ปริศนาความหมายที่แท้จริงใน 6 ภาพวาดชื่อดังระดับโลก!

[etatae333]

ปริศนาความหมายที่แท้จริงใน 6 ภาพวาดชื่อดังระดับโลก!
cr. พี่หมิว@dek-d

1. 'Nature Forging A Baby' โดย Le Roman De La Rose



ภาพนี้เป็นส่วนหนึ่งในบทกลอนของ 'Guillaume de Lorris and Jean de Meun' นักกวีชื่อดังชาวฝรั่งเศส
เราจะเห็นได้ว่าเป็นภาพที่ผู้หญิงคนนึงกำลังยืนถือค้อนอยู่หน้าเตาไฟ ทำท่าเหมือนจะทุบเด็กทารกที่อยู่ข้างหน้าเธอ
เอาจริงๆ ถ้าใครเห็นภาพนี้ในทีแรกก็คงจะตีความกันแบบนั้นแน่นอน

แต่แท้จริงแล้ว ผู้หญิงในภาพคือ 'Mother nature' (ธรรมชาติผู้ให้กำเนิด) โดยเธอกำลังสร้างมนุษย์ขึ้นมา
ด้วยค้อนที่เธอถืออยู่นั่นเอง



2. 'Portrait Of Theo Van Gogh' โดย Vincent Van Gogh



ภาพวาดของชายผู้มีสีหน้าเศร้าสร้อยที่กำลังมองมาข้างหน้า เป็นผลงานชิ้นเอกของ 'วินเซนต์ แวนโก๊ะ' ที่ใครหลายๆ คนมักจะเข้าใจผิดว่า
นี่เป็นภาพวาดของตัวเขาเอง จนวันเวลาผ่านมาถึง 120 ปี จึงมีการเปิดเผยความจริงว่า ชายลึกลับในภาพวาดไม่ใช่ตัวแวนโก๊ะเองแต่อย่างใด

แต่คือ น้องชายของเขา 'Theo' (ธีโอ) นั่นเอง




3. 'Cafe Terrace At Night' โดย Vincent Van Gogh



มาต่อกันที่ภาพวาดของแวนโก๊ะอีกภาพ ภาพนี้เราจะน่าได้เห็นกันบ่อยๆ เป็นภาพของร้านคาเฟ่ที่เปิดตอนกลางคืน มีผู้คนเข้ามานั่งทานอาหาร
และเดินอยู่รอบๆ ร้าน แต่ในความจริงแล้วภาพนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่ด้วย

ด้วยความที่ตัวแวนโก๊ะเองเป็นลูกชายของรัฐมนตรีที่มีความเลื่อมใสในศาสนาเป็นอย่างมาก เขาจึงได้รับอิทธิพลนี้มาจากพ่อของเขา มันเลยทำให้
เขาหยิบเอาสัญลักษณ์ทางศาสนา เข้ามาใส่ไว้ในผลงานของเขา จากในภาพเราจะเห็นร้านคาเฟ่ธรรมดาๆ ริมถนน มีคนนั่งอยู่ในร้าน 11 คน นั่นคือ
อัครสาวกทั้ง 11 คนของพระเยซูเจ้า

ส่วนคนใส่ชุดสีขาวยืนอยู่ตรงกลางก็คือ 'พระเยซู' และคนที่ยืนเป็นเงาดำๆ หลบมุมอยู่ตรงนั้นก็คือ 'ยูดาส' หนึ่งใน 12 สาวกที่ทรยศพระเยซูนั่นเอง
จริงๆ แล้วก็ยังมีอีกหลายทฤษฎีเลยที่เกี่ยวกับภาพวาดนี้ แต่ทฤษฎีทางศาสนาที่เกี่ยวกับพระเยซูดูจะเป็นไปได้มากที่สุด




4. 'Black Iris' โดย Georgia O'Keeffe



ผลงานของ 'Georgia O'Keeffe' ศิลปินหญิงชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงในศิลปะด้านโมเดิร์นนิสม์ ผลงานส่วนใหญ่ของเธอมักจะเป็นภาพดอกไม้
แต่ด้วยมุมมองของคนภายนอก เราก็อาจจะตีความไปในหลายๆ รูปแบบ คนส่วนใหญ่เลยตีความภาพที่เธอวาดออกมาเป็นภาพ 'อวัยวะเพศของผู้หญิง'
เพราะมีความเชื่อที่ว่า ดอกไม้เป็นสัญลักษณ์ของเพศหญิง

แต่ตัวศิลปินได้ออกมาบอกแล้วว่า เธอต้องการสื่อถึงดอกไม้เท่านั้น เธอมีความชอบดอกไม้ ชอบกลิ่น สี ความสวยงามของมัน เลยอยากจะวาดภาพ
ออกมาให้ดูจับต้องได้และล้ำลึก ราวกับได้กลิ่นเกสรอบอวลอยู่ตรงหน้าคนดูเลยทีเดียว



5. 'The Netherlandish Proverbs' โดย Pieter Bruegel

ภาพวาดเก่าแก่ชิ้นนี้เป็นของศิลปินชาวดัตช์ที่ชื่อว่า 'Pieter Bruegel' ถ้าเรามองแบบผิวเผินก็คงจะคิดว่าเป็นภาพวาดปกติทั่วไป
ที่วาดเหตุการณ์ผู้คนทำกิจกรรมต่างๆ แต่แท้จริงแล้วในภาพวาดชิ้นนี้แฝงไปด้วยสุภาษิตโบราณของชาวดัตช์ นับร้อยสุภาษิตเลยทีเดียว
มาดูตัวอย่างสำนวนที่ปรากฏในภาพกัน



'To bang one's head against a brick wall'   
เอาหัวโขกกำแพง ความหมายจริงๆ ของมันก็คือ การทำอะไรที่เจ็บตัวแต่ไร้ประโยขน์


'Two dogs over one bone seldom agree' 
ทะเลาะกันเพราะของสิ่งเดียว

'He who has spilt his porridge cannot scrape it all up again' 
อย่าเสียดายในสิ่งที่เสียไปแล้ว


'To toss feathers in the wind' 
ทำในสิ่งที่ไร้ประโยชน์

To fall from the ox onto the rear end of an ass'
ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก

ส่วนใครอยากรู้ความหมายทั้งหมดไปดูกันต่อในคลิปนี้นะ
https://www.youtube.com/watch?v=tboRw6CPXjI


6. 'Monalisa' โดย Leonado Da Vinci



และถ้าพูดถึงภาพวาดชื่อดังระดับโลกจะขาดภาพนี้ไปไม่ได้เลย ภาพของผู้หญิงผมยาวในชุดสีดำ
ที่มีรอยยิ้มลึกลับปรากฏบนใบหน้าของเธอ ทั่วโลกต่างสงสัยว่าแท้จริงแล้วเธอคือใครกันแน่
พี่จะไล่ทฤษฎีต่างๆ ที่มีคนเคยตั้งไว้มาให้ดูนะ

- ทฤษฎีแรกคือ โมนาลิซ่าเป็นภรรยาของพ่อค้าชาวฟลอเรนซ์ ที่มาว่าจ้างให้ดาวินชีไปวาดภาพให้

- จริงๆ แล้วคนในภาพไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็นภาพเหมือนของเด็กหนุ่มรูปงามที่เชื่อว่ามีความสัมพันธ์
เชิงชู้สาวกับตัวดาวินชีเอง

- บางทฤษฎีก็เชื่อว่า ในภาพไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก แต่เป็นตัวดาวินชีเองนั่นแหละ เพราะด้วยความที่
ดาวินชีเองในขณะนั้นเป็นที่เลื่องลือว่าเป็นพวกรักร่วมเพศ จึงทำให้เกิดทฤษฎีนี้ขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่มีความจริงที่แน่ชัดปรากฎออกมาว่า จริงๆ แล้วโมนาลิซาคือใครกันแน่ ดาวินชี
ก็ยังคงทิ้งรอยยิ้มปริศนาของเธอบนภาพวาดไว้เป็นความลับต่อไป

[/size]

[meaw_meow]

 ;khhg ขอบคุณเกร็ดความรุู้