อัศจรรย์สรรพคุณสมุนไพรกวาวเครือเเดงสำหรับท่านชาย

อัศจรรย์สรรพคุณสมุนไพรกวาวเครือเเดงสำหรับท่านชาย

เริ่มโดย kdidd, 25 สิงหาคม 2017, 16:10:08

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

kdidd


กวาวเครือแดง ประโยชน์สรรพคุณและงานวิจัยข้อดีข้อเสีย
ชื่อสมุนไพร  กวาวเครือแดง
 ชื่อประจำถิ่น  กวาวเครือ (เหนือ)   จานเครือ  (อีสาน)   ตานจอมทอง  (ชุมพร)  โพตะกุ , โพมือ  (กะเหรี่ยง)
 ชื่อวิทยาศาสตร์  Butea superba  Roxb
 ชื่อวงศ์  Leguminosae  วงค์ย่อย   Papilonaceae
ถิ่นกำเนิดกวาวเครือเเดง[/url]
เจออยู่มากมายในรอบๆที่ราบตีนเขา และก็ ตีนเขาป่าเต็งรัง  เทือกเขาหินปูน  ในรอบๆที่มีต้นไม้ใหญ่ไม่หนาแน่นนัก  พบได้มากอยู่เป็นกลุ่มๆข้างในป่า  อาจเป็นเพราะเนื่องจากต้นสายปลายเหตุ  คือ  ติดฝักได้น้อย  ฝักมีขนาดใหญ่ ทำให้แพร่ระบาดตำแหน่งเดิมได้ยาก  ต้นกวาวเครือแดง ที่สร้างพุ่มเอง จะมีลักษณะเตี้ย  ส่วนต้นที่เกี่ยวพันกับต้นไม้ใหญ่จะแตกกิ่งไปถึงยอดไม้
ลักษณะทั่วไปของกวาวเครือแดง
กวาวเครือแดงอยู่ในจำพวกไม้เลื้อย เป็นเถาวัลย์ เนื้อแข็ง มักชอบพาดขึ้นกับต้นไม้ใหญ่

  • ใบกวาวเครือแดง ใบใหญ่คล้ายใบต้นทองกวาว  แม้กระนั้นใบใหญ่กว่า
  • ดอกกวาวเครือแดง ดอกใหญ่เหมือนดอกแคแสด  แต่เป็นพวงระย้าเหมือนดอกทองกวาว
  • หัวกวาวเครือแดง มีหลายขนาดลักษณะทรงกระบอก เมื่อสะกิดที่เปลือก จะมียางสีแดง คล้ายเลือดไหลออกมา
  • รากกวาวเครือแดง มีรากกิ่งก้านสาขาขนาดใหญ่  แยกจากเหง้าเลื้อยไปบริเวณหลายเมตร

    การขยายพันธุ์กวาวเครือแดง ทำได้ 3วิธีดังนี้|ดังต่อไปนี้

  • การเพาะเมล็ด โดยการเพาะเมล็ดในกระบะเถ้าถ่านแกลบโดยประมาณ 45 วัน นำต้นกล้าที่ได้ ปลูกลงถุงเพาะชำโดยใช้ดิน 2 ส่วน เถ้าแกลบ 1 ส่วน เปลือกมะพร้าว 1 ส่วน ค่า pH ราว 5.5 เมื่อต้นกล้าเติบโตได้ 60 วัน จึงนำลงแปลงปลูกกลางแจ้ง  โดยทำด้วยไผ่  หรือปลูกร่วมกับไม้ยืนต้นในกระบวนการเกษตร เป็นต้นว่า ไผ่  สัก  ปอสา  หรือไม้ผลอื่นๆ พื้นที่ปลูกควรอยู่สูงขึ้นมากยิ่งกว่าระดับน้ำทะเล  300-900 เมตร
  • การปักชำ นำเถาที่มีข้อมาปักชำในกระบะ หรือถุงที่บรรจุเถ้าถ่านแกลบ  เมื่อเถาแตกรากและยอดแข็งแรงก็ดี ก็เลยนำลงแปลงปลูกถัดไป
  • การแบ่งหัวต่อต้น หัวของกวาวเครือ ไม่มีตาที่จะแตกฯลฯใหม่  จำเป็นที่จะต้องใช้ส่วนของลำต้นมาต่อเชื่อตามกรรมวิธีขยายพันธุ์แบบต่อราก  เลี้ยงกิ่ง (nursed root grafting)  สามารถนำหัวกวาวเครือขนาดเล็ก อายุโดยประมาณ 6 เดือนขึ้นไป  และต้นหรือเถาที่เคยทิ้งไปหลังการเก็บเกี่ยวมาแพร่พันธุ์ได้ ข้างหลังการต่อต้นราวๆ 45-60 วัน ก็สามารถนำลงปลูกได้ รวมทั้งมีจุดเด่นคือสามารถต่อต้นกับหัวข้ามสายพันธุ์ได้

