จีน เวเบอร์ (Jeanne Weber) นางมารสังหารเด็ก

จีน เวเบอร์ (Jeanne Weber) นางมารสังหารเด็ก

เริ่มโดย etatae333, 28 กันยายน 2013, 16:46:05

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

จีน เวเบอร์ (Jeanne Weber) นางมารสังหารเด็ก



ดร.เอ็ดมอนด์ โลคาร์ด ผู้เชี่ยวชาญอาชญากรรมของฝรั่งเศลกล่าวไว้ว่า

"กรณีของนาง จีน เวเบอร์ เป็นตัวอย่างที่ดีสมบูรณ์แบบที่ชี้ให้เห็นว่าคนเราบางครั้งก็ไม่ยอมเชื่อความจริง
ที่ปรากฏให้เห็นอย่างใกล้ชิด(ไม่ยอมรับความจริง)........ภายใต้จมูกนี่เอง)"


นางจีน เวเบอร์ ที่เขากล่าวถึง เป็นฆาตกรโรคจิตที่โด่งดังในฝรั่งเศส เธอชอบฆ่าเด็กและเป็นเด็กของญาติฝ่ายสามีเธอเสียอีก
และเธอสังหารเหยื่อระยะห่างไม่ถึงเดือน แต่กฎหมายก็ไม่สามารถเอาผิดเธอได้แม้แต่น้อย ทั้งๆที่ เธอศึกษาเล่าเรียนมาน้อย
ทำไมถึงเป็นเช่นนี้...

       
กำเนิดนางมาร


ประเทศฝรั่งเศส ปี 1975 จีนเวเบอร์ เป็นลูกสาวชาวประมงที่โคเตส ดู นอร์ด ,บริแทนนี
ตอนแรกเธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาหน้าตาไม่สวย แถมรูปร่างเตี้ยและออกท้วม นอกจากนั้นก็ไม่แตกต่าง
จากเด็กทั่วไป เพียงแต่เธอมีนิสัยไขว่คว้าหาอิสระเสรีในชีวิตมาตั้งแต่อายุ 14


แรกเริ่มเธอเริ่มรับจ้างทำงานบ้านที่ครอบครัวเบอร์จิส แต่ก็มีเวลาว่างครึ่งวัน จีนจึงตะลอน ๆ เที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ ในเมือง
เพื่อมองหา "ความรัก" และ "ความตื่นเต้น" และเมื่อเบื่อในงานที่ทำลงจีนจึงทิ้งงานแล้วตะเวนไปเที่ยวฝรั่งเศส
ด้วยเหตุนี้จีนถึงไม่มีการศึกษามากนัก เธอจึงทำงานโดยไม่เลือก ไม่สนใจว่างานที่ทำจะก้าวหน้าหรือไม่
จนกระทั้งจีนถึงปารีส ในปี 1893 โดยอาศัยในถิ่นที่ยากไร้ที่สุดในเมือง ปีนี้เองเธอก็พบหนุ่มนาม มาร์เชล เวเบอร์
ซึ่งทั้งสองคนตกหลุมรักทันทีที่เจอกันครั้งแรก

หนุ่มเวเบอร์มีพี่น้องอีก 3 คน รวมกันพำนักอยู่ในสลัม จีนต้องไปอยู่ร่วมด้วย ในฐานะภรรยานอกกฎหมาย
หนุ่มเวเบอร์เป็นหนุ่มที่เป็นนักดื่มตัวยง นั้นทำให้จีนพลอยติดเหล้าไปด้วยในไม่ช้า ทั้งคู่มีลูกสามคน
ถ้าไม่รวมทั้งคู่ติดเหล้า ชีวิตทั้งสองก็ดูปกติสุขดีถ้า...................
             
