สัตววัตถุโหรามิคสิงคี

สัตววัตถุโหรามิคสิงคี

เริ่มโดย หนุ่มน้อยคอยรัก007, 02 ธันวาคม 2017, 09:48:30

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

หนุ่มน้อยคอยรัก007


โหรามิคสิงคี
โหรามิคสิงคี หรือที่เรียกใน ตำราพระยาพระนารายณ์ว่า "โหราอำมิคสิงคี" เป็นเขากวางสุม (ให้เป็นถ่าน) คำ มิค มีความหมายว่า กวาง ส่วนคำ สิงคี แสดงว่าสัตว์มีเขาได้จากกวางเปอร์เซีย
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dama dama Linnaeus
ในสกุล Cervidae
มีชื่อสามัญว่า   fallow  deer
กวางอิหร่านนี้มี  ๒  ประเภทย่อย  คือ
๑.ประเภทย่อยซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Dama  dama  mesopotamica  (Brooke)
มีชื่อสามัญว่า Iran  fallow  deer
๒.ชนิดย่อยที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Dama  dama  dama  Linnaeus
มีชื่อสามัญว่า South  Turkey  fallow  deer
กวางเปอร์เซียเป็นกวางขนาดกลาง ขนาดวัดจากจมูกถึงปลายหางยาวราว ๑.๕0  เมตร หางยาว  ๒0-๒๕  เซนติเมตร น้ำหนักตัว  ๓0-๓๕  กรัม ขนตามลำตัวมีสีเทาหรือสีน้ำตาลแกมเหลือง มีจุดขาวอยู่กึ่งกลางหลังหรือข้างลำตัว มีขนแถบสีดำทอดยาวจากกึ่งกลางหลังไปจนกระทั่งบั้นท้าย ด้านล่างลำตัวสีขาว ขนเรียบ บางและก็แนบติดกับลำตัว   ในช่วงฤดูหนาวขนตามลำตัวจะกลายเป็นสีน้ำตาลเทาแล้วก็จุดขาวตามลำตัวจะลางเลือนไป ขายาว ลำตัวอ้วนล่ำ หัวค่อนข้างสั้น คอหนา ตัวผู้มีลูกกระเดือกนูนออกมา รอบๆตูดวงรอบตูดมีสีขาวขอบสีดำ
กวางชนิดนี้รับประทานต้นหญ้า ใบไม้ แล้วก็ผลไม้เป็นของกิน ถูกใจอยู่กันเป็นฝูงในฤดูร้อน เพศผู้ที่โตเต็มกำลังจะแยกออกมาจากฝูง ทิ้งตัวภรรยาและก็ลูก แม้กระนั้นในฤดูผสมพันธุ์จะกลับเข้ามาสืบพันธุ์กับตัวเมีย กวางจำพวกนี้โตสุดกำลังและสืบพันธุ์ได้เมื่ออายุ ราว ๑๘  เดือน ท้องราว  ๒๓0  วัน ตกลูกทีละ  ๑  ตัว อายุยืนราว  ๒0  ปี
เคยเจอกวางอิหร่านในป่ารอบๆสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนและในตะวันออกกลาง ได้แก่ ในประเทศอิหร่านรวมทั้งอิรัก ตอนนี้อาจสิ้นซากไปจากธรรมชาติแล้ว แต่ยังคงมีเลี้ยงอยู่บ้างตามสวนสัตว์หลายที่
สมุนไพร ตำราเรียนคุณประโยชน์โบราณว่า โหรามิคสิงคีเป็นยาทำลายพิษ แก้ปวดตามข้อ ปวดเอว ใน แบบเรียนพระยาพระนารายณ์  มีตำรับยาขนานหนึ่งเข้า "โหราอำมิคสิงคี"  เป็นเครื่องยาด้วย ดังต่อไปนี้ ยาทรงเขี่ย ให้เอาโหราเดือยไก่ โหราอำมฤตย์ โหราอำมิคสิงคี โหราบอนโหราเท้าสุนักข์ โหราเขาควาย โหราใบกลม โกฏกัยี่ห้อ ลูกจันทร์ ดอกจันทร์ กระวาน  กานพลู พริกหอม พริกหาง พริกล่อน  ดีปลี  มหาหิงคุ์ โปตัสเซี่ยมไนเตรดขาว หอมแดง ชาตรี ยาทั้งนี้สิ่งละเฟื้อง ฝิ่นสลึง ๑  ทองคำเปลว  ๑0  แผ่น น้ำมะนาวเป็นกระสาย   บดทำแท่ง ตากในร่ม ฝนด้วยน้ำมะนาว น้ำท่า เมื่อเขี่ยแล้วนั้น ถึงเป็นฝีฟกทูมภรรยา ขึ้นเป็นเม็ดเป็นเปาเป็นเงื่อนก็หาย หากจับไข้เจ็บ ให้สับกระหม่อมสับต้นคอ ทาหาย แก้ลมขึ้นสูงด้วย ถ้างูเพ่งพิศม์ ตะขาบ แมลงป่องขบ ฝนด้วยน้ำมะนาวก็ได้ สุราก็ได้ อีกทั้งกินทั้งยา หาย  ฯ
ประโยชน์ทางยา
ยาไทยใช้เขากวางเป็นยาขนานหนึ่ง ตำรายาสรรพคุณยาโบราณ เขากวางเป็นยาเย็น ดับพิษทุกๆอย่าง มีคุณประโยชน์แก้ร้อน ทำลายพิษแสดง หมอแผนไทยมักเอามาคั่วให้ไหม้เกรียม หรือสุมให้ดำไหม้เกรียม รวมทั้งจึงเอามาผสมเข้าในตำรับยา
ในพระตำราโบราณอันเป็นต้นแบบของยาหมอแผนไทยนั้น มีตำรับยาที่ เข้า  "เขากวาง" หลายขนาน ในที่นี้ขอยกตัวอย่างยาขนานหนึ่งใน  พระตำรามหาโชตรัต ดังนี้สิทธิการิยะ ถ้าหากใครกันแน่จับไข้แลให้ร้อนข้างในให้ต้องการน้ำนัก แลตัวคนไข้นั้นให้แข็งกระด้าง เหมือนกับท่อนไม้แลท่อนฟืน ให้ตัวนั้นเป็นเหน็บชาไปทั่วทั้งกายหยิกไม่เจ็บ   ท่านว่าเกิดรอยดำ  ด้านในแลให้ปากแห้งคอแห้งฟันแห้งนมหม่นหมองให้เป็นต่างๆนั้น ท่านว่ากาฬผุดออกยังไม่สิ้น ยังอยู่ในหัวใจนั้น ถ้าจะแก้ให้เอา รากกะตังบาย  ๑  จันทร์อีกทั้ง  ๒  สนเทศ  ๑  ระย่อม  ๑  เพ่งดูที่นาศ  ๑  รากแตงดุร้าย  ๑  รากหมูปลดปล่อย  ๒  หัวมหารอยดำ  ๑  หัวกะยามเช้าผีมด  ๑  รากไคร้เครือ  ๑  ใบยับยั้ง  ๑  ใบพิมเสน  ๑  ใบเฉียงพร้าหอม  ๑  ใบทองพันชั่งน้ำหนัก  ๑  เขากวาง ๑  งาช้าง  ๑  เขี้ยวเสือ  ๑  เขี้ยวหมี  ๑   เขี้ยวไอ้เข้  ๑   เขี้ยวหมูป่า  ๑   เขี้ยวแรด  ๑   กรามนาคราช  ๑   เขี้ยวปลาพะยูน  ๑   เกสรดอกบัวน้ำทั้งยัง  ๗   ผลสมอพิเภก  ๑   เทียนดำ  ๑   ใบสเดา  ๑   เปลือกไข่เป็ดสด  ๑   ผลจันทร์  ๑   ดอกจันทร์  ๑   สมอไทย ๑   รากมะรุมบ้าน  ๑   รวมยาดังนี้เอาเสมอภาค   ทำผงแล้วจึงบดปั้นแท่งไว้ ฝนด้วยน้ำดอกไม้ อีกทั้งรับประทานอีกทั้งพ่น แก้สรรพไข้ทุกอันดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วมานั้น หายแล

Tags : สมุนไพร
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions