หวงตี้ (皇帝) จักรพรรดิเหลือง

หวงตี้ (皇帝) จักรพรรดิเหลือง

เริ่มโดย etatae333, 23 พฤศจิกายน 2018, 12:40:59

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

etatae333

หวงตี้ (皇帝) จักรพรรดิเหลือง

ถ้าเปรียบชาวจีนทั้งหมดเป็น "น้ำ" ใน "แม่น้ำ" สายใหญ่ จักรพรรดิเหลือง ก็คงเป็น "ต้นน้ำ"
ที่กำเนิดชาวจีนทุกผู้ทุกคน



       
"จักรพรรดิเหลือง" หรือ จักรพรรดิหวงตี้ (เชื่อกันว่าครองราชย์ระหว่างปี 2490-2413 ก่อนคริสตกาล)
ความสำคัญของ จักรพรรดิองค์นี้ก็เนื่องจากเป็นผู้ปราบปรามชนเผ่าต่างๆ และรวบรวมกันไว้ ขณะที่ก็
พัฒนาด้านความเป็นอยู่ให้ชาวจีนควบคู่ไป ด้วยการแนะนำให้ทำการเกษตร เลี้ยงไหม คิดค้นเกวียน เรือ
จนถึงเข็มทิศ
       
นอกจากนี้จักรพรรดิเหลืองยังมีอัฉริยภาพอีกมาก เนื่องจากเป็นผู้ประดิษฐ์ตัวอักษร คิดค้นปฏิทินจีน
จนถึงเครื่องมือ-เครื่องใช้อีกหลายอย่าง และะด้วยสิ่งเหล่านี้เองทำให้ชาวจีนถึงรักจักรพรรดิเหลืององค์นี้มาก
จนมีเรื่องเล่าว่า เมื่อองค์จักรพรรดิเสด็จสวรรคต เนื่องจากพระองค์ทำความดีมาก จึงกลายเป็นเซียน
แต่ขณะที่กำลังเสด็จขึ้นสวรรค์ ด้วยความรัก ชาวจีนที่อยู่บนพื้นโลกจึงพยายามดึงพระองค์เอาไว้ แต่ก็ไม่สำเร็จ
โดยสิ่งที่เหลืออยู่บนโลกก็เพียงเสื้อผ้า ที่ชาวจีนเอามาฝังไว้ที่ "สุสานจักรพรรดิเหลือง"




หวงตี้เป็นลูกคนที่สองของเส้าเตี่ยน (少典) เนื่องจากมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดมาตั้งแต่เล็กจึงได้เป็นผู้นำชน
เผ่าปศุสัตว์เร่ร่อนต่อจากพ่อ หวงตี้มีภรรยาสี่คนล้วนแต่สวยงามทั้งสิ้น ภรรยาคนแรกชื่อเหลยจู่( 嫘祖)
เป็นคนริเริ่มสอนให้เลี้ยงไหม คนสุดท้ายเป็นหญิงสาวที่สติปัญญาเฉลียวฉลาดแต่หน้าตาอัปลักษณ์
ชื่อว่า ม่อหมู่ (嫫母) ซึ่งคำว่าม่อหมู่ต่อมาหมายถึงหญิงอัปลักษณ์ ตรงข้ามกับไซซีที่หมายถึงหญิงงาม

เมื่อเขาเป็นหัวหน้าชนเผ่าได้พบว่า ชาวบ้านสามารถเก็บของป่าได้มากมาย แต่การขนย้ายกลับทำได้ยากลำบาก
หลังจากสังเกตเห็นลูกสนที่มีลักษณะกลมสามารถกลิ้งได้ เขาจึงคิดประดิษฐ์ล้อขึ้น เมื่อนำมาติดเข้ากับแกนกล่อง
ก็ทำให้สามารถขนย้ายสิ่งของได้สะดวกยิ่งขึ้น และสามารถนำสัตว์มาผูกเพื่อใช้ในการขนย้ายไปยังที่ไกลๆ ได้อีกด้วย
เขาจึงเรียกสิ่งนี้ว่า "เกวียน"



หลังจากประดิษฐ์เกวียนได้แล้ว เขาก็พบว่า การเดินทางยังไม่สะดวกมากนัก ยิ่งการที่มีแม่น้ำคั่นอยู่ก็ทำให้
การเดินทางไม่สะดวกมากขึ้น เขาสังเกตพบว่า ต้นไม้สามารถที่จะลอยน้ำได้ จึงนำท่อนไม้มาลอยน้ำ แต่ก็ยัง
ไม่ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อขุดไม้ออกเป็นโพรงก็สามารถเดินทางได้สะดวกมากขึ้น

เมื่อการเดินทางทำได้สะดวกมากขึ้น การติดต่อระหว่างเผ่าของเขาและเหยียนตี้ก็มีเพิ่มมากขึ้น และทำให้เกิดการ
ขัดแย้งที่นำไปสู่การปะทะกัน ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมให้แก่กัน จนเกิดศึกสงครามขึ้นในที่สุด หลังจากการทำสงคราม
ของทั้งสองเผ่า ทำให้เกิดผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ในที่สุดเผ่าของเขาก็สามารถที่จะเอาชนะเผ่าของเหยียนตี้ได้
ทำให้ทั้งสองเผ่าได้รวมเป็นหนึ่งเดียว และเขาได้เป็นผู้ปกครองคนแรกของแผ่นดิน ซึ่งผู้ปกครองในยุคต่อๆ มา
ได้นำชื่อของเขาไปตั้งเป็นตำแหน่งผู้ปกครอง  หรือที่คนไทยคุ้นเคยกันดีในชื่อของ ฮ่องเต้ อีกทั้งชื่อของเขา
ยังแปลว่า พระเจ้าเหลือง ดังนั้นสีประจำองค์ฮ่องเต้จึงเป็นสีเหลือง



หวงตี้ร่วมมือกับเหยียนตี้ขับไล่ซือโหย่ว (蚩尤) ผู้รุกรานในการรบที่จัวลู่ ( 涿鹿之戰) ซือโหย่วผู้นี้
ได้ชื่อว่าเป็นคนเก่งในด้านการประดิษฐ์อาวุธ และมีเวทย์มนต์ ขณะทำการรบได้เสกหมอกให้ปกคลุม
ไปทั่วบริเวณ แต่หวงตี้ได้คิดค้น รถเข็มทิศ ( 指南车) ซึ่งรถเข็มทิศนี้จะชี้ไปทางใต้เสมอ หลังจาก
แก้ไขสถานการณ์จนรบชนะฉือโหย่ว จึงได้เป็นใหญ่ใช้ชื่อว่า "หวงตี้"




หลังจากหวงตี้สามารถรวบรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวและขยายอิทธิพลออกไปมากขึ้น ระบบสังคมของแผ่นดินจีน
ในยุคนั้นเริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิม ระบบการปกครองในยุคสมัยนั้น ผู้นำจะมาจากการคัดเลือกจากผู้ที่มีความรู้
ความสามารถ ซึ่งเริ่มจาก หวงตี้ จวนซู่ ตี้คู้ ถังเหยา และอี๋ซุ่น โดยแต่ละคนต่างก็มีความสามารถที่โดดเด่นแตกต่างกันไป
และไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด ทำให้ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่สงบสุข ผู้คนอยู่ด้วยความสงบร่มเย็น



จนเมื่ออี๋ซุ่นชราก็มอบสมบัติต่อให้กับหยู และเมื่อหยูชราก็คิดที่จะส่งต่อให้กับอี้เป็นผู้ปกครองคนต่อไป แต่ว่าฉี่ที่เป็น
บุตรชายของหยูไม่พอใจ จึงวางแผนลอบสังหารอี้ ก่อนที่จะใช้อำนาจแต่งตั้งตนเองเป็นจักรพรรดิและสถาปนาราชวงศ์
ของตนขึ้นมา และถือเป็นราชวงศ์แรกของประวัติศาสตร์จีน คือ ราชวงศ์เซี่ย นอกจากนี้ยังเปลี่ยนรูปแบบการสืบอำนาจ
ไปเป็นระบบพ่อให้ลูก


ด้วยประวัติอันยาวนานของสุสานแห่งนี้ที่มีกว่า 4-5 พันปี ทำให้ รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับสุสานแห่งนี้มาก
เป็นอันดับ 1 ในบรรดาสุสานทั้งหมดที่มีอยู่นับพันนับหมื่นแห่งในจีน โดยในแต่ละมีจะมีพิธีไหว้จักรพรรดิเหลือง
ครั้งใหญ่ 2 ครั้งโดย คือ


       
วันที่ 5 เมษายน รัฐบาลจีนจะจัดขึ้นใน ในช่วงเชงเม้ง ซึ่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จะเดินทางมาสักการะ
องค์จักรพรรดิด้วยตนเอง ขณะที่ ในวันที่ 9 เดือน 9 หรือ 9 กันยายน วันที่ชาวบ้านจะร่วมกันจัดงานระลึกถึง
การส่งจักรพรรดิเหลืองขึ้นสวรรค์
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
นวดกระปู๋ นวดกระปู๋เชียงใหม่ นวดกระษัย ไซด์ไลน์ Sideline นวดน้ำมัน นวดอโรมา นวดแผนโบราณ อาบอบนวด ออน การบ้าน เรื่องเสียว ลายแทง หนังโป๊ AV เชียงใหม่