จุดเปลี่ยน

โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นเมื่อลูกสาวตัวน้อยทั้งสองเสียชีวิตเนื่องจากไข้เจ็บตามธรรมชาติ แต่ไม่มีใครสังเกตเห็น
จิตวิญญาณของจีนเริ่มแปรปรวนไป แม้ความตายนั้นเป็นสิ่งธรรมดาในย่ามสลัม แต่สำหรับจีนมันเป็นความ
เศร้าโศกอย่างสุดซึ้ง เธอดื่มหนักขึ้นไปอีก มากจนสมองของเธอขาดสติ


นางมารสังหาร



หลังการตายของบุตรทั้งสอง นางจีน  เวเบอร์ ได้ทำงานรับจ้างเลี้ยงเด็กในสลัม เธอเริ่มการสังหารเด็ก
คดีฆาตกรรมของจีนเริ่มขึ้นครั้งแรกกับลูซี อเล็กซานเดอร์ และ มาร์เซล โปยาตอส เด็กทั้งสองอยู่ภายใต้
การรับจ้างของเธอ ไม่ทันข้ามวันเด็กทั้งสองได้ตายลง แต่ไม่มีใครติดใจหรือสงสัย แม้แต่หมอเอง
เพราะเวลานั้นเป็นช่วงศตวรรษที่ 19 ซึ่งมีอัตราการตายของทารกและเด็กสูงมาก


ในเช้าอันหนาวเย็นของเดือนกุมภาพันธ์จีนมาเที่ยวที่บ้านของ ปิแอร์ เวเบอร์ น้องชายของมาร์เซล เวเปอร์
ภริยาชองปิแอร์ไดขอให้ดูแลหลานสาวคนหนึ่งชื่อหนูน้อยจอร์เก็ตเต้ซึ่งป่วยอยู่ เนื่องจากนางต้องเอาผ้า
ไปซักที่ร้าน จีนตกลงช่วยดู

มาดามปูเช่ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของปิแอร์ เผอิญเดินผ่านประตูอพาร์ตเมนท์และเห็นหนูน้อยจอร์เก็ตเต้อยู่บนตัก
ของจีนและมีอาการชักกระตุกจึงไปบอกภริยาปิแอร์ นางรีบกลับมาในห้องก็พบว่าลูกของเธอมีหน้าซีดเขียว
ส่วนจีนกำลังนวดหน้าอกอยู่ จนกระทั้งเด็กมีอาการดีขึ้นจนกลับเป็นปกติ ผู้เป็นมารดาก็โล่งใจและกลับไปซักผ้าต่อ
ชั่วโมงต่อมา ปิแอร์สามีก็รีบมาตามเธอกลับไปดูอาการลูกซึ่งเกิดซักขึ้นมาอีก หนนี้เธอไม่รอด หน้าของเด็กน้อย
ปราศจากโลหิต  แต่มาดามปูเช่ก็ตระโกณบอกทุกคนว่ามีรอยช้ำรอบคอของจอร์เก็ตเต้ แต่ก็ไม่มีใครสนใจ
ไม่ว่าพ่อแม่หรือหมอ

ไม่น่าเชื่อเพียงแค่ท่านเก้าวันเท่านั้น หลังจีนสังหารจอร์เก็ตเต้ จีนก็สังหารเด็กอีกครั้ง เมื่อ ปิแอร์ เวเบอร์
ก็วานพี่สะใภ้(ยังไม่เข็ดอีก) ให้มาดูแลซูซานลูกสาววัยสามขวบอีกครั้ง เพราะพ่อแม่ของเด็กคนนี้จะไปชอปปิ้ง
แต่เมื่อทั้งคู่กลับมาก็พบลูกสาวซูซานเสียชีวิตแล้ว มีผ้าพันคอผูกหลวม ๆ รอบคอของเธอ และมาดามปูเช่
ก็โผล่มาอีกครั้งพร้อมขอให้หมอตรวจรอยช้ำเขียวรอบคอของเด็กน้อยซูซาน คราวนี้หมอเห็นว่าเป็นการตาย
ผิดปกติธรรมชาติ จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ


แต่ผลออกมาไม่มีอะไรน่าสงสัย!



ทำไมกันเธอผู้ซึ่งศึกษาเล่าเรียนมาน้อย ทำไมถึงฆ่าคนได้แนบเนียนขนาดนั้น ไม่มีใครจับได้ แม้ว่ามันจะเป็นยุค
ที่การแพทย์ยังไม่ทันสมัย แต่ก็น่าจะมีคนเก่ง ๆ สักคนสิ


ทั้งนี้เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุเป็นย่างชาวสลัมพลเมืองที่หลายคนไม่แลใส่ใจ อีกทั้งตำรวจไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นัก
มันทำให้จีนลอยนวลอยู่ได้ และสังหารเด็กอีกในรายต่อๆมาไม่ถึงเดือน สองอาทิตย์ถัดมา จีน เวเบอร์ ก็สังหารเด็กอีก
อะไรจะบ้าระห่ำขนาดนั้น แถมเป็นใกล้ตัวอีกด้วย

ครั้งนี้เธอไปกินอาหารมื้อกลางวันกับมาดามลีออง เวเบอร์ ซึ่งเป็นสะใภ้อีกคนหนึ่งของตระกูลเวเบอร์ เธอมีลูกสาว
แยร์แมงวัยเจ็ดขวบราวกับเป็นหนังม้วนเดิม มาดามลีอองฝากเด็กให้เธอและไปชอปปิ้ง เมื่อนางลีอองกลับมาก็พบ
มารดาของลีอองในห้องบอกว่าก็ได้ยินเสียงหวีดร้อง นางรีบไปดูต้นเสียง นางก็ได้พบจีนกำลังวุ่นวายนวดหน้าอก
ของเด็กน้อยแยร์แมงและอาการดีขึ้น  มารดาของลีอองจึงนำเด็กไปยังห้องของนางที่อยู่ชั้นบนของอพาร์ตเมนท์
ไม่ทันไหวตัวจากเหตุการณ์ร้าย มาดามลีอองออกไปชอปปิ้งอีกครั้ง เมื่อกลับมาก็เห็นลูกน้อยมีอาการชักกระตุก
เธอตามหมอมาดู ซึ่งหมอหัวเราะ บอกว่าเด็กไม่เป็นอะไรมาก และอีกครั้งที่มาดามลีอองออกไปทำธุระที่ข้างนอก
แล้วปล่อยให้จีนนวดคลึงหน้าอกเด็กน้อยอย่างสุขารมย์ และเมื่อเธอกลับมาเป็นหนที่ 3 เด็กน้อยก็สิ้นใจแล้ว

คืนเดียวกัน หนูน้อยมาร์เซล เวเบอร์ ลูกชายวัยเจ็ดขวบของจีนเองก็ล้มเจ็บลงอย่างลึกลับ และตายด้วยโรคลมชักกระตุก
อาการคล้ายโรคคอตีบ แต่ไม่มีผลพิสูจน์ของแพทย์แต่อย่างไร จีนร้องไห้บนศพหนูน้อยน้ำตาแทบเป็นสายเลือด
ใครก็ตามที่เห็นนำตาเธอย่อมไม่สงสัยว่ามีส่งผิดปกติเกิดขึ้นกับหนูน้อยแต่อย่างใด



สงสัย



หากทว่าโศกนาฏกรรมหนต่อมานี้สิ ที่ทำให้ตระกูลเวเบอร์ชักรู้สึกว่ามันชักยังไง ๆ เสียแล้ว เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อบ่าย
วันที่ 5 เมษายน มาดามชาร์ลส์ เวเบอร์ กับ มอริซ ลูกชายวัยเกือบขวบได้มาเยี่ยมจีนพร้อมสะใภ้ผู้โศกเศร้ามาดามปิแอร์
สะใภ้ทั้งสองได้ชักชวนกันออกไปซื้ออะไรมาทานจึงฝากลูกให้จีน และออกไปข้างนอกและกลับมาไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ
หนูน้อยมอริซหน้าเขียวคล้ำและสำลักไม่หยุดหย่อน แต่มาดามชาร์ลส์ไม่โง่ เธอกล่าวหาจีนทีแล้วรีบพาลูกน้อย
ไปหาหมอที่ใกล้ที่สุดซึ่งก็คือโรงพยาบาลบ้าใกล้บ้านนั้นเอง !


เหลือเชื่อ เธอรอด

ดร.ชาร์ลส์ เซลแลง ตรวจพบรอยแดงช้ำที่รอบคอหนูน้อยและระบุว่ามันเกิดจากอาการป่วยของเด็กจากการหายใจไม่ออก
และตกเย็นวันนั้นหนูมอริซก็ฟื้นจากการป่วย มาดามชาร์ลยังอยู่อารมณ์โกรธแค้น จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
จีนถูกจับกุมตัวไปเป็นผู้ต้องหา พนักงานสืบสวนผู้รับเรื่องเป็นคนจริงจัง พอได้ฟังพฤติกรรมของจีน ก็ส่งเรื่องต่อให้กับ
ดร.ลีออง ทัวโนต์ แพทย์พิสูจน์หลักฐานเพื่อชันสูตรศพเด็ก ๆ ตระกูลเวเบอร์ที่เสียชีวิตไปทั้งหมดทันที

อย่างไรก็ตาม นอกจากรอยช้ำรอบคอของหนูน้อยมอริซจะจางหายไปแล้วิและศพเด็กๆทั้งหลายนั้นก็มิได้มีสิ่งผิดปกติ
บ่งถึงการถูกฆาตกรรมแต่อย่างใด ดร.ทัวโนต์จีงรายงานไปตามนั้น แต่พนักงานสืบสวนก็ไม่ยอมหยุดยั้ง เขาไต่สวน
พนักงานทุกคน และขอให้ดร.ทัวโนตจ์ลงมือชันสูตรใหม่อย่างละเอียดที่สุด แต่ผลก็ยังคงเดิม

ทว่า พนักงานสอบสวนไม่เชื่อในผลพิสูจน์ และส่งจีนขึ้นศาล

แต่ผู้พิพากษาเห็นว่าหลักฐานไม่เพียงพอไม่สมบูรณ์ จึงขอให้ศาสตราจารย์ ปอล บรูเดล ซึ่งเป็นนายแพทย์ลูกขุน
ช่วยตรวจสอบรายงานของหมอทัวโนต์ ในเดือนมกราคม 1906 ท่านศาสตราจารย์ตรวจแล้วก็ยืนยันสนับสนุน
หมอทัวโนต์เต็มที่ว่าเด็ก ๆ ที่เสียชีวิตนั้นไม่ได้ถูกฆาตกรรมแต่อย่างใด


สาธารณชนกับหนังสือพิมพ์ต่างก็ไม่สงสัยในกรณีที่เกิดขึ้นกับจีน นายอังรี โรแบร์ ทนายตัวกลั่นของจีนได้พิทักษ์
ลูกความอย่างเฉลียวฉลาด จนกระทั้งได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ และไม่มีใครเพ่งเล็งเธอเลย
เธอเปลี่ยนชื่อแซ่ และหายหน้าหายตา ไปจากสังคมและครอบครัวเวเบอร์ เหลือเชื่อ เธอรอด

....เวลาผ่านแค่ 1 ปี เท่านั้น จีน เวเบอร์ ก็ฆ่าเด็กอีกครั้ง

16 เมษายน1907  เมื่อเด็กชายออกุสเต บาวูเซต์ วัยเก้าขวบ ลูกชายของชาวไร่ในภาคกลางฝรั่งเศส ได้ล้มเจ็บ
และตายโดยมีรอยช้ำแดงรอบคอ แพทย์ผู้ตรวจมีความสงสัยจึงส่งเรื่องให้ตำรวจ แต่พอตรวจแล้วก็ลงความเห็นว่า
ตายตามธรรมชาติ


เรื่องมันแดงขึ้นเมื่อลูกสาวคนโตของบาวูเซต์ได้แอบตรวจกระเป๋าแม่บ้านคนใหม่ที่เพิ่มมาอยู่เร็ว ๆ นี้ ชื่อมาดามมูลิเนต์
นั้นนั้นเธอพบหนังสือพิมพ์เก่าที่มีรูปของมาดามจีน เวเบอร์ เธอก็รู้ทันที่ว่าที่แท้แล้วมาดามมูลิเนต์คือ จีน เวเบอร์ นั้นเอง
เธอรีบแจ้งตำรวจข้อหาฐานฆาตกรรมน้องชายของเธอ หนนี้ตำรวจและแพทย์พิสูจน์หลักฐานอีกครั้งคราวนี้ให้ความเห็น
ตรงกันว่า ออกุสเต้ถูกบีบคอตาย !

คราวนี้หนังสือพิมพ์ต่างประโคมข่าวเกรียวกราว แต่ทนายอังรี โรแบร์ ก็ออกมาปกป้องจีนอีก และได้เชิญ ดร.ทัวโนต์เจ้าเก่า
มาตรวจศพหนูน้อยออกุสเต้ สามเดือนต่อมาทัวโนต์ก็สรุปผลชันสูตรว่าหนูน้อยตายด้วย "ไข้ไทฟอยด์!?" แถมยังดูถูก
แพทย์ท้องถิ่นอีกด้วย เมื่อไม่มีหลักฐาน ศาลสั่งให้ปล่อยจีนในปลายปี 1907 เธอเปลี่ยนชื่อแซ่ และหายหน้าหายตา
ไปจากสังคมอีกครั้งแน่นอนไม่ใช้เธอกลัว แต่เพื่อง่ายที่จะก่อคดีครั้งใหม่และโหดเหี้ยมจากเดิม

เหยื่อรายสุดท้าย



ผ่านไปแค่ 1 ปีเท่านั้น เรื่องก็เกิดขึ้น พฤษภาคม 1908 บุรุษนามบูเชอรี กับภรรยา ได้เป่าเช่าห้องพักที่อยู่ตอนเหนือ
ของฝรั่งเศส เจ้าของห้องพักมีลูกชายวัยเจ็ดขวบชื่อมาร์เซล ปัวโรต์ ซึ่งนางบูเชอรี่หยอกล้อเล่นสนิทสนมด้วย


วันหนึ่งนายบูเชอรีออกไปทำงานเหมือง ถ่านหิน ภรรยาของเขาก็ได้มาหานายปัวโรต์และบอกว่าเธอเหงาและหวาดกลัว
ยามค่ำคืน จึงขอให้มาร์เซล ลูกชายนอนไปเป็นเพื่อน ผู้เป็นเจ้าของห้องพักพอใจในความสุภาพเรียบร้อยของนางบูเชอรี
จึงอนุญาตให้พาลูกไปนอนด้วย โดยหนูน้อยมาร์เซลก็อยากไปเช่นกัน

คืนนั้นได้มีเสียงหวีดร้อนกลางดึกผู้พักห้องติดกันกับนางบูเชอรีรีบวิ่งเข้ามาดูโดยมีนายปัวโรต์ตามติดมาข้าง ๆ
เมื่อเข้ามาในห้องก็ได้เห็นหนูน้อยมาร์เซลหน้าเขียวซีด โลหิตไหลรินออกจากลิ้นที่กัดแน่น เลือดนองอยู่บนพรมใกล้เตียง
ส่วนนางบูเชอรีก็มีเลือดเปื้อนบนมือและเสื้อนอนอยู่ข้าง ๆ ศพ


หมอได้มาตรวจทันที และพบรอยเลือดนิ้วมือที่คอของมาร์เซล เมื่อตรวจค้นเสื้อผ้าของนางบูเซอรีก็พบจดหมาย
จ่าหน้าซองถึงมาดามจีน เวเบอร์ มีลายเซ็นของทนายความโรแบร์ ที่แท้นางบูเชอรี ก็คือ มาดามจีน เวเบอร์ นั้นเอง
ฝรั่งเศสตื่นตะหนกยิ่งกว่าคราวก่อน กรณีทั้งหมดของจีน เวเบอร์ ถูกนำมาขึ้นสอบสวนใหม่ ดร.ทัวโนต์ได้จัดตั้ง
ทีมแพทย์ขึ้น ผลออกมาคือ "สภาพจิตไม่ปกติ"

แต่กระนั้น ทัวโนต์และโรแบร์ ก็อ้างว่า จีน เวเบอร์ มีความผิดเฉพาะในคดีสุดท้ายเท่านั้น เธอถูกครอบงำด้วยข้อหา
ที่ไม่ได้กระทำ จนจิตใจเธอคล้อยตามไป มันหลอกหลอนเธอจนเธอก่อคดีขึ้นตรงกล่าวหลังจากนั้นเดือนตุลาคม 1908
เธอถูกส่งไปควบคุมตัวอย่างในโรงพยาบาลโรคจิต

หลังจากถูกควบคุมขังอยู่ 2 ปี จีนก็ได้ตายลง อย่างสยอดสยอง เธอบีบคอตัวเอง
ร้องโหยหวน น้ำลายฟูมปาก ด้วยมือทั้งสองที่สังหารเด็กของเธอเอง!

                                   
ข้อมูลจาก ต่วยตูนพิเศษ ฉบับที่ 324 เดือนกุมภาพันธ์ 2545 / Cammy@dek-d
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

nat2029

โหดซะจริง น่าจะโดนประหารไปเลย
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

oomaim

 scary scary โหดมาก....แต่มันเหมือนนิยายเลย
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
Post by Speed Boom Origin SBO