การทำบุญแบบคนไม่มีเวลา

การทำบุญแบบคนไม่มีเวลา

เริ่มโดย sonor, 15 กันยายน 2009, 06:55:49

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

sonor

ทำบุญง่ายๆ ตามภาษาคน ( ไม่ค่อย ) มีเวลา
พูด ถึงเวลาถ้าเราจะทำบุญ คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึง การตักบาตรพระหรือเข้าวัดทำบุญ เป็นส่วนมาก แต่ถ้าหากว่าเราไม่ค่อยมีเวลาตักบาตรพระหรือเข้าวัดทำบุญ
ก็เลยเสียโอกาสในการสะสมบุญของเรา

วันนี้ จึงมีเรื่องมาเล่าให้ทุกๆ คนได้อ่าน พิจารณากัน เผื่อจะได้แง่มุมใหม่ๆ ในการสร้างบุญกุศลสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาหรือมีเวลาทำเป็นปกติอยู่แล้ว แต่มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ได้อ่านเพื่อจะได้เข้าใจว่า ถ้าเราทำอย่างที่บอกต่อไปนี้ เราจะได้อะไรบ้าง ?

เชื่อว่า ที่บ้านของทุกคนจะต้องมีหิ้งพระบูชาหรือโต๊ะหมู่บูชา แต่ถ้าไม่มีให้หารูปพระมาติดไว้ที่ผนังบ้านก็ได้ จากนั้นให้เราหาขัน หรือกระปุกออมสิน หรือบาตรพระ ทุกวันให้เราทุกคนสละเวลาเพียงวันละประมาณ ๒๐ - ๓๐ นาที สวดมนต์ไหว้พระเวลาไหนก็ได้ที่เราว่าง เราสบายใจ เช้า สาย บ่ายเย็น หรือก่อนนอนก็ได้
โดยเริ่มสวดจากบท

" อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อภิปูชะยามิ

อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อภิปูชะยามิ

อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อภิปูชะยามิ

อะระหัง สัมมาสัมพุธโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมี

( กราบ )

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามี ( กราบ )

สุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ ( กราบ ) "

ระหว่างที่ตั้งนะโม ก็ให้เราเอาเงินมาจบไว้ที่มือจะกี่บาทก็ได้ ๕ บาท ๑๐ บาท ๒๐ บาทหรือจะมากกว่านั้นก็ได้ตามศรัทธาจากนั้นก็เริ่มสวด


" สรณคมนปาฐะ ( พุทธัง สะระนัง)


พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ฯ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ฯ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ฯ

ต่อ จากนั้น ก็เริ่มสวด บทพระพุทธคุณ ( อิติปิโส ภะคะวา ฯลฯ ) บทพระธรรมคุณ ( สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ฯลฯ ) บทพระสังฆคุณ ( สุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ฯลฯ ) ถ้ามีเวลาให้สวดบท พาหุง มหากา ฯลฯ ต่อ จบแล้วให้กลับมาสวด พระพุทธคุณ
บทเดียว ๙ จบ หรือเท่าอายุบวกหนึ่ง


friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

mormor1973

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

j007

ทำบุญ คือ การทำความดี, การประกอบกรรมดี, การทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเพิ่มพูนความดี และเพื่อกำจัดความเห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ได้ออกไปจากใจ

ทำบุญ ในคำวัดหมายถึงการทำสิ่งที่เป็นบุญ กล่าวกว้างๆ วิธีทำบุญมี 3 วิธีคือ

   1. ให้ทาน เช่นทำบุญตักบาตร เลี้ยงพระ ถวายสังฆทาน
   2. รักษาศีล เช่นรักษาศีลห้า, ศีลแปด
   3. เจริญภาวนา เช่น ทำสมาธิอบรมใจ ปฏิบัติกรรมฐาน

นอกจากนี้ยังมีวิธีทำบุญอีก 7 อย่าง คือ "บุญกิริยาวัตถุ" รวมเป็น 10 อย่าง

บุญกิริยาวัตถุ (อ่านว่า บุน-ยะ-กิ-ริ-ยา-วัด-ถุ) แปลว่า เหตุ เป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ หมายถึงเหตุเกิดบุญ, วิธีการทำบุญ, วิธีที่เมื่อทำแล้วได้ชื่อว่าทำบุญและจะได้รับผลเป็นความสุข

บุญกิริยาวัตถุโดยย่อมี 3 ประการคือ

   1. ทานมัย การให้ทาน
   2. ศีลมัย การักษาศีล
   3. ภาวนามัย การอบรมจิตใจ

บุญกิริยาวัตถุโดยพิสดาร มี 10 ประการ คือ

   1. เหมือนข้างต้น
   2. เหมือนข้างต้น
   3. เหมือนข้างต้น
   4. อปจายนมัย การอ่อนน้อมถ่อมตน
   5. เวยาวัจมัย การช่วยเหลือผู้อื่น
   6. ปัตติทานมัย การแผ่ส่วนบุญ
   7. ปัตตานุโมทนามัย การอนุโมทนาบุญ
   8. ธัมมัสสวนมัย การฟังธรรม
   9. ธัมมเทสนามัย การแสดงธรรม
  10. ทิฏฐุชุกรรม การทำความเห็นให้ตรง


ตอนแรก ผมสับสนกับคำว่า ทำบุญ กับ ทำทาน ครับ แต่พอไปศึกษาความหมายของคำว่า ทำทาน แล้วถึงเข้าใจว่า
ทาน คือ การให้ ทั้งที่เป็นสิ่งของและเป็นความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม โดยไม่หวังสิ่ง ตอบแทนจากผู้รับ
วัตถุประสงค์ของการทำทานที่แท้จริง ต้องเป็นไปเพื่อชำระกิเลส เพื่อตอบแทนคุณ เพื่อสงเคราะห์ หรือเพื่ออนุเคราะห์ การให้ด้วยวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากนี้ ไม่ถือว่าเป็นการให้ทาน
ทานมี 2 ประเภท คือ อามิสทาน และธรรมทาน อามิสทาน หากแบ่งตามสิ่งของที่ทายกให้ สามารถแบ่งได้เป็น ทาสทาน สหายทาน และสามีทาน หากแบ่งตามเจตนาของผู้ให้ สามารถแบ่งได้เป็น ปาฏิปุคคลิกทาน และสังฆทาน ซึ่งสังฆทานพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงสรรเสริญว่ามีอานิสงส์มากกว่าปาฏิปุคคลิกทาน

ตอนแรกผมสับสนว่า การให้ทาน(หมายถึงการให้ที่ไม่ใช่พระสงฆ์) และการทำบุญ คือ สังฆทาน แต่จริงๆ แล้ว การทำทาน(การให้) เป็นหนึ่งในการทำบุญครับ

ฉะนั้น การทำบุญนั้นไม่จำเป็นต้องเสียเงินก็ได้ แค่เราเจริญภาวนาก็ได้บุญแล้ว อย่าคิดว่า การทำบุญคือการทำสังฆทานหรือการบริจากเพียงอย่างเดียว
.,mn
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Keijikung

คิดดี พูดดี ทำดี หมั่นเข้าวัดทำบุญ แค่นี้ก้อเป็นกุศลแล้วครับ  ;khhg ;khhg
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

panda500

ได้ความรู้ใหม่คับ  ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ คั บ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Miss u~

ขอทำดี ไม่ทำบาป ก็พอแล้วค่ะ

จิตใจจะได้สงบ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions