เรื่องราวของ ย่ายิ้ม...

เรื่องราวของ ย่ายิ้ม...

เริ่มโดย j007, 19 กุมภาพันธ์ 2011, 09:29:41

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

j007

คือ ผมอ่านเจอในกระปุกดอทคอมครับ ผมจะเอาลงในห้องสัพเพฯ แล้ว
แต่ผมว่า ลงห้อง ธรรมะ น่าจะดีกว่า นี่หล่ะครับ คำว่า พอเพียง และ เพียงพอ.....

อ่านดีๆ มีข้อความ แง่คิดดีๆ อยู่ใน บทความนี้ มากมาย.... ss

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก นิตยสาร ค ฅน

         ใบหน้าเปื้อนยิ้มของหญิงชราวัย 83 ปี ในจังหวัดพิษณุโลก หรือที่รู้จักกันในนาม "ย่ายิ้ม" หรือ "ยายยิ้ม" แห่งรายการค้นคนฅน ได้สร้างความอิ่มเอมใจให้ใครหลาย ๆ คนที่เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของแก และยิ่งรู้สึกดีมากยิ่งขึ้น เมื่อได้รับรู้เรื่องราวชีวิตที่สุดแสนจะสมถะ แต่กลับเต็มไปด้วย "ความสุข" ที่คนเมืองหลาย ๆ คนแทบไม่เคยสัมผัสกับคำ ๆ นี้

         ยังจำได้ไหมว่า "ย่ายิ้ม" อาศัยอยู่ในบ้านกลางป่าเขา แต่จะเดินลงเขา ระยะทาง 7-8 กิโลเมตร เพื่อมาถือศีล 8 ที่วัดทุก ๆ วันพระ และสร้างฝายถวายในหลวงเพียงลำพังมาตลอดสิบ ๆ ปีอย่างไม่มีเหน็ดไม่มีเหนื่อย อาหารการกินก็อาศัยเก็บหน่อไม้ไปแลกข้าวกับคนในชุมชนเพื่อประทังชีพ พร้อมกับยังได้รับเงินเบี้ยสงเคราะห์คนชราอีกเดือนละ 500 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ "ย่ายิ้ม" จะใช้ไปกับการทำบุญเสียหมด ความลำบากนี้ ทำให้ลูก ๆ ของ "ย่ายิ้ม" เพียรรบเร้าให้แกไปอยู่ด้วย แต่แกก็ยังยืนหยัดขออยู่ในป่าในเขาอย่างนี้ไปจนตาย

         นี่คือเรื่องราวความประทับใจของ "ย่ายิ้ม" ที่ถูกถ่ายทอดออกไปสู่สาธารณชนคนเมืองผ่านทางโทรทัศน์ เว็บบอร์ด ลามไปถึงสังคมออนไลน์อย่างทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก ทำให้ "ย่ายิ้ม" เป็นที่รู้จักไปทั่วบ้านทั่วเมือง จนคนกลุ่มต่าง ๆ ออกปากชักชวนกันไปเยี่ยม "ย่ายิ้ม" ถึงบ้านกลางป่า ทำให้ ณ วันนี้บ้านของ "ย่ายิ้ม" กลายเป็นจุดหมายใหม่ของใครต่อใครที่อยากเข้าไปเห็น

         คนต่างอาชีพ ต่างเส้นทาง แต่มีจุดหมายเดียวกันที่เข้ามาเยี่ยมเยียน "ย่ายิ้ม" คือ ต้องการช่วยเหลือให้ "ย่ายิ้ม" มีชีวิตที่ดีขึ้น จากเดิมที่ภาพในรายการคนค้นฅนแสดงให้เห็นว่า บ้านของ "ย่ายิ้ม" ไม่ค่อยจะคุ้มแดดคุ้มฝน มีช่องให้ลมโกรก แสงลอดผ่าน จนฝนสาดเข้ามาได้ ฉะนั้น กลุ่มคนรักย่ายิ้มทั้งหลายก็เริ่มปรับปรุงบ้านของแกให้ใหม่ด้วยเงินหมื่นห้า ให้ช่างท้องถิ่นมาตีฝากรุช่องจั่วให้ใหม่ด้วยแผ่นยิปซัมและสังกะสี จนฝนไม่สาด ลมไม่โกรก แสงไม่ลอดเข้ามา แต่นั่นกลับทำให้ "ย่ายิ้ม" ต้องย้ายออกมานอนตรงครัวใกล้ประตู ที่ลมพอจะพัดเข้ามาให้แกหายร้อนได้

         บันไดเก่า ๆ ที่ "ย่ายิ้ม" ปีนขึ้นปีนลงนับยี่สิบปี บัดนี้ มีราวบันไดเถาวัลย์มาช่วยให้หญิงชราขึ้นลงสะดวกขึ้น แถมยังมีราวจับไม้ไผ่ให้ "ย่ายิ้ม" ได้เดินลุยข้ามห้วยสบายกว่าเก่า ซึ่งก็เป็นที่น่าหวั่นเกรงว่า หากไม่มีใครดูแลราวจับทิ้งให้ไม้ไผ่ผุ จะแย่กว่าปล่อยให้ "ย่ายิ้ม" ลุยข้ามน้ำมาแบบเก่า

         หากอยากปลดทุกข์ ไม่ว่าจะทุกข์หนัก ทุกข์เบา "ย่ายิ้ม" ก็ไม่ต้องวิ่งหาจอบไปขุดดินเข้าป่าเหมือนเมื่อก่อน เพราะวันนี้เกิด "ส้วม" แบบนั่งยองอีก 2 หลัง มาตั้งไว้ที่บ้านของ "ย่ายิ้ม" เพื่อให้แขกเหรื่อที่อยากมาเยี่ยม "ย่ายิ้ม" ได้ใช้สะดวกขึ้นไปด้วย แต่หากทุกคนกลับไปหมดแล้ว ใครเล่า? จะเป็นคนขัดส้วมเขลอะ ๆ และแบกกระแป๋งไปตักน้ำจากห้วยมาไว้ทำความสะอาด

เท่านั้นยังไม่พอ ละแวกบ้านของ "ย่ายิ้ม" ที่เคยเป็นป่ารก บัดนี้กลายเป็นสนามโล่งเตียนราวกับสนามฟุตบอล ที่ผู้ใจบุญทั้งหลายจ้างคนมาจัดการถางให้ แต่ไป ๆ มา ๆ งบหมื่นห้าที่ทิ้งไว้กลับถูกใช้จนหมด จนช่างท้องถิ่นมาเรียกเก็บเพิ่มจาก "ย่ายิ้ม" อีกหมื่นสองเพราะงบบาน ทำเอา "ย่ายิ้ม" งงเป็นไก่ตาแตก เพราะไม่รู้เรื่องมาก่อน เล่นเอาหญิงชราทุกข์ใจไปหลายวัน

         และเพราะความฮอตของ "ย่ายิ้ม" ก็ทำให้คนบางคนในละแวกนั้นจัดทำโปรแกรมทัวร์บ้าน "ย่ายิ้ม" ขึ้นมาเสียอย่างนั้น โดยมีคณะนักศึกษา กลุ่มคนที่รัก "ย่ายิ้ม" แวะเวียนกันจองคิวมาเยี่ยม "ย่ายิ้ม" ไม่ขาดสายราวกับเป็น "โฮมสเตย์" แถมยังมีบริการรถเหมาจากอำเภอวัดโบสถ์ มาส่งถึงบ้าน "พี่มณี" ซึ่งเป็นปากทางเข้าบ้าน "ย่ายิ้ม" จนเจ้าของบ้านยังงง แต่จะไม่ให้แขกพักพิงก็ใช่เรื่อง

         ขณะที่กิจการเช่ารถอีแต๊กขึ้นเขาของคนบางกลุ่ม ก็ฉวยโอกาสโก่งราคาค่าน้ำมันกันเต็มสูบ อ้างว่าทางขึ้นเขาลำบาก เช่าทีละเป็นพัน แต่ทว่าอีกไม่นานทางโหด ๆ เช่นนี้ก็คงจะหายไป เพราะล่าสุด อบต.หินลาดยังได้งบประมาณด่วน มาเตรียมปรับปรุงทางเข้าบ้าน "ย่ายิ้ม" ให้ผู้คนที่แห่แหนกันมาเยี่ยมเยียน "ย่ายิ้ม" สะดวกสบายมากขึ้นด้วย

         ไม่รู้ว่า "ย่ายิ้ม" ได้ยินข่าวนี้จะดีใจ หรือเศร้าใจดี ที่จะมีคนแวะเวียนมาหาแกได้ง่ายขึ้น เพราะลำพังแค่ถนนหนทางลำบาก ๆ ก็มีผู้คนยอมลำบากแห่กันนำของกิน ข้าวของเครื่องใช้ใหม่เอี่ยมมาให้แก จนแกต้องลำบากหอบลงจากเขามาให้พี่มณีเก็บไว้เลี้ยงแขกอยู่ร่ำไป ส่วนข้าวของเครื่องใช้เครื่องครัว หม้อ ไหต่าง ๆ แกก็ไม่ยอมใช้สมดังความปรารถนาดีของผู้อื่นที่ส่งมาให้แก "ย่ายิ้ม" ต้องเก็บสิ่งของกองพะเนินนี้ไว้ในบ้านจนระเกะระกะไปหมด แถมต้องคอยระวังไม่ให้ชนล้ม


นอกจากนี้ "ย่ายิ้ม" ยังมีอาชีพใหม่โดยไม่ได้ตั้งใจ คือการเก็บขวดส่งให้ลูกชายไปขาย เพราะผู้คนที่มาเยี่ยมเยียนแก ได้ทิ้งขวดน้ำ ขวดเครื่องดื่มบำรุงกำลังไว้ที่เกลื่อนกลาดบ้านแก เช่นเดียวกับห่อขนม ห่อบะหมี่ ที่หากวันใด "ย่ายิ้ม" พอจะมีแรง ก็จะรวบรวมมาฝังกันสักที ต่างกับก่อนหน้านี้ที่ "ย่ายิ้ม" อยู่บ้านมาเป็นหลายสิบปี แต่แทบไม่เคยมี "ขยะ" ให้เห็น

         "ความเปลี่ยนแปลง" ที่มาพร้อมกับ "ความเห็นใจ" ของผู้คนมากหน้าหลายตา อาจทำให้ "ย่ายิ้ม" ลำบากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ "ย่ายิ้ม" ก็ยังยิ้มรับผู้มาเยี่ยมเยียน ไม่เคยปริปากบ่น เพราะกลัวคนอื่นจะเสียน้ำใจ แต่รู้ไหมว่า จริง ๆ แล้ว "ย่ายิ้ม" คงไม่ได้อยากได้สิ่งของนอกกายเหล่านี้เสียเท่าไหร่ เพราะจนถึงทุกวันนี้ ข้าวของใหม่เอี่ยมทั้งหลายที่หลายคนขนขึ้นไปให้แก ยังคงอยู่ในถุงพลาสติกเรียงรายอยู่เต็มพื้นอยู่เลย

         จริง ๆ แล้ว  "ความสุข" ของแต่ละคนไม่ได้วัดด้วยมาตรฐานเดียวกัน ดังเช่น "ย่ายิ้ม" ที่แกมีความสุขในแบบเรียบ ๆ ง่าย ๆ มาตั้งแต่ต้น แต่ ณ วันนี้ ใครต่อใครพยายามนำสิ่งที่คิดว่า น่าจะเป็น "ความสุข" มาให้แก โดยหารู้ไม่ว่า การมีน้ำใจช่วยเหลือคน ๆ หนึ่ง โดยขาดความพอดี อาจกลายเป็นความพยายามเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคน ๆ หนึ่ง และนำพา "ความทุกข์" มาให้คน ๆ นั้นโดยไม่ได้ตั้งใจก็เป็นได้


cradit :: http://hilight.kapook.com/view/56294
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

cmuPuza

อ่านแล้วไม่รู้จะพูดยังไงดี
ทำให้มองเห็นความมักง่ายของการแก้ปัญหาของคนสมัยนี้
ไม่มีก็ซื้อ ไม่มีก็สร้าง คิดแต่แก้อะไรที่เห็นเฉพาะหน้า
แต่จะอะไรมากไม่ได้ เพราะตัวเองก็มักง่าย แก้อะไรง่ายๆเหมือนกัน
เพราะเราก็เป้นหนึ่งในคนสมัยนี้  ที่ดีแต่ปาก วิจาร์ณคนที่เขาลำบาคหรือเสียสละเงินเพื่อช่วยเหลือยายยิ้ม
ทำดีก็โดนด่าเนอะ  09876
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

avanza

 ss ร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อสังคมที่น่าอยู่ครับ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

j007

เหอะๆ แง่คิด มะใช่อันนั้นอ่า ปู เอางี้ เคยดูเรื่อง อวตาล ไหม
ชนเผ่าที่ มนุษย์ไปบุกเขาหน่ะ เอาเทคโนโลยี เอาโน้น เอานี่ ไปให้เขา
เพื่อแลกกับ พื้นที่ ที่ชนเผ่านี้เขาอยู่ แต่เสนอขนาดไหนเขาก็ มะอาวววว

เพราะ เขาพอใจ วิถีชีวิตของเขา คือ เขาอยากใช้วิถีชีวิตแบบนี้ มีความสุขแล้ว
ไม่ต้องการเทคโนโลยี ไม่ต้องการความทันสมัย เขาแค่ต้องการใช้ชีวิตแบบนี้หล่ะ
และชีวิตแบบนี้ ก็ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ต้องทำร้ายใคร กินอยู่แค่พอเพียงและเพียงพอ
ใช้วิถีชีวิตตามธรรมชาติ อยู่กับธรรมชาติ เปนหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ

ทุกวันนี้ เราต้องมาดูว่า อะไรคือความสุขที่แท้จริง เงิน ทอง ข้าวข้องเครื่องใช้
หรือว่า อะไรกันแน่ ที่เรามีแล้ว เรามีความสุข ทุกคนเกิดมาต้องตาย แต่ตายแล้วยังไง

ทำดีเข้าไว้ ทำความดีให้โลกจารึก แต่ถ้าทำดีไม่มีใครรู้ก็ดังคำที่ ท่านว่า ปิดทองหลังพระ
ถ้าไม่มีใครปิดทองหลังพระ พระจะงามอร่ามทั้งองค์ได้อย่างไร ......... .,mn
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions

v

ขอบพระคุณครับ อ่านแล้วก็รู้สึกว่าผมทำไมไม่รู้จักยินดีในสิ่งที่มีอยู่ณ.ปัจจุบันนี้ ทำไมต้องไปโหยหาในสิ่งที่มันไม่มีตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
ขอขอบพระคุณอีกทีนะครับ
friendly
0
funny
0
informative
0
agree
0
disagree
0
pwnt
0
like
0
dislike
0
late
0
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions
No reactions