    องค์ประกอบทางเคมีของกวาวเครือแดง
                ส่วนหัวของกวาวเครือแดงประกอบด้วยสารไฟโตแอนโดรเจน และก็ไอโซฟลาโวลิกแนน 2 ชนิด ได้แก่ Mebicarpin (carpin 3-hydroxy-9methoxypterocarpan); สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ อย่างเช่น butenin; formononetin (7-hydroxy_-methoxy-isoflavone); (7,4_-dimethoxyisoflayone); 5,4_-dihydroxy-7-methoxy-isoflavone, 7-hydroxy-6,4_-dimethoxyisoflavone
    แอนโทไซยานินมีค่าการดูดกลืนแสงในตอนคลื่น  510-540นาโนเมตร  สารละลายแอนโทไซยานินมีการเปลี่ยนแปลงสีตามค่าความเป็นด่าง (pH) ต่ำจะมีสีแดง pH ปานกลางจะมีสีน้ำเงินม่วงแล้วก็เมื่อ pH สูงจะมีสีเหลืองซีดเซียว

    สรรพคุณกวาวเครือแดง

  • หัวกวาวเครือแดง รสเย็นเบื่อเมา  บำรุงเนื้อหนังให้เต่งตึง  บำรุงสุขภาพ  เพิ่มน้ำเชื้อ เป็นยาอายุวัฒนะ

    แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย

  • รากกวาวเครือแดง แก้ลมอัมพาต  บำรุงเลือด  ผสมกับรากสมุนไพรอื่นอีก 8 ชนิดเรียกว่า  พิกัดนวโลหะ  แก้โรคลมที่เป็นพิษ  แก้ริดสีดวง  ทำลายพยาธิ  ดับพิษ  ทำลายพิษไข้  สมานลำไส้
  • เปลือกเถากวาวเครือแดง รสเย็นเบื่อเมา  แก้พิษงู

