สัตววัตถุ นกกะลิง

สัตววัตถุ นกกะลิง

เริ่มโดย แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์, 08 ธันวาคม 2017, 15:43:34

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์


นกกะลิง
นกกะลิง หรือที่ดินตะวันตกเฉียงเหนือเรียก นกกะแล
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Psittacula himalayana finchii (Hume)
จัดอยู่ในสกุล Psittacidae
มีชื่อสามัญว่า gray – headed parakeet หรือ slaty – headed parakeet
ชีววิทยาของนกกะลิง
นกนี้เป็นนกปากโค้งเป้นขอประเภทหนึ่ง ความยาวยาวของตัววัดจากปลายปากถึงปลายหายราว ๔๖ ซม. ความยาวนี้เป็นความยาวของหางราวครึ่งหนึ่ง ปากบนสีแดงปลายเหลือง ปากด้านล่างสีเหลือง ตาสีดำ หัวสีเทาแก่  ที่คอมีแถบดำใหญ่พาดจากบริเวณใต้คางไปถึงข้างหลัง แถบนี้จะค่อยๆเรียวเล็กลงจนกระทั่งเหลือเป็นเพียงแค่เส้นเล็กๆที่กำดัน ต้นคอใต้เส้นดำเป็นสีฟ้า ใต้ปีกสีน้ำเงินอมเขียว หางยาว ตอนบนสีฟ้ามึงอมเขียว ปลายเหลือง เมื่อดูผาดๆจะเห็นเป็นนกที่มีสีเขียว เพศผู้มีแต้มสีสีแดงเข้มที่ที่ศีรษะปีกข้างๆ รวมทั้งแถบดำที่คางมีขนาใหญ่มากยิ่งกว่าของตัวเมีย นกกะลิงอยู่รวมกันเป็นฝูง พบได้มากทางภาคเหนือที่ระดับความสูงจากระดับน้ำมะเลปานกลาง ๖๐๐ – ๑,๒๐๐ เมตร นกจำพวกนี้กินผลไม้ เมล็ดพืชรวมทั้งยอดอ่อนของพืช  สร้างรังตามโพรงไม้ ออกไข่คราวละ ๒ – ๕ ฟอง ในระหว่างมกราคมถึงเดือนเมษายน ไข่ค่อนข้างจะกลม สีขาว ใช้เวลาฟัก ๒๒ – ๒๕ วัน

ผลดีทางยา
หมอแผนไทยตามชนบทใช้เลือดนกกะลิงผสมกับยาอื่น เป็นยาบำรุงเลือด แก้โรคโลหิตจางและก็เลือดพิการ
สมุนไพร ใน พระตำราชวดารให้ยาขนานหนึ่ง คือยาแก้ลมกล่อน ยาขนานนี้เข้า "หางนกกะลิง" เป็นเครื่องยาด้วยดังนี้ ยาแก้ลมกล่อน อัณฑะเจ็บเมื่อยตายไปข้างหนึ่ง ทั้งกายก้ดี เอายาเข้าเย็น ๑ โพกพาย ๑ ประพรมคตตีนเต่า ๑ หางนกกะลิง ๑ กำลังวัวเถลิง ๑ หนวดพญางู ๑ เอาเท่ากัน ต้มทากล่อนลม หายแล
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions