทำให้ตัวการ์ตูนตัวนี้ชอบที่จะใช้เหตุผลเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
โดยไม่ต้องใช้กำลังเข้าสู้ จนสามารถเอาชนะศัตรูที่มีร่างกายที่แข็งแรงกว่า ทำให้ มิกกี้เมาส์ สามารถเป็นที่รักและครองหัวใจ
ของเด็ก ๆ และผู้คนทั่วโลกได้เป็นเวลาหลายทศวรรษ


2. Pokémon



โปเกมอน หรือในชื่อเต็มว่า พ็อกเก็ตมอนสเตอร์ (Pocket Monster) เป็นวิดีโอเกมแนว RPG ผลิตและพัฒนาโดยนินเทนโด
และสร้างขึ้นโดยซาโตชิ ทาจิริ ในราว ๆ พ.ศ. 2538 ในตอนแรกเป็นเกมสำหรับเล่นกับเกมบอยที่สามารถเชื่อมต่อกัน
ระหว่างเครื่องต่อเครื่องได้

โปเกมอนกลายมาเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จเป็นอันดับ 2 รองจากเกมชุดมาริโอ และได้กำไรดี โปเกมอนนอกจากจะทำเป็นเกมแล้ว
ยังทำออกมาเป็นการ์ตูนอะนิเมะ มังงะ การ์ดเกม ของเล่น หนังสือ และสื่ออื่นๆ ทางแฟรนไชส์ของโปเกมอนได้ฉลองครบรอบ 10 ปี
โปเกมอนไปเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 ที่ผ่านมา และในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ยอดขายเกมรวมทั้งเครื่องเล่น
นินเทนโด 64 ลายพิกะจู เพิ่มถึงกว่า 175 ล้านก๊อปปี้

[embed=560,349]<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/e2SA4GyXb2U" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>[/embed]

คำว่าโปเกมอน (Pokémon) เป็นการลดรูปคำแบบโรมันจากตราภาษาญี่ปุ่น "พ๊อคเก็ต มอนสเตอร์" คำว่าโปเกมอน
จะหมายถึงสายพันธุ์สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ 649 ชนิด ที่ปรากฏให้เห็นในสื่อต่าง ๆ ของโปเกมอน เช่นในการเกมสวมบทบาทใหม่ล่าสุด
บนเครื่องนินเทนโด ดีเอส นั่นคือโปเกมอนภาคแบล็ค และไวท์


1. Soreike! Anpanman



อันปังแมน (Anpanman) ซึ่งเริ่มออกมาสร้างความสนุกสนานและทำให้พวกเราหลงรักกันทั่วบ้านทั่วเมืองเมื่อปี 1973
แรกๆ ก็มีลักษณะเป็นการ์ตูนภาพที่เขียนโดย Takashi Yanase นักเขียนการ์ตูนสำหรับเด็กชื่อดัง โดย คุณ Yanase
ได้เขียนเรื่องของอันปังแมนมาจากแรงบันดาลใจเกี่ยวการต่อสู้เพื่อการรอดชีวิตในช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2

และเมื่อปี 1988 ก็ได้ปรับรูปแบบอันปังแมนให้เป็นการ์ตูนแอนิเมชั่น ที่ชื่อว่า Soreike! Anpanman (Go! Anpanman)
เป็นแอนิเมชั่นซีรี่ย์สำหรับเด็กเล็กในญี่ปุ่น และได้ออกอากาศตั้งแต่ปี 1988 เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ ...

จนถึงวันที่ 29 เดือนสิงหาคม ปี 2009 อันปังแมนก็ได้ออกอากาศมาทั้งหมด 1000 ตอน (Episode) และในปี 2011
เจ้าอันปันแมนก็เป็นตัวการ์ตูนที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเด็กอายุระหว่าง 0 – 12 ปีในประเทศญี่ปุ่น
(โดยการจัดอันดับของบริษัท Bandai Co., Ltd. )

[embed=560,349]<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/xFYPXwQVpTk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>[/embed]

อันปังแมน เป็นตุ๊กตาที่มีหัวเป็นขนมปังที่ทำขึ้นโดยลุงแจม (Uncle Jam) ซึ่งชื่อของอันปังแมนนั้น มาจาก คำว่า Pan
ที่ยืมมาจากภาษาโปรตุเกส ชื่ออันปังนั้นก็ความถึงขนมปังที่เต็มไปด้วยไส้ถั่วแดง ที่ญี่ปุ่นเรียกว่า  ANPAN 
กลายเป็นชื่อของเจ้าตัวการ์ตูนที่แสนน่ารักตัวนี้ไป

ตอนที่ปังแมนเกิดนั้นไม่มีใครเคยเห็นรูปร่างของอันปังแมนเลย เพราะตอนที่เกิดมานั้นอันปังแมนก็ใส่เสื้อผ้าอยู่ตลอด
ชุดนี้จึงถือเป็นชุดคู่กายของเขามาตั้งแต่เกิด สำหรับการเลี้ยงดูอันปังแมนนั้นก็แสนจะง่ายได้ เขาไม่ต้องการดื่ม
หรือกินอะไรเลย และเขาก็ไม่เคยกินอาหารอะไรเลยด้วย เพราะว่าเขาเชื่อว่าแยมถั่วที่อยู่บนหัวเขานั้น ทำให้เขาดำรงชีพอยู่ได้

จุดอ่อนของปังแมน นั่นก็คือน้ำหรืออะไรที่ทำให้หัวของเขาสกปรก ซึ่งจะทำให้เขาอ่อนแองลง แต่ร่างกายของเขา
จะฟื้นฟูให้แข็งแรงได้ ...ก็ต่อเมื่อคุณลุงแจมนำหัวใหม่มาเปลี่ยนให้ โดยเอามาวางไว้ที่ไหล่ของอันปังแมน  นอกจากนั้น
เขายังมีสัมผัสพิเศษที่สามารถตอบใครก็ได้ที่อูย่บนโลกเพียงเรียกชื่อของอันปังแมน เขาก็พร้อมมาเอาความทุกข์
ออกไปจากคุณ^^


อันปังแมนยังคงรักษาแชมป์ไว้ได้ต่อไปอีกปี อีกทั้ง 4 อันดับแรก ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ในช่วงระหว่างปี 2010-2011
อย่างไรก็ตาม วันพีซ ได้ขยับขึ้นจากที่ 8 (2010) ไปอยู่ที่ 5 ในปี 2011 ขณะที่ Snoopy (#10) กับ Gundam (#11)
สลับตำแหน่งกัน โดยที่ Cars พุ่งขึ้นมาติดชารืต 100 อันดับครั้งแรก ในปี 2011 กับอันดับที่ 19 เลย.....

โดยใน 20 อันดับนี้ เป็นคาแร็คเตอร์จากอนิเมทีวี 6 เรื่อง , อนิเมชั่นต่างประเทศ 6 เรื่อง, ตัวละครออริจินอล 4 เรื่อง
และ ตัวละครจากหนังฮีโร่แปลงร่างญี่ปุ่นอีก 3 เรื่องด้วยกัน



ทว่า ในชาร์ต 100 อันดับนั้น คาแร็คเตอร์ที่ติดอันดับส่วนใหญ่นั้น มาจากอนิเมที่มีเนื้อหาเอาใจกลุ่มเด็กๆและครอบครัว เป็นหลัก
ครองชาร์ตเกือบหมด มีเพียง 5 เรื่องเท่านั้นที่มาจากอนิเมกลุ่มเด็กโต วัยรุ่น อาทิ Puella Magi Madoka Magica (#59),
To Aru Majutsu no Index ( #63), Sengoku Basara (#80), Suzumiya Haruhi no Yuutsu ( #91),
และ Natsume Yūjin-chō (#98)

จากการสำรวจของ Character Databank พบว่าสินค้าคาแร็คเตอร์สามารถทำรายได้ถึง 1.606 ล้านล้านเยน ในปี 2011
ลดลงจากปี 2010 ที่ทำรายได้สูงถึง 1.6170 ล้านล้านเยน ซึ่งถือเป็นยอดจำนวนตัวเลขที่เสมอตัว เพราะ สินค้าคาแร็คเตอร์
สามารถทำรายได้ระดับ 1.6 ล้านล้านเยน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา



ขณะที่สินค้าคาแร็คเตอร์จากการ์ตุนสามารถขายได้ 604.1พันล้านเยน ในปี 2011 ลดลงจากปี 2010 ที่ทำรายได้ถึง 642.1 พันล้านเยน
คิดเป็น 37.6% ของตลาดสินค้าคาแร้คเตอร์ของปี 2011

credit kartoon-discovery

[lukluk]

 pongz pongz ขอบคุณครับ

[pheebar]

อันปังแมน เคยดูตอนอนุบาล fdgdfdf

[Pro-Big]

โดเรมอน กับดราก้อนบอลไม่ติดโผเลยเหรอครับ  eta07 eta07 eta07

[berbaboss]

ติดโผมาแพ็คคู่เลย ทั้งมิกกี้เม้าส์และมินนี่เม้าส์ mbvc

[civilpo]

ชอบคุนิโอะ ดาวทาว ไม่ติดเหรอ

[tommyjaa]

กันดั้ม !!!

[satid]

 hgjhg กันดั้ม

[seedzer]

เคยดูเกือบหมดเลย

[shadowsman]

ผมชอบกันดัมครับ  pongz

[piryat]

ขอบคุณครับ
hgjhg

[sura7]

อยากกลับไปเป็นเด็กขึ้นมาทันทีเลยครับ