    ผลดีกวาวเครือแดง
    ฤทธิ์ต่อระบบสืบพันธุ์  การเรียนรู้ในอาสาสมัครผู้ชาย 17 คน อายุระหว่าง 30 – 70 ปี ที่มีลักษณะหย่อนยานความสามารถทางเพศอย่างน้อย 6 เดือน  ให้กินกวาวเครือแดงขนาด 250 มก./แคปซูล วันละ 4 แคปซูล ตรงเวลา 3 เดือน ผลวิจัยพบว่าระดับฮอร์โมน testosterone ไม่ต่างอะไรจากกลุ่มควบคุม  แต่ว่าผลจาการตอบแบบสำรวจเกี่ยวกับดัชนีชี้วัดสมรรถภาพทางเพศ  จากอาสาสมัครพบว่าทำให้สมรรถภาพทางเพศดียิ่งขึ้น  82.4 % ด้วยเหตุผลดังกล่าว กวาวเครือแดงจึงช่วยฟื้นฟูคนป่วยโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ และไม่พบการเกิดพิษ
    รูปแบบและขนาดวิธีใช้กวาวเครือแดง
    หน่วยงานอาหารรวมทั้งยาของไทย  เจาะจงขนาดและก็การใช้สำหรับในการรับประทานกวาวเครือแดง  ไม่เกิน  2 มิลลิกรัม  ต่อน้ำหนักตัว  1  กิโลกรัม  ต่อวัน
    การศึกษาทางเภสัชวิทยาของกวาวเครือแดง
    ฤทธิ์ต่อระบบขยายพันธุ์  การทดสอบป้อนกวาวเครือแดงในรูปผงป่นละลายน้ำ  และก็สารสกัดเอทานอล  ให้แก่หนูแรทเพศผู้  ความเข้มข้น 0.25 , 0.5 และก็ 5 มก./มิลลิลิตร  พบว่าหนูแรทที่ได้รับผงกวาวเครือแดงแบบละลายน้ำเข้มข้น 0.5 และก็ 5 มก./มล. ตรงเวลา  21  วัน  ทำให้น้ำหนักตัวของหนูแรท  และก็ปริมาณน้ำเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ  รวมทั้งหนูแรทที่ได้รับสารสกัดเอทานอลเข้มข้น 5 มิลลิกรัม/มล. 224 ชั่วโมง มีน้ำหนักสัมพัทธ์ของ seminal  vesicles ต่อมลูกหมาก  และความยาวขององคชาติ  นำมาซึ่งการทำให้หนูแรทมีพฤติกรรมการสิบพันธุ์เยอะขึ้นเรื่อยๆ  เมื่อศึกษาต่อไปถึงระยะ 42 วัน พบว่าหนูแรทที่ได้รับผงกวาวเครือแดงแบบละลายน้ำ มีน้ำหนักสัมพัทธ์ของ seminal  vesicles ต่อมลูกหมาก รวมทั้งความยาวขององคชาติ  และความประพฤติปฏิบัติการสืบพันธุ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  แต่หนูกรุ๊ปที่ได้รับสารสกัดเอทานอล  กลับมีน้ำหนักสัมพัทธ์ของ seminal  vesicles  ลดลง  การศึกษาผลของกวาวเครือแดงในระยะยาว  แล้วก็ในปริมาณสารสกัดที่มากขึ้น  พบว่าทำให้ระดับฮอร์โมน testosterone ของหนูแรทน้อยลง  และปริมาณโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีตับสูงมากขึ้น  ด้วยเหตุนี้การรับประทานกวาวเครือแดงมากจนเกินไป อาจจะทำให้กำเนิดพิษต่อตับได้

    การศึกษาทางพิษวิทยากวาวเครือแดง
    การศึกษาพิษครึ่งเรื้อรังในหนูวิสตาร์เพศผู้โดยป้อนผงกวาวเครือแดงในขนาด 10 , 100 , 150 และ 200  มิลลิกรัม/กก/วัน  เป็นเวลา 90 วัน  พบว่าหนูที่รับในขนาด   150  มก./กก/วัน  น้ำหนักของม้ามมากขึ้น ระดับโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี alkalinephosphatase (ALP) รวมทั้ง aspartate aminotransferase (AST) มากขึ้น หนูที่ได้รับขนาด 200 มก./กก/วัน พบว่ามีเม็ดเลือดขาวจำพวก neutrophil น้อยลง ส่วนเม็ดเลือดขาวประเภท eosinophil ระดับ serum creatinine  ลดลงระดับฮอร์โมน testosterone น้อยลง ดังนั้นจะต้องระมัดระวังการใช้ในขนาดสูงเนื่องด้วยอาจส่งผลให้กำเนิดอาการอันไม่พึงปรารถนาต่างๆได้
    ข้อแนะนำข้อควรระวัง
    พืชประเภทนี้มีฤทธิ์เป็นยา เช่นเดียวกับกวาวเครือขาว แต่เป็นพิษมากยิ่งกว่า  ถ้ารับประทานมากมายบางทีอาจก่อให้เกิดอันตรายได้อาจทำให้เมาอ้วกอ้วก.และเป็นพิษเมามากกว่ากวาวเครือขาว

    Tags : กวาวเครือเเดง,ประโยชน์กวาวเครือเเดง
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions