ฉางเอ๋อ (嫦娥) ตำนานพระจันทร์คู่โลก

ฉางเอ๋อ (嫦娥) ตำนานพระจันทร์คู่โลก

เริ่มโดย etatae333, 29 มิถุนายน 2018, 10:59:57

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

ฉางเอ๋อ (嫦娥) ตำนานพระจันทร์คู่โลก



เทศกาลวันไหว้พระจันทร์ เป็นเทศกาลที่มีความสำคัญสำหรับคนจีนมากเป็นอันดับสองรองจากเทศกาลตรุษจีน
ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ของทุกปี โดยจะตรงกับเดือนกันยายน หรือตุลาคม อยู่ในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วง
ชาวจีนจึงเรียกว่า จงชิว แปลว่า กลางฤดูใบไม้ร่วง เป็นประเพณีที่ชาวจีนถือปฏิบัติสืบต่อกันมานับพันปี


ซึ่งมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับวันไหว้พระจันทร์ต่างๆ มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของ เทพธิดาฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์
และ กระต่ายบนดวงจันทร์



นางฟ้าฉางเออผู้งดงามติดอันดับนางงามแห่งสรวงสวรรค์ นางนั้นสถิตอยู่ในพระราชวังพระจันทร์กับกระต่าย
แต่เดิมนางฟ้าองค์นี้เป็นมนุษย์เป็นภรรยาของยอดวีรบุรุษนามว่า โฮ่อี้ (后羿) ซึ่งโด่งดังมากคือเรื่องการยิงดวงอาทิตย์
อย่างงงนะครับ ในอดีตนั้นมีดวงอาทิตย์ถึง 10 ดวงเลยทีเดียว แต่โฮ่อี้คนนี้ล่ะที่ยิงธนูใส่ดวงอาทิตย์ไป 9 ดวง
ในปัจจุบัน ดวงอาทิตย์เลยมีดวงเดียว


ฉางเออผู้นี้มีความงามเลืองลือ เป็นยอดศรีภรรยา แต่ก็น่าสงสารที่โฮ่อี้ผู้เป็นสามีไม่เคยสนใจนาง เพราะโฮ่อี้
ถูกลูกศิษย์ที่อิจฉานั้นใส่ร้ายป้ายสีนางต่างๆนานา มีตอนหนึ่งที่สำคัญมาก คือ โฮ่อี้อยากจะเป็นเซียน
เลยเดินทางไปยังเขาหัวซานซึ่งเป็นเขาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่ประทับของเจ้าแม่สวรรค์

โฮ่อี้ไปถึงยังตำหนัก เจ้าแม่เห็นคุณงามความดีที่โฮ่อี้ได้กำจัดดวงอาทิตย์ทั้ง 9 ดวง จึงมอบยาวิเศษซึ่งกินแล้ว
จะกลายเป็นเซียน พอโฮ่อี้ได้ยามาก็กลัวผู้อื่นจะรู้ จึงเก็บไว้ในน้ำเต้าแล้ววาดภาพบนน้ำเต้าให้น่ากลัว ใครเห็น
จะได้คิดว่าเป็นยาพิษ แต่พอกลับมาบ้านไม่ทันใด ลูกศิษย์ตัวดีกลับมาใส่ไฟบอกว่า ฉางเออคบชู้สู่ชายในตอนที่
โฮ่อี้ไม่อยู่ โฮ่อี้ก็หูแสนจะเบาดั่งขนนก ก็เข้าไปต่อว่าทุบตี จนฉางเออทนไม่ไหวไม่อย่ามีชีวิตอยู่อีกต่อไป



นางคว้าน้ำเต้าของโฮ่อี้มาเพราะคิดว่าเป็นยาพิษ จึงกินเข้าไปหวังจะตาย แต่นางกลับตัวเบาดั่งขนนกลอยขึ้นฟ้า
โฮ่อี้เสียใจที่นางอันเป็นที่รักกำลังจะเหาะจากไปเขาหมายจะคว้านาง แต่น่าน้อยใจและเกลียดชังนางบอกว่า

" ข้าจะไปอยู่บนดวงจันทร์ยังดีกว่ามาอยู่กับคนอย่างท่านพี่ "
ฉางเออจึงเหาะไปสู่ดวงจันทร์ประทับในพระราชวังจันทรากับกระต่ายตลอดกาล



อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า โฮอี้กับฉางเออเดิมทีเป็นเทวดาอยู่บ้านสวรรค์ แต่ได้รับเทวบัญชาจากประมุขฟ้า ให้เรามากำราบพระอาทิตย์
ทั้ง10ดวงซึ่งเป็นพระโอรสของพระองค์เอง แต่โฮอี้กลับทำเกินหน้าที่คือ ยิงสังหารพระอาทิตย์จนสิ้น เหลือเพียงดวงเดียว ทำให้
ประมุขกริ้วเป็นอันมาก จึงสาปให้โฮอี้กับฉางเอ๋อผู้เป็นชายาให้สิ้นซึ่งพลังแห่งเทพ

จากนั้นโฮอี้จึงไปขอความช่วยเหลือจากพระแม่สวรรค์ พระองค์ทรงเมตตาประทานยาทิพย์มาให้ แต่ด้วยความเห็นแก่ตัวของฉางเอ๋อ
ที่อยากกลับไปสุขสบายเหมือนเดิมบนสวรรค์นางจึงขโมยกินยาทิพย์นั้นและเหาะไปสู่สวรรค์ทิ้งโฮอี้ไว้คนเดียวบนโลกมนุษย์
แต่ถึงนางจะได้กลับไปสู่สวรรค์ นางก็ถูกประมุขจองจำให้อยู่ในดวงจันทร์ตลอดกาลตำนานนี้ดูฉางเออร้ายไปหน่อยแต่ก็มีตำนาน
ที่ยกย่องนาง





อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า เมื่อครั้งสมัยก่อนโบราณกาลนั้น โลกของเรามีดวงอาทิตย์อยู่ถึงสิบดวง ทำให้โลกมนุษย์เกิดภัยพิบัติไปทั่ว
แผ่นดินร้อนระอุ น้ำเหือดแห้ง ผู้คนไม่มีที่หลบซ่อนอาศัย

ต่อมาได้ปรากฏวีรบุรุษนามว่า โฮ่วอี้ เป็นผู้ที่มีฝีมือในการยิงธนูได้แม่นยำอย่างมาก โดยสามารถยิงธนูขึ้นสู่ฟ้าเพียงดอกเดียว
ถูกดวงอาทิตย์ถึงเก้าดวง ทำให้เหลือดวงอาทิตย์อยู่เพียงดวงเดียว เป็นการขจัดความทุกข์ให้กับประชาชนทั่วไป จึงได้รับการ
ยกย่องให้เป็นกษัตริย์



แต่เมื่อโฮ่วอี้ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ก็ลุแก่อำนาจ ลุ่มหลงในสุรานารี ฆ่าฟันผู้คนตามอำเภอใจ ทำให้ราษฎรโกรธแค้นชิงชังเขาเป็นที่สุด
เมื่อโฮ่วอี้รู้ตัวดังนั้นจึงเดินทางไปที่ภูเขาคุนหลุน เพื่อขอยาอายุวัฒนะจากเจ้าแม่หวังหมู่มากิน แต่ ฉางเอ๋อ ผู้เป็นภรรยากลัวว่า
ถ้าสามีของนางมีอายุยืนนาน อาจจะนำพาเอาความเดือดร้อนมาสู่ประชาชนเป็นแน่แท้ ดังนั้นนางจึงตัดสินใจแอบขโมยยา
อายุวัฒนะนั้นมากินเสียเอง เมื่อกินเข้าไปแล้ว ร่างของฉางเอ๋อก็เบาหวิว และลอยขึ้นไปสู่ดวงจันทร์

นับแต่นั้นมา บนดวงจันทร์ก็ปรากฏภาพเทพธิดา ที่เชื่อกันว่าเป็นฉางเอ๋อนี้เอง




 
แต่ยังมีตำนานหนึ่งซึ่งทำให้นางฟ้าองค์นี้เป็นที่เคารพของคนทั้งหลาย ในช่วงหนึ่งข้าวในนาล้มตาย ผลผลิตทางการเกษตร
ไม่ออกผลอย่างที่เคย ชาวบ้านก็เตือนร้อนกันไปทั่ว นางฟ้าฉางเออเห็นความทุกข์ที่เกิดขึ้น นางได้แอบลักน้ำทิพย์จากสวรรค์
มาโปรยข้าวในนา ผลผลิตทางการเกษตรในไร่สวน จนฟื้นกลับมาเจริญงอกงาม

ชาวบ้านทั้งหลายทราบถึงน้ำใจของนางฟ้าฉางเออซึ่งมีความหวังดีและช่วยเหลือชาวตน จึงจัดพิธีไหว้พระจันทร์ ตอนนี้จึงเป็น
หนึ่งในตำนานที่มาของวันไหว้พระจันทร์เช่นกัน เพื่อเป็นระลึกถึงความดีที่นางฟ้าฉางเออได้ช่วยเหลือ....






ส่วนเรื่องกระต่ายบนดวงจันทร์มีอยู่ว่า

หลังจากที่ฉางเอ๋อขึ้นไปอยู่บนดวงจันทร์แล้ว มีอยู่ปีนึงปักกิ่งเกิดโรคอหิวาระบาดหนัก ฉางเอ๋อมองลงมาเห็นก็เกิดความสงสาร
เป็นอย่างมาก เลยส่งกระต่ายหยกที่อยู่ข้างกายตัวเอง
(ปกติกระต่ายตัวนี้จะตำยาอยู่บนดวงจันทร์)

ลงมารักษาชาวบ้าน กระต่ายหยกแปลงกายเป็นหญิงสาวเที่ยวรักษาชาวบ้านจนหายจากโรค ชาวบ้านซาบซึ้งใจก็ตอบแทน
ด้วยสิ่งของต่างๆ แต่กระต่ายหยกก็ปฏิเสธไปและขอเพียงแต่ชุดเพื่อเอาไว้สวมใส่ครับ บางทีก็เห็นแต่งกายเป็นคนขายน้ำมัน
บ้างก็เป็นหมอดูดวง บ้างแต่งกายเป็นชาย บ้างแต่งเป็นหญิง และเพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากขึ้น



กระต่ายหยกจะขี่ม้าบ้าง กวางบ้าง สิงโตบ้าง หลังจากกำจัดโรคภัยให้ชาวเมืองเสร็จเรียบร้อย กระต่ายหยกก็กลับขึ้นไปยังดวงจันทร์
นับแต่นั้นมาชาวบ้านจึงได้กราบไหว้บูชาเทพเจ้ากระต่ายในวันไหว้พระจันทร์ด้วย


ปล.เทพเจ้ากระต่ายที่คนจีนรู้จักกันมากที่สุดเห็นจะเป็น ทูเออเย๋ (兔儿爷) จากนิยาย "กระต่ายหยกในตำหนักจันทร์"





ประวัติวันไหว้พระจันทร์มี 2 ตำนานอีกครับ

อันแรกคือ เมื่อฉางเอ๋อกินยาวิเศษเพื่อไม่ให้ยาตกไปอยู่ในมือคนเนรคุณอย่าง "เฟิ่งเหมิง" แล้ว ชาวบ้านที่ได้ยินเรื่องราว
ของฉางเอ๋อกลายเป็นเซียนบนพระจันทร์ ต่างก็จัดขนมพร้อมจุดธูปกราบไหว้ขอพรจากฉางเอ๋อผู้ซึ่งมีความเมตตาให้
คุ้มครองชีวิตให้มีความสงบสุข จึงเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานเทศกาลไหว้พระจันทร์



อีกตำนานนึงจากบันทึกโบราณโจวหลี่บอกไว้ว่า จีนเริ่มเซ่นไหว้พระจันทร์ในสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งที่มาของพิธีในเทศกาลนี้
มีส่วนเกี่ยวเนื่องกับตำนานความฝันของกษัตริย์ถังหมิงหวงเสด็จประพาสพระราชวังบนดวงจันทร์ กลางดึกของคืนเดือนเพ็ญ
(ขึ้น 15 ค่ำ เดือน8) กษัตริย์ถังหมิงหวงบรรทมหลับไปแล้วทรงพระสุบินว่า พระองค์ลอยขึ้นไปเที่ยวชมพระราชวังบนดวงจันทร์
และได้พบเทพธิดาบนดวงจันทร์กำลังร่ายรำอย่างงดงาม 



ค่ำเดือน 8 พระองค์ก็รับสั่งให้จัดเครื่องเซ่นไหว้พระจันทร์ และทอดพระเนตรความงามของพระจันทร์ไปพร้อมกับการร่ายรำของน
ในฝันนั้นพระองค์ทรงเพลิดเพลินเป็นอย่างยิ่งกระทั่งตื่นจากบรรทม ทรงอยากให้ฝันนั้นเป็นความจริง จึงมีรับสั่งให้นางสนม
แต่งตัวและร่ายรำเลียนแบบเทพธิดาในฝัน ตั้งแต่นั้นมา ทุกวันขึ้น 15างสนมครับ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่

letgo

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions