การบ้านที่เครียดโคตร กับชีวิตเส้นข้าง....

เริ่มโดย horashio, 21 ตุลาคม 2007, 22:44:14

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

horashio

 pp6

นี่จะเป็นการบ้านหรือเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
ผมเคยอ่านหนังสือนิยายอิงเศรษฐศาสตร์ เรื่องนึงดูเหมือนจะชื่อ เศรษฐศาสตร์ฆาตกรรม
ตัวเอกเป็นอาจารย์สอนวิชาเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง สรุปสั้น ๆ ได้ว่า ทุกเรื่องราวในสังคมมนุษย์สามารถอธิบายได้ด้วยเศรษฐศาสตร์ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องฆาตกรรม
ผมคงไม่มีปัญญาอธิบายอะไรที่ซับซ้อนได้ขนาดนั้น แต่วันนี้ได้ฟังเรื่องราวของเส้นข้างคนนึง ประกอบกับอ่านความเห็นของท่าน Nobody เรื่องกรรมอันมาแต่การผิดศีลข้อ 3

Re: ทำยังไงดี หากคุณหลงรัก(จริง)น้องๆที่ทำงานกลางคืน เริ่มต้น/บทสรุป
? ตอบ #157 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2007, 10:33:54 PM ? ตอบโดยอ้างถึงข้อความ 

--------------------------------------------------------------------------------

ขอฝากไว้สักนิดนะขอรับ
ว่าเศษกรรมจากการละเมิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจารฯ หรือการละเมิดในลูกหรือคู่ครองคนอื่น โดยที่ผู้ปกครองเขาไม่ได้อนุญาต
ผลของกรรมที่จะตามมา ก็คือคนใต้ปกครองของเรา(รวมไปถึงคู่ครอง)จะไม่อยู่ในโอวาทเช่นกันครับ

การที่เราไม่ค่อยได้พบเจอคนที่จริงใจในปัจจุบัน แม้ว่าเราจะมอบความจริงใจให้เขามากขนาดไหนก็ตาม
ก็อาจจะเป็นเพราะว่า นี่คือเศษกรรมที่เรากำลังได้รับอยู่ จากการกระทำในอดีตของเรา

ในเมื่อรู้แล้ว ต่อไปในอนาคต ถ้าเราอยากให้คนใต้ปกครองของเราอยู่ในโอวาท
เราก็ลองพิจารณาว่า เราจะหยุด"เหตุ"ที่ทำให้เกิดผลนี้ได้อย่างไรขอรับ



บอกตามตรงว่า สะกิดใจ

ถึงยังไงผมก็ยังเชื่อว่า กรรมเป็นเรื่องของเหตุและผลตามธรรมชาติ

เจอน้องคนนี้ตอนกลับจากเชียงใหม่ เพราะน้องคนที่เพิ่งนัดเพื่อนที่เชียงใหม่ให้ บอกว่า พี่... ช่วยน้องเค้าหน่อยนะ น้องเค้าเดือดร้อน

ผมไม่ได้ใจดีอะไรนักหนา เหนื่อยก็เหนื่อย เพิ่งขับรวดเดียวจาก เชียงใหม่ถึงกทม.
สะกิดแค่ คำว่า ช่วยน้องเค้าเหอะ น้องเค้าไม่เคยทำนะพี่...

ก็เลยนัดเจอกัน ....

ถึงเวลานัด สาวเจ้าก็พาร่างอรชร มาในชุดเสื้อยืดกางเกนยีนส์ เห็นปุ๊บก็ถูกชะตาครับ
ผมชอบ ผู้หญิงแต่งตัวแบบนี้แหละ ง่าย ๆ คนที่ใส่ยีนส์แล้วสวยหายาก ช่วงขาต้องยาว เอวหนาไปซักนิด ก็อาจจะทำให้ดูขัดตา
ดูหน้าตาแล้ว ยังไงก็ไม่น่าจะเกิน 18 ฝน

ทักทายกันพอเป็นพิธีแล้วก็พาน้องไปโรงแรมเลย

เธอเป็นคนคุยเก่ง ร่าเริง แต่พอถึงจุดอันเป็นที่มาของการพบกันในคืนนี้
เธอกลับเปลี่ยนเป็นคนละคน มือที่ผมจับ ชื้นไปด้วยเหงื่อ บอกให้ผมรู้ว่า เธอกลัว
พี่ .. หนูเขินพี่อะ
ผมก็เลยต้องค่อยเป็นค่อยไป ก็คิดว่าพี่เป็นแฟนละกัน เราต้องเคยมีอะไรกับแฟนมาแล้วแน่ ๆ ใช่มะ
เธอก็พยักหน้า แต่ ก็ยังไม่หายเขินอยู่ดี

แต่ในที่สุด เรื่องราวก็ผ่านไปตามวัตถุประสงค์ที่มาลงเอยกันในห้องเล็ก ๆ ของโรงแรมแห่งนี้
แม้อกจะยังแน่น เนื้อตัวจะยังเนียน แต่อะไรบางอย่างก็บอกว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เคยทำแบบนี้ อย่างที่ฟังมาจากคำโฆษณา

แม่หนูอยู่กับพ่อใหม่ พ่อทิ้งหนูไปแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ลำบากแบบนี้ ตอนนี้หนูต้องส่งตัวเองเรียน
แล้วเราทำอะไรล่ะ ผม ตั้งคำถาม...
ก็เสิร์ฟ ได้คืนละ 200 ...
ผมเริ่มคำนวณในใจ เบ็ดเสร็จ ไม่น่าเกิน 4000 ต่อเดือน รวมทิปด้วยก็ไม่เกิน 6000 สำหรับร้านอาหารย่านที่เธออยู่
ผมเลยถามเล่น ๆ ...

ถ้าพี่ให้เดือนละ 8 ค่าเทอมพี่ออกให้ น้องจะเลิกทำมะ
พี่จะเลี้ยงหนูเหรอ ...

เรียกว่า ดูแล ดีกว่ามั้ย คน ไม่ใช่แมว และพี่ก็ไม่ชอบเลี้ยงแมว
ดูเธอจะยินดีกับข้อเสนอ ....

จะเริ่มเมื่อไหร่ดีคะ ...
ก็ ตอนนี้เลยก็ได้ ผมตอบ

หลังจากกลับออกมา เธอต้องแบ่งเงินที่เธอได้ให้กับคนที่แนะนำเธอให้ผมด้วย ..
ของฟรีไม่มีในโลก มันดูเหมือนจะเป็นธรรมเนียมไปซะแล้ว ซึ่งผมก็คุ้นกับเรื่องเหล่านี้พอสมควร

ผมบอกเธอว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่เคลียร์ให้เอง

เบ็ดเสร็จ จ่ายไป 6 k ทัั้งช่วยน้อยและเคลียร์กับคนแนะนำตัวดี

ดูเหมือนผมจะมีสตางค์เหลือใช้ในเรื่องพวกนี้ แต่ความจริง ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมาจากไหน เพียงแต่ หาเองใช้เอง ไม่มีอะไรให้เป็นห่วงนอกจากตัวเอง
ผมกินง่าย อยู่ง่าย ไม่กินเหล้า เอาอย่างเดียว
ที่สำคัญ ผมคิดว่า อย่างน้อย ถ้าเกิดเป็นเรื่องจริง แล้วผมสามารถช่วยให้น้องเค้าหยุดแค่นี้ ก่อนที่เธอจะยึดเป็นอาชีพ แทนที่เธอจะผ่านชายอีกเป็นร้อยเป็นพัน
ก็หยุดแค่ที่ผมนี่แหละ ตั้งหน้าตั้งตาเรียนให้จบ

แรงจูงใจของผม คือ เซ็กส์ แน่นอน ผมไม่ใช่นักบูญ คงทำใจไม่ได้ที่ต้องจ่ายแต่ไม่ได้
ถ้า แรงจูงใจของผม คือ รัก มันก็คงเป็นอีกแบบนึง
ดูเหมือนผมจะเคยตั้งกระทู้ว่า ระหว่างรัก กับ เซ็กส์ เลือกอะไร ... เป็นคำถามที่ตั้งใจจะถามจริง ๆ เมื่อนับดูแล้ว จำนวนคนที่เลือกรัก มีมากกว่า

... ผมกลับเป็นคนส่วนน้อย ผมเลือก เซ็กส์ อาจจะฟังดูหื่น แต่บอกตามตรง ผมไม่ศรัทธาในความรักระหว่างชายกับหญิง ชายกับชาย หรือ หญิงกับหญิง
ผมศรัทธาในความรักที่มีต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พอที่จะไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ผมศรัทธาในความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก
แต่ไม่ศรัทธาในความรักระหว่างชายหญิง

แรงจูงใจของน้องเส้นข้าง... ความอยู่รอด การศึกษา ความก้าวหน้าในชีวิต ...ถ้าเป็นความจริงอย่างที่เธอว่า

เราสองคนต่างมีแรงจูงใจ เป็นแรงขับ เมื่อความต้องการซื้อ ความต้องการขาย ต้องตรงกัน ที่จุดสมดุล ผู้เสนอขายพอใจกับราคาของผู้เสนอซื้อ เรื่องราวก็ Happy ending

Game นี้ มีแต่ Win Win สำหรับคนสองคน

แต่ผมอาจจะลืม ฉุกคิดถึงความเสื่อมของสังคม .... ผลที่ผมเป็นผู้มีส่วนร่วมก่อให้เกิดขึ้นในสังคม ไม่มีความต้องการซื้อ ย่อมไม่มีผู้เสนอขาย

ตามหลักเศรษฐศาสตร์ แต่ในโลกนี้ คงไม่มีอะไรที่มีผู้เสนอขาย แต่ไม่มีผู้ต้องการซื้อ เพียงแต่จะซื้อที่ระดับราคาเท่าไหร่ เท่านั้น ความพึงพอใจและความจำเป็นต้องใช้ กำหนดระดับความต้องการของราคาตลาด

หลังจากวันนั้น ผมก็โทรติดต่อไป เธอรับสายไม่เคยถึง 2 นาที แล้ววาง
เรายังไม่ได้คุยอะไรกันเป็นกิจลักษณะเลย ซักนิด จนผมเริ่มแน่ใจว่า ไอ้ผมใจดีที่จ่ายไป น่ะ แถวบ้านผมเค้าเรียก ควาย ...
แต่ก็ช่างมันเหอะ ผมคิดว่า เมื่อเราให้ด้วยเจตนาดี ก็ถือว่า เราให้ทานก็แล้วกัน
เป็นควายที่ให้ทาน ก็ดีกว่า เป็นคนที่โกงวัด โกงชาติล่ะวะ

วันนี้เธอโทรมาอีก...

พี่หนู จะต้องจ่ายค่าเทอม พี่ออกให้หนูก่อนได้มั้ย แล้วหนูจะค่อย ๆ ใช้ให้ .. ไปกับพี่ ใช้หนี้
หนูไม่อยากทำอย่างนี้กับหลาย ๆ คน

อ้าว.. แล้วขอแม่ก่อนไม่ได้เหรอ ...

pp
พี่... ถ้าแม่หนูให้ได้ แล้วหนูจะมาทำทำไม ทุกวันนี้ แม่ แทบจะขายหนูกินอยู่แล้ว
หนูยังเรียนอยู่นะพี่ เวลาแม่ไม่มีเงินเล่นไพ่ แม่ก็มาเอาที่หนู แม่ไม่เคยถามหนูซักคำว่า หนู หาเงินมาจากไหน ...

ds หึหึ ... ก็ถ้าพี่ให้ไปแล้วเราหายแว๊บไปเหมือนเมื่อสองสามวันก่อนล่ะ

หนู ไปเยี่ยมยาย ไปขอตังค์ยาย แต่ .. ไม่ได้ อะ ยายมีให้แต่ไม่พอ ..

เธอแก้ตัวชัด ๆ เยี่ยมยาย ก็คุยโทรศัพท์ได้ ประเทศนี้ สัญญาณโทรศัพท์ไม่จำกัดขอบข่ายการรับอยู่แค่ใน กทม. นี่หว่า

ผมเสนอไปว่า เอางี้ละกัน ไปค้างกับพี่สองคืน แล้วพี่จะช่วย..

เสาร์อาทิตย์หน้าพี่มีธุระไปต่างจังหวัด ไปกับพี่ละกัน เดินทางเย็นวันศุกร์.. กลับวันอาทิตย์

เธอตกลง ....

เช้าวันนี้ เธอยอมไปกับผมอีกครั้ง เพื่อตอบแทนที่ผมช่วยเคลียร์ให้
ก่อนกลับผมยื่นให้เธอ 3000 เธอปฏิเสธ หนูขอแค่ 500 ก็พอ

พี่รับปากจะช่วยหนู หนูเชื่อใจพี่ ...

ผมไม่เคยเจอมุกนี้เลย ตั้งแต่เที่ยวแบบนี้มา ...
ไม่เคยมีใครปฏิเสธ โดยขอรับลดลงแค่ 1 ใน 6 ของเงินที่เสนอให้ มีแต่จะขอทิปเพิ่ม

ถ้าเธอไม่ใช่คนที่รู้จักคิด เธอก็คงเป็นคนที่ฉลาดมาก ๆ ที่ใช้มุกนี้
..........................................................

ผม กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ผมกำลังส่งเสริมให้สังคมเสื่อมทราม หรือกำลังช่วยให้เด็กคนนึงได้เรียน และเลิกคิดจะขายตัว

.... ผมไม่ได้รักผู้หญิงคนนี้ ผมแค่อยากตอบสนองต้องการทางเพศ และทำให้เธอได้มีเงินสักก้อนเพื่อการศึกษาของเธอเอง โดยที่ไม่ต้องทำแบบนี้กับผู้ชายอีกหลายคน

สรุป...ตามธรรมเนียมครับ

หน้าตา 9
รูปร่าง 8
ไฟหน้า 8 หลอดไฟ 8
ผิวพรรณ 8
ลีลา อารมณ์ร่วม 6
อัธยาศรัย 8

ถ้านี่เป็นการบ้าน คงเป็นการบ้านที่เครียดโคตร ๆ ... ไม่รุ้จะให้แง่คิดอะไรได้บ้างมั้ย เป็นการบ้านที่ส่ง เพราะอยากเล่า เท่านั้นเอง  pp6





friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Nobody

เงินที่ได้มาง่าย ๆ
ก็ใช้ไปง่าย ๆ นะครับ

ดูตัวอย่างคุณแม่ของน้องคนนี้สิครับ
ไม่มีเงินเล่นไพ่ ก็มาเอาจากลูก
แบบนี้ พอไม่มีเงิน ก็มาเอาจากลูกเรื่อย ๆ สิครับ

ถ้าไม่มีเงินกินข้าว ก็ว่าไปอย่าง
แต่นี่ ไม่มีเงินไปเล่นการพนัน
จริง ๆ น้องเขาน่าจะปฏิเสธไปนะครับ

เรื่องการส่งเสียน้องเขา และไป"เอา"กัน
ผมบอกให้เลยว่า หากไม่อยากผิดศีลข้อ ๓
ต้องให้คุณแม่ของน้องเขา"ออกปาก"อนุญาตเลยครับ
ว่าให้นอนกับลูกสาวเขาได้ หรือแม้แต่คำสุภาพอย่าง"มีเพศสัมพันธ์"กัน ก็ใช้ได้แล้วครับ

ถ้าตั้งใจจะส่งเสียน้องเขาแล้ว (มากหรือน้อย ก็ตามแต่)
ก็ไปพูดกับแม่เขาให้เป็นกิจจะลักษณะเลยสิครับ
ว่าจะขอช่วยค่ากินอยู่ หรือค่าเล่าเรียนบางส่วน
แต่อาจจะขอมีความสัมพันธ์(ถ้ามีวาทะศิลป์ ก็บอกไปเลยว่า เพศสัมพันธ์)
ใช้คำพูดให้เป็น แต่ไม่บิดเบือนความหมาย
เช่น ขออนุญาตเป็นแฟนกัน "ต่าง"จากการขออนุญาต"เอา"กันนะครับ

ถ้าจะส่งเสียน้องเขาให้เรียนให้จบ
ควรจะดูความตั้งใจและพฤติกรรมอย่างอื่นด้วย
ผมไม่เน้นเรื่องผลการเรียน เพราะคนเรียนไม่เก่งก็มีเยอะครับ
แต่ถ้าน้องเขา"ตั้งใจ"จะเรียนให้ดี แบบนี้น่าสนับสนุนมากกว่า

ถ้าพี่คิดจะส่งเสียน้องเขา
และแม่น้องเขาอนุญาตเรื่อง"ความสัมพันธ์"แล้ว
พี่ก็จะอยู่ในฐานะผู้ปกครองไปโดยปริยาย
ก็ควรจะขอน้องเขาดูผลการเรียนบ้าง
เพื่อให้แน่ใจว่า น้องเขามีความฝักใฝ่ในการเรียน คือใฝ่ดีนั่นเอง
ไม่ใช่ว่าเอาเงินไปเที่ยวเล่น หรือใช้ฟุ่มเฟือยในด้านอื่น
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

horashio

 pp6

ที่ท่านแนะนำมา ...
เคยทำแล้วครับ ปัจจุบันน้องคนนั้นก็ยังเรียนปีสุดท้าย เทอมหน้าก็จบแล้ว
น้องคนนี้ เป็นคนที่ทำให้ผมเลิกศรัทธาในความรัก
ทุกวันนี้ ก็คุยกัน กินข้าวกัน บางทีก็ยังคงไปนอนด้วยกัน แต่ไม่ได้มีอะไรกัน (เธอแค่ต้องการคนเป็นเพื่อนเวลาเหงา เท่านั้น)


จะว่าไป น้องเค้าก็ยอมรับว่าได้ดี มีชีวิตที่ดีทุกวันนี้ได้ ก็เพราะผม

ผมคงไม่สามารถเป็นผู้ปกครองใครได้อีกแล้วครับ มันเหนื่อยเกินไป

เพื่อนที่เจนโลกคนนึง เคยเตือนผมว่า อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนที่ทำแบบนี้ ปล่อยเค้าไปตามทาง อยากหาความสุข ก็หาไป

จะว่าไป ... ผม คงแย่จริง ๆ ที่คิดว่า ตัวเองมีความสามารถจะเปลี่ยนแปลงชีวิตคน ถ้าใครก็ตามใฝ่ดี คงไม่มีความคิดแม้แต่น้อยที่จะหาเงินด้วยวิธีง่าย ๆ แบบนี้

ท่านว่าจริงมั้ย..

จะยังไงก็ตาม.. เท่าที่ผมเคยได้ยินจากน้องเหล่านี้ วิธีที่เราคิดว่า ง่าย ๆ กลับไม่ง่ายเลย สำหรับเธอเหล่านั้น


friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Nobody

ขอชี้แจงคำว่าผู้ปกครองสักนิดครับ
ที่เราช่วยเหลือน้องเขาไป โดยส่งเสียให้เรียนหนังสือนั้น
อย่าไปคาดหวังว่า น้องเขาจะต้องเป็นคนดีเหมือนที่เราหวังไว้ จะดีกว่าครับ

แต่ให้ดูว่า ถ้าน้องเขามีความตั้งใจที่จะเรียน เราก็ช่วย
ถ้าน้องเขาได้เงินไปแล้ว เอาไปเที่ยวเล่น ผมว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเอาเงินไปให้น้องเขาผลาญนะครับ
และเราอาจจะทำให้น้องเขานิสัยเสียอีก ว่าหาเงินมาได้ง่าย ๆ

ที่แนะนำให้แจ้งให้คุณแม่น้องเขาทราบนี่
เป็นเรื่องของศีลข้อ ๓ เท่านั้นครับ
เป็นการป้องกันตัวพี่เอง ไม่ใช่คนอื่นครับ หุหุ
และในทางกลับกัน หากพี่มีภรรยาแล้ว
ก็ต้องได้รับคำอนุญาตจากภรรยาของพี่เช่นกัน
จึงจะถือว่า ความสัมพันธ์กับน้องคนนี้ ไม่เป็นการละเมิดศีลครับ


ใจของคนอื่น เราเปลี่ยนไม่ได้หรอกครับ
ถ้าเขาไม่ใฝ่ดี ก็ปล่อยเขาไปดีกว่า
อย่าไปคิดว่า เราจะไปเปลี่ยนเขาได้ จะเครียดเปล่า ๆ ครับ

ส่วนเรื่องความรักนั้นในแบบพรหมวิหาร ๔ นั้น
เมตตา คือความรักที่อยากเห็นคนอื่นมีความสุข (รักแบบไม่หวังผลตอบแทน)
กรุณา คือความสงสารที่อยากเห็นเขาพ้นทุกข์
มุทิตา คือยินดีเมื่อเห็นเขาได้ดี
อุเบกขา คือเมื่อช่วยเขาอย่างที่สุดแล้ว เขาก็ยังไม่มีความสุขหรือยังไม่พ้นทุกข์
เราก็วางเฉย เพราะเรามั่นใจว่าเราได้ทำดีที่สุดของเราแล้ว
ที่เหลือต้องขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง

และที่สุดยอดจริง ๆ คือ เราสามารถรู้สึกตามนี้ได้ ไม่ว่ากับคนที่ทำดีกับเรา(มิตร)หรือคนที่ทำร้ายเรา(ศัตรู)
แต่นั่นเป็นเรื่องของกำลังใจส่วนบุคคลครับ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

horashio

ความรักระหว่างชายหญิง ที่กลายเป็นความรักแบบพรหมวิหาร 4 ได้นั้นผมไม่คุ้นเคยครับ
ถ้าเป็นความรักที่พ่อแม่มีให้กับลูก นายมีให้กับลูกน้อง ครูมีให้กับศิษย์ ผมพอจะเข้าใจได้

ถ้ารสนิยมเส้นข้างมันจะส่งผลเลวร้าย เป็นการละเมิดศีลข้อ 3
ผมเห็นทีต้องเปลี่ยนรสนิยม ..

การให้โดยปราถนาดี ไม่มีอะไรตอบแทนกับน้อง ๆ เหล่านั้น สำหรับผม คงไม่สามารถทำได้ ในเวลานี้
อย่างน้อย ถ้าผมเปลี่ยนรสนิยมไปสักคน ดีมานด์ ก็คงลดลงไปบ้าง
ซัปพลายก็น่าจะลดลงบ้างเหมือนกัน

ที่จริงก็รู้สึกว่า ควรเลิกเที่ยวแบบนี้ มาหลายทีแล้ว ไม่ใช่เพราะสำนึกดีอะไร
แต่เพราะโอกาสหล่นมีมากกว่ามาโดยตลอด

ตอนนี้ เกิดดวงตาเห็นธรรมขึ้นมานิดนึง สมควรเลือกเฉพาะผู้ที่ทำอาชีพนี้ที่บรรลุนิติภาวะแล้วโดยเฉพาะดีกว่า อย่างน้อยโอกาสจะผิดลูกผิดเมียใครก็จะได้น้อยลง

ป.ล. มันคงเป็นเรื่องตลกร้าย ถ้าหากใครที่มีภรรยา จะขออนุญาตอุปการะสาวน้อยนางหนึ่งไว้เพื่อมีเพศสัมพันธ์ แม้จะเป็นการกระทำโดยเจตนาดีก็ตาม พอ ๆ กับขออนุญาตภรรยาไปเที่ยวผู้หญิงนั่นแหละครับ เอาเป็นว่า ศีลข้อ 3 เนี่ย ต่อให้มีภรรยา ผมก็คงต้องละเมิดแหง ๆ อาจจะพ่วงศีลข้อมุสาไปด้วยอีกข้อนึง เพราะเวลาใครถามก็คงไม่บอกหรอกครับว่าไปเที่ยวผู้หญิงมา นอกจากจะคอเดียวกัน อิอิ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

JohnyWalkerBlue

 zuy อ่านแล้วเครียดสมชื่อกระทู้จริง ๆ

แถมกำลังจะกลายเป็นกระทู้ธรรมะไปซะอีก  pp7

ดีครับ ผมรู้สึก ดีจริง ๆ ที่ยังมีกระทู้แบบนี้ในบอร์ด  zcry
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Nobody

อ้างจาก: horashio เมื่อ 22 ตุลาคม 2007, 00:00:15
ความรักระหว่างชายหญิง ที่กลายเป็นความรักแบบพรหมวิหาร 4 ได้นั้นผมไม่คุ้นเคยครับ
ถ้าเป็นความรักที่พ่อแม่มีให้กับลูก นายมีให้กับลูกน้อง ครูมีให้กับศิษย์ ผมพอจะเข้าใจได้
ความรักทุกแบบ สามารถมองแบบพรหมวิหาร ๔ ได้
หากเรามองเขาให้เท่าเทียมกับเรา
คิดว่าเขาก็เป็นเพื่อนร่วมโลกเช่นเดียวกัน
ใจทุกดวงมีความต้องการพื้นฐานเหมือนกัน คือ "รักสุข เกลียดทุกข์"ครับ
ถ้าเราอยากให้คนอื่นปฏิบัติต่อเราอย่างไร เราก็ควรเริ่มปฏิบัติกับเขาแบบนั้นก่อนครับ

ความรักระหว่างชายและหญิงที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด
ก็เพราะเอาความใคร่ในร่างกายเข้ามาปน
แถมด้วยความอยากเป็นเจ้าของอีกต่างหาก
ใจคนอื่น ยังไงเราก็บังคับไม่ได้ เพราะเขาก็มีอิสระ มีความเป็นตัวของตัวเองทั้งสิ้น
ถ้าคิดว่าเขาเป็น"ของเรา"เมื่อไหร่ ก็เสร็จเมื่อนั้นหละครับ
อ้างจาก: horashio เมื่อ 22 ตุลาคม 2007, 00:00:15
ถ้ารสนิยมเส้นข้างมันจะส่งผลเลวร้าย เป็นการละเมิดศีลข้อ 3
ผมเห็นทีต้องเปลี่ยนรสนิยม ..

การให้โดยปราถนาดี ไม่มีอะไรตอบแทนกับน้อง ๆ เหล่านั้น สำหรับผม คงไม่สามารถทำได้ ในเวลานี้
อย่างน้อย ถ้าผมเปลี่ยนรสนิยมไปสักคน ดีมานด์ ก็คงลดลงไปบ้าง
ซัปพลายก็น่าจะลดลงบ้างเหมือนกัน

ที่จริงก็รู้สึกว่า ควรเลิกเที่ยวแบบนี้ มาหลายทีแล้ว ไม่ใช่เพราะสำนึกดีอะไร
แต่เพราะโอกาสหล่นมีมากกว่ามาโดยตลอด
การจะเลิกทำอะไรก็ตาม ถ้าจะให้ง่ายที่สุด ก็ต้องพิจารณาให้เห็นโทษของสิ่งนั้นครับ
ถ้าหากเราไม่เห็นว่าวิถีชีวิตแบบนี้ ให้โทษกับเราอย่างไรบ้าง
เราก็คงเบื่อหน่ายได้ชั่วคราวครับ
พอความใคร่กลับมาใหม่ เราก็หวนกลับไปหามันอีกครับ
เพราะสิ่งที่เราเสพไม่เคยพอเลยจริง มี ๔ อย่างครับ คือ "กิน นอน กาม และอำนาจ"
พวกนี้ ต้องตัดด้วยปัญญาอย่างเดียวครับผม
อ้างจาก: horashio เมื่อ 22 ตุลาคม 2007, 00:00:15
ตอนนี้ เกิดดวงตาเห็นธรรมขึ้นมานิดนึง สมควรเลือกเฉพาะผู้ที่ทำอาชีพนี้ที่บรรลุนิติภาวะแล้วโดยเฉพาะดีกว่า อย่างน้อยโอกาสจะผิดลูกผิดเมียใครก็จะได้น้อยลง
ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง
มีสาว ๆ เข้ามาติดพันเยอะมาก (ตั้งแต่อยู่ม.ปลาย)
แต่เพื่อนคนนี้ มีความสามารถอย่างนึงที่ผมนับถือ คือวาทะศิลป์ เวลาเข้าหาผู้ใหญ่(ของสาว ๆ)

สาว ๆ ที่มันไปนอนด้วย (แม้ว่าส่วนใหญ่จะนอนก่อน แล้วบอกผู้ใหญ่ทีหลัง)
แม้ว่าจะเลิกกันไปตอนหลัง แต่มันก็ยังดูแลเขาเป็นอย่างดี
"ดี"ในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทุ่มเทเงินทองเลี้ยงดูอยู่ตลอดเวลานะครับ
แต่ให้ความช่วยเหลือในยามที่น้อง ๆ เดือดร้อน ตามอัตภาพของมัน (ซึ่งก็ไม่ใช่คนที่ร่ำรวยอะไรมาก)
ก็ลูกจ้างบริษัทเหมือนกัน
เวลาน้อง ๆ มีปัญหา มันก็รับเป็นธุระให้จัดการช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาตามความรู้และเวลาที่แบ่งให้ได้
แบบนี้ ผมก็ว่ายังดีนะครับ

อ้างจาก: horashio เมื่อ 22 ตุลาคม 2007, 00:00:15
ป.ล. มันคงเป็นเรื่องตลกร้าย ถ้าหากใครที่มีภรรยา จะขออนุญาตอุปการะสาวน้อยนางหนึ่งไว้เพื่อมีเพศสัมพันธ์ แม้จะเป็นการกระทำโดยเจตนาดีก็ตาม พอ ๆ กับขออนุญาตภรรยาไปเที่ยวผู้หญิงนั่นแหละครับ เอาเป็นว่า ศีลข้อ 3 เนี่ย ต่อให้มีภรรยา ผมก็คงต้องละเมิดแหง ๆ อาจจะพ่วงศีลข้อมุสาไปด้วยอีกข้อนึง เพราะเวลาใครถามก็คงไม่บอกหรอกครับว่าไปเที่ยวผู้หญิงมา นอกจากจะคอเดียวกัน อิอิ
คุณป้า(พี่สาวคุณแม่ผมแท้ ๆ)ได้สามีที่มีความรับผิดชอบดี
คุณลุงคนนี้ เคยมีตำแหน่งใหญ่โตในบริษัท(ปัจจุบันเกษียณแล้ว)
ไปกินเลี้ยงแทบทุกวัน
กลับมาก็ดึก ๆ ดื่น ๆ (ในสมัยนั้น ตอนผมอยู่ชั้นประถม ก็สัก ๔ ทุ่ม ๕ ทุ่ม)

ผมค่อนข้างมั่นใจว่า คุณลุงคนนี้มีเมียน้อยแน่ ๆ
แต่ไม่แน่ใจว่า ถาวรหรือชั่วคราวขนาดไหนนะครับ
แต่คุณลุงก็มีความสามารถที่พูดให้คุณป้าผมอนุญาตเรื่องการมีหญิงอื่นได้ (ทั้ง ๆ ที่คุณป้าผมก็เป็นคนดุ)
หรือแม้แต่ลูก ๆ คุณลุง ๓ คน (พี่ ๆ ญาติผม)
ก็แซวคุณลุงอยู่บ่อย ๆ เรื่อง"เลี้ยงนก เลี้ยงหนู" (หมายถึงมี"อีหนู"นั่นแหละครับ)

ผมก็มามองว่า ทำไมคุณลุงผมถึงเซียนขนาดนี้
ก็น่าจะเป็นเพราะว่า คุณลุงผมไม่เคยต้องทำให้ครอบครัวเดือดร้อน
เลี้ยงดูลูกเมียให้อยู่แบบสบาย ๆ
มีเวลาพาครอบครัวไปเที่ยวอยู่บ่อย ๆ รวมถึงไปทานข้าวนอกบ้านอยู่สม่ำเสมอ (บ้านนี้เป็น"ขากิน"ครับ)
ไม่เคยนำเรื่องผู้หญิงอื่นนอกบ้าน มาให้ครอบครัว และเดือดเนื้อร้อนใจ รวมไปถึงเสื่อมเสียชื่อเสียงของตัวเองและครอบครัว

อีกเรื่องที่ผมคิดว่าสำคัญคือ การสื่อสารระหว่างสามีและภรรยาครับ
บางที การที่เราไปมีคนอื่น ก็น่าจะสื่อสารกันให้รู้ว่า เราขาดอะไรจากภรรยาไปบ้าง โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง
การพูดคุยกันด้วยเหตุผล อย่าหักหานน้ำใจกัน ผมคิดว่าน่าจะทำให้ชีวิตคู่ของคน ๒ คนยั่งยืน และมีความสุข(ใจ)มากขึ้นนะครับ




ที่ผมกล่าวมานี้ ก็ไม่ใช่ว่าผมจะทำได้เองทั้งหมด
แต่เป็นเรื่องที่ผมลักจำมาจากครูบาอาจารย์ท่านทั้งนั้น
ผมเองก็ถือว่าเป็นผู้บำเพ็ญบารมีคนหนึ่ง (แปลว่า ยังต้องสร้างกำลังใจในการทำดีให้เข้มแข็งกว่านี้)
เพราะยังต้องเกิดมาในโลกใบเดียวกับท่านทั้งหลายอยู่
ถ้าหากว่า บารมีเต็มแล้ว (หมายความว่า ไม่รู้สึกว่าสิ่งใด ๆ เป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตอีกต่อไป)
ก็คงไม่ต้องเกิดมาแล้วหละครับ

ขอให้พวกเราอย่าประมาทว่า วิถีชีวิตที่เรากำลังดำรงอยู่ในขณะนี้ จะไม่มีผลกระทบกับชีวิตของเราในอนาคตนะครับ
เพราะผมบอกได้เลยว่า มีแน่ ๆ ครับผม
แม้นักวิทยาศาสตร์ยังกล่าวไว้เลยว่า "กิริยา = ปฏิกิริยา"

ส่วนใครจะ"ละ ลด ปลด วาง"ได้มากน้อยขนาดไหน
ก็คงจะขึ้นอยู่กับปัญญาในการเห็นสัจธรรมรอบ ๆ ตัวเราได้มากน้อยขนาดไหน (โดยที่ไม่ได้หลอกตัวเองนะครับ)
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

JeT lI

 pp5 กระทู้นี้ ผมขอเป็นผู้อ่านที่ดี ก่อนนะครับ zad


:( เพราะตอนนี้... แค่ปัญหาส่วนตัวผมก็จะแย่ อยู่แล้วหละ..  wq
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

coolman

ท่าน NOBODY
ตอบกระทู้ได้เยี่ยม มากมาก
ชักอยากเห็น ตัวเป็นเป็นแล้วหละสิ
   blink
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

pat

อ่านแล้วก็ รู้สึกเครียด เรื่้องราวของท่าน horashio จะคล้าย ๆเรื่องที่ผมประสบกับตัวเองมาเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ แต่ของผมนี่ใจหวั่นไหวไปกับน้องเค้าด้วยครับ ของผมอาจจะยิ่งกว่าของท่านนะครับ เพราะผมให้เงินน้องเค้าไปโดยไม่ได้มีอะไรกันเลย แล้วก็มาจับได้ทีหลังว่าน้องเค้าก็ยังทำอยู่ แต่คราวนี้รับปากว่าจะเลิกทำ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าน้องเค้าจะเลิกจริง ๆ หรือเปล่า โดยปกตินี่ ผม หรือ เพื่อน ๆ ก็มักจะเรียกว่า ผมเป็นควาย อยู่แล้ว ซะด้วย 555  pp11
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

seawjang

เป็นอีกหนึ่งกระทู้ที่ยอดเยี่ยม มาก ๆ ของเวปนี เลยครับ


ท่าน Nobody เมื่อไหร่ท่านจะกลับมาครับ ชักอยากรู้จักท่านซะแล้วเนี้ย ช่วงนี้ผมยิ่งเครียด ๆ อยู่ด้วย  pp


ท่าน horashio ครับ เขียนกระทู้ได้น่าอ่าน มากครับ  อ่านแล้วเครียด แทนเลย แต่ ท่านนี่เก่งนะครับ ตัดเรื่องความรุ้สึก รัก หรือ ชอบ ออกไปได้


ผมไม่เคยทำอย่างนี้ ได้เลยครับ ยิ่งถ้าได้เจอกันมากกว่า 3 ครั้งเนี้ย ผมคงต้องหวั่นไหวไปกับน้องเค้าแน่ ๆ และมันก็มักเป็นแบบนี้เสมอครับ :-X :-X
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

JuNeO

เมื่อคืน ผมได้คุยกับน้องสาวคนนึง เธออายุจะ 21 ในอีกไม่กี่สิบวันข้างหน้านี้ น้องคนนี้ มีคนอุปการะ ดูแล อยู่ที่ต่างจังหวัด

ชายคนนั้น อายุ 40 กว่าๆ มีครอบครัว ลูก-ภรรยาแล้ว เป็นเจ้าของกิจการ และได้รู้จักกันกับน้องมานานกว่าปีครึ่ง

น้องเคยบอกให้ทราบว่าชายผู้นี้ ให้ทุนและดูแลน้องในเวลาปีกว่าๆนี้เป็นเม็ดเงินไม่ใช่น้อยๆ ถึง 300K

ใช่ครับ...มันมากพอสมควร มากพอที่จะจัดงานแต่งงานให้ใครสักคนนึงที่เรารัก ได้อย่างไม่ต้องอับอายใคร ซึ่งนั่นคงรวมค่าที่พัก ค่ากินอยู่

ค่าเที่ยว ค่าเทอมของน้อง ในเวลาขวบปีที่ผ่านมา



จนวันหนึ่ง เพื่อนของชายคนนี้มาธุระที่เชียงใหม่ และพบว่าน้องมาทำงานเป็นพีอาร์ทำงานในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ซึ่งชายคนนั้นอาจมีข้อตกลง

อะไรบางอย่างกับน้องว่าไม่อยากให้น้องทำงานแบบนี้ จนถึงขั้นดูแลส่งเสียกันมาแรมปี คงเพราะไม่อยากให้น้องต้องมาถูกผู้ชายคนอื่นกอดอีก

ถึงได้ยอมลงทุนมากมายขนาดนั้น น้องได้ทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพื่อนของชายคนนี้ ได้โทรไปรายงานทุกเหตุการณ์ ทุกพฤติกรรม ที่อยู่นอกสายตา

ของชายคนนี้ และแล้วความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาเป็นเวลาปีกว่า ก้อมีอันส่อเค้าว่าจะจบลง ด้วยเหตุผลต่างๆที่น้องอ้างไม่ขึ้น ชายคนนั้นได้ถามน้องว่า

"ที่ให้ไปไม่พอใช้หรือ ทำไมถึงกลับไปทำงานแบบเดิม ทั้งๆที่ถ้าไม่พอก็บอกมา จะให้เพิ่ม ไม่ต้องทำแบบนี้" ชายคนนั้นคงพูดอะไรทำนองนี้

และน้ำเสียงในตอนนั้น คงบอกให้น้องได้รับรู้ว่า ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไปและไม่เหมือนเดิม



ตอนนี้ น้องเหมือนตกกะได พลอยโจน ผมคิดว่า เรื่องราวของคนทั้งสอง ต่างมีเหตุผล คนทุกคนล้วนต่างทำเพื่อตัวเอง

ชายคนนั้น ดูแลน้องเพราะหวัง หรืออาจต้องการหาความสุขให้ตัวเอง ในวัย 40 กว่าๆ เค้าเป็นผู้มีพระคุณต่อน้องทุกครั้งที่พูดถึงเค้า น้ำเสียงมันบอกอย่างนั้น

แต่น้องก้อไม่ได้หยุดในการมองคนอื่น  มันคงเป็นการเลือกที่จะให้โอกาศกับตัวเองเสียมากกว่า น้องเคยเล่าให้ฟัง (ที่อาจทำให้น้องดูดี ในสายตาของผม)

เฮียเคยยื่นข้อเสนอดีๆให้ โดยที่น้องอาจไม่ต้องเรียน ก็มีเงินมีทองใช้ไปตลอดชาติ แต่จะต้องอยู่ในฐานะของการเป็นน้อย

น้องได้บอกปฎิเสธไป (ที่น้องเล่าให้ผมฟัง) และเลือกที่จะเรียน โดยการขอกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา

และมาทำงานเป็นพีอาร์ เพื่อช่วยเหลือและดูแลตัวเอง

แทนที่จะไปพึ่งพาเฮียเสียทั้งหมด



น้องฉลาด ฉลาด....ที่จะทำให้ตัวเองมีโอกาศ โอกาศ....ที่จะพบพานใครสักคน ที่หนุ่มกว่า หล่อกว่า วัยอาจไม่ห่างกันนัก

คนที่ไม่มีพันธะ และพร้อมจะดูแลเธอต่อหลังจากที่ชายผู้นั้นหยุดการให้ความดูแล ช่วยเหลือ ซึ่งเหตุผลอาจจะมาจาก การเบื่อกัน ความห่างไกล

หรือความไม่ไว้ใจและการมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยอาศัยที่ทำงานแห่งนั้นเป็นการเปิดตัวเอง เพื่อพบกับคนที่น้องจะคาดหวัง และพอพึ่งพาได้

ผมอยู่ในวังวนของเรื่องราวแบบนี้ หลายๆครั้งที่ตัวของผมเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ เป็นตัวละครตัวหนึ่ง ในนิยายน้ำเน่าสุดๆ

ครั้งนี้ก้อเช่นกัน มันทำให้ผมพอจะคาดเดาออกได้ทั้งหมดว่า น้องๆที่มาทำงานแบบนี้ ด้วยเหตุปัจจัยใหญ่ที่สุดก้อคือเรื่องเงิน

เงิน เป็นสิ่งที่ทำให้เค้าอยู่ได้อย่าง สบาย  เงินที่สามารถเปลี่ยนแปลงคนได้ในระยะเวลาอันสั้น โอกาศและเวลานั้นมาทีหลังเงิน

ถ้าใครมีเงิน คนนั้นสามารถบันดาลให้เกิดความรักได้ เป็นรักแบบที่ท่าน โฮราชิโอว่า มันมาพบกันครึ่งทาง




รักของเรา..........ที่ต้องการเซ็กส์และความอบอุ่นทางใจบางอย่างที่แม้ว่ามันอาจไม่ใช่ความรักที่บริสุทธิ์ เท่าไหร่นัก แต่เราก็อยากได้มันมา

                      ทั้งๆที่รู้ว่า ระยะเวลามันอาจแสนสั้น และการจบลงของมันคงไม่น่าดูเท่าไหร่

รักของเค้า.........เป็นรักแบบเอาตัวเองให้อยู่รอด ในสังคมที่ล้อรถหมุนออกจากบ้าน นั่นก้อต้องใช้เงิน รักเพื่อผลประโยชน์ ผมก็เคยเจอ

                     และมันก็จบลงแบบไม่น่าดูเท่าไหร่ เหมือนกัน



เมื่อคืนคุยกับน้องแล้ว สบายใจที่ตัวเองหลุดพ้นออกมาจากวังวนนั้นได้ การที่ได้ออกมาอยู่ห่างๆจากน้อง เอาอารมณ์รัก..หลง  อารมณ์หึงหวง

อารมณ์โกรธออกไปแล้ว มันทำให้ทุกอย่างดูชัดเจนมากยิ่งขึ้น ว่าน้องเป็นคนอย่างไร ทัศนคติของน้องเป็นอย่างไร เมื่อทำใจให้เป็นกลาง

น้องคือ มนุษย์ธรรมดาๆ แถมยังเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ที่กำลังเรียน ทางบ้านกำลังปลูกเรือนใหม่ นั่นคงเป็นสิ่งที่น้องต้องคิดให้หนัก หาก

ชายคนดังกล่าวเลิกรากับน้องไป โดยที่น้องยังเรียนไม่จบ บ้านก้อกำลังได้แค่โครงสร้างขาดเงินอีกเป็นแสน

การที่น้องได้เจอกับใครคนใหม่ที่พร้อม ที่ให้น้องได้ทันที แม้ครั้งนึงมันอาจเคยทำให้ผมปวดร้าว  แต่ผมก็ดีใจกับน้องด้วยที่น้องเจอเค้า และหวังว่าเค้า

คนใหม่คนนั้นคงจะทำให้น้องมีความสุข ดูแลน้องได้ดีในทุกๆด้าน และที่สำคัญอยากให้น้องหยุดเสียทีในการมองหาใครคนใหม่มาแทนเค้า ซึ่งพอๆกับ

ที่ผมภาวนาให้ใครคนนั้นอย่ามองเห็นน้องเป็นแค่ของเล่น และทิ้งน้องไปในที่สุด เมื่อนั้นน้องคงจะต้องกลับมาทำงานและเดินวกวนอยู่ในเขาวงกต

แบบนั้นอย่างไม่รู้จบครั้งแล้ว ครั้งเล่าครับ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

www

โหวตกระทู้นี้ครับ เทพแต่ละท่านพูดได้กินใจจริงๆ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

horashio

อ้างจาก: seawjang เมื่อ 22 ตุลาคม 2007, 08:58:59



ท่าน horashio ครับ เขียนกระทู้ได้น่าอ่าน มากครับ  อ่านแล้วเครียด แทนเลย แต่ ท่านนี่เก่งนะครับ ตัดเรื่องความรุ้สึก รัก หรือ ชอบ ออกไปได้


ผมไม่เคยทำอย่างนี้ ได้เลยครับ ยิ่งถ้าได้เจอกันมากกว่า 3 ครั้งเนี้ย ผมคงต้องหวั่นไหวไปกับน้องเค้าแน่ ๆ และมันก็มักเป็นแบบนี้เสมอครับ :-X :-X

มันไม่ใช่เรื่องเก่งไม่เก่งเลยครับ มันเป็นเรื่องที่เจ็บมามากพอหรือเปล่า...
ผมน่ะ ขนาดไม่เป็นอันทำงานทำการ ขับรถตาม โทรหา เป็นไข้ กับน้องคนนึง เวลาที่ทำงานก็เหมือนฝืนทำให้มันเสร็จ ๆ ไป เวลาอยู่คนเดียวก็ กลุ้มใจจนนอนไม่หลับ

ความรักมันวุ่นวายกับผมมานานมาก จนครั้งหลังสุดนี่ผมว่า ผมคงใช้หนี้กรรมเรื่องความรักไปหมดแล้ว เคยทำใครเจ็บมากี่หน เจอน้องคนนี้คนเดียวก็รู้รสชาติเลยครับ

ไม่รู้จริงมั้ยคงต้องถามท่าน Nobody กรรมเรื่องรักของผมนี่มันคงหมดไป เพราะขาดเหตุปัจจัยให้ความรู้รักมันบังเกิด

ส่วนเรื่องใคร่ ตัดยังไง ก็ตัดไม่หมดหรอกครับ นี่ก็เพิ่งรับโทรศัพท์น้องพลอย (คนละคนกาน ไม่ต้องตกจาย) น้องพลอย ในการบ้านเส้นข้างบางเฉียบ ของผมที่ กทม.น่ะ
ส่งรูปเพื่อนมาให้ บอกว่าพี่ช่วยเพื่อนหนูหน่อย เค้าร้อนเงิน ....

เงินผมมันเงินเย็น ไม่ใช่เงินร้อน แต่ตอนนี้ชักเริ่มร้อนไม่อยากจะนอนอยู่ในกระเป๋าอีกแล้ว
เฮ้อ ไม่รู้ไปทำกรรมอะไรไว้ เพิ่งตั้งใจไว้เมื่อคืนว่าจะเลิก แต่พอเจอรูปที่ส่งมา ก็เริ่มจะวูบ ๆ หวั่นไหว อีกแล้ว

สงสัยต้องให้ ท่าน Nobody เทศนา อีกสักหนึ่งกัณฑ์
เร็ว ๆ หน่อยละกานคับ เพราะน้องเค้านัดพรุ่งนี้
ไอ้ผมก็ดัน ปากไว รับคำเค้าไปแล้วซะด้วย ใจง่ายจริง ๆ เลยเราเนี่ย....
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

pat

ครับท่าน horashio ผมก็เคยเป็นแบบท่าน นะครับ คิดถึงแต่น้องเค้าตลอดเวลา โทรหาทั้งวัน คิดถึงมาก ๆ ผมก็เคยขับรถ ไป - กลับ จากบ้านร่วม 1000 กิโล เพื่อไปอยู่กับน้องเค้า 2 ชั่วโมงก็เคยมาแล้วนะครับ  pp10
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

kobmoi

 zuyเฮ้อ...... อ่านแล้วเครียดครับ..
มานจะทำนองเดียวกะผมรึป่าวหว่า....แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย..
ตอนนี้ผมหมดภาระจากภรรยาแล้ว(เค้าเสียชีวิต) แต่มีลูก 2 คน....
หลังจากนั้นก็มีเด็กซึ่งรู้จักกันมานานแล้ว(ไม่เคยมีอะไรกัน)มายื่นข้อเสนอให้ผมเป็นผู้ปกครองและอุปการะ.....
เห็นเรื่องในประเด็นของทั่น horashio แล้วต้องคิดให้หนักๆ ซะแร้นนนนน....
pp5....เอาไงดี.....?
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

seawjang

อ้างจาก: horashio เมื่อ 22 ตุลาคม 2007, 11:20:02
อ้างจาก: seawjang เมื่อ 22 ตุลาคม 2007, 08:58:59



ท่าน horashio ครับ เขียนกระทู้ได้น่าอ่าน มากครับ  อ่านแล้วเครียด แทนเลย แต่ ท่านนี่เก่งนะครับ ตัดเรื่องความรุ้สึก รัก หรือ ชอบ ออกไปได้


ผมไม่เคยทำอย่างนี้ ได้เลยครับ ยิ่งถ้าได้เจอกันมากกว่า 3 ครั้งเนี้ย ผมคงต้องหวั่นไหวไปกับน้องเค้าแน่ ๆ และมันก็มักเป็นแบบนี้เสมอครับ :-X :-X

มันไม่ใช่เรื่องเก่งไม่เก่งเลยครับ มันเป็นเรื่องที่เจ็บมามากพอหรือเปล่า...
ผมน่ะ ขนาดไม่เป็นอันทำงานทำการ ขับรถตาม โทรหา เป็นไข้ กับน้องคนนึง เวลาที่ทำงานก็เหมือนฝืนทำให้มันเสร็จ ๆ ไป เวลาอยู่คนเดียวก็ กลุ้มใจจนนอนไม่หลับ

ความรักมันวุ่นวายกับผมมานานมาก จนครั้งหลังสุดนี่ผมว่า ผมคงใช้หนี้กรรมเรื่องความรักไปหมดแล้ว เคยทำใครเจ็บมากี่หน เจอน้องคนนี้คนเดียวก็รู้รสชาติเลยครับ

ไม่รู้จริงมั้ยคงต้องถามท่าน Nobody กรรมเรื่องรักของผมนี่มันคงหมดไป เพราะขาดเหตุปัจจัยให้ความรู้รักมันบังเกิด

ส่วนเรื่องใคร่ ตัดยังไง ก็ตัดไม่หมดหรอกครับ นี่ก็เพิ่งรับโทรศัพท์น้องพลอย (คนละคนกาน ไม่ต้องตกจาย) น้องพลอย ในการบ้านเส้นข้างบางเฉียบ ของผมที่ กทม.น่ะ
ส่งรูปเพื่อนมาให้ บอกว่าพี่ช่วยเพื่อนหนูหน่อย เค้าร้อนเงิน ....

เงินผมมันเงินเย็น ไม่ใช่เงินร้อน แต่ตอนนี้ชักเริ่มร้อนไม่อยากจะนอนอยู่ในกระเป๋าอีกแล้ว
เฮ้อ ไม่รู้ไปทำกรรมอะไรไว้ เพิ่งตั้งใจไว้เมื่อคืนว่าจะเลิก แต่พอเจอรูปที่ส่งมา ก็เริ่มจะวูบ ๆ หวั่นไหว อีกแล้ว

สงสัยต้องให้ ท่าน Nobody เทศนา อีกสักหนึ่งกัณฑ์
เร็ว ๆ หน่อยละกานคับ เพราะน้องเค้านัดพรุ่งนี้
ไอ้ผมก็ดัน ปากไว รับคำเค้าไปแล้วซะด้วย ใจง่ายจริง ๆ เลยเราเนี่ย....



อ่านตอนแรกก็เหมือนจะซึ้งดี  รู้สึกเห็นใจท่านขึ้นมาเลยเนี้ยเหมือนท่านจะมีปัญหาอย่างมาก   :P



แต่ไหง อ่านไปอ่านมา  >:( เป็นเงี้ยอ่ะ    ชักอยากชดใช้กรรมอย่างท่านบ้างอ่ะ อิจฉาโคตร  โกรธ โกรธ  ส่งการบ้าน+ ปลากรอบ ด้วยน๊าท่าน  ::)
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

mommamman

อ้างจาก: JuNeO เมื่อ 22 ตุลาคม 2007, 09:22:19
เมื่อคืน ผมได้คุยกับน้องสาวคนนึง เธออายุจะ 21 ในอีกไม่กี่สิบวันข้างหน้านี้ น้องคนนี้ มีคนอุปการะ ดูแล อยู่ที่ต่างจังหวัด

ชายคนนั้น อายุ 40 กว่าๆ มีครอบครัว ลูก-ภรรยาแล้ว เป็นเจ้าของกิจการ และได้รู้จักกันกับน้องมานานกว่าปีครึ่ง

น้องเคยบอกให้ทราบว่าชายผู้นี้ ให้ทุนและดูแลน้องในเวลาปีกว่าๆนี้เป็นเม็ดเงินไม่ใช่น้อยๆ ถึง 300K

ใช่ครับ...มันมากพอสมควร มากพอที่จะจัดงานแต่งงานให้ใครสักคนนึงที่เรารัก ได้อย่างไม่ต้องอับอายใคร ซึ่งนั่นคงรวมค่าที่พัก ค่ากินอยู่

ค่าเที่ยว ค่าเทอมของน้อง ในเวลาขวบปีที่ผ่านมา



จนวันหนึ่ง เพื่อนของชายคนนี้มาธุระที่เชียงใหม่ และพบว่าน้องมาทำงานเป็นพีอาร์ทำงานในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ซึ่งชายคนนั้นอาจมีข้อตกลง

อะไรบางอย่างกับน้องว่าไม่อยากให้น้องทำงานแบบนี้ จนถึงขั้นดูแลส่งเสียกันมาแรมปี คงเพราะไม่อยากให้น้องต้องมาถูกผู้ชายคนอื่นกอดอีก

ถึงได้ยอมลงทุนมากมายขนาดนั้น น้องได้ทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพื่อนของชายคนนี้ ได้โทรไปรายงานทุกเหตุการณ์ ทุกพฤติกรรม ที่อยู่นอกสายตา

ของชายคนนี้ และแล้วความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาเป็นเวลาปีกว่า ก้อมีอันส่อเค้าว่าจะจบลง ด้วยเหตุผลต่างๆที่น้องอ้างไม่ขึ้น ชายคนนั้นได้ถามน้องว่า

"ที่ให้ไปไม่พอใช้หรือ ทำไมถึงกลับไปทำงานแบบเดิม ทั้งๆที่ถ้าไม่พอก็บอกมา จะให้เพิ่ม ไม่ต้องทำแบบนี้" ชายคนนั้นคงพูดอะไรทำนองนี้

และน้ำเสียงในตอนนั้น คงบอกให้น้องได้รับรู้ว่า ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไปและไม่เหมือนเดิม



ตอนนี้ น้องเหมือนตกกะได พลอยโจน ผมคิดว่า เรื่องราวของคนทั้งสอง ต่างมีเหตุผล คนทุกคนล้วนต่างทำเพื่อตัวเอง

ชายคนนั้น ดูแลน้องเพราะหวัง หรืออาจต้องการหาความสุขให้ตัวเอง ในวัย 40 กว่าๆ เค้าเป็นผู้มีพระคุณต่อน้องทุกครั้งที่พูดถึงเค้า น้ำเสียงมันบอกอย่างนั้น

แต่น้องก้อไม่ได้หยุดในการมองคนอื่น  มันคงเป็นการเลือกที่จะให้โอกาศกับตัวเองเสียมากกว่า น้องเคยเล่าให้ฟัง (ที่อาจทำให้น้องดูดี ในสายตาของผม)

เฮียเคยยื่นข้อเสนอดีๆให้ โดยที่น้องอาจไม่ต้องเรียน ก็มีเงินมีทองใช้ไปตลอดชาติ แต่จะต้องอยู่ในฐานะของการเป็นน้อย

น้องได้บอกปฎิเสธไป (ที่น้องเล่าให้ผมฟัง) และเลือกที่จะเรียน โดยการขอกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา

และมาทำงานเป็นพีอาร์ เพื่อช่วยเหลือและดูแลตัวเอง

แทนที่จะไปพึ่งพาเฮียเสียทั้งหมด



น้องฉลาด ฉลาด....ที่จะทำให้ตัวเองมีโอกาศ โอกาศ....ที่จะพบพานใครสักคน ที่หนุ่มกว่า หล่อกว่า วัยอาจไม่ห่างกันนัก

คนที่ไม่มีพันธะ และพร้อมจะดูแลเธอต่อหลังจากที่ชายผู้นั้นหยุดการให้ความดูแล ช่วยเหลือ ซึ่งเหตุผลอาจจะมาจาก การเบื่อกัน ความห่างไกล

หรือความไม่ไว้ใจและการมีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยอาศัยที่ทำงานแห่งนั้นเป็นการเปิดตัวเอง เพื่อพบกับคนที่น้องจะคาดหวัง และพอพึ่งพาได้

ผมอยู่ในวังวนของเรื่องราวแบบนี้ หลายๆครั้งที่ตัวของผมเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ เป็นตัวละครตัวหนึ่ง ในนิยายน้ำเน่าสุดๆ

ครั้งนี้ก้อเช่นกัน มันทำให้ผมพอจะคาดเดาออกได้ทั้งหมดว่า น้องๆที่มาทำงานแบบนี้ ด้วยเหตุปัจจัยใหญ่ที่สุดก้อคือเรื่องเงิน

เงิน เป็นสิ่งที่ทำให้เค้าอยู่ได้อย่าง สบาย  เงินที่สามารถเปลี่ยนแปลงคนได้ในระยะเวลาอันสั้น โอกาศและเวลานั้นมาทีหลังเงิน

ถ้าใครมีเงิน คนนั้นสามารถบันดาลให้เกิดความรักได้ เป็นรักแบบที่ท่าน โฮราชิโอว่า มันมาพบกันครึ่งทาง




รักของเรา..........ที่ต้องการเซ็กส์และความอบอุ่นทางใจบางอย่างที่แม้ว่ามันอาจไม่ใช่ความรักที่บริสุทธิ์ เท่าไหร่นัก แต่เราก็อยากได้มันมา

                      ทั้งๆที่รู้ว่า ระยะเวลามันอาจแสนสั้น และการจบลงของมันคงไม่น่าดูเท่าไหร่

รักของเค้า.........เป็นรักแบบเอาตัวเองให้อยู่รอด ในสังคมที่ล้อรถหมุนออกจากบ้าน นั่นก้อต้องใช้เงิน รักเพื่อผลประโยชน์ ผมก็เคยเจอ

                     และมันก็จบลงแบบไม่น่าดูเท่าไหร่ เหมือนกัน



เมื่อคืนคุยกับน้องแล้ว สบายใจที่ตัวเองหลุดพ้นออกมาจากวังวนนั้นได้ การที่ได้ออกมาอยู่ห่างๆจากน้อง เอาอารมณ์รัก..หลง  อารมณ์หึงหวง

อารมณ์โกรธออกไปแล้ว มันทำให้ทุกอย่างดูชัดเจนมากยิ่งขึ้น ว่าน้องเป็นคนอย่างไร ทัศนคติของน้องเป็นอย่างไร เมื่อทำใจให้เป็นกลาง

น้องคือ มนุษย์ธรรมดาๆ แถมยังเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ที่กำลังเรียน ทางบ้านกำลังปลูกเรือนใหม่ นั่นคงเป็นสิ่งที่น้องต้องคิดให้หนัก หาก

ชายคนดังกล่าวเลิกรากับน้องไป โดยที่น้องยังเรียนไม่จบ บ้านก้อกำลังได้แค่โครงสร้างขาดเงินอีกเป็นแสน

การที่น้องได้เจอกับใครคนใหม่ที่พร้อม ที่ให้น้องได้ทันที แม้ครั้งนึงมันอาจเคยทำให้ผมปวดร้าว  แต่ผมก็ดีใจกับน้องด้วยที่น้องเจอเค้า และหวังว่าเค้า

คนใหม่คนนั้นคงจะทำให้น้องมีความสุข ดูแลน้องได้ดีในทุกๆด้าน และที่สำคัญอยากให้น้องหยุดเสียทีในการมองหาใครคนใหม่มาแทนเค้า ซึ่งพอๆกับ

ที่ผมภาวนาให้ใครคนนั้นอย่ามองเห็นน้องเป็นแค่ของเล่น และทิ้งน้องไปในที่สุด เมื่อนั้นน้องคงจะต้องกลับมาทำงานและเดินวกวนอยู่ในเขาวงกต

แบบนั้นอย่างไม่รู้จบครั้งแล้ว ครั้งเล่าครับ



       zcry โดนเต็มๆเลยครับท่าน จูน (คิดแล้วเศร้า จัง)         
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

mmppp

การบ้านเครียด นานๆทีจะเจอ สำหรับผม ....บางทีเวลาผมเที่ยวมากๆพอมานั่งคิด มองคนรอบๆตัว มองเด็กๆ น้องๆ อนาตคต่อไป ก็แอบเครียดบ้างครับ บางทีทำให้หมดอารมณ์ไปช่วงหนึ่ง พอหลังๆมาพยายามไม่คิดแล้ว ไม่อยากตอบคำถามตัวเอง   :-\
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Smith

ผมว่าเป็นการบ้าน ยอดเยี่ยมสำหรับ ปีนี้่เรยนะเนี่ยะ ให้ประโยชน์ อย่างมากเรยคับ ผม  ชอบที่ท่าน Nobody ตอบ มากครับ  pongz
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

อีโต้

ได้ข้อคิดหลายๆอย่างในกระทู้นี้ บางทีชีวิตคนเราไม่ได้อยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว ต้องมีคนรอบข้างเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องด้วยความคิด จิตใจ หรือร่างกาย แต่ก็ทำให้เกิดแง่มุม ในความคิดคนอื่นและตนเอง
บางทีไม่ได้มองตัวเราจากเราเอง แต่ต้องมองจากคนอื่น  :(
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

marathoner9

อ่านแล้วเข้าถึง สัจธรรม แห่ง SL จริงๆ  :(

เครียดจริงๆ ไม่รู้จะตอบยังไง

เอาเป็นว่าทำให้ win-win มากที่สุดละกัน

demand ของเรามันมี
น้องเขา ก้อเป็น supply ให้

เราต่างก้อหยิบยื่นสิ่งที่สนองความต้องการให้กันและกัน

โดยหวังว่าต่อไปภายภาคหน้าน้องจะคิดได้ว่า มีทางเลือกหลายทางในชีวิต

ท่านเทพ อาจแนะแนวทางสว่างให้น้องๆ บ้างก้อดีนะครับ

เผื่อสังคมเรามันจะดีขึ้น
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

horashio

 pp6

ผมเป็นคนที่ชีวิตมีสองด้าน
สว่าง กับ มืด

บ่อยครั้งที่ชีวิตสองด้านมันตีกันนัวเนียไปหมด

ท่าน Nobody ทำให้นึกถึง จิ้งหรีด ที่เป็น มโนธรรมฝ่ายดีที่คอยเตือนสติ ในเรื่อง พินอคคีโอ
และก็นึกถึง หลวงพ่อทัคแห่งป่าเชอร์วู้ด ในเรื่อง โรบินฮู้ดด้วย

กรณี น้องคนนี้ ผมตัดสินใจแล้ว ว่าจะไม่ช่วยต่อไป
คาดว่า น่าจะเป็นการเพิ่มทุนทรัพย์ให้น้องเอาไปใช้เที่ยวเตร่มากกว่า จะเอาไปใช้ด้านการศึกษา

ถ้าคิดจะอุปการะเลี้ยงดู เด็กสักคน ผมว่า ผมไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วรับเป็นผู้ปกครองนิรนาม แบบจ่ายเป็นรายเดือนผ่านธนาคาร ดีกว่า
ส่วนเรื่องการสนองตัณหาในด้านมืดของชีวิต

ผมคงทำตามเจตนารมณ์เดิม ไม่มีอะไรผูกพันมากไปกว่า คู่นอน

การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของใคร มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายเพียงแค่ใช้เงินหว่านลงไป มันต้องทุ่มเททั้งใจ และเวลา

ส่วนเรื่องการผิดศีล 5
เฮ้อ.... ก็มันด้านมืดนี่หว่า ศีล 5 มันจะรักษาไว้ยังไงให้ครบได้
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Nobody

เรื่องที่ท่านพี่ horashio กำลังจะทำนั้น
ผมคงบอกอะไรไม่ได้มากไปกว่า นั่นคือการสร้างกรรมใหม่ครับ

สิ่งที่เรากำลังรับอยู่ เป็นผลที่เกิดจากการกระทำของเราในอดีต
แต่สิ่งที่เราทำอยู่ จะเป็นเหตุให้เกิดผลในอนาคตครับ (งงหรือเปล่าเนี่ย)

ถ้าพี่คิดว่านี่คือความสุขของพี่ในขณะนี้ มันก็คงหยุดยากอะครับ
ผมเองก็ไม่ใช่คนดีอะไรเหมือนกันครับ
เพียงแต่ว่า ก็มีเรื่องสาว ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทำให้ใจมันรุ่มร้อนมาแล้วหลายครั้ง
เหมือนที่พี่บอกว่า ไม่เป็นจะทำอะไร

ผมเคยนอนกระสับกระส่าย ใจอยู่ไม่เป็นสุข พะว้าพะวง เพราะเรื่องผู้หญิงมาก็เยอะ
ไม่ว่าจะตอนเริ่มจีบกันใหม่ ๆ ก็ทำให้คิดถึง เป็นห่วงว่าเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง
(จริง ๆ เป็นความคิด ที่อยากจะเป็น"เจ้าของ"ตัวและใจเขามากกว่า)
หรือตอนที่เป็นแฟนกัน มีเหตุบางอย่างที่ทำให้สงสัย ว่าเขาไปนอนกับคนอื่น
ใจมันก็ไม่สบาย เพราะกลายเป็นความระแวงสงสัยในพฤติกรรมของเขาครับ

ตอนนี้ ผมเลยพยายามเตือนสติตัวเองเอาไว้ว่า เราอยากจะกลับไปรู้สึกแบบนั้นอีกแล้วเหรอ
ที่ผ่านมา ยังไม่เข็ดอีกเหรอ
ไอ่ความสุขทางกาย (และอาจจะมีทางใจบ้าง)ที่เราได้มา มันก็เพียงชั่วครู่ชั่วยาม
แต่ไอ่ความทุกข์ทางใจ (และอาจจะทางกาย หากโดนผัวน้องและพรรคพวก ตามมากระทืบ) มันจะอยู่กับเราไปอีกนานนะครับ

ผมถึงบอกว่า เรื่องแบบนี้ บอกกันด้วยคำพูด มันทำให้ตัดไม่ได้หรอกครับ
เจ้าตัวต้องเจอแล้วเจออีก โดนแล้วโดนอีก จนกว่าจะเห็นว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้เป็นโทษ และมีแต่สร้างความทุกข์ให้เรา
สุดท้าย ตัวปัญญาถึงจะเกิดครับ

ศีล จะมองให้เป็นเรื่องยาก ก็ยากครับ
แต่จะมองให้ง่าย ก็ง่ายเหมือนกันครับ
ผมแนะนำให้พี่ตั้งใจรักษาศีลเป็นเวลาก่อนครับ
เช่น วันนี้ ตื่นมาตอนเช้า ถึง ๖ โมงเย็น เราจะไม่ไปละเมิดลูกเมียใคร
พอ ๖ โมงเย็นให้ว่ากันใหม่
อย่างน้อย อานิสงส์ที่พี่"ตั้งใจ"รักษาศีลจนถึง ๖ โมงเย็นนี่หละครับ ยังเป็นกำไรให้พี่ได้
ส่วนพี่จะไปละเมิดศีลตอนเย็น ก็เป็นเรื่องขาดทุน
แต่วันนั้นทั้งวัน พี่ได้ทั้งกำไรและขาดทุน
ซึ่งก็ยังดีกว่า ขาดทุนทั้งวันจริงไหมครับ

คนเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้ละเมิดศีล
แต่ขาดตัวตั้งใจที่จะรักษาศีล (ภาษาพระท่านเรียกว่า"ศีลวิรัติ")
อานิสงส์ที่เกิดมันก็น้อยมาก
เพราะ"ใจ"หรือเจตนาเป็นใหญ่ที่สุด ในเรื่องของความหนักเบาในผลที่จะตามมาครับ

ยังไง ถ้าพี่ได้ไป"ช่วย"น้อง ก็อย่าลืมมาส่งการบ้านด้วยละกันครับ หุหุ
(ผมไม่ได้สนับสนุนให้พี่ทำนะครับ
เพราะคิดว่า คนเรามันคงตัดอะไรไม่ได้ง่าย ๆ จนกว่าจะเจ็บเจียนมาแล้วหลายต่อหลายหนครับ อิอิ)
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

horashio

อ้างจาก: kobmoi เมื่อ 22 ตุลาคม 2007, 11:42:31
zuyเฮ้อ...... อ่านแล้วเครียดครับ..
มานจะทำนองเดียวกะผมรึป่าวหว่า....แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย..
ตอนนี้ผมหมดภาระจากภรรยาแล้ว(เค้าเสียชีวิต) แต่มีลูก 2 คน....
หลังจากนั้นก็มีเด็กซึ่งรู้จักกันมานานแล้ว(ไม่เคยมีอะไรกัน)มายื่นข้อเสนอให้ผมเป็นผู้ปกครองและอุปการะ.....
เห็นเรื่องในประเด็นของทั่น horashio แล้วต้องคิดให้หนักๆ ซะแร้นนนนน....
pp5....เอาไงดี.....?

pp6
เพิ่งเห็น ง่ะ อ่านผ่านไปได้ไงฟระเนี่ย

ท่านมีลูกตั้ง 2 คน อย่าเพิ่มภาระเลยท่าน
ถ้าท่านเหงามาก อยากมีความรักกับใครอีกครั้ง ผมว่า ลูกของท่านเป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุด

แม่เลี้ยงใจร้ายมีอยู่ในนิทานมากกว่าสิบเรื่องได้มั้ง ในชีวิตมีอีกหลายสิบคน นับเฉพาะที่ผมเคยเห็น
เด็กที่ใจถึง ยื่นข้อเสนอให้ท่านอุปการะ จะมาทำหน้าที่อะไรในชีวิตจริงของลูกท่าน

ถ้าจะทำงั้นจริง ๆ แยกส่วนให้ดีละกัน ทะเบียนสมรส มีหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น หากท่านเลี้ยงดูยกย่องเยี่ยงภรรยาจนเป็นที่ปรากฎ
ต่อไปภายหน้าคนที่จะต้องลำบากจะเป็นลูกทั้งสองของท่านเสียเปล่า ๆ


friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

horashio

 pp6

ศีล จะมองให้เป็นเรื่องยาก ก็ยากครับ
แต่จะมองให้ง่าย ก็ง่ายเหมือนกันครับ
ผมแนะนำให้พี่ตั้งใจรักษาศีลเป็นเวลาก่อนครับ
เช่น วันนี้ ตื่นมาตอนเช้า ถึง ๖ โมงเย็น เราจะไม่ไปละเมิดลูกเมียใคร
พอ ๖ โมงเย็นให้ว่ากันใหม่
อย่างน้อย อานิสงส์ที่พี่"ตั้งใจ"รักษาศีลจนถึง ๖ โมงเย็นนี่หละครับ ยังเป็นกำไรให้พี่ได้
ส่วนพี่จะไปละเมิดศีลตอนเย็น ก็เป็นเรื่องขาดทุน
แต่วันนั้นทั้งวัน พี่ได้ทั้งกำไรและขาดทุน
ซึ่งก็ยังดีกว่า ขาดทุนทั้งวันจริงไหมครับ


ผมชอบ คำแนะนำอันนี้แหละครับ

ดีกว่า ขาดทุนทั้งวัน ..... ผมว่า ผมรักษาศีลได้มากกว่า อยู่แล้ว อาทิตย์นึงอย่างมากผิดศีลไม่เกิน สองวัน ยกเว้นช่วงที่ไปเชียงใหม่
ผิดมันทุกวันเรย แย่จริง ๆ เรยเรา  zcry
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

rg_cnx

ผมว่าท่านๆ ทั้งหลายเริ่มต้นมาผิดๆ ครับ
การที่เราได้มีอะไรกับน้องๆ ก่อนโดยใช้เงินแลกมานั่นคืออะไร
แล้วเงินไม่มีทางซื้อความห่วงหา อาทรจากใครได้ ได้แต่ซื้อความสุขจากบุคคลเท่านั้น
สำหรับกรณีขอวทุกท่านผมว่า อยู่ที่ใจของทั่นๆ เองรู้อยู่แล้วว่าได้น้องๆ มาจากไหน
เน้นครับ เรื่องนี้มันไม่ผิดแต่อยู่ที่ การเริ่มต้นครับหากเราเริ่มต้นด้วยเงิน ผมบอกได้เลยว่าท่านก้จะต้องใช้เงินไปตลอด
คิดว่าเราช่วยเหลือ แต่จริงๆ กลับกันน้องเขาจะมองว่าเราเป็น ธนาคาร ธนาคารหนึ่ง เขามีสิทธิ์ใช้ที่ดินของเขาในการ
หาเงิน มีหลายธนาคารก้ จะดี (แฮ่ๆ) ทุกท่านครับผมฝากขอคิดไว้อย่างหนึ่ง  ทำไมต้องนำที่ดินมาขาย  ทำไมคนอื่นที่มีปัญหากว่านี้ไม่ทำ
ขอตอบครับเป็นทางที่ง่ายที่สุด เร็วที่สุดสบายที่สุดครับ ฉะนั้น ท่านทั้งหลายอย่าหวังเลยว่าจะได้ ความรักความห่วงหาอาทรกลับมาหรือถ้าได้ก้เป็นแบบ
เสียไม่ได้ เพราะยังต้องการแหล่งเงินทุนอยู่  
           ทำใจ ครับทำใจ เส้นข้างมีตลอดเส้นทางการเดินทางของเรา อย่าไปยึดติดกับใครแล้ว เราจะมีความสุข หากต้องการความห่วงหาอาทรความรักตอบได้เลยครับ ต้องเมียครับท่านอย่าหลงเส้นข้างจนลืมเมียลูก ละครับ
สำหรับคนที่ยังไม่มีเมีย ก้ขออวยพรให้มีครับแล้วเก็บเส้นข้างไว้เป็นที่เปลี่ยนกลิ่นก้พอ ให้ชีวิตกระชุ่มกระชวยต่อไป

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

kobmoi

"แม่เลี้ยงใจร้ายมีอยู่ในนิทานมากกว่าสิบเรื่องได้มั้ง ในชีวิตมีอีกหลายสิบคน นับเฉพาะที่ผมเคยเห็น"......
"ทำใจ ครับทำใจ เส้นข้างมีตลอดเส้นทางการเดินทางของเรา อย่าไปยึดติดกับใครแล้ว เราจะมีความสุข เก็บเส้นข้างไว้เป็นที่เปลี่ยนกลิ่นก้พอ ให้ชีวิตกระชุ่มกระชวยต่อไป"...
...
pp5อืมมมมมม...เป็นข้อคิดที่ให้ความกระจ่างให้ผมดีมากครับ ทั่น horashio ...
..ผมคิดได้แล้วว่า "ความรักและห่วงใยมอบไว้แก่ลูกทั้งสองคน...ส่วนความหื่น ก็หากินไปเป็นคืนๆ ตามแต่โอกาสจะมีละกัน"...
...OK ..ยู-เร-ก้า.....
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

JuNeO

ตอบยากมาก กระทู้นี้ พอถึงเวลา - สถานการณ์เพาะหน้า สิติ และสตางค์ มันมักไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัว

หากผมเป็นมาร ท่านโนบอดี้คงเป็นเทพในเวปนี้ อย่างมิขัดเขิน ถึงขึ้นชื่อว่ามาร แต่ผมว่าในใจของทุกคน

ยังพอมีมนุษยธรรมอยู่บ้างครับ เพียงแต่ตอนนั้น มันจะทันหรือไม่ทันในการเอาออกมาใช้เท่านั้นครับ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

chon

อ่านแล้วยังกะพวกสูเจ้า แก่กว่าป๋าอีกว่ะ เหอๆๆๆๆๆ pp11
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

horashio

อ้างจาก: chon เมื่อ 22 ตุลาคม 2007, 17:12:56
อ่านแล้วยังกะพวกสูเจ้า แก่กว่าป๋าอีกว่ะ เหอๆๆๆๆๆ pp11

โถ... ป๋าขรา ... อย่าพูดคำหยาบในห้องนี้สิคระ

แก่ เก่อที่ไหนกานป๋า ไอ้ที่ Post อยู่เนี่ย แสดงว่ายังคิดไม่ตก
ส่วนป๋าน่ะ ... ฟันธง ได้ โดยไม่ต้อง Post

เค้าเรียก ประสบการณ์อันตกผลึก ใช่มัยคระ ป๋า ขรา
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

CastlevaniaX

สังคนเดียวนี้หา ความรักยากครับ

ผมไม่รุ้นะว่าสาวๆจะคิดยังกับเรา

แต่มี2พวก

พวกรักเงิน >:(

พวกรักเราจิงนะครับ pp8
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

spurs15

ผมว่าถ้าคนจิงใจน่ายินดีช่วยเหลือ บางคนมันหลายเล่มเกรียน อ่ะคับ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

mintada

คงไม่ง่ายนะครับในด้านที่จะบอกว่าถ้าเราให้น้องเต้มที่แล้วจะคาดหวังว่าจะได้กลับมาเต็มร้อยเหมือนกัน มันมีปัจจัยหลายๆอย่างและต้องไม่ลืมว่าจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มันไม่ได้สร้างความผูกพันมากมาย น้องๆหลายคนที่เข้ามาในวงการนี้ก็ไม่น่าสนับสนุนเลยแต่ก้มีหลายคนที่มาด้วยความจำยอมหรือหาทางออกที่ดีกว่านี้ไม่ได้ ก็ต้องเลือกดูก่อนนะที่จะช่วยแบบจริงจัง
บางคนบอกไม่มีทางเลือก ต้องดูแลตัวเอง แต่ที่พักของเธอเดือนละห้าหกพัน  มือถือของชี ดีกว่าที่เราใช้มาก(ขนาดของเราก็ไม่ใช่รุ่นปาหัวหมานา) มันไม่น่าเชื่อใช่ป่ะ บางคนทำตัวน่าสงสาร(ต่อหน้า)แต่ความประพฤติไม่เข้าท่า(ลับหลัง)
แต่หลายคนก้น่าเห็นใจจริงๆ ก้ช่วยไปเท่าที่เราจะช่วยได้ แต่อย่าไปผูกตัวเองกะเขามากไป  บางคนผมยังต้องสอนน้องเขาเรื่องการรับงานการป้องกันตัวเองจากพวกชายเลวทั้งหลายที่แฝงตัวอยุ่ซึ่งมีทั้งเบี้ยวค่าตัว แอบจิ๊กเงิน โทรศัพท์น้อง
ความรู้สึกดีๆและเงิน ผมว่านะเรามีให้น้องๆได้ครับแต่ควรมีขอบเขต ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่การพิจารณาของพี่ๆแต่ละคนนะ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

JuNeO

อ้างจาก: horashio เมื่อ 22 ตุลาคม 2007, 21:31:14
อ้างจาก: chon เมื่อ 22 ตุลาคม 2007, 17:12:56
อ่านแล้วยังกะพวกสูเจ้า แก่กว่าป๋าอีกว่ะ เหอๆๆๆๆๆ pp11

โถ... ป๋าขรา ... อย่าพูดคำหยาบในห้องนี้สิคระ

แก่ เก่อที่ไหนกานป๋า ไอ้ที่ Post อยู่เนี่ย แสดงว่ายังคิดไม่ตก
ส่วนป๋าน่ะ ... ฟันธง ได้ โดยไม่ต้อง Post

เค้าเรียก ประสบการณ์อันตกผลึก ใช่มัยคระ ป๋า ขรา


โสนะน่า ป๋าจิงๆ  pp11 ชิ .... หาว่าตรูแก่  :D ใครจะไปเหมือนป๋าอ่ะ กินหอยเด็กเป็นยาอายุวัฒนะ  brare
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

horashio

อ้างจาก: JuNeO เมื่อ 23 ตุลาคม 2007, 04:59:58
อ้างจาก: horashio เมื่อ 22 ตุลาคม 2007, 21:31:14
อ้างจาก: chon เมื่อ 22 ตุลาคม 2007, 17:12:56
อ่านแล้วยังกะพวกสูเจ้า แก่กว่าป๋าอีกว่ะ เหอๆๆๆๆๆ pp11

โถ... ป๋าขรา ... อย่าพูดคำหยาบในห้องนี้สิคระ

แก่ เก่อที่ไหนกานป๋า ไอ้ที่ Post อยู่เนี่ย แสดงว่ายังคิดไม่ตก
ส่วนป๋าน่ะ ... ฟันธง ได้ โดยไม่ต้อง Post

เค้าเรียก ประสบการณ์อันตกผลึก ใช่มัยคระ ป๋า ขรา


โสนะน่า ป๋าจิงๆ  pp11 ชิ .... หาว่าตรูแก่  :D ใครจะไปเหมือนป๋าอ่ะ กินหอยเด็กเป็นยาอายุวัฒนะ  brare

มิน่าเล่า ป๋าถึงดูไม่แก่เรย .... หล่อยังกะแบรด พิทท์ ...

แบ่งป๋มมั่งดิ ป๋า ยายุทะนะ ของป๋าอะ  pp6
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

dvd6699

อ้างจาก: horashio เมื่อ 23 ตุลาคม 2007, 20:12:26
มิน่าเล่า ป๋าถึงดูไม่แก่เรย .... หล่อยังกะแบรด พิทท์ ...

แบ่งป๋มมั่งดิ ป๋า ยายุทะนะ ของป๋าอะ  pp6

ป๋าชอบแอ๊บแบ๊วครับ ผมขอยืนยัน

ส่วนเรื่องของท่าน ไฮโซ ผมไม่สามารถให้คำแนะนำได้ครับ ของผมจะเป็นคนละเคสกันครับ
  pp6
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

zente

เง้อ ไม่ค่อยได้อ่าน พึ่งจะได้เข้ามา  :P

เศรษฐศาสตร์ ไม่ใช่วิชาเศรษฐกิจครับ มันคือวิชาที่ว่าด้วยการอธิบายปรากฏการณ์ใด ปรากฏการณ์หนึ่ง ซึ่งถึงแม้เราเอาจจะเห็น หรือไม่เห็นใน

กระบวนการของเหตุที่ทำให้เกิดผลได้ แต่อย่างน้อยก็ทราบว่า มันมีลอจิกจากเหตุไปสู่ผลลัพธ์ที่ปลายทาง ดังนั้น เศรษฐศาสตร์จึงเป็นวิชาที่อธิบายได้

ในเชิงสังคมด้วยครับ ไม่ใช่แต่เรื่องเงิน

... ส่วนเรื่องน้อง และการส่งเสียนี่ ถ้าทั่นไม่คิดไรมาก

แค่ต้องการให้น้องเลิกทำเสิฟ แต่น้องจะไปอึ้บ ไปเที่ยวต่อไหนก็ได้ แล้วจะส่งทำไม?

หรือ ถ้าไม่ต้องการให้น้องเที่ยวเตร่ ไม่ให้น้องอึ้บกับใคร อยากให้รักเราคนเดียว ทั่นจะรั้งน้องให้อยู่กับทั่นทั้งวันทั้งคืนได้ไหม?

ขนาดแฟน ยังอยู่ด้วยกันทั้งวันไม่ได้ กับน้องที่ อาจจะ มีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้ว ทั่นจะไว้ใจได้ไหม?

หรือ ต่อให้ไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน แล้วรู้ไหมก่อนเจอทั่น เขามีกิ๊กมาก่อนเท่าไร มีเสี่ยไหนเลี้ยงอีก ทั่นจะรู้ไหม?

สำคัญที่สุด ทั่นจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าเขาจะดีอย่างที่ทั่นคิด? ความกลัวในใจ มันจะหายไปได้ไหม ตราบเท่าที่น้องไม่ได้อยู่ข้างๆตัว?

... เด็กบางคน ทำงานเพราะเงินมันได้ง่าย

... เด็กบางคน ทำงานเพราะเบื่อ ช หน้าเก่าๆ

... เด็กบางคน ทำงานเพราะเบื่อเสี่ยที่เลี้ยงอยู่

... เด็กบางคน ทำงานเพราะเขาไม่สามารถไปใช้ชิวิตปกติได้อีกแล้ว เพราะมันลำบาก

... จะเลี้ยงใคร คิดดีๆนะครับ ว่าเลี้ยงไปทำไม? ถ้าเลี้ยงเพื่อจะได้เอาทุกวัน เลี้ยงไปเลยครับ สักเดือนคุณก็เบื่อแล้วหาใหม่ดีกว่า สบาย DVD (กาปู๋)  ???
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

seawjang

แหม แหล่ม จริง ๆ กระทู้นี้ กลายเป็นอีกหนึ่งกระทุ้ ธรรมะ ไปซะได้  pongz pongz 


จริง ๆ ผมว่า ทุกคนไม่มีใครอยากสร้างกรรม กะ น้อง ๆ  เขาหรอกครับ มีแต่คนอยากจะทำบุญ ให้เงินช่วยค่าเล่าเรียน น้อง ๆ เค้ามากกว่า จิงป่ะ  ds  ใครว่าทำกรรม ไม่จิ๊งงงงงงงงงงงงงงงง










ปล. ป๋าchon กินหอยเป็นยานี่ เอง มิน่า แข็งแรงซะขนาดนั้น อิอิ ว่าแล้ว แบ่งป๋ม สักตัว จิป๋า นะ นะ :( :(
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

JuNeO

อ้างจาก: zente เมื่อ 24 ตุลาคม 2007, 09:06:36
เง้อ ไม่ค่อยได้อ่าน พึ่งจะได้เข้ามา  :P

เศรษฐศาสตร์ ไม่ใช่วิชาเศรษฐกิจครับ มันคือวิชาที่ว่าด้วยการอธิบายปรากฏการณ์ใด ปรากฏการณ์หนึ่ง ซึ่งถึงแม้เราเอาจจะเห็น หรือไม่เห็นใน

กระบวนการของเหตุที่ทำให้เกิดผลได้ แต่อย่างน้อยก็ทราบว่า มันมีลอจิกจากเหตุไปสู่ผลลัพธ์ที่ปลายทาง ดังนั้น เศรษฐศาสตร์จึงเป็นวิชาที่อธิบายได้

ในเชิงสังคมด้วยครับ ไม่ใช่แต่เรื่องเงิน

... ส่วนเรื่องน้อง และการส่งเสียนี่ ถ้าทั่นไม่คิดไรมาก

แค่ต้องการให้น้องเลิกทำเสิฟ แต่น้องจะไปอึ้บ ไปเที่ยวต่อไหนก็ได้ แล้วจะส่งทำไม?

หรือ ถ้าไม่ต้องการให้น้องเที่ยวเตร่ ไม่ให้น้องอึ้บกับใคร อยากให้รักเราคนเดียว ทั่นจะรั้งน้องให้อยู่กับทั่นทั้งวันทั้งคืนได้ไหม?

ขนาดแฟน ยังอยู่ด้วยกันทั้งวันไม่ได้ กับน้องที่ อาจจะ มีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้ว ทั่นจะไว้ใจได้ไหม?

หรือ ต่อให้ไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน แล้วรู้ไหมก่อนเจอทั่น เขามีกิ๊กมาก่อนเท่าไร มีเสี่ยไหนเลี้ยงอีก ทั่นจะรู้ไหม?

สำคัญที่สุด ทั่นจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าเขาจะดีอย่างที่ทั่นคิด? ความกลัวในใจ มันจะหายไปได้ไหม ตราบเท่าที่น้องไม่ได้อยู่ข้างๆตัว?

... เด็กบางคน ทำงานเพราะเงินมันได้ง่าย

... เด็กบางคน ทำงานเพราะเบื่อ ช หน้าเก่าๆ

... เด็กบางคน ทำงานเพราะเบื่อเสี่ยที่เลี้ยงอยู่

... เด็กบางคน ทำงานเพราะเขาไม่สามารถไปใช้ชิวิตปกติได้อีกแล้ว เพราะมันลำบาก

... จะเลี้ยงใคร คิดดีๆนะครับ ว่าเลี้ยงไปทำไม? ถ้าเลี้ยงเพื่อจะได้เอาทุกวัน เลี้ยงไปเลยครับ สักเดือนคุณก็เบื่อแล้วหาใหม่ดีกว่า สบาย DVD (กาปู๋)  ???


เอาให้สบายใจ เอาสบายกระเป๋าเข้าว่าเหอะคร้าบ ของแบบนี้ชอบใครชอบมัน อันที่จริงเลี้ยงเค้า-ส่งเสียมันก้อดัไปอย่าง

ความผูกพันแค่ร่างกาย ----- ตรงประเด็นดี ไม่ต้องปวดหัวคิดมากมาย แต่อย่าเผลอให้มันเป็นความผูกพันทางใจก้อพอ

อันนี้ตอบได้อย่างเดียว ว่าเจ็บลึก เพราะแนวโน้มที่จะเลิกกันมีมากกว่าแปดสิบเปอร์เซนต์

บางทีเงินมันซื้อใจได้ก็จริงอยู่ แต่ทั้งนี้มันต้องแมทชต์กัน และต้องให้"พอ"ครบทุกด้านไม่ว่าการเอาใจใส่-เซ็กส์ หรือวัตถุ จนน้องรู้สึกว่า "มากเพียงพอ"

โดยที่ไม่ต้องไปหาจากชายคนอื่นอีก 



ตอนนี้มีน้องเส้นข้างบางรายมีบริการแบบเหมาจ่ายรายเดือน ไม่ต้องเสียเป็นครั้งคราว เงื่อนไขมีอยู่ว่า

คชจ.อาทิตย์ละ 2300 มาหาได้อาทิตย์ละ 1 วัน (ค้างคืนได้) แบบนี้ก้อน่าสนใจดี เพราะผมชอบพา พุยิ๋งไปเที่ยว ทานข้าว แดนซ์ ก่อนที่จะมีเซ็กส์กัน

เซ็กส์แบบเร่งด่วน ทานอิ่มก้อจริง แต่อิ่มได้ไม่นานก็หิวอีกน่ะครับ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

pat

ท่าน จูน นี่มีน้อง ๆ ในสังกัด เยอะเลยสิครับ มีแบบเหมารายเดือนด้วย
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

JuNeO

อ้างจาก: pat เมื่อ 24 ตุลาคม 2007, 10:39:22
ท่าน จูน นี่มีน้อง ๆ ในสังกัด เยอะเลยสิครับ มีแบบเหมารายเดือนด้วย

มรดกจากป๋าน่ะครับ คนนี้ไม่จัยเท่าไหร่ เป๊กผม ตัวเล็กๆ ขาวๆ ผมยาวๆ หน้าหวานๆ นมไม่เน้น เน้นเอวเล็ก ตูดงอน  ??? ชอบเรยแบบนี้


friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

pat

อะ สเปก เดียวกันกับผมเลยนะครับ ผมชอบแบบ หมวย ๆ ขาว ๆ นมไม่เน้น ขอเอวคอด ๆ สะโพก รับกับเอว ก้นงอน ๆ หน่อย นี่ใช่ เลย  blink
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

Jade44

อ่านมาก็เครียดจริงๆ 
ขอเลือกแบบไม่มีพันธะจะเหมาะกว่า

ถ้าจะเลี้ยง ก็ยากที่ไม่คาดหวัง
ขนาดมีลูกน้อง ยังคาดหวังว่าจะช่วยเราทำงานหาเงินให้เลย  uyt
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

tutu

friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

kobmoi

 pp5อ้างจาก ตาจูน....แบบนี้ค่อยเป็นแนวผมหน่อย ชักสนใจแล้วสิ...อิอิ
"ตอนนี้มีน้องเส้นข้างบางรายมีบริการแบบเหมาจ่ายรายเดือน ไม่ต้องเสียเป็นครั้งคราว เงื่อนไขมีอยู่ว่า

คชจ.อาทิตย์ละ 2300 มาหาได้อาทิตย์ละ 1 วัน (ค้างคืนได้) แบบนี้ก้อน่าสนใจดี เพราะผมชอบพา พุยิ๋งไปเที่ยว ทานข้าว แดนซ์ ก่อนที่จะมีเซ็กส์กัน".......
pp10...กำเดียวถ้าว่าง จะโทรไปหาทั่นเน้อ....
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions