เพลงชาติไทย เพลงประจำชาตของชนชาติไทย อ่านแล้วได้ความรู้
ขอแนะนำเว็บเพลงชาติไทย เพลงประจำชาตของปวงชนชาวไทย อ่านแล้วได้ประโยชน์ เชิญติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับเพลงชาติไทย.comอ่านรายละเอียดอย่างครอบคลุมได้จากเนื้อหานี้ครับ สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมากล่าวเกี่ยวกับเว็บไซต์เพลงชาติไทย.com ที่รวมข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเพลงชาติไทย และประวัติศาสตร์เกี่ยวเพลงประเทศชาติ
เพลงประเทศไทยลำดับที่ 1 ในปี พ.ศ. 2414 - 2431 พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) เป็นผู้แต่งเนื้อร้อง และตั้งชื่อเพลงว่า "จอมราชจงเจริญ" ซึ่งเพลง "จอมราชจงเจริญ" ถือว่าเป็น เพลงประเทศชาติ ฉบับแรกของประเทศสยาม ซึ่งดัดแปลงเนื้อร้องของเพลง "ก็อด เซฟ เดอะ ควีน"
เพลงประเทศชาติลำดับที่ 2 (ช่วงเดียวกับลำดับที่ 1) ในยุค รัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา ในปี พ.ศ. 2414 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาส เมืองสิงคโปร์ ในขณะนั้นสิงคโปร์ยังเป็นเมืองขึ้น ของประเทศอังกฤษอยู่ กองทหารดุริยางค์ สิงคโปร์ บรรเลงเพลงกอดเสฟเดอะควีน เพื่อถวายความเคารพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงรับทราบดีว่าประเทศจำเป็น จะต้องมีเพลงชาติที่เป็นของตัวเองขึ้น เพื่อแสดงถึงความเป็นเอกราชของชาติครั้นเมื่อทรง เสด็จกลับถึงพระนคร จึงได้โปรดให้ตั้งคณะครูดนตรีไทยขึ้น เพื่อทรงปรึกษา หาเพลงชาต ิที่มีความเป็นไทย มาใช้แทนเพลงกอดเสฟเดอะควีน คณะครูดนตรีไทย ได้เลือก เพลงทรง พระสุบัน หรือเรียกอีกอย่างว่า เพลงบุหลันลอยเลื่อน ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 โดยนำมารีไรท์ใหม่ ให้มีความเป็น สากลขึ้น โดย เฮวุดเซน (Heutsen)
เพลงชาติไทย ฉบับที่ 3 ในช่วงปีพ.ศ.2431-2475 ได้กำเนิด เพลงประเทศชาติ ฉบับที่ 3 คือ เพลงสรรเสริญพระบารมีที่ใช้อยู่ ณ ยุคนี้ ซึ่งประพันธ์โดย ปโยตร์ สชูโรฟสกี้ (Pyotr Schurovsky) นักประพันธ์ชาวรัสเซีย คำร้องเป็นพระนิพนธ์ของสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
เพลงชาติลำดับที่ 3 นั้นเกิดขึ้นในรัชสมัย รัชกาลที่ 5 เช่นกัน โดยประพันธ์ทำนองโดย นักประพันธ์ชาวรัสเซีย ปโยตร์ สชูโรฟสกี้ (Pyotr Schurovsky) คำร้องเป็นบทพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ใช้บรรเลงเป็นเพลงชาติในระหว่าง ปี 2431 – 2475 ใช้มาเนิ่นนานเพราะมี ท่วงทำนองไพเราะ บทความสมบูรณ์ และทุกวันนี้ก็ใช้อยู่ในนามของ เพลงสรรเสริญพระบารมี
เพลงประเทศไทยลำดับที่ 4 ในปี พ.ศ. 2475 เพลงชาติไทย ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงต่อมาอีก ในช่วงปีพ.ศ.2475 เป็นฉบับที่ 4 ซึ่งใช้ "เพลงชาติมหาชัย" มาเป็นเพลงชาติ ในระหว่างที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองปีพ.ศ.2475 โดยได้อาศัยทำนองเพลงมหาชัย ด้านเนื้อร้อง ประพันธ์โดย เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เพื่อใช้ขับร้องและปลุกใจประชาชน ก่อให้เกิดความรักชาติและสร้างความสามัคคี ในขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยเนื้อ เพลงประเทศชาติ ในสมัยนั้น
เพลงประเทศชาติลำดับที่ 4 เกิดขึ้นภายภายหลังที่ชาติไทยได้มีการเปลี่ยนการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย (24 เดือนมิถุนายน 2475) แล้ว เพลงชาติลำดับนี้เป็นเพลงชาติชั่วคราว (เพราะว่ามีการเตรียมการโดยสังเขปที่จะสร้างเพลงชาติขึ้นมาใหม่ โดยสมาชิกของคณะผู้ก่อการท่านหนึ่งแต่งตั้งให้ พระเจนดุริยางค์ เป็น ผู้แต่ง แต่ยัง ไม่เสร็จ เลยต้องใช้ทำนองเพลงไทยเดิม คือเพลงมหาชัย ไปพลางก่อน) เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เสนาบดีกระทรวงธรรมการเป็นผู้ เรียบเรียงเนื้อร้อง ซึ่งมีบทความปลุกใจให้คนไทยเกิดความรักชาติ และเกิดความสามัคคี ตลอดจนให้เลื่อมใสในรัฐธรรมนูญ
พลงประเทศไทย ฉบับที่ 5 เกิดขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2475-2477 โดยผู้แต่งทำนอง เพลงประเทศไทย ฉบับนี้ คือพระเจนดุริยางค์ ส่วนเนื้อร้องประพันธ์โดย ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) โดยเนื้อร้องของ เพลงประเทศไทย สมัยนั้น
เพลงชาติไทยลำดับที่ 5 ประพันธ์ทำนองโดย พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร) เมื่อ วันที่ 4 กรกฎาคม 2475 และประพันธ์เนื้อร้องโดย ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) เล่นครั้งแรก ณ พระที่นั่งอนันตสมาคมเมื่อ วันที่ 7 กรกฎาคม 2475 แต่ก็ใช้อยู่เพียงระหว่าง ปี 2475 – 2477 โดยมีเนื้อร้องดังนี้ แผ่นดินสยามนามประเทืองว่าเมืองทอง ไทยเข้าครองตั้งประเทศเขตแดนสง่า สืบชาติไทยดึกดำบรรพ์โบราณลงมา ร่วมดูแลเอาใจใส่เอกราชชนประเทศไทย บางสมัยศัตรูจู่มารบ ไทยสมทบสวนทัพเข้าขับไล่ ตลุยเลือดหมายมุ่งผดุงไผท สยามสมัยบุราณรอดตลอดมา อันดินแดนสยามคือว่าเนื้อของชาติไทย น้ำรินไหลคือว่าเลือดของเชื้อข้า เอกราชคือกระดูกที่เราบูชา เราจะสามัคคีร่วมมีใจ ยึดพาวเวอร์กุมสิทธิ์อิสรเสรี ใครย่ำยีเราจะไม่ละให้ เอาเลือดล้างให้สิ้นแผ่นดินไทย สถาปนาสยามให้เชิดชัย ชโย
เพลงประเทศไทยลำดับที่ 6 ในปี พ.ศ. 2477 ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลง เพลงประเทศไทย เป็นฉบับที่ 6 กำเนิดขึ้นเมือปีพ.ศ.2477-2482 คือ เพลงชาติไทย ฉบับที่ 5 ของพระเจนดุริยางค์ แต่ได้เพิ่มคำร้องของนายฉัน ขำวิไล เข้าไปต่อจากคำร้องของขุนวิจิตรมาตรา เป็น เพลงประเทศไทย ที่เป็นฉบับของทาง "ราชการ" ฉบับแรก เนื้อเพลง
เพลงประเทศชาติลำดับที่ 6 นั้น สืบเนื่องมาจากการที่ในปีพุทธศักราช 2477 รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อไตร่ตรองเพลงชาติขึ้นคณะหนึ่ง โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์แต่ง ทรงเป็นประธาน และมีกรรมการท่านอื่นร่วมด้วยดังนี้คือ พระเรี่ยมวิรัชพากย์ พระเจนดุริยางค์ หลวงชำนาญนิติเกษตร จางวางทั่ว พาทยโกศล และนายมนตรี ตราโมท คณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่พิจารณาเกี่ยวกับเพลงชาติโดยเฉพาะ ผลการตัดสินปรากฎว่า มีเพลงชาติแบบไทย และแบบสากล อย่างละเพลงคือ แบบไทยเช่นเพลงชาติของจางวางทั่ว พาทยโกศลที่แต่งขึ้นจากเพลงไทยเดิมชิ่อว่า "ตระนิมิตร" ส่วนทางสากลได้แก่ เพลงของ พระเจนดุริยางค์ ที่แต่งไว้แล้ว ในเวลาภายหลังคณะกรรมการชุดนี้ ได้ไตร่ตรองว่า เพลงชาตินั้นควรจะมีลักษณะ ที่บ่งบอกถึงความศักดิ์สิทธิ์ ถ้ามีสองเพลงอาจทำให้ความศักดิ์สิทธิ์น้อยลง จึงร่วมกันพิจารณาใหม่ ในที่สุดตกลงว่าให้มีทางสากลเพลงเดียวคือ แบบทำนองสากลของพระเจนดุริยางค์ จึงได้จัดให้มีการประกวดบทร้องขึ้นใหม่ คณะกรรมการได้สรุปผลให้บทร้องของนายฉันท์ ขำวิไล และบทร้องของขุนวิจิตรมาตรา ได้รับเกียรติยศ และตัดสินให้บทร้องของขุนวิจิตรมาตราได้รับรางวัลชนะเลิศ บทร้องที่คณะกรรมการคัดกรองเพลงประเทศชาติมีดังนี้ บทของนายฉันท์ ขำวิไล เหล่าเราทั้งหลายขอน้อมกายถวายชีวิต ดูแลเอาใจใส่สิทธิ์อิสระ ณ แดนสยาม ที่พ่อแม่สู้ยอมม้วยด้วยพากเพียร ปราบเสี้ยนหนามให้พินาศสืบชาติมา แม้ถึงไทยไทยด้อยจนย่อยยับ ยังกู้กลับคงคืนได้ชื่นหน้า ควรแก่นามงามสุดอยุธยา
เพลงชาติไทยลำดับที่ 7 ในปี พ.ศ. 2482 ในปีพ.ศ.2482 ได้กำเนิด เพลงประเทศไทย ฉบับที่ 7 และเป็นฉบับที่ใช้มาถึงปัจจุบัน เนื่องมาจากเนื้อร้อง เพลงประเทศไทย ฉบับก่อนหน้านี้ยาวเกินไป ใช้เวลาเล่นถึง 3 นาที 52 วินาที จึงมีการจัดการประกวดเพลงประเทศชาติขึ้นมาใหม่ โดยใช้ทำนองเพลงชาติฉบับพระเจนดุริยางค์ (ฉบับที่ 5) เปลี่ยนเนื้อร้องใหม่ เรียบเรียงโดย พันเอกหลวงสารานุแต่ง (นวล ปาจิณพยัคฆ์) ซึ่งเป็นผู้ชนะการประกวด โดยได้ส่งประกวดในนามของกองทัพบก รัฐบาลจึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ใช้เพลงประเทศชาติฉบับดังกล่าว จนกระทั่งถึงสมัยนี้
เพลงประเทศไทยลำดับที่ 7 ในปี พ.ศ. 2482 ในปีพุทธศักราช 2482 มีการเปลี่ยนชื่อประเทศจากคำว

อ้างอิงจาก: เพลงชาติไทย.com
แท็ก: เพลงชาติไทย
หน้าหลัก: http://www.xn--72cg7ai5a2aq0ita7i3b.com
รายละเอียดสินค้า: https://www.facebook.com/plengchadthai
ติดต่อเรา: https://www.facebook.com/เพลงชาติไทย-443579979174299
ชื่อ: เพลงชาติไทย.com
ที่อยู่: ประเทศไทย
เบอร์โทรติดต่อ: ไม่ระบุ
อีเมล์: ไม่ระบุ
ขอแนะนำเว็บเพลงชาติไทย เพลงประจำชาตของปวงชนชาวไทย อ่านแล้วได้ประโยชน์ เชิญติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับเพลงชาติไทย.comอ่านรายละเอียดอย่างครอบคลุมได้จากเนื้อหานี้ครับ สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมากล่าวเกี่ยวกับเว็บไซต์เพลงชาติไทย.com ที่รวมข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเพลงชาติไทย และประวัติศาสตร์เกี่ยวเพลงประเทศชาติ
เพลงประเทศไทยลำดับที่ 1 ในปี พ.ศ. 2414 - 2431 พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) เป็นผู้แต่งเนื้อร้อง และตั้งชื่อเพลงว่า "จอมราชจงเจริญ" ซึ่งเพลง "จอมราชจงเจริญ" ถือว่าเป็น เพลงประเทศชาติ ฉบับแรกของประเทศสยาม ซึ่งดัดแปลงเนื้อร้องของเพลง "ก็อด เซฟ เดอะ ควีน"
เพลงประเทศชาติลำดับที่ 2 (ช่วงเดียวกับลำดับที่ 1) ในยุค รัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา ในปี พ.ศ. 2414 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาส เมืองสิงคโปร์ ในขณะนั้นสิงคโปร์ยังเป็นเมืองขึ้น ของประเทศอังกฤษอยู่ กองทหารดุริยางค์ สิงคโปร์ บรรเลงเพลงกอดเสฟเดอะควีน เพื่อถวายความเคารพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงรับทราบดีว่าประเทศจำเป็น จะต้องมีเพลงชาติที่เป็นของตัวเองขึ้น เพื่อแสดงถึงความเป็นเอกราชของชาติครั้นเมื่อทรง เสด็จกลับถึงพระนคร จึงได้โปรดให้ตั้งคณะครูดนตรีไทยขึ้น เพื่อทรงปรึกษา หาเพลงชาต ิที่มีความเป็นไทย มาใช้แทนเพลงกอดเสฟเดอะควีน คณะครูดนตรีไทย ได้เลือก เพลงทรง พระสุบัน หรือเรียกอีกอย่างว่า เพลงบุหลันลอยเลื่อน ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 โดยนำมารีไรท์ใหม่ ให้มีความเป็น สากลขึ้น โดย เฮวุดเซน (Heutsen)
เพลงชาติไทย ฉบับที่ 3 ในช่วงปีพ.ศ.2431-2475 ได้กำเนิด เพลงประเทศชาติ ฉบับที่ 3 คือ เพลงสรรเสริญพระบารมีที่ใช้อยู่ ณ ยุคนี้ ซึ่งประพันธ์โดย ปโยตร์ สชูโรฟสกี้ (Pyotr Schurovsky) นักประพันธ์ชาวรัสเซีย คำร้องเป็นพระนิพนธ์ของสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
เพลงชาติลำดับที่ 3 นั้นเกิดขึ้นในรัชสมัย รัชกาลที่ 5 เช่นกัน โดยประพันธ์ทำนองโดย นักประพันธ์ชาวรัสเซีย ปโยตร์ สชูโรฟสกี้ (Pyotr Schurovsky) คำร้องเป็นบทพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ใช้บรรเลงเป็นเพลงชาติในระหว่าง ปี 2431 – 2475 ใช้มาเนิ่นนานเพราะมี ท่วงทำนองไพเราะ บทความสมบูรณ์ และทุกวันนี้ก็ใช้อยู่ในนามของ เพลงสรรเสริญพระบารมี
เพลงประเทศไทยลำดับที่ 4 ในปี พ.ศ. 2475 เพลงชาติไทย ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงต่อมาอีก ในช่วงปีพ.ศ.2475 เป็นฉบับที่ 4 ซึ่งใช้ "เพลงชาติมหาชัย" มาเป็นเพลงชาติ ในระหว่างที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองปีพ.ศ.2475 โดยได้อาศัยทำนองเพลงมหาชัย ด้านเนื้อร้อง ประพันธ์โดย เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เพื่อใช้ขับร้องและปลุกใจประชาชน ก่อให้เกิดความรักชาติและสร้างความสามัคคี ในขณะที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยเนื้อ เพลงประเทศชาติ ในสมัยนั้น
เพลงประเทศชาติลำดับที่ 4 เกิดขึ้นภายภายหลังที่ชาติไทยได้มีการเปลี่ยนการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย (24 เดือนมิถุนายน 2475) แล้ว เพลงชาติลำดับนี้เป็นเพลงชาติชั่วคราว (เพราะว่ามีการเตรียมการโดยสังเขปที่จะสร้างเพลงชาติขึ้นมาใหม่ โดยสมาชิกของคณะผู้ก่อการท่านหนึ่งแต่งตั้งให้ พระเจนดุริยางค์ เป็น ผู้แต่ง แต่ยัง ไม่เสร็จ เลยต้องใช้ทำนองเพลงไทยเดิม คือเพลงมหาชัย ไปพลางก่อน) เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เสนาบดีกระทรวงธรรมการเป็นผู้ เรียบเรียงเนื้อร้อง ซึ่งมีบทความปลุกใจให้คนไทยเกิดความรักชาติ และเกิดความสามัคคี ตลอดจนให้เลื่อมใสในรัฐธรรมนูญ
พลงประเทศไทย ฉบับที่ 5 เกิดขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2475-2477 โดยผู้แต่งทำนอง เพลงประเทศไทย ฉบับนี้ คือพระเจนดุริยางค์ ส่วนเนื้อร้องประพันธ์โดย ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) โดยเนื้อร้องของ เพลงประเทศไทย สมัยนั้น
เพลงชาติไทยลำดับที่ 5 ประพันธ์ทำนองโดย พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร) เมื่อ วันที่ 4 กรกฎาคม 2475 และประพันธ์เนื้อร้องโดย ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) เล่นครั้งแรก ณ พระที่นั่งอนันตสมาคมเมื่อ วันที่ 7 กรกฎาคม 2475 แต่ก็ใช้อยู่เพียงระหว่าง ปี 2475 – 2477 โดยมีเนื้อร้องดังนี้ แผ่นดินสยามนามประเทืองว่าเมืองทอง ไทยเข้าครองตั้งประเทศเขตแดนสง่า สืบชาติไทยดึกดำบรรพ์โบราณลงมา ร่วมดูแลเอาใจใส่เอกราชชนประเทศไทย บางสมัยศัตรูจู่มารบ ไทยสมทบสวนทัพเข้าขับไล่ ตลุยเลือดหมายมุ่งผดุงไผท สยามสมัยบุราณรอดตลอดมา อันดินแดนสยามคือว่าเนื้อของชาติไทย น้ำรินไหลคือว่าเลือดของเชื้อข้า เอกราชคือกระดูกที่เราบูชา เราจะสามัคคีร่วมมีใจ ยึดพาวเวอร์กุมสิทธิ์อิสรเสรี ใครย่ำยีเราจะไม่ละให้ เอาเลือดล้างให้สิ้นแผ่นดินไทย สถาปนาสยามให้เชิดชัย ชโย
เพลงประเทศไทยลำดับที่ 6 ในปี พ.ศ. 2477 ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลง เพลงประเทศไทย เป็นฉบับที่ 6 กำเนิดขึ้นเมือปีพ.ศ.2477-2482 คือ เพลงชาติไทย ฉบับที่ 5 ของพระเจนดุริยางค์ แต่ได้เพิ่มคำร้องของนายฉัน ขำวิไล เข้าไปต่อจากคำร้องของขุนวิจิตรมาตรา เป็น เพลงประเทศไทย ที่เป็นฉบับของทาง "ราชการ" ฉบับแรก เนื้อเพลง
เพลงประเทศชาติลำดับที่ 6 นั้น สืบเนื่องมาจากการที่ในปีพุทธศักราช 2477 รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อไตร่ตรองเพลงชาติขึ้นคณะหนึ่ง โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์แต่ง ทรงเป็นประธาน และมีกรรมการท่านอื่นร่วมด้วยดังนี้คือ พระเรี่ยมวิรัชพากย์ พระเจนดุริยางค์ หลวงชำนาญนิติเกษตร จางวางทั่ว พาทยโกศล และนายมนตรี ตราโมท คณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่พิจารณาเกี่ยวกับเพลงชาติโดยเฉพาะ ผลการตัดสินปรากฎว่า มีเพลงชาติแบบไทย และแบบสากล อย่างละเพลงคือ แบบไทยเช่นเพลงชาติของจางวางทั่ว พาทยโกศลที่แต่งขึ้นจากเพลงไทยเดิมชิ่อว่า "ตระนิมิตร" ส่วนทางสากลได้แก่ เพลงของ พระเจนดุริยางค์ ที่แต่งไว้แล้ว ในเวลาภายหลังคณะกรรมการชุดนี้ ได้ไตร่ตรองว่า เพลงชาตินั้นควรจะมีลักษณะ ที่บ่งบอกถึงความศักดิ์สิทธิ์ ถ้ามีสองเพลงอาจทำให้ความศักดิ์สิทธิ์น้อยลง จึงร่วมกันพิจารณาใหม่ ในที่สุดตกลงว่าให้มีทางสากลเพลงเดียวคือ แบบทำนองสากลของพระเจนดุริยางค์ จึงได้จัดให้มีการประกวดบทร้องขึ้นใหม่ คณะกรรมการได้สรุปผลให้บทร้องของนายฉันท์ ขำวิไล และบทร้องของขุนวิจิตรมาตรา ได้รับเกียรติยศ และตัดสินให้บทร้องของขุนวิจิตรมาตราได้รับรางวัลชนะเลิศ บทร้องที่คณะกรรมการคัดกรองเพลงประเทศชาติมีดังนี้ บทของนายฉันท์ ขำวิไล เหล่าเราทั้งหลายขอน้อมกายถวายชีวิต ดูแลเอาใจใส่สิทธิ์อิสระ ณ แดนสยาม ที่พ่อแม่สู้ยอมม้วยด้วยพากเพียร ปราบเสี้ยนหนามให้พินาศสืบชาติมา แม้ถึงไทยไทยด้อยจนย่อยยับ ยังกู้กลับคงคืนได้ชื่นหน้า ควรแก่นามงามสุดอยุธยา
เพลงชาติไทยลำดับที่ 7 ในปี พ.ศ. 2482 ในปีพ.ศ.2482 ได้กำเนิด เพลงประเทศไทย ฉบับที่ 7 และเป็นฉบับที่ใช้มาถึงปัจจุบัน เนื่องมาจากเนื้อร้อง เพลงประเทศไทย ฉบับก่อนหน้านี้ยาวเกินไป ใช้เวลาเล่นถึง 3 นาที 52 วินาที จึงมีการจัดการประกวดเพลงประเทศชาติขึ้นมาใหม่ โดยใช้ทำนองเพลงชาติฉบับพระเจนดุริยางค์ (ฉบับที่ 5) เปลี่ยนเนื้อร้องใหม่ เรียบเรียงโดย พันเอกหลวงสารานุแต่ง (นวล ปาจิณพยัคฆ์) ซึ่งเป็นผู้ชนะการประกวด โดยได้ส่งประกวดในนามของกองทัพบก รัฐบาลจึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ใช้เพลงประเทศชาติฉบับดังกล่าว จนกระทั่งถึงสมัยนี้
เพลงประเทศไทยลำดับที่ 7 ในปี พ.ศ. 2482 ในปีพุทธศักราช 2482 มีการเปลี่ยนชื่อประเทศจากคำว
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

รูปภาพที่เกี่ยวข้องเพลงชาติไทย เพลงประจำชาตของชนชาติไทย อ่านแล้วได้ความรู้
เพลงชาติไทย เพลงประจำชาตของปวงชนชาวไทย อ่านแล้วได้ประโยชน์อ้างอิงจาก: เพลงชาติไทย.com
แท็ก: เพลงชาติไทย
อ้างจาก: เพลงชาติไทย.comเพลงชาติไทย เพลงประจำชาตของชนชาติไทย อ่านแล้วได้ความรู้หมวดหมู่: เพลงชาติไทย
หน้าหลัก: http://www.xn--72cg7ai5a2aq0ita7i3b.com
รายละเอียดสินค้า: https://www.facebook.com/plengchadthai
ติดต่อเรา: https://www.facebook.com/เพลงชาติไทย-443579979174299
ชื่อ: เพลงชาติไทย.com
ที่อยู่: ประเทศไทย
เบอร์โทรติดต่อ: ไม่ระบุ
อีเมล์: ไม่ระบุ