Pentacle ดาวห้าแฉก สัญลักษณ์ของปีศาจบาโพเมท(Baphomet)

Pentacle ดาวห้าแฉก สัญลักษณ์ของปีศาจบาโพเมท(Baphomet)

เริ่มโดย etatae333, 09 พฤศจิกายน 2012, 15:35:21

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

Pentacle ดาวห้าแฉก สัญลักษณ์ของปีศาจบาโพเมท(Baphomet)



Pentagram ที่เคยได้กล่าวมาก่อนหน้านี้ ไม่เคยที่จะเป็นสัญลักษณ์ของการบูชาปิศาจหรือซาตานมาก่อนเลย
ในทางกลับกัน กลับเป็นสัญลักษณ์ของเทพีในลักธิเพแกน(ในที่นี้ผมไม่แน่ใจว่าใช้เทพีวีนัสหรือป่าว)



ซึ่งโดยทั่วไปหลายๆ คนก็จะคุ้นเคยกับภาพของสัญลักษณ์ทางศาสนาที่นอกรีดของศาสนาคริสต์ ซึ่งเป็นลัทธิบูชาปีศาจ
ที่มีบาโพเมทเป็นร่างจำแลงของซาตาน เอาละ.... แล้วทำไมเพนทาเคิลจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจไป
แล้วทำไมบาโพเมทจึงกลายเป็นร่างจำแลงของซาตาน บาโพเมท

(ซึ่งจริงๆ แล้ว บาโพเมทเกิดจากโลกิ ในตำนานแสกนดิเนเวีย)


บาโพเมท (Baphomet) จะขอกล่าวในตำนานของเทพเนอสก่อนแล้วกัน



เรื่องราวเริ่มขึ้นเนิ่นนานก่อนเข้าสู่สงครามแร็กนารอค เหล่าเทพเจ้าทั้งหลายยังอาศัยอยู่ ณ สรวงสวรรค์ มิดการ์ด
และคอยตรวจตรามิดเดิลเอิร์ธโลกมนุษย์ เพื่อปลุกระดมสงครามไว้รวบรวมเหล่าวิญญาณผู้กล้ามาเป็นนักรบเบอร์เซอก



ณ เวลานั้น มีเมืองอยู่เมืองหนึ่งมีนามว่า ซู โดยเมืองนี้นับถือเทพเจ้าแห่งไฟ นั้นก็คือเทพจอมซนโลกินั้นเอง ที่เมืองซู
มีสตรีนางหนึ่ง นามว่า บาร่า นางมีบุตร ที่ผมหาข้อมูลไม่ได้ว่ามีกันกี่คน แต่ นางบาร่าคนนี้ เป็นคนจิตใจคับแคบ
ไม่คิดช่วยเหลือใคร จึงไม่เป็นที่ชื่นชอบในเมือง นานวันไปนางยิ่งร้ายกาจจนคนทั้งเมืองพากันรุมเกลียด


จนกระทั่งวันหนึ่ง เทพโลกิ ก็เสด็จมา ณ เมืองซูแห่งนี้ครับ มารับของสังเวยและของบูชายันต์มาอย่างเซงๆ เบื่อๆ
เพราะทำอย่างนี้มาตลอด จำเจซ้ำซาก(พอๆ เอาว่าเทพโลกิ เบื่อแล้วกัน) เมื่อเทพโลกิได้รับพวกของบูชา
อะไรไปเรียบร้อยแล้ว เหล่าชาวเมืองก็ทูลองค์เทพว่า มีนางบาร่านิสัยเสียในเมืองที่เห็นแก่ตัว ไม่ช่วยเหลือผู้อื่น
ฟ้องไปเรื่อย จนมาจบที่ต้องการให้นางบาร่าหายไป


เทพโลกิก็เออออไปด้วย เพราะนางเป็นคนไม่ดีจริงๆ โดยที่เทพโลกิจะสาปนางให้กลายเป็นกวางมูสครับ ว่าแล้วก็ร่ายคาถา
สาปซะ แต่เกิดผิดพลาด (แต่ตั้งใจ เพราะเซง อยากเห็นอะไรสนุกๆ) นางบาร่าจึงกลายสภาพไปเป็นแพะภูเขามีเคียวโง้งเป็นอาวุธ
และมีพลังอำนาจล้นเหลือ



บาร่ากลายเป็นปีศาจที่น่ากลัวไปแล้ว (มาถึงตรงนี้ หลายๆ คนก็รู้สักทีว่าบาโพเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย) โลกิก็งานเข้าสิครับ
เข้าสู้กับบาโพอย่างทุลักทุเล เพราะมันมีอำนาจมาก สุดท้าย โลกิเห็นว่าจะปราบไม่อยู่ เลยผนึกไว้ในวิหารเสีย และก็กลับไป
บ้านเมืองจึงเข้าสู่ความสงบ


หลายขวบปีผ่านไป ลูกๆ ของนางบาร่าเติบโตเป็นชายฉกรรจ์ ก็คิดแค้นจะช่วยแม่ บุกเข้าไปในวิหารหมายปลดทำลายผนึก
ของเทพโลกิ เดือดร้อนชาวเมืองต้องออกมาป้องกัน แต่นายคนนี้มันเก่งครับ คาดว่าน่าจะฝึกฝีมือมาตลอดเพื่อที่จะสามารถ
ปลดปล่อยมารดาตนเองให้ได้ จนในที่สุด งานก็เข้าเทพโลกิอีกจนได้


เมื่อเทพโลกิมาถึง นายคนนี้ก็สู้พระองค์ไม่ได้และถูกชาวเมืองรุมจับครับ ด้วยความคึกและโกรธ ที่มนุษย์อาจหาญมาสู้กับเทพเจ้า
เลยสาปเป็นกวางมูสเสียเลย และสำเร็จด้วยครับ คงเพราะโกรธจริงๆ แต่คงเพราะอยู่ใกล้ท่านแม่ที่เป็นจอมปีศาจแล้ว
เห็นลูกตนเองถูกทำร้าย พลังของนางจึงเล็ดลอดออกมาจากผนึกและเพิ่มอำนาจให้ลูกชายเป็นเช่นนางครับ นั้นก็คือ
เดาถูกไหม เดาถูกไหม

บาโพเมท จูเนียร์ (ที่เรียกเช่นนี้เพราะมันเป็นปีศาจตนใหม่ แต่เป็นลูกของบาโพเมท ชาวเมืองจึงเรียกมันเช่นนี้ครับ) คราวนี้แหละ
กวางน้อยกลายเป็นปีศาจ ประชาชนแตกฮือ เทพโลกิยังจำได้ถึงอำนาจของบาโพเมท จึงจับอัดลงไปผนึกที่เดียวกับแม่เลย
ในวิหารของพระองค์ จากนั้นพระองค์ก็กลับ แต่แน่นอนครับ ผนึกนั้นถูกเปิดและปิดอย่างรวดเร็ว นั้นทำให้มีช่องว่างเกิดขึ้น
แต่ บาโพเมทใช่ว่าจะออกมาได้ในทันทีครับ

800 ปีต่อมา พลังของนางกล้าแข็งขึ้นจนในที่สุด นางก็คลายผนึกด้วยตนเองและพาลูกชายออกมาจากที่คุมขัง และเข้าสังหาร
ชาวเมืองพร้อมกับรวมรวมกองทัพปีศาจเข้าจนเป็นกองทัพใหญ่ และไปบุกเทพโลกิครับ และแน่นอน พระองค์ต่อสู่อย่างสุดสามารถ
แต่ ถึงจะเทพแต่มาเยอะมันก็ไม่ไหว จนในที่สุด เทพโลกิก็พ่ายแพ้ให้กับปีศาจที่ตนเองบังเอิญ (นึกสนุก)
สร้างขึ้นมาด้วยความไม่ตั้งใจ(จะให้เก่งขนาดนี้)




ส่วนบาโพเมท ก็ตั้งรกรากที่นั้นเป็นเมืองของเหล่าปีศาจ ปกคลุมด้วยความชั่วร้ายอยู่นานก่อนจะหายไป
และเมืองนั้นก็กลายเป็นเมืองร้างในที่สุด



นี่ก็คือตำนานของบาโพเมทในตำนานเทพปกรณัมของชาวไวกิ้ง ซึ่งเป็นชนโบราญที่อยู่บริเวณยุโรปเหนือ และอารยะธรรม
ของชาวไวกิ้งก็แผ่ไปทั่วยุโรปครับ จนเข้าสู่ยุดของกรีกโรมัน พวกไวกิ้งถูกเรียกว่า บาบาเรียน เพราะชาวโรม
ถือว่าตนเป็นผู้มีอารยะ แต่ไวกิ้งนั้นเป็นคนเถื่อน ส่วนตรงนี้พักไว้ก่อนครับ ยังไม่ถึง



เอาละมาต่อกันต่อ เมื่อเราทราบความเป็นมาของบาโพเมทแล้ว
มาดูที่ดาว 5 แฉกกันบ้างครับ




ซึ่งจุดเริ่มต้นที่เก่าแก่ที่สุดของสัญลักษณ์นี้ มีมาตั้งแต่สมัยเมโสโปเตเมีย หลายหมืนปีก่อนยุดอียิปโบราณ ซึ่งชาวเมโสโปเตเมีย
นับถือดวงจันทร์ เป็นเทพมาดร และดวงอาทิตย์ เป็นเทพบิดร เป็นศาสนาที่บูชาเทพเจ้าหลายพระองค์ ซึ่งมีดาวดวงหนึ่งแทนความรัก
และเป็นเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ ดาวดวงนั้นคือดาวศุกร์ครับ และตรงกับวีนัส หรือ อโฟรดาย ในกรีซพอดี


หากใครได้อ่านนิยายหรือชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ซึ่งก็คือ รหัสลับดาวินชี ก็น่าจะพอรู้เรื่องราวของเพนทาเคิลในระดับหนึ่ง
ซึ่งกล่าวถึงลัทธิแพกินและเหล่าอัศวินแห่งหุบเขาไซออน ซึ่งลัทธิแพกินนี้ นับถือเอาบาโพเมทเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์
เพราะ พวกเขาใช้นมแพะในการดำรงชีวิตร่วมกับอาหารอื่นๆ รวมไปถึงความอุดมสมบูรณ์ทางเพศ และการกำเนิด(การคลอดบุตร)
และยังมีความสามารถทางดาดาศาสตร์ ที่สามารถคำนวณวิถีโคจรของดาวศุกร์ในแต่ละปี ซึ่งแนวโคจรนั้นตัดกันเป็นรูปดาวห้าแฉกครับ
และความหมายของดาวศุกร์ในพวกแพกิน ก็เหมือนกับกับสองอารยธรรมที่กล่าวมาและใช้มันร่วมกับ บาโพเมท



เจาะลึกเรื่อง Baphomet



Baphomet เป็นรูปเคารพของลัทธิที่บูชา Satan ลัทธิหนึ่งที่เป็นที่เคารพของ Templar (อัศวินทางศาสนา)
โดยที่ Baphomet เป็นเครื่องหมายแห่งความชั่วร้าย และ มนต์ดำ ตำนานทาง Templar มีหลายตำนาน
ที่มีการพูดถึง Baphomet แม้จะผ่านมากว่า 600 ปี แต่เรื่องราวของ Baphomet ยังคงเป็นสิ่งลึกลับ
ที่น่าสนใจมาตลอด เรื่องของ Baphomet อยู่ในช่วงศตวรรษที่ 19 เชื่อกันว่ากลุ่ม Templar ได้มีการสร้าง
ลัทธิความเชื่อในการบูชาเทพปีศาจนาม Baphomet พวกเขามีพิธีกรรมต่างๆ ที่แสนจะแปลกพิศดาร
ที่จะกระทำต่อ Baphomet เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังอำนาจและวัตถุประสงค์ต่างๆ




พิธีกรรม ของ Baphomet มีหลายรูปแบบ ตั้งแต่ขั้นต้นที่อัญเชิญ Baphomet มา การให้ Baphomet
เข้าสิงร่างและควบคุมร่างอย่างสมบูรณ์ (โดยผู้ถูกสิงจะไม่มีสติเลย) รวมไปถึงการติดต่อกับ Baphomet
เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังอำนาจตอบสนองความปรารถนาต่างๆ รูปแบบของพิธีกรรมมีหลากหลายขั้นตอน
แต่สิ่งประกอบสำคัญทั่วไป คือ เลือดและการบูชายัญด้วยชีวิต




(มีนักประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่า Templar ก็ดี ลัทธิความเชื่อพิธีกรรมอย่าง Baphomet ก็ดี
เป็นส่วนหนึ่งของการคอรัปชั่นของทางรัฐบาล กับทางโบสถ์ และเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึง
ความสับสนวุ่นวายไร้ระเบียบของคนในยุคนั้นด้วย)


รูปแบบของ Baphomet นั้นมีอยู่มากมาย จากตำนานต่างๆ แต่ที่มีความสอดคล้องกันคือ Baphomet
จะมีรูปร่างเป็นมนุษย์เพศชายรูปร่างกำยำ ในขณะที่ศรีษะจะเป็นศรีษะระของสัตว์ รูปแบบที่พบกันบ่อยคือ
หัวของแพะ




บางตำนานจะมีการเน้นถึงเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศ พลังงานของ Baphomet จากอวัยวะเพศชาย
ที่ตั้งตรงและมีงูวนอยู่รอบๆ ด้วย นอกจากนี้ ยังมีสิ่งประกอบอื่นๆ เกี่ยวกับ Baphomet 
อีก เช่น สัญลักษณ์ ดาว 5 แฉก โดยเรามักจะเห็นเครื่องหมายนี้อยู่คู่กับ Baphomet
เสมอ "Eliphas Levi"



ผู้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องลัทธิความเชื่อนี้ในศตวรรษที่ 19 ได้บรรยายถึงลักษณะของ Baphomet
รวมไปถึงรูปแบบดาว 5 แฉก ว่าเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายและปีศาจ ซึ่งในยุคกลางนี้ ดาว 5 แฉก
ในส่วนขวาบนจะหมายถึงหน้าร้อน ในขณะที่ด้านกลับ หรือ ส่วนล่างจะหมายถึงหน้าหนาว
ซึ่งเชื่อกันว่า Levi ได้วาดรูปแบบของดาว 5 แฉก ไว้ 2 ลักษณะด้วยกัน โดยแบบแรก เป็นการสร้างรูปแบบ
ของมนุษย์จากจุดทั้ง 5 ของดาว สื่อถึงธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ตามจุดแขนขาทั้ง 4 ของมนุษย์
โดยที่จุดที่ 5 คือ ศีรษะเป็นส่วนแห่งจิตวิญญาณ ซึ่งรูปแบบนี้เรียกว่า Microcosmic Man (จุลภพมนุษย์)




แบบที่ 2 เป็นรูปแบบที่เกี่ยวกับ Baphomet อย่างชัดเจน โดยเป็นรูปแบบดาว 5 แฉกที่กลับด้าน
ในรูปแบบของศีรษะของแพะซึ่งก็คือสื่อถึง Baphomet นั่นเอง เป็นการเปรียบเทียบระหว่างรูปแบบของมนุษย์
และ ปีศาจนั่นเอง สัญลักษณ์ดาว 5 แฉกของ Baphomet นี้ ถูกใช้อย่างเป็นทางการในแง่เครื่องหมาย
ของ Satan โดยเริ่มโดย Anton Szandor La Vey ในปี 1996 แล้วจึงถูกใช้อย่างแพร่หลาย
โดยลัทธิบูชา satan ต่างๆ ทั่วโลก รูปที่เกี่ยวกับ Baphomet ส่วนมากจะถูกวาดและบรรยายโดย Levi
ซึ่งผลงานของ Levi เกี่ยวกับเรื่อง Baphomet นี้ ถูกใช้ครั้งแรกกับผลงาน
"A Pictorial History of Magic and the Supernatural" ของ Maurice Bessy
ตีพิมพิ์ในฝรั่งเศสในปี 1961 และแปลเป็นภาษาอังกฤษในปี 1964 หลายปีหลังการเสียชีวิตของ Levi



และทำไมบาโพเมทจึงกลายเป็นตัวแทนของซาตาน นั้นก็เพราะตำนานของแสกนดิเนเวียครับ บาโพเมทนั้นเป็นปีศาจ
และ แพกิน นับถือพาโพเมท เป็นเทพแห่งความสมบูรณ์ ซึ่งวาติกันคงจะเอาสองสิ่งนี้มาผูกเข้าด้วยกัน
จนทำให้พาโพเมท กลายเป็นสัญลักษณ์ของซาตานไป
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

Adepoju

ดีมากเลยครับ พยายามอ่านให้จบ ตำนานยาวเหลือเกิน
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
เงินไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง(ถ้ามันไม่มากพอ)
http://chiangmaitour.simdif.com/index.html

chili

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

paeveera

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

surnite

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

blackbull

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

papaya_momo

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

nigthfoxclub

สมัยก่อน เคยไปล่า MVP ในเกมออนไลซ์ Ragnarok ฮ่าๆๆๆ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions