พลังวิเศษที่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ของมนุษย์

พลังวิเศษที่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ของมนุษย์

เริ่มโดย etatae333, 31 พฤษภาคม 2018, 14:50:27

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

พลังวิเศษที่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ของมนุษย์


นี่คือพลังวิเศษของมนุษย์ที่เราได้ยินบ่อยครั้ง เรื่องที่มนุษย์ธรรมดามีพลังเหนือธรรมชาติหรือพลังลึกลับ
อะไรบางอย่างอยู่ในร่างกายมนุษย์ ที่แปลกประหลาดไม่สามารถอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ จนถึง
ปัจจุบันก็ไม่สามารถหาคำตอบเหล่านี้ได้ และพลังวิเศษดังกล่าวถูกนำมาใช้ในจินตนาการในสื่อต่างๆ
มากมาย




10. Shamanism
   


ชาแมนเป็นความเชื่อในเกี่ยวกับเรื่องหมอผีหรือคนทรงเจ้า ที่มีความสามารถในทางวิญญาณ โดยเชื่อว่ามนุษย์
ที่เป็นหมอผีนั้นเป็นตัวสื่อสารกับวิญญาณของอีกโลกหนึ่ง โดยทั่วโลกมักมีหมอผีเหล่านี้มากมาย โดยมีชื่อเรียก
หลายอย่างตามลักษณะของความสามารถ และประเทศ เช่น คนทรง มิโกะ องเมียว พ่อมด แม่มด

โดยหมอผีนั้นจะเป็นผู้ประกอบอาชีพที่มีความเชี่ยวชาญและมีพลังจิตสูงที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางสื่อสารระหว่าง
โลกมนุษย์และโลกวิญญาณ อาจจะเป็นการให้วิญญาณเข้าสิง หรือให้วิญญาณชี้นำ โดยมีวัตถุประสงค์ต่างๆ นาๆ
เช่น เพื่อให้วิญญาณสื่อสารกับญาติผู้ตายหรือคนที่รัก หรือจะเป็นการรักษาอาการเจ็บป่วย สามารถควบคุมสภาพอากาศ
คาถาสาปแช่ง สามารถเดินทางได้ในโลกมนุษย์และโลกวิญญาณ นรก และ สวรรค์ ฯลฯ



9. Psychic Surgeons


   
หมอศัลยกรรมพลังจิต เป็นหมอศัลยกรรมที่ทำการผ่าตัดโดยใช้เพียงมือเปล่าผ่าตัดผู้ป่วย โดยหมอจะเอามือเจาะเข้าไป
ร่างกายของผู้ป่วยล้วงที่สิ่งที่เป็นพยาธิสภาพ (วัตถุอินทริย์ในรูปของก้อนเนื้อร้ายหรือไม่ก็ของแปลกๆ อย่าง ของเหลวสีน้ำตาล)
ในร่างผู้ป่วยออกมา แต่ที่มหัศจรรย์คือผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลยและเลือดไหลไม่มาก(ซึ่งปกติแล้วเลือดน่าจะทะลัก
จนผู้ป่วยหมดสติ) เมื่อทำการผ่าตัดเสร็จสิ้นจะไม่ปรากฏบาดแผลและแผนเป็นผ่าตัดในตัวผู้ป่วยแต่อย่างใด


หมอศัลยกรรมพลังจิต พบมากในประเทศบราซิลและฟิลิปปินส์ในช่วง 1900 ที่ส่วนใหญ่เชื่อเรื่องภูตผี โดยผู้ป่วย
จะมีความรู้สึกหรือเชิงลบต่อโรคและอาการเจ็บป่วย และเชื่อว่าตนถูกวิญญาณร้ายเข้าสิ่งโดยกลายเป็นวัตถุเหมือนแก้ว
ทำให้หลายคนเชื่อเป็นเป็นปฏิกิริยาของยาหลอกมากกว่า ในโลกตะวันตกไม่ยอมรับวิธีการรักษาดังกล่าวและถูกตั้งว่า
เป็นเรื่องหลอกลวงทางการแพทย์

ส่วนสมาคมโรคมะเร็งอเมริการะบุว่าการไม่มีหลักฐานว่าผ่าตัดพลังจิตดังกล่าวมีประโยชน์ใดๆ ในทางแพทย์อีกทั้ง
ยังทำให้ผู้ป่วยละเลยต่อความช่วยเหลือต่อแพทย์สมัยใหม่และทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงของผู้ป่วย




8. Spontaneous Human Combustion


   
Spontaneous human combustion (SHC) หรือ"ปรากฏการณ์เผาไหม้ร่างมนุษย์" นี้หมายถึงการที่ร่างกายมนุษย์
เกิดการลุกไหม้ขึ้นโดยไม่มีเชื้อไฟ โดยจู่ๆ ไฟก็ลุกท่วมตัวโดยไฟไหม้จากภายในร่างของมนุษย์ไม่ใช่ไหม้จากภายนอก
จนร่างกายของผู้เคราะห์ร้ายถูกเผาไหม้ไปเกือบจะเป็นเถ้าถ่านหมดจด แต่กระนั้นก็ส่วนอื่นๆ ของร่างกายที่ไม่ถูกเผาไหม้
เช่น มือ เท้า หรือเสื้อผ้า


หลายร้อยรายที่เกิดปรากฏการณ์นี้ จะมีรูปแบบคล้ายๆ กันคือ โดยที่ตัวผู้เคราะห์ร้ายมักจะอยู่ในเคหะสถาน และบางครั้ง
จะรู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมๆ ของควันในห้องที่เกิดเหตุ กรณีที่มีชื่อเสียงในปรากฏการณ์ดังกล่าวมีมากมาย เช่นกรณีของ
แมรี่ รีเซอร์  ,จีนนี่ แซฟฟิน



ส่วนสาเหตุของปรากฏการณ์ ก็มีการสันนิษฐานไว้หลายอย่าง โดยเชื่อว่าในร่างกายคนเราก็มีไขมัน ที่ทำหน้าที่เป็น
วัตถุที่ติดไฟได้  หรือว่าร่างกายเรามีก๊าซชนิดหนึ่งที่เรียกว่าก๊าซมีเธนในลำไส้ที่ทำปฏิกิริยาบางอย่างทำให้ลุกติดไฟ
แต่กระนั้นปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่จะอธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าว



7. Fire Immunity and Fire Starter



พูดถึงไฟก็ต้องนึกถึงความร้อน และก็เป็นการบ้ามากที่มนุษย์จะสามารถสัมผัสไฟได้ เป็นเวลานานโดยไม่ใช้ชุดป้องกันความร้อน
แต่กระนั้นก็มีมนุษย์บางจำพวกที่เรียกว่ามี "ภูมิต้านทานความร้อน" ที่สามารถสัมผัสไฟได้โดยไม่รู้สึกเจ็บแสบปวดร้อนใดๆ
และผิวหนังไม่ไหม้หรือเป็นแผลพุพอง เช่นกรณีของนาธาน โคเกอร์ เป็นช่างตีเหล็กในรัฐแมรี่แลนด์ที่สามารถยืนอยู่ใน
โลหะร้อนๆ หรือสามารถถือถ่านหินร้อนๆ ได้อย่างสบายแต่ที่ผิวไม่ไหม้(บ้านเรามีคนแบบนี้เพียบ)


นอกจากนี้ก็ยังมีมนุษย์อีกจำพวกที่สามารถควบคุมพลังไฟได้ เช่นกรณีของเอ. วิลเลี่ยม อันเดอร์วู้ดที่เขามีพลังประหลาด
สามารถทำให้วัตถุติดไฟโดยใช้ลมหายใจรดก็ได้ นอกจากนี้หากถูสิ่งของที่ติดไฟง่าย เช่นผ้าเช็ดหน้าเมื่อเขาถูด้วยแรงมือ
ในขณะที่เขาหายใจรด ผ้าเช็ดหน้าลุกเป็นไฟและหายไป โดยเรื่องของเขากลับเชื่อว่าเป็นเรื่องหลอกลวง เพราะเขาอาจ
ซ่อนแผ่นเหล็กฟอสฟอรัสเล็กๆ ในปากและแอบถ่มน้ำลายบนผ้าเช็ดหน้า และเมื่อความร้อนจากลมหายใจและมือที่ถู
ก็ช่วยให้ฟอสฟอรัสติดไฟดังกล่าวได้



6. Dowsing


   
ไม้เท้าดาวน์ เป็นการทำนายที่มีวัตถุประสงค์ในการหา แหล่งน้ำ สายแร่ทองคำ โลหะ อัญมณี โดยใช้ลวดทองแดง ทองเหลือง
หรือโลหะ มาตัดแล้ว หักเป็นรูปตัวเอ(หรือรูปต่างๆ เช่น Y หรือ L)


วิธีการใช้ คือต้องกำในมือ หลวมๆ หรือ ไม่ก็หาหลอดมาใส่ไว้เพื่อให้มันเคลื่อนตัวได้สะดวก กำไว้ในมือแขนทั้งสองให้ขนาน
กับพื้นผิวโลก แล้วกำหนดจิตคิดถึงสิ่งที่ต้องการจะหาไว้ในใจและเป็นสมาธิ จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ ถ้าพยายามสังเกตไม้เท้า
ทำปฏิกิริยากับสิ่งที่ต้องการจะหา โดยมันจะชี้หรือจำกัดวงแคบๆ ในสิ่งที่ต้องการหาได้ ซึ่งถ้าใช้โดยผู้ชำนาญ และมีจิตสัมผัส
ที่ไวแล้วจะมีความแม่นยำสูง

ส่วนสาเหตุการเกิดปรากฏการณ์นี้ยังคงลึกลับ แต่สันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับสนามแม่เหล็กโลกและพลังงานต่างๆ ดึงดูดทำ
ปฏิกิริยากับลวด แล้วแปลเป็นคำตอบต่างๆ โดยตอนแรกเกิดในประเทศเยอรมัน ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ในการใช้มันหาโลหะ
ซึ่งได้รับความนิยมมากในสมัยนั้นและเผยแพร่มาถึงอเมริกา ในยุคตื่นเหมืองทอง แต่ต่อมา ด้วยการที่หาคำอธิบายทาง
วิทยาศาสตร์ไม่ได้ จึงทำให้ไม้เท้าดาวน์ เป็นการลวงโลก จึงขาดความน่าเชื่อถือไป และถูกลืมไป



5. Bioelectricity
   


แม่เหล็กไฟฟ้าชีวภาพ หมายถึงพลังงานไฟฟ้า พลังงานแม่เหล็ก หรือสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจากเซลล์ เนื้อเยื่อ
หรือสิ่งมีชีวิตต่างๆ โดยสัตว์บางชนิดมีอวัยวะรับความรู้สึกจากไฟฟ้า นกอพยพถิ่นฐานเชื่อว่ามีอวัยวะในการหาเส้นทาง
โดยอ้างอิงจากสนามแม่เหล็กโลก ฉลามมีปฏิกิริยากับสนามแม่เหล็กไฟฟ้าในบริเวณใกล้เคียงมากกว่ามนุษย์ ปลาไหล
ไฟฟ้าก็สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าที่รุนแรงออกมาจากร่างกายของมัน


และหากมนุษย์มีพลังไฟฟ้าแบบนี้ล่ะจะเกิดอะไรขึ้น? แน่นอนคุณอาจเคยเห็นคลิปเกี่ยวกับเรื่องนี้มามากมาย เกี่ยวกับ
มนุษย์ที่ใช้พลังไฟฟ้าหลายอย่าง ในศตวรรษที่ 19 มีหลายกรณีที่มีหลายคนอ้างว่า ตนเองสามารถบังคับใช้ไฟฟ้าแปลกๆ
บนวัตถุรอบๆ พวกเขาได้ บางคนจะมีปฏิกิริยาแพ้เทคโนโลยีมีปฏิกริยาสนามพลังไฟฟ้าผิดปกติซึ่งหากยืนจำพวกหลอดไฟ
ที่ส่องสว่างฟิวส์จะขาดทันที



นอกจากนี้ยังมีบางคนสามารถควบคุมพลังไฟฟ้าในร่างกายสามารถช็อคทำร้ายคนได้ และบางคนที่เป็นมนุษย์แม่เหล็กที่มี
พลังเหนือธรรมชาติ โดยสามารถนำโลหะมาติดตามตัวได้ราวกับมีพลังแม่เหล็กที่ผิวหนัง ซึ่งมีมีอยู่หลายคนที่มีพลังนี้
เช่น ลิ่ว โธลิน  อดีตคนงานก่อสร้าง ในมาเลเซีย สามารถน้ำแผ่นเหล็กมาติดที่ตัวและใช้แรงแม่เหล็กลากรถยนต์ที่หนัก
กว่า 1 ตันได้ (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)



4.Bioluminescence
   

http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/X2494283/X2494283.html

หลายคนคงเคยเห็นภาพสิ่งมีชีวิตเรืองแสง แต่คนเรืองแสงนั้นยังเป็นเรื่องปริศนาของใครหลายๆ คน และที่น่าแปลกคือ
กรณีคนเรืองแสงส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับผู้ป่วย อย่างกรณีของ นางแอนนา โมนาโร ชาวอิตาลีใน เป็นผู้ป่วยด้วยโรคหืดเรื้อรัง
ได้เข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลปิราในปี ปี 1934 ที่อยู่ตัวเธอก็เรืองแสงสีฟ้าออกมาจากหน้าอกและลำคอของเธอ
ขณะนอนหลับและมันจะหายไปเมื่อนางแอนนาตื่น บรรดาแพทย์ต่างตกตะลึงพยายามตรวจหาความผิดปกติแต่ก็ไม่สามารถ
วินิจฉัยอะไรได้เลย


แม้เรื่องราวมนุษย์เรืองแสงไม่สามารถหาคำตอบได้จนถึงปัจจุบัน แต่เมื่อเร็วๆ นี้นักวิจัยญี่ปุ่นพบว่า มนุษย์ก็สามารถเรืองแสงได้
จากการวิจัยพบว่ามนุษย์แพร่แสงน้อยกว่าความเข้มในระดับที่มองเห็นด้วยตาเปล่าได้ถึง 1,000 เท่า และเรืองแสงมากที่สุด
คือในเวลาสี่ทุ่ม และลดลงหลังจากนั้น




3. Levitation


   
คนลอยเป็นความสามารถลึกลับของมนุษย์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
มีหลายกรณีที่มีหลายคนอ้างว่ามีความสามารถทำให้ตัวเองลอยเหนือจากพื้นดินต่อหน้าพยานจำนวนมากได้ โดยไม่ใช้
อุปกรณ์ช่วย เช่น กรณีที่มีชื่ออย่าง แดเนียล ดังกลาส ฮิวม์(1833-1886) ที่มีพยานจำนวนได้เห็นเขาสามารถลอยอยู่
กลางอากาศ เขาสามารถลอยออกไปนอกหน้าต่างโรงแรมถึง 70 ฟุตและไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้โดยไม่มีเส้นลวดเข้ามาช่วย
หรือจะเป็นกรณีของนักบุญโยเซฟ กูเปอร์ติโน นักบุญชาวอิตาลีมีพลังลึกลับทำให้เขาสามารถลอยตัวเหนือ พื้นดินและ
เหาะบนท้องฟ้าได้




ในบางศาสนาเชื่อว่าการลอยนั้นเป็นการกระทำของวิญญาณบริสุทธิ์หรือพระเจ้า หรือผีโพลเตอร์ไกสต์ ในศาสนาฮินดู
ผู้ที่จะลอยตัวได้จะเป็นคนที่มีจิตวิญญาณสูงสุด โดยคนที่ลอยได้มักอ้างว่าตนมีความรู้สึกสบายเหมือนประหนึ่งดวงดาว
ในขณะลอยตัว  ปัจจุบันเรื่องดังกล่าวไม่เป็นที่ยอมรับทางวิทยาศาสตร์และเชื่อว่าเป็นกลอุบาย ภาพลวงตา มายากล




2. ESP
   

http://www.vcharkarn.com/vblog/34025

ESP ย่อมาจาก Extra Sensory Perception หมายถึง การรับรู้ด้วยสัมผัสพิเศษ ซึ่งโดยมนุษย์จะรับรู้ได้โดยการใช้
อวัยวะรับสัมผัสของร่างกาย แต่กระนั้นก็มีมนุษย์บางคนสามารถรู้สิ่งเร้าต่างๆทั้งหลายได้โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยอวัยวะ
รับสัมผัสใดๆในร่างกายเลย เช่น มีมนุษย์บางคนว่าตนเองสามารใช้โทรจิต ที่สามารถติดต่อสื่อสารโดยการใช้กระแสจิต
ส่งถึงกัน เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง ทำให้ผู้รับสามารถรับรู้สิ่งที่ผู้ส่งต้องการได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด
ก็ตามโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วย


หรือบางคนอ้างว่ามีญาณทิพย์ สามารถรับรู้วัตถุ สิ่งของ บุคคล หรือเหตุการณ์ต่างๆตามที่บุคคลนั้นต้องการโดยไม่ต้อง
อาศัยอวัยวะรับสัมผัส แต่ใช้ญาณพิเศษในตัวที่ทำให้เห็นภาพในสิ่งที่ต้องการจะเห็นในโนภาพอย่างแจ่มชัดเหมือนดูโทรทัศน์
เช่น ทำกระเป๋าสตางค์ตกหายจะสามารถใช้ญาณพิเศษนี้ตรวจสอบได้ว่าตกอยู่ที่ใดได้ และบางคนอ้างว่าสามารถการล่วงรู้
เหตุการณ์ล่วงหน้า รับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยไม่จำกัดเวลา

ในบางครั้งนับเป็นร้อยๆปี การรับรู้ประเภทนี้ทำให้เกิดการพยากรณ์เหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
ซึ่งการรับรู้เช่นนี้เป็นเรื่องถกเถียงกันมามากเนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อพิสูจน์ได้ยาก แต่ก็จะปรากฏขึ้นกับบุคคลหลายๆคน
ที่แสดงให้เห็นความสามารพิเศษเช่นนี้จึงทำให้ทุกวงการทั้งวงการวิทยาศาสตร์และศาสนาให้ความสนใจเพื่อที่จะพิสูจน์ความจริง



1.Prophecy


   
เรื่องราวของโหรพยากรณ์อย่างนอสตราดามุสยังคงเป็นปริศนาจนถึงปัจจุบัน ว่าเขาสามารถทำนายอนาคตอย่างแม่นยำได้อย่างไร
ทั้งที่เวลาผ่านไปหลายร้อยปี ไม่ว่าจะเป็นคำทำนายการสวรรคตของพระเจ้าอังรีที่ 2 ที่ 3 และ ที่ 4 และ การสิ้นสุดของราชวงศ์วาลัวซ์
แห่งฝรั่งเศส, พยากรณ์การเกิดของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และ เบนิโต มุสโสลินี รวมไปถึงพยากรณ์การเกิดธรรมชาติวิปริต โลกพิบัติอลเวง
ของปรากฏการณ์ เอลนิโญ และ ลานีญาซึ่งคำทำนายเหล่านั้นล้วนถูกต้องอย่างแม่นยำ


แต่กระนั้นในเรื่องที่มนุษย์ที่มีญาณวิเศษสามารถทำนายอนาคตได้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีหลายคนอ้างว่ารู้อนาคต ในลักษณะต่างๆ กัน
เช่น บางคนฝันเห็นสิ่งที่เกิดในอนาคต บางคนได้ยินเสียงที่เชื่อว่าจากสวรรค์ โดยคนที่เผยแพร่คำทำนายจากวรรค์จะเรียกว่าพระวจนะ



โดยคำพยากรณ์ของบุคคลเหล่านี้มักจะทำออกมาเป็นข้อความในหนังสือ โดยขอความต้องตีความไม่ค่อยตรงไปตรงมากนัก ส่วนมาก
คำทำนายจะเป็นด้านลบมากกว่าด้านบวก เช่น การตายของบุคคลสำคัญของโลก การค้นพบสิ่งใหม่ จุดจบของโลก ซึ่งคำทำนายดังกล่าว
มีทั้งรายบุคคลหรือในศาสนาแต่ละศาสนาบนโลก ไม่ว่าจะเป็น พุทธ อิสลาม คริสต์

แต่กระนั้นก็มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนพยายามพิสูจน์ว่าการทำนายดังกล่าวเป็นการหลอกลวงไม่เป็นความจริง อย่างคำทำนายของนอสตราดามุส
สามารถตีความได้หลากหลาย เนื้อหาคลุมเครือลึกลับยากต่อการเข้าใจส่งผลทำให้คำทำนายออกมาแล้วแต่คนแปล เป็นต้น



เนื้อหาจัดอันดับจาก
http://listverse.com/2010/07/22/10-bizarre-human-mysteries/
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่