ผ้าอ้อมสำเร็จรูป.มาทำความรู้จักกับผ้าอ้อมสำเร็จรูปกัน

[Loriehammond]

ผ้าอ้อมสำเร็จรูปมาทำความรู้จักกับผ้าอ้อมสำเร็จรูปกัน
ผ้าอ้อมสำเร็จรูปหรือแพมเพอร์สที่เราเรียกชื่อติดปากกันนั้นถือกำเนิดเมื่อปีค.ศ. 1946 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยต้นคิดการคิดค้นครั้งนี้มีขึ้นเพราะนางมาเรียน โดโนแวน แม่บ้านท่านหนึ่งได้นำผ้าม่านพลาสติกในห้องน้ำมาตัดเป็นแผ่นห่อผ้าอ้อมชนิดผ้าอีกครั้งหนึ่งในเรื่องของการทำให้ผ้าอ้อมแนบกับตัวเด็กเขาใช้การติดกระดุมช่วยรั้งผ้าให้เข้ากับตัวเด็ก โดยนางแมเรียนได้ดำเนินการจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับผ้าอ้อมสำเร็จรูป ที่เธอได้สร้างขึ้นนี้ด้วยกันถึง 4 ฉบับ เขาตั้งชื่อสิ่งสร้างนี้ว่า "Boater" (โบ๊ทเตอร์)
ต่อมาในช่วงทศวรรษที่ 50 นายวิคส์ มิลล์ ผู้ที่ทำงานที่บริษัทพร็อคเตอร์แอนด์แกรมเบิล ได้มองเห็นช่องทางการตลาดจึงได้ทำการปรับปรุงผ้าอ้อมสำเร็จรูปขึ้นมาพร้อมๆกับการเจริญเติบโตของผ้าอนามัย โดยเขาใช้กระดาษชำระหลายแผ่นเป็นตัวดูดซับของเหลว จนทำให้ออกสินค้าผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้กับท้องตลาดได้ในที่สุด ผ้าอ้อมสำเร็จรูปประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้รับการตอบรับอย่าง ล้นหลามแต่ว่าข้อจำกัดได้แก่มันยังคงกระจายสินค้าเพียงแค่ที่ยุโรปและสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
ช่วงทศวรรษที่ 60 มีการพัฒนาตัวดูดซับของเหลวจากที่เคยใช้กระดาษชำระเป็นวัสดุดูดซับก็เปลี่ยนแปรงมาเป็นเศษเยื่อไม้ที่ใช้ที่อุตสาหกรรมผ้าอนามัย ซึ่ง ผ้าอ้อมในสมัยนั้นยังมีการใช้งานที่ไม่สะดวกเท่าไหร่สำหรับตัวผ้าอ้อมยังไม่มีการใส่ตัวแถบกาวเพื่อยึดตัวกับผ้าอ้อมสำเร็จรูปเข้าด้วยกัน
ทศวรรษที่ 70 บริษัทที่ผลิตสินค้าอุปโภคในครัวเรือนหลายโรงงานเริ่มเข้ามาลงทุนในการ ผลิตผ้าอ้อมสำเร็จรูป กันมากขึ้น  โดยบริษัทพร็อคเตอร์แอนด์แกรมเบิ้ลผู้ผลิตรายแรกเริ่มมีคู่แข่งธุรกิจเข้ามา ได้แก่โรงงานคิมเบอร์ลี่ คลาร์กสและบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ด้วยความที่มีการแข่งขันในธุรกิจสูงหรือเป็นที่จับตาของบุคคลที่เกือบทุกวงการไม่เว้นแม้แต่วงการแพทย์ โดยแพทย์ระบุ ว่า การที่เด็กสวมใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีขนาดใหญ่เกินไป จะส่งผลเสียต่อรูปกระดูก คือ  กระดูกระหว่างขาทั้ง 2 ขา อาจเกิดอาการโก่งงอได้
ทศวรรษที่ 80 ได้มี การพัฒนารูปแบบของผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้รองรับกับรูปร่างของเด็กๆ โดยเปลี่ยนรูปแบบผ้าอ้อมสำเร็จรูปจากที่เคยเป็นลักษณะผืนสี่เหลี่ยมให้มีส่วนคอดช่วงกลาง แล้วยังมีการนำยางยืดเข้ามาเสริมส่วนขาเพื่อให้เด็กสวมใส่แล้วรู้สึกสบายไม่อึดอัด ต่อมายางยืดตัวนี้ได้นำมาใช้กับบริเวณส่วนเอวของตัวผ้าอ้อมสำเร็จรูปด้วย
ช่วงทศวรรษนี้เป็นช่วงที่ผู้ผลิตได้นำสารดูดซับพิเศษที่ชื่อว่า โซเดียวโพลิอะคริลิค เข้ามาใช้ในการช่วยผ้าอ้อมสำเร็จรูปดูดซับของเหลว ได้ดีมากขึ้น  ผลจากการใช้สารดูดซับตัวนี้ทำให้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปมีน้ำหนักน้อยลง เกิดความคล่องตัวในเด็กที่สวมใส่มากขึ้น



Tags : ผ้าอ้อมเด็กพรีเมี่ยม