Richard Chase แวมไพร์แห่งซาคราเมนโต

Richard Chase แวมไพร์แห่งซาคราเมนโต

เริ่มโดย etatae333, 17 มีนาคม 2017, 11:42:22

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

Richard Chase แวมไพร์แห่งซาคราเมนโต
(The Vampire of Sacramento,The Dracula Killer หรือ The Vampire Killer )
credit :: cammy@dek-d.com




เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงของฆาตกรนาม ริชาร์ด เชส เจ้าของฉายา แวมไพร์แห่งซาคราเมนโต ถือได้ว่าเป็นฆาตกร
ที่น่าขนลุกและน่ากลัวคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ฆาตกรที่มีมาเลยก็ว่าได้ ที่น่าขนลุกไม่ว่าจะเป็นวีรกรรมไปจนถึงรูปร่างหน้าตา
นักวิเคราะห์อาชญากรเคยบรรยายรูปร่างของเขาว่า


"เขาเป็นชายผิวขาว อายุ 25-27 ผอม สารรูปเหมือนคนขาดสารอาหาร ที่พักรกรุงรัง ตาลึกโบ๋ ใส่เสื้อสกปรก
รอยปากแตกเป็นสะเก็ต มีประวัติเคยป่วยทางจิต  เสพยา ไม่สมาคมกับใคร ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน
อยู่ตามลำพัง ไม่มีงานทำ...."

ทั้งหมดดังกล่าวข้างตนคือคำนิยามของริชาร์ด เชส

ปี 1976 เป็นต้นมาเกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องขึ้น ทั้งหมดเป็นฝีมือของริช เหยื่อของเขาทั้งหลายเมื่อฆ่าและเขามักจะดูดเลือด
ไม่ก็เอากลับมาที่บ้านเพื่อทำน้ำอวัยวะปั่น เหยื่อของเขาส่วนมากเขาจะเลือกฆ่าแถวย่านซาคราเมนโตเป็นหลัก จนเขาได้รับ
สมญานามว่า "แวมไพร์แห่งซาคราเมนโต"


 

ริชาร์ด เชส (Richard Chase)



ริช หรือ ริชาร์ด เชส มีชื่อเต็มๆ ว่า ริชาร์ด เทรนตัน เชส เป็นคนอเมริกัน ลืมตาบนโลกเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1950
มีพี่สาวอายุแก่กว่าเขา 4 ปี พ่อเป็นคนเคร่งครัดกฎระเบียบ


ตั้งแต่เกิดริชนั้นเป็นเด็กไม่ค่อยปกติ เป็นคนที่ชอบเรื่องราวที่แปลกๆ ผิดจากคนทั่วไป  คือเป็นคนที่พิสมัยในเรื่องของไฟ
และการวางเพลิง จนใครๆ ต่างไม่ชอบหน้า กาหัวเขาว่าเป็นเด็กอันตราย ไปไหนใครๆ ก็ต่างร้องยี้ ทำให้ริชมักจะโดนพ่อแม่
ลงโทษประจำ นอกจากนี้ริชยังเป็นคนรักสัตว์มากๆ จนคิดว่ามันสามารถมาแทนที่มนุษย์ได้ในหลายๆ อย่าง วันๆ หนังริช
มักอยู่ขลุกกับสัตว์เป็นประจำ สัตว์ของริชเป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งคนรัก เวลาริชนอนมันต้องนอนกลับเขาด้วยราวกับมันเป็น
เพื่อนรักคนหนึ่ง

พอริชอายุ 10 ปี นิสัยสันดานสัตว์ของริชยิ่งมากขึ้น เขาชื่นชอบในการเล่นแผลงๆ สร้างความเดือดร้อนให้พ่อแม่เป็นประจำ
ซึ่งพ่อกับแม่ของเขาก็จะลงโทษอย่างหนักด้วยการถูกแตะทั้งต่อย ถูกแส้เฆี่ยนดี พร้อมคำดุด่าอย่างบ้าคลั่งจากปากของพ่อแม่
ที่ราวกับเห็นลูกตัวเองเป็นขยะพร้อมทิ้งลงหลุม ริชเกลียดและกลัวแม่มาก เพราะแม่ชอบทำโทษริช โดยด้วยความกลัว ความทุกข์
ความทรมานส่งผลให้ริชกลายเป็นเด็กที่วิตกจริตได้ง่าย ฉี่รดที่นอนบ่อย ทุกครั้งที่ผ้าปูที่นอนเปียกฉี่นั้น ริชรู้ตัวดีว่าต้องรับบท
ลงโทษจากแม่แน่ๆ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ประจำที่เขาหลีกเลี่ยงไม่ได้

ผลจากความกดดันการได้รับการลงโทษจากแม่ที่ไม่เห็นคุณค่าของตัวเขา ทำให้ริชกลายเป็นเด็กที่หันไปหาทางออกโดยวิธีอื่นๆ
อย่างน้อยก็เพื่อให้ลืมๆ เรื่องเฮงซวย ระหว่างเขากับแม่ วิธีอะไรก็ได้ขอให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพอะไรก็ได้ เด็กน้อยแก้ปัญหานี้
โดยใช้ยาเสพย์ติด....เหล้าเครื่องดื่มมึนเมาต่างๆ และสารพัดยาเสพย์ติดกลายเป็นเพื่อน และมิตรของริชอย่างรวดเร็ว นี้แหละ
จินตนาการที่สัมผัสได้มากกว่าครอบครัวเสียอีก

ด้วยปัญหาจิตใจของริชรุมเร้ามากมายในขณะที่เขาเป็นวัยรุ่น ส่งผลให้ริชกลายเป็นคนมีปัญญาเรื่องเพศคืออวัยวะเพศไม่สามารถ
แข็งตัวได้ในสภาวะปกติ แพทย์ให้การวิเคราะห์อาการแบบนี้ว่า เกิดเพราะเขาสะสมความโกรธในจิตใจมากเกินไปจนกลายเป็น
ความกดดัน

 
หลังริชติดยา ทำให้เขาเกิดอาการโรคจิต อุปทานเกินเหตุ เขาคิดว่าตัวเองเป็นโรคที่มีความบกพร่องอย่างโน้นอย่างนี้มากมายไปหมด
สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้ริชกลายเป็นคนมีปัญหาต่อสังคมยิ่งขึ้น ใครๆ ก็ไม่อยากคบสมาคมเพราะเบื่อระอากับความหวาดระแวงเกินเหตุของริช
บ่อยครั้งที่ริชมักบ่นให้คืนอื่นว่าหัวใจเขาจะหยุดเต้น นอกจากเรื่องหัวใจหยุดเต้นแล้ว ริชมักพูดเรื่องการที่ถูกคนอื่นขโมยเส้นเลือด
ที่เชื่อมปอดของเขาด้วย แม้เรื่องแต่ละเรื่องที่ริชพูดออกจะเวอร์ๆ พิสดาร 


นอกจากนี้เวลาที่คนอื่นพบเห็นริซ ปรากฏตัวในภาพหนุ่มบ้าๆ บอๆ บนที่ศีรษะมีผลส้มวางอยู่อย่างน่าขัน เขาให้เหตุผลแบบบ้าๆ บอๆ
เกี่ยวกับแบบนี้ว่า สมองของเขาขาดวิตามินซี เลยคิดว่าการวางส้มบนหัวอาจช่วยไว้ได้ เพราะวิธีนี้จะช่วยให้สารในส้มผ่านเข้าไปสู่สมอง
ได้ดีกว่าวิธีอื่นๆ ริชคิดอยู่เสมอ ตลอดเวลาเลยแหละว่าแม่ของเขาเกลียดเขา เลยหาทางกำจัดเขา โดยการวางยาพิษให้เขาตายจากโลกใบนี้
และเพื่อให้พ้นอันตรายจากแม่ มีวิธีเดียวคือ เขาต้องหนีออกจากบ้าน อาศัยอยู่อพาร์ตเมนต์ของเพื่อนแบบไม่มีที่ไป

นับวันริชก็มีอาการจิตประสาทบ้ามากขึ้น ากริชหาไม้กระดานมาปิดตตายประตูห้องนอนของเขาเองทันที เขาให้เหตุผลที่ทำแบบนี้ว่า
"กลัวคนอื่นแอบไปฆ่าเขา"



จากนั้นต่อมา ริชก็เจาะกำแพงตู้เสื้อผ้า เพื่อทำเป็นช่องทางหลบหนีเพื่อตัวเขาเองเสร็จสรรพ เผื่อว่าถ้ามีเหตุการณ์อะไรไม่ชอบมาพากล
เขาก็สามารถอาศัยเส้นทางนั้นหนีออกมาข้างนอกได้ ต่อมาริชเริ่มต้นฆ่าสัตว์ต่างๆ มากมายหลายชนิด โดยนำสัตว์เล็กๆ ไปจนสัตว์โตๆ
จำพวก หนู หมา ไก่ เข้ามาฆ่าในอพาร์ตเม้นต์เขา การฆ่าส่วนใหญ่ริชจะทำการชำแหละและหิ้วอวัยวะต่างๆ ทำเหมือนผ่าตัดควักอวัยวะ
ออกมา จากนั้นก็นำมากินเลือด (โดยทำเป็นเครื่องดื่มสูตรพิเศษเอาเลือดกับอวัยวะมาปั่นรวม) ซึ่งเขาเชื่อว่าวิธีนี้จะสามารถแก้อาการขาดเลือด
และไม่ให้หัวใจของเขาลดขนาดลงได้

ไม่มีรายงานแน่ชัดว่าริชฆ่าสัตว์ไปมากเพียงใด แต่ด้วยพฤติกรรมการเสพเลือดและอวัยวะสัตว์ต่างๆ ของริช ทำให้เกิดปัญหาขึ้นต่างๆ
ต่อมา เนื่องด้วยเลือดสดๆ ของสัตว์นั้นมีทั้งพยาธิและพิษนานาชนิด ซึ่งเวลาต่อมาเมื่อพิษเหล่านั้นสะสมจนทำให้ร่างกายของริชป่วย
จนต้องถูกส่งตังไปโรงพยาบาลในเวลาต่อมา


ปี ค.ศ. 1975 ริชเกิดอาการเลือดเป็นพิษเนื่องจากฉีดเลือดกระต่ายเข้าไปในเส้นเลือด เลือดเป็นพิษ ริชหมดสติและถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล
หลังจากอยู่ในโรงพยาบาลไม่กี่วัน ริชก็แข็งแรงพอที่จะเผ่นหนี และมุ่งหน้าไปบ้านแม่เขาทันที แต่ไม่นานก็ถูกลาก กลับที่สถานบันวิเคราะห์ทางจิต
เนื่องจากเป็นไปได้ว่าริชมีอาการผิดปกติทางจิต อาจทำอันตรายต่อคนอื่นได้ ต้องรักษาเยียวยาทันที

การรักษาริชนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีการติดตามผลเป็นระยะ แม้ในระหว่างการรักษาริชก็มักจะทำพฤติกรรมน่าขนลุกให้แก่เจ้าหน้าที่
สถาบันให้เห็นบ่อยๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งริชหายตัวไป ก่อนที่จะกลับมาที่พักพร้อมเลือดเต็มปาก เขาบอกว่าเป็นเลือดนก 2 ตัว เขาฆ่าเพราะ
อยากจะกินเลือดมัน..........




ปี ค.ศ. 1976 ริชได้รับการปล่อยตัวจากสถาบันแต่มีเงื่อนไขต้องให้รับการดูแลจากผู้ปกครอง หน้าที่นี้จึงตกมาที่แม่ที่ต้องทำการ
ดูแลลูกชายวัย 26 ปี โดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง อย่างไรก็ตาม แม่ของริชไม่ได้ดูแลลูกชายของเธออย่างใกล้ชิดเลย ซ้ำยังปล่อยให้เขา
อาศัยอยู่คนเดียวที่อพาร์ตเมนต์ โดยแม่เป็นคนจ่ายค่าเช่าและเอาของกินของใช้ไปให้ด้วย

กลางปี ค.ศ.1977 ริชขับรถกระบะเข้าไปในเขตป่าสงวนทะเลสาบทาโฮ ซึ่งต้องขับผ่านด่าน เจ้าหน้าที่ชาวอินเดียแดงเข้ามาตรวจ
รถกระบะของริช พบว่าเสื้อที่เขาสวมใส่นั้นชุ่มไปด้วยเลือด และพบปืนในกระบะรถรวมทั้งถังขนาดใหญ่ใส่เสื้อไว้เต็ม แต่เจ้าหน้าที่
คิดว่าเป็นเลือดของสัตว์มากกว่าเลือดคนจริงปล่อยริชไปโดยไม่ตั้งข้อหาใดๆ


ไม่รู้ว่าริชมีปืนได้อย่างไร แต่เมื่อคนบ้ามีปืน คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ที่สยดสยองฝีมือของแวมไพร์แห่งซาคราเมนโตก็เริ่มต้นขึ้น
29 ธันวาคม ค.ศ. 1979 อีกไม่กี่วันจะถึงปีใหม่ แอมโบรส กรีฟฟิน วิศวกรวัย 51 ปี คุณพ่อลูกสองกำลังเดินอยู่ๆ ดี
ริชก็โผล่พรวดมาใช้ปืนยิงแบบไม่นับ กระสุนเจาะร่างแอมโบรสถึงแก่ความตายคาที่ ส่วนมือปืนริสหลังยิงเสร็จก็หนีไปไกล


ริชสารภาพกับตำรวจภายหลังว่า วันที่เขาฆ่าคนรายแรกนั้น เขาขับรถไปเรื่อยๆ และเหนี่ยวไกยิงเหยื่อโดยไม่มีการวางแผลล่วงหน้า
แบบว่าอยากเจอใครก็จะยิง พอดีแอมโบรสอยู่ในวิถีกระสุนเขาเท่านั้นเอง

ไม่กี่วันหลังฆ่าแอมโบรส วันที่ 23 มกราคม 1978 ริชมาปรากฏกายที่บ้านของเทเรซ่า หญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ บุกเข้าไป
จากนั้นก็ยิงเทเรซ่าด้วยปืนในระยะเผาขน 3 นัดซ้อน เธอตายคาที่และมีเซ็กซ์กับศพอย่างเมามันจนสำเร็จความใคร่ ต่อมาศพของเธอ
ก็ถูกพบโดยผู้เป็นสามี เธอเสียชีวิตในห้องนอน ศพถูกชำแหละ เนื้อเยื่อหายไปหลายชิ้น ข้างศพเป็นกล่องโยเกิร์ตเปล่า มีคราบเลือด
อยู่ภายใน บ่ชี้ว่าฆาตกรน่าจะใช้มันแทนแก้วดื่มเลือดผู้ตาย

 

เหยื่อฆ่ายกครัวที่โหดสุดของริชาร์ด



27 มกราคม 1978 ริชทำการบุกเดียวเข้าไปในบ้านของเอเวอร์ลีน มิรอธ สาวใหญ่วัย 38 ด้วยความเหี้ยมเกรียมพร้อมฆ่าทุกคน
ที่พบหน้าเขาเช่นเคย คนแรกที่ริชพบคือ ดอน เมรดิธ เพื่อนบ้านของเอเวอร์ลีน ครั้งแรกที่พบดอน ริชไม่รอช้า จัดการเขาด้วยการ
สาดกระสุน ดอนตายคาที่ ริชคว้ากระเป๋าเงินและพวงกุญแจรถของดอนติดมือไปด้วยจากนั้นก็ตะลุยเข้าไปในบ้านของเอเวอร์ลีน
อย่างรวดเร็วจนคนในบ้านตั้งตัวไม่ติด สาวใหญ่ตกใจกับฆาตกรโหดตรงหน้า ริชไม่รอช้ากระหน่ำยิงเอเวอร์ลีนตายคาที่
พร้อมหันปากกระบอกปืนยิงใส่เด็กชายเจสัน มิรอธ วัย 6 ขวบอย่างไร้เมตตา


จากนั้นริชเดินตุ่มๆ สำรวจบ้านเพื่อหายังมีคนอื่นอยู่หรือไม่ ริชพบเด็กวัย 22 เดือน หนูน้อยเดวิด หลานชายของเอเวอร์ลีน
เขายิงใส่เด็กทารกแบบเหี้ยม เด็กน้อยแนบนิ่งไป จากนั้นริชก็กำทำการย่ำยีศพเอเวอร์ลีนท่ามกลางกองเลือด ร่วมเพศพร้อมกับ
กินเลือดกินเนื้อศพไปด้วย

หากแต่เวลานั้นพอดี เด็กสาววัย 6 ขวบ ที่เป็นเพื่อนบ้านและเป็นเพื่อนเล่นกับเจสัน ก็เปิดประตูบ้านเข้ามาเพื่อชวนเจสัน
ไปเล่นเช่นเคย แต่ตอนนั้นเด็กสาวยังไม่รู้ว่าเพื่อนชายของเธอกลายเป็นศพในบ้านแล้ว

เมื่อเปิดประตูเข้ามาเด็กสาวเห็นฆาตกรพอดี  ริชตกใจไม่น้อย เขารีบนออกจากที่เกิดเหตุด้วยรถสเตชั่น แวกอน ของ ดอน เมรดิธ

กว่าตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ไม่เห็นหัวริชแล้ว แต่สิ่งที่มันทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุมีเพียบ มีทั้งรอยนิ้วมือเปื้อนเลือดจำนวนมาก
รอยเท้าที่ย่ำไปมาบนพื้นทั่วกองเลือดของเอเวอร์ลีน ที่สภาพศพบ่งบอกถึงการย่ำยีของฆาตกรโหดอย่างเมามัน

เมื่อริชกลับมาที่บ้าน เขารีบดื่มเลือดของเดวิดวัย 22 เดือน อย่างมีความสุข พร้อมกับนำเลือดและอวัยวะภายในของหนูน้อย
ไปปั่นเป็นเครื่องดื่มสูตรพิเศษ อย่างไรก็ตาม การลงมือในคดีสุดท้ายถือเป็นจุดดับของริชอย่างยิ่ง เพราะคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ
สั่นประสาทมาก ประชาชนด่าตำรวจไม่มีชิ้นดี เอ็งปล่อยฆาตกรมาลอยนวลฆ่าคนแหลกได้ฟ่ะ ตำรวจเร่งการสืบหาตัวฆาตกร
ตำรวจกว่า 65 นาย เข้ามาการสืบสวนหาฆาตกรรายนี้อย่างเร่งด่วนก่อนที่มันจะไปฆ่าใครอีก จนในที่สุดตำรวจพบรถของดอน
มันจอดอยู่ที่ไม่ไกลกว่าที่เกิดเหตุมากนัก


ส่วนรายนิ้วมือที่ฆาตกรนั้นทิ้งไว้ กลายเป็นเบาะแสการจับกุม ริชาร์ด เชส



ริชาร์ด เชส ไปไหนไม่รอด ริชโดนตำรวจรวบตัวเขาตอนออกจากหอพักพร้อมกล่องใบหนึ่ง ตำรวจยึดกล่องใบนั้นไว้พบผ้าขี้ริ้วเปื้อนเลือด
จากการค้นตัวของริชพบปืนรีเวอร์วอลเวอร์ .22 กระเป๋าใส่ธนบัตรของดอน ส่วนรถปิกอัพของเชสจอดอยู่ใกล้ที่พัก ในรถสภาพแย่มาก
ในรถรกไปด้วยหนังสือพิมพ์ ผ้าขี้ริ้ว กระป๋องเบียร์ กล่องนมเปล่า นอกจากนี้พบมีดแล่เนื้อยาว 12 นิ้ว รองเท้าบู๊ตติดคราบเลือดอีกคู่
จากนั้นตำรวจทำการบุกค้นห้องพักในอพาร์ตเมนต์ สภาพภายในห้องรกมาก ตำรวจพบอาหารคลุกเลือด 3 อย่าง เสื้อสกปรกเต็มไปด้วย
คราบเลือดแห้งกรัง หนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวคดีแรกที่ริชฆ่า เครื่องปั่นมรณะ ที่ใช้ปั่นเลือดและอวัยวะภายในเหยื่อ ชิ้นส่วนมนุษย์ที่ใส่ไว้
ที่จานหลายใบในตู้เย็น ใบหนึ่งเป็นเยื่อสมอง




ริชถูกส่งฟ้องศาลในข้อหาฆ่าคนตาย 6 คน แน่นอนว่าทนายของริชพยายามสู้คดีโดยเน้นไม่ให้ริชต้องโทษประหาร โดยพยายาม
อ้างเรื่องประวัติการบำบัดทางจิตของริชซึ่งคิดว่าเขาน่าจะมีความผิดเพียงแค่จำคุกตลอดชีวิตเท่านั้น

ท้ายสุด วันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1979 ศาลซาคราเมนโตมีคำตัดสินให้ริชาร์ด เทรนตัน เชส  มีความผิดฐานฆ่าคน 6 จริง
ส่งผลให้มีประหารชีวิตให้ตายไปจากโลกซะด้วยการ "รมแก๊สพิษ" ระหว่างที่รอการประหารช่วงเวลานั้นริชให้สัมภาษณ์กับนักข่าว
หนังสือพิมพ์หลายฉบับโดยสิ่งหนึ่งเขามักอ้างมาตลอดว่า ที่เขาฆ่าคนเพราะความกลัวพวกนาซีกับยูเอฟโอ ดังนั้นคนที่ความถูกลงโทษ
ควรเป็นพวกนั้น (นาซีกับยูเอฟโอ) ไม่ใช้มาลงโทษแต่เขาคนเดียว

ระหว่างการรอประหาร ริชมีอาการกระวนกระวายใจมาก ทำให้เกิดความเครียดนอนไม่หลับ แพทย์ต้องเข้ามาดูอาการ
และจ่ายยาเพื่อแก้ความเครียด วันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 1980 ผู้คุมเดินเข้ามาตรวจห้องขังของริช และพบว่า ริช นั้นไม่หายใจแล้ว
สาเหตุการตายเกิดจากการกินยาเกินขนาด โดยริชแอบสะสมยานอนหลับเพื่อมากินคราวเดียว ให้ตายเพื่อหลีกหนีความผิด
ในการเข้าห้องรมแก๊ส ถือได้เป็นการหยุดชีวิตแวมไพร์แห่งซาคราเมนโต ไว้ที่ 30 ปี 7 เดือน 3 วัน



friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่