ถิ่นกำเนิดว่านชักมดลูกและวิธีการปลูกการขยายพันธุ์ของว่านสมุนไพรชักมดลูก

ถิ่นกำเนิดว่านชักมดลูกและวิธีการปลูกการขยายพันธุ์ของว่านสมุนไพรชักมดลูก

เริ่มโดย watamon, 24 พฤษภาคม 2017, 10:38:00

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

watamon


ถิ่นกำเนิดว่านชักมดลูก 
ว่านชักมดลูกชนิด  xanthorrhiza   มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเกาะบาหลี  เกาะชวา  กระจายพันธุ์มาจนถึงมาเลเซียไทย และอินเดีย ส่วนชนิด comosa นั้น เป็นพืชพื้นถิ่นของไทย และนิยมนำไปปลูกกันโดยทั่วไป แหล่งที่ปลูกที่มีชื่อเสียง คือ ในจังหวัดเลยและจังหวัดเพชรบูรณ์ และในธรรมชาติบริเวณที่พบเจอมากในป่าเบญจพรรณทั่วไป  โดยชนิด comosa ของไทยนั้น สามารถแยกชนิดได้เป็น ว่านชักมดลูกตัวเมีย  (Curcuma comosa)  และว่านชักมดลูกตัวผู้ (Curcuma  latifolia)
ลักษณะทั่วไปว่านชักมดลูก 

  • หัว/เหง้า ว่านชักมดลูก/ว่านทรหด จัดเป็นพืชล้มลุกปีเดียว อยู่ในกลุ่มของขิง ข่า โดยมีส่วนเหง้าหรือหัวหรือลำต้นแท้อยู่ใต้ดิน  เหง้ามีสีส้มอ่อนหรือส้มออกแดง
  • ใบ ใบว่านชักมดลูก/ว่านทรหด  มีรูปร่างใบเป็นใบเดี่ยว ใบมีลักษณะรียาว ใบมีขนาดกว้างประมาณ 15 – 20 ซม. ยาวประมาณ 40 – 100 ซม. ใบมองเห็นเป็นแถบยาวของเส้นใบอย่างชัดเจน แถบเส้นใบกว้างประมาณ 0.5 – 1 ซม. โดยต้นที่ใบมีเส้นกลางใบเป็นสีม่วงแดง เรียกว่า ว่านชักมดลูกตัวผู้  ส่วนต้นที่ใบมีสีเส้นกลางใบเป็นสีเขียว เรียกว่า ว่านชักมดลูกตัวเมีย
  • ดอก ดอกว่านชักมดลูก/ว่านทรหด มีรูปร่างเป็นช่อ ไม่รวมกันเป็นกระจุก แยกออกในทิศที่แตกต่างกันบนก้านดอกประกอบด้วยก้านช่อดอกยาวประมาณ 15 – 20 ซม. มีใบประดับสีชมพูอ่อน กลีบรองดอกสีแดงสด และเมื่อเจริญเต็มที่จะมีสีเหลืองคล้ายดอกขมิ้น
  • ว่านชักมดลูก/ว่านทรหด จะเริ่มแทงใบในช่วงต้นฝน มีนาคม – เมษายน และจะเจริญเติบโตจนถึงฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม ต้นจะเริ่มแก่เหลือง และเหี่ยวพับลงจนเหลือแต่ส่วนหัวที่อยู่ใต้ดิน ซึ่งจะนิยมเก็บหัวมาใช้ประโยชน์ในช่วงนี้จนถึงก่อนช่วงที่แทงใบใหม่

    พืชทั้ง 2 ชนิด มีลักษณะคล้ายกันมาก  คือ  เป็นพืชล้มลุก   สูงประมาณ  1  -  2 มีเหง้าใต้ดินขนาดใหญ่  ค่อนข้างกลม  เนื้อภายในสีเหลือง  ถ้าเป็นชนิด  comosa   จะเป็นสีเหลืองอ่อน  แต่ถ้าเป็นชนิด  xanthorrhiza  จะเป็นสีเหลืองส้ม  มีกลิ่นฉุนร้อน  ใบเป็นใบเดี่ยว  เรียงตัวเป็นกระจุกใกล้ราก  ใบรูปขอบขนานแกมรี  ถ้าเป็นชนิด xanthorrhiza  ด้านล่างใบมีเส้นกลางใบสีม่วง  และมีขนที่ท้องใบ  ก้านใบสั้น   แต่ถ้าเป็นชนิด  comosa  ด้านล่างใบมีเส้นกลางใบสีเขียวตลอด  ไม่มีขน  และมีก้านใบยาวกว่า  ดอกออกเป็นช่อแทงจากพื้นดินสีชมพู  เกสรตัวผู้เป็นหมันสีขาว ใบประดับที่ไม่ได้รองรับดอกย่อยมีสีม่วง  ส่วนใบประดับที่รองรับดอกย่อยมีสีเขียวอ่อน
    การขยายพันธุ์ว่านชักมดลูก   
    ว่านชักมดลูก/ว่านทรหด  สามารถนำไปปลูก และขยายพันธุ์ด้วยส่วนหัวหรือรากแขนง  ทั้งชนิดที่เป็นหัวกลม  และชนิดที่เป็นเหง้าแขนง
    วิธีการปลูกว่านชักมดลูก
    จะใช้เหง้าแขนงหรือหัวที่มีตาสำหรับแทงยอด  โดยหักแบ่งออกเป็นส่วนๆ พร้อมนำไปปลูก ระยะการนำไปปลูกประมาณ  15  -  20  ซม. ด้วยการขุดหลุมฝังเป็นช่วงๆ  สำหรับแปลงขนาดใหญ่  ควรวางแนวการปลูกเป็นแถวในระยะห่างระหว่างหลุด และแถว 15 – 20 ซม. เช่นเดียวกัน
                ว่านชักมดลูก/ว่านทรหด  นิยมเก็บในช่วงฤดูหนาวจนถึงฤดูแล้ง ในระยะที่ใบเหี่ยว  แห้งหมดแล้ว เพราะในช่วงนี้จะเป็นระยะที่ว่านชักมดลูกหยุดเจริญเติบโต  และเก็บสะสมสารอาหาร  และสารต่างๆได้อย่างเต็มที่แล้ว



    Tags : กวาวเครือขาว,ถั่งเช่า
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

watamon

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

watamon

ถิ่นกำเนิดของว่านชักมดลูกและความรู้ทางด้านประโยชน์ต่างๆของว่านชักมดลูก
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

watamon

ต้นกำเนิดชักมดลูกวิธีการปลูกว่านชักมดลูก ว่านชักมดลูกกินแล้วดีประโยชน์มากมาย
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions