ตำนานการสร้างโลกและน้ำท่วมโลก ของอินเดีย

ตำนานการสร้างโลกและน้ำท่วมโลก ของอินเดีย

เริ่มโดย etatae333, 24 พฤษภาคม 2018, 16:41:16

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

ตำนานการสร้างโลกและน้ำท่วมโลก ของอินเดีย

ความรู้เกี่ยวกับตำนานที่ว่าด้วยการสร้างจักรวาลและโลก จะพบได้ทั่วไปไม่เพียงแต่ในชาติที่มีอารยธรรมเท่านั้น
ส่วนมากจะเริ่มต้นด้วยการสร้างธรรมชาติก่อน แล้วจึงตามมาด้วยการสร้างเทพเจ้าและมนุษย์ ในปัจจุบันโลก
ยังเล่าขานตำนานการสร้างโลกและมนุษย์ ในปัจจุบันโลกยังเล่าขานตำนานการสร้างโลกและมนุษย์ตามความเชื่อ
ของชนชาติต่าง ๆ

การสร้างโลกตามตำนานอินเดีย



ในคัมภีร์ ปัทมปุราณะ กล่าวไว้ว่าเดิมมีพระเป็นเจ้าองค์เดียวคือ พระพรหม ที่เรียกว่า พระอาตมภู (พระผู้เกิดเอง)
พระพรหมเป็นผู้สร้างโลกโดยการสร้างน้ำขึ้นก่อน แล้วหว่านเชื้อพันธุ์ของพระองค์ลงไปในน้ำ เกิดเป็นไข่ทอง
พระองค์เข้าไปอยู่ในไข่ ๑ ปี แล้วออกจากไข่มาเป็นพระพรหมาปิตามหา ผู้สร้างโลก เหตุที่มีกำเนิดในไข่ทอง
พระพรหมจึงได้ชื่อว่า หิรันยครรภ อีกด้วย

พระพรหมแบ่งภาคเป็น 3 ภาค หรือ ตรีมูรติ ซึ่งประกอบด้วย พระผู้สร้าง พระผู้บริหาร และพระผู้สังหาร คือ
พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ นั่นเอง ตำนานฮินดูแบ่งเวลาออกเป็น ๔ ยุค

ยุคแรกคือ กฤตะยุค ซึ่งยาวนาน ๔,๘๐๐ ปีสวรรค์ หรือ ๑,๗๒๘,๐๐๐ ปี มนุษย์
ยุคที่ ๒ คือ ไตรดายุค ยาวนาน ๓,๖๐๐ ปีสวรรค์ หรือ ๑,๒๙๖,๐๐๐ ปีมนุษย์
ยุคที่ ๓ คือ ทวาบรยุค ยาวนาน ๒,๔๐๐ ปีมนุษย์ หรือ ๘๖๔,๐๐๐ ปีมนุษย์
ยุคที่ ๔ คือ กลียุค ยาวนาน ๑,๒๐๐ ปีสวรรค์ หรือ ๔๓๒,๐๐๐ ปีมนุษย์




๔ ยุครวมกันเป็น ๑ มหายุค หรือ ๔,๓๒๐,๐๐๐ ปีมนุษย์ ๑,๐๐๐ มหายุคเป็น ๑ วัน ของพระพรหม กลางคืน
ก็ยาวเท่ากัน วันของพระพรหมเรียกว่า กัลป์ ใน ๑ กัลป์ มีพระมนูบังเกิด ๑๔ องค์ พระมนูมีหน้าที่สร้างมนุษย์
ซึ่งแปลว่า "ผู้เกิดจากมนู" นั่นเอง


น้ำท่วมโลกในตำนานอินเดีย

เรื่องราวมีอยู่ว่า......เมื่อครั้งโลกมนุษย์สิ้นยุคไปหนึ่งชั่วกัลป์ พระพรหมทรงสร้างโลกใหม่ขึ้น หลังเสร็จสิ้นภาระกิจ พระพรหม
จึงเสด็จเข้าบรรทมด้วยความเหนื่อยล้า ในระหว่างนั้นคัมภีร์พระเวททั้ง 4ประกอบด้วย ฤคเวท สามเวท  ยชุรเวท และอาถรรพเวท
ก็ไหลออกจากปากพระพรหม ตกลงสู่ท้องมหาสมุทร




มีอสูรอยู่ตนหนึ่งชื่อว่า "หัยครีพ" หรือ "สังขอสูร" (หอยสังข์ยักษ์) ที่ปกติอาศัยอยู่ใต้ท้องมหาสมุทร คอยจับสัตว์น้ำกินเป็นอาหาร
เมื่อเห็นภัมภีร์พระเวทตกลงมาจากสวรรค์ อสูรหัยครีพจึงตัดสินใจโผล่ขึ้นมาฮุบกลืนคัมภีร์พระเวท แล้วนำความรู้ของมวลมนุษย์
ดำดิ่งสู่ใต้ท้องทะเล

เมื่อใดที่พระพรหมเข้าสู่บรรทม เมื่อนั้นโลกก็เข้าสู่ความมืดมน อนธการ น้ำจะท่วมโลก สิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะสูญสิ้นเผ่าพันธ์ุ
(เพิ่งสร้างโลกใหม่แล้วแท้ๆ สงสัยต้องการจะล้างมนุษย์ชั่วๆทิ้งไปก็เป็นได้) ช่วงที่พระพรหมหลับไหล หรือที่เรียกว่า พรหมราตรี
จะกินเวลายาวนาน 4,320 ล้านปี


พระนายณ์ด้วยเมตตามวลมนุษย์ จึงทรงอวตารแบ่งภาคลงมาเกิดเป็น ลูกปลากรายสีทอง (บ้างก็ว่า มีเขาบนหัวด้วย)
ปลาน้อยตัวนี้ชื่อว่า สัปพลิ (่ สัป -พะ-ลิ)




เมื่อนั้นมีพระราชาสืบเชื้อมาทางสาย สุริยะวงศ์ ครองกรุงอโยธยา พระนามว่า "พระสัตยพรต" ราชาองค์นี้ฝักใฝ่ในธรรมะยิ่ง
ไม่เสวยสิ่งมีชีวิตใดๆ จะเสวยก็เพียงแต่น้ำเปล่าอย่างเดียว

วันนึงขณะที่ท้าวสัตยพรต เสด็จไปชำระบาปที่ริมน้ำกฤตะมาลา ขณะที่พระองค์วักน้ำขึ้นมาชำระร่างกาย ก็ติดปลาตัวน้อย สัปพลิ
ขึ้นมาในอุ้งมือ ปลาน้อยขอให้พระราชาสัตยพรตช่วยชีวิต ด้วยในแม่น้ำตนอาจถูกปลาตัวใหญ่กินไปก็ได้ พระราชาจึงเมตตา
นำปลาน้อยสัปพลิไปเลี้ยงในพระราชวัง

เมื่อถึงพระราชวัง ท้าวสัตยพรตก็ทรงนำปลาน้อยสัปพลิไปเลี้ยงไว้ใน หม้อ เมื่อเวลาผ่านไป 1 คืน ปลาน้อยเติบโตจนตัวใหญ่คับหม้อ
พระราชาจึงย้ายปลาน้อยไปเลี้ยงไว้ใน อ่าง ผ่านไปอีก 1 คืน ปลาสัปพลิก็โตเต็มอ่างอีก จึงต้องย้ายไปเลี้ยงไว้ใน สระน้ำ ผ่านไป
อีก 1 คืน ปลาสัปพลิก็โตเต็มสระอีก จึงต้องย้ายไปเลี้ยงไว้ที่ทะเลสาป ผ่านอีก 1 คืน ก็โตเต็มทะเลสาปอีก ท้ายที่สุดพระราชาสัตยพรต
ก็ทรงนำไปปล่อยที่ มหาสมุทร

จากนั้นพระราชาสัตยพรตก็ทรงทำพิธีบูชาปลาสัปพลิด้วยความเคารพอย่างต่อเนื่อง ด้วยคิดว่าปลาสัปพลินี้ คงไม่ใช่ปลาธรรมดาเป็นแน่

เมื่อทดสอบศีลธรรม ความเมตตาปราณี ของท้าวสัตยพรตจนเป็นที่พอใจแล้ว พระนารายณ์หรือปลาสัปพลิ จึงกล่าวความลับต่อพระราชา
ว่าในอีกไม่นาน จะเกิดน้ำท่วมโลก ชีวิตทั้งหลายในโลกกำลังจะพินาศ  พระนารายณ์แนะนำทางรอดให้ท้าวสัตยพรต ด้วยการให้พระองค์
ต่อเรือลำใหญ่  แล้วอัญเชิญพระฤาษีระดับสูง 7 ตน มนุษย์บางกลุ่ม พร้อมต้นไม้นานาพรรณ และสิงสาราสัตว์อีกอย่างละ 1 คู่ ขึ้นเรือ
เพื่อให้รอดจากวิบัติภัยในครั้งนี้




ครั้นถึงเวลาที่พระพรหมหลับสนิท เมื่อนั้นท้องฟ้าก็มืดมิดสิ้นแสง เกิดพายุฝนอย่างรุนแรง ท้าวสัตยพรตและหมู่มวลบริวารจึงพากัน
อพยพขึ้นเรือ หลังจากนั้นเพียงนานก็เกิดคลื่นน้ำขนาดยักษ์กลืนทุกสรรพสิ่งไปไว้ใต้บาดาล


ท้าวสัตยพรตที่อยู่บนเรือ พระองค์ทรงเห็นซากศพสิ่งมีชีวิตลอยเต็มไปหมดทั่วพื้นน้ำ ก็ทรงเสียใจอย่างยิ่ง เหล่าฤๅษีเลยต้องเตือนสติ
ให้ภาวนาถึงพระนารายณ์เข้าไว้

ขณะนั้นปลาสัปพลิก็ปรากฏกายขึ้นข้างเรือ พร้อมทั้งกล่าวให้ท้าวสัตยพรตนำพญานาคตนหนึ่งไปผูกไว้กับหัวเรือและส่วนเขาของตน
จากนั้นปลาสัปพลิก็ลากเรือไปหลบไว้ในที่ปลอดภัย ท้าวสัตพรต และฤาษีทั้ง 7 พร้อมด้วยบริวาร ต่างพากันสรรเสริญพระนารายณ์
ด้วยการพร่ำสวดชื่อทั้ง 1000 พระนามของพระนารายณ์เป็นการบูชา




เมื่อกาลผ่านไป 4,320 ล้านปี  พระพรหมก็ทรงตื่นจากบรรทม หมดสิ้นช่วงพรหมราตรี เข่าสู่ พรหมทิวา ทุกอย่างบนโลกก็กลับมาเป็น
ปกติดังเดิม พระราชาสัตยพรตและบริวารก็พากันอพยพลงจากเรือสู่พื้นแผ่นดิน เริ่มต้นยุคใหม่ โดยมีพระนารายณ์อำนวยอวยพรให้
ครองโลกด้วยความผาสุข

จากนั้น พญาปลาสัปพลิก็ดำดิ่งสู่ใต้ท้องมหาสมุทร เพื่อนำคัมภีร์พระเวทที่อสูรหัยครีพนำไปซ่อนไว้คืนแก่พระพรหม

พอพบอสูรหัยครีพ  ทั้งสองก็ตรงเข้าต่อสู้กัน อสูรหัยครีพเห็นท่าไม่ดี จึงรีบแปลงคืนร่างเดิมเป็นหอยสังข์ยักษ์  พญาปลาสัปพลิ
จึงตรงเข้าไปกัดฉีกท้อง จนอสูรหัยครีพสิ้นใจตาย  นำคัมภีร์พระเวททั้ง 4 ไปคืนแก่พระพรหมได้สำเร็จ แล้วจึงเสด็จกลับทะเล
ไวกูณฐ์ที่ประทับของพระองค์..........



ด้วยเหตุที่สังขอสูร หรือ หัยครีพ ได้กลืนคัมภีร์พระเวทไปไว้ในท้อง หอยสังข์จึงถือเป็นสิ่งมงคลที่นิยมนำมาใช้ประกอบพิธีต่างๆ
ของศาสนาพราหมณ์ หรือฮินดู และยังมีร่องรอยการโดนฉีกบริเวณท้องมาถึงกาลปัจจุบัน



ที่มา  :  http://www.thaienv.com/content/view/609/39/